ต้องบอกก่อนว่าพ่อกับแม่เราเคยช่วยกันสร้างธุรกิจขึ้นมามีโรงงานส่งออก มีคนงานรวมๆเกือบ 2-3 ร้อยคน แต่แล้ววันนึง พ่อกับแม่เราเลิกกัน พ่อก็ไปสร้างครอบครัวใหม่สร้างบ้านใหม่ ราคาราวๆ 10-20 ล้านบาท ละทำธุรกิจต่อ แต่แม่เราเลือกที่จะเดินออกมา จากที่เคยเป็นเจ้าของโรงงานต้องกายมาเป็นชาวนา เลี้ยงเรากับน้อง โดยพ่อจะส่งเงินให้เรากับน้อง เดือนละประมาณ 8 พัน จนเราเข้ามหาลัย พ่อได้เปิดธุรกิจให้เรา แต่ด้วยความที่เราไม่รู้และไม่มีพื้นฐานเลย ก็ทำให้ธุรกิจนั้นเจ้งไป พ่อก็ส่งเงินให้บ้างไม่ส่งให้บ้าง แต่เราก็ทำงานกลางคืนจนเรียนจบ เราได้งานทำตอนช่วงโควิดละลอกแรกเงินเดือน 11,500 บาท ละพ่อก็ประสบปัญหาเรื่องหนี้สินเพราะโควิดเช่นกัน จนโรงงานจะถูกยึด (น่าจะมีปัญหามาก่อนโควิดละมั้ง อันนี้เราไม่รู้) ละพ่อก็โทรหาเราว่าให้ช่วยหน่อย ให้เราช่วยกู้ธนาคารละมาซื้อบ้านต่อพ่อหน่อย เพราะพ่อโดนโควิด ไป 2 รอบ พะยุงธุรกิจไว้ไม่ไหวแล้ว เลยจะปล่อยโรงงาน แต่กลัวจะลามมาถึงบ้าน จึงจะให้เรากู้ซื้อบ้านพ่อ แต่พ่อจะเป็นคนผ่อนให้ แต่ใช้ชื่อเราซื้อ เพื่อเลี่ยงการถูกฟ้องล้มลาย
คำถามคือ เราควรทำยังไงดี?
 
อัปเดท ได้คุยกับพ่อเป็นเรื่องเป็นราวแล้วและได้เข้าไปติดต่อธนาคารแล้ว
ได้ความว่า พ่อได้เอาบ้านเข้าธนาคารและติดหนี้ธนาคาร 2.8 ลบ. และหนี้ส่วนของโรงงานอีก 6 ลบ. เลยจะปล่อยโรงงานให้ถูกขายทอดตลาดและจะถูกฟองล้มลาย เพราะส่งหนี้ของโรงงานไม่ไหว พ่อบอกตกเดือนหนึ่งเป็นแสนเหมือนกัน เลยไม่อยากให้ลามถึงบ้าน พ่อเลยอยากให้เรากู้ซื้อบ้านให้เป็นชื่อเรา เพื่อที่จะเลี่ยงการถูกยึดทรัพย์และขายทอดตลาด ส่วนเรื่องการกู้ธนาคาร เราเงินเดือน แค่ 11,500 บาท เราสามารถกู้ธนาคาร ได้สูงสุด 1.4 ลบ.(แคมเปญ ใหม่ของ ธอส. ธนาคารคำนวนให้) แต่พ่อจะต้องหาเงินส่วนที่เหลือ เพื่อที่จะเอาบ้านออกจากชื่อพ่อมาเป็นชื่อเรา และพ่อก็บอกว่ามูลค่าของบ้านมันมากกว่าเงินที่กู้มา เลยต้องทำวิธีนี้เพื่อที่จะไม่ให้ถูกยึดแล้วขายทอดตลาด ในราคาต่ำๆ ยังไงพ่อก็ต้องผ่อนกับธนาคารให้อยู่ดี แต่ขอแค่ใช้ชื่อเราแค่นั้นเอง 
ปล.เราไปติดต่อธนาคารแล้ว บอกว่าเงินเดือน 11,500 บาท สามารถกู้ได้สูงสุดเท่าไหร่ ธนาคารตอบว่า 5 แสนบาท แต่ช่วงปลายๆเดือนจะมีแคมเปญใหม่สามารถกู้ซื้อบ้านได้สูงสุด 1.4 ลบ.