ไปทำงานบ้านคนอื่น – เทรนด์ work from other’s home ที่กำลังเป็นกระแสในเกาหลี

ขอบคุณบทความต้นทางจาก https://oppamart.co/2021/case-work-from-other-home/

และเพจ fb.me/oppamart.co

____


ทำความรู้จักเทรนด์การทำงานใหม่ของชาวเกาหลี ที่เบื่อหน่ายการ work from home จนหันมา work from other’s home แทน
 

ทั้งนี้ บริษัทที่จับเทรนด์ work from other’s home ได้ทันท่วงที คือสตาร์ตอัพชื่อ Naamezip (นัมเอจิบ) ที่มีโมเดลธุรกิจคล้าย  Airbnb แต่แทนที่จะให้คนมานอนพัก ก็เปลี่ยนโมเดลมาเป็นการใช้ห้องรับแขกเป็น home office เพื่อให้คนอื่น (จ่ายเงิน) มาใช้พื้นที่ทำงาน หรือที่เรียกว่า “Living room Airbnb”



โควิด-19  ได้เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนจำนวนมากทั่วโลก เช่นกันกับประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงที่มีการระบาดรุนแรง การ work from home ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่หลายบริษัทเลือกใช้

แต่การ work from home หรือทำงานที่บ้านนานๆ ก็อาจทำให้หลายคนเบื่อหน่าย,​บางคนอาจพักในห้องคับแคบที่ไม่น่าอภิรมย์และไม่เหมาะแก่การสร้างสรรค์งานใดๆ, บางคนแยกงานกับชีวิตประจำวันไม่ออก โหมทำงาน work from home จนไม่ได้หลับได้นอน, บางคนทำงานที่บ้านแล้วหัวไม่แล่น ต้องออกไปข้างนอก เป็นต้น แต่ทั้งนี้ การไปคาเฟ่ก็ไม่ใช่พิกัดที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการทำงาน ส่วน co-working space ก็มักกระจุกตัวอยู่ย่านธุรกิจกลางเมือง ซึ่งอาจไกลบ้านไปหน่อย

เทรนด์การไปทำงานที่ “ห้องรับแขกบ้านคนอื่น” จึงเกิดขึ้น โดยมีสตาร์ตอัพที่จับเทรนด์นี้ได้ทันท่วงที คือ บริษัทที่ชื่อ Naamezip 

ก่อนหน้าโควิดระบาด Naamezip เป็นสตาร์ตอัพที่ทำงานร่วมกับเจ้าของบ้านต่างๆ อยู่แล้ว เพียงแต่เป็นในแง่การจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น อ่านหนังสือการ์ตูน,​ คุยปรัชญา, ทำอาหาร เป็นต้น โดยเจ้าบ้านจะเปิดพื้นที่บ้านทำกิจกรรม แล้วให้คนที่สนใจสมัครเข้าร่วมผ่านแพลตฟอร์ม Naamezip ทั้งนี้ คำว่า Naamezip หรือ 남의집 (นัมเอจิบ)  แปลว่า “บ้านคนอื่น”

ช่วงโควิดระบาด กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักคือ กลุ่มโรงแรม รีสอร์ต ไปจนถึงเกสต์เฮ้าส์ ตามสถิติปี 2019 นั้น การท่องเที่ยวเกาหลีกำลังบูมมาก มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมากถึง 16 ล้านคน ทำให้มีเกสต์เฮ้าส์ หรือธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กเกิดขึ้นมาก ครั้นโควิดระบาด นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป ธุรกิจกลุ่มนี้จึงต้องหาทางอื่นเพื่ออยู่รอด

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 บ้านโบราณเกาหลีซึ่งเปิดเป็นเกสต์เฮ้าส์ชื่อ Hanok Eugene House (ฮันอก ยูจีน เฮ้าส์) แห่งย่านฮเยฮวา-ดง กรุงโซล ได้ตัดสินใจโพสต์ภาพห้องนั่งเล่น และมุมรับแขก ของบ้านแนวฮันอก (บ้านโบราณเกาหลี) ลงในแพลตฟอร์ม Naamezip พร้อมกับโพสต์เชิญชวนให้คนที่กำลังมองหา home office ให้เข้ามาใช้งาน ปรากฏว่า โพสต์นี้ได้รับความนิยม และมีคนจองเต็ม 6 ที่อย่างรวดเร็ว (ทั้งนี้มีการจำกัดจำนวนคนที่เข้ามาใช้บริการต่อวัน) 

บริการแนวใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว และดูเหมือนกลุ่มตลาดที่ต้องการไป “นั่งทำงานบ้านคนอื่น” จะมีเยอะทีเดียว



Naamezip  ซึ่งมีเจ้าบ้านอยู่ในลิสต์จำนวนไม่น้อย มองเห็นคลื่นความนิยมที่ก่อตัวขึ้นของเทรนด์ “จ่ายเงิน ไปนั่งทำงานเงียบๆ บ้านคนอื่น” จึงรวบรวมเจ้าบ้านที่สนใจ ซึ่งตอนนี้  Naamezip ได้คัดเลือกบ้าน Home Office 18 แห่ง ไว้คอยรองรับความต้องการนี้แล้ว

เสน่ห์ของการไปนั่งทำงานบ้านคนอื่นโดยจองผ่านแพลตฟอร์ม Naamezip คือ นอกจากได้บ้านที่สะอาด ปลอดภัยแล้ว การแวะไปนั่งทำงานบ้านคนอื่น ยังทำให้ผู้ใช้งานได้หลุดเข้าไปยังโลกความทรงจำ (บ้าน) ของมนุษย์อีกคน ได้เรียนรู้ว่า มนุษย์เจ้าของบ้านคนนี้ชอบภาพวาดแบบไหน มีรสนิยมตกแต่งห้องรับแขกอย่างไร มันเหมือนเจ้าของบ้านก็ได้แบ่งปันรสนิยมการแต่งบ้าน ขณะที่ผู้มาใช้งานก็ได้สัมผัสใกล้ชิดกับหัวใจของมนุษย์อีกคน

เพราะบ้านน่าจะเป็นสิ่งที่สะท้อนไลฟ์สไตล์เจ้าของได้ดีนั่นเอง

ลิสต์ของบ้านที่เจ้าของบ้านเปิดห้องรับแขกให้เป็น home office ก็มีตั้งแต่ บ้านสถาปนิก, บ้านเกาหลีโบราณ, บ้านแนวอาร์ตเฮ้าส์ เป็นต้น

แนวคิดการปรับห้องรับแขกของบ้านเพื่อเป็น home office ให้คนอื่นมาใช้งาน อาจถือเป็นอีกหนึ่งเคสธุรกิจที่น่าเรียนรู้ โควิด-19 ทำให้มนุษย์โลกต้องปรับตัว การสำรวจไอเดียธุรกิจอื่นๆ เพื่อมาปรับใช้กับธุรกิจ ก็น่าจะเป็นหนึ่งในการปรับตัวและเรียนรู้ที่น่าสนใจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่