ผมเป็นผู้ชายที่โสดมาแปดปีแล้วครับ เลิกกับแฟนเมื่อ 8 ปีที่แล้วผมสาหัสมาก คือ ผมถูกทำลายคุณค่า ความเชื่อมั่นในตนเอง และตัวตน ที่บอกว่าผมถูกทำลายคุณค่าเพราะว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้วผมพึ่งเรียนจบ แต่ไม่หางานทำ ผมกลับไปเรียนต่อ ในขณะที่แฟนทำงานมาตั้งแต่เรียน ผมยังขอเงินพ่อแม่ใช้ และก็คิดว่าที่บ้านมีกิจการทำไมต้องรีบทำงาน แต่แฟนผมอยากแต่งงาน อยากมีลูก สุดท้ายก็ทะเลาะและความเห็นไม่ตรงกัน เธอมีคนอื่นที่พร้อมจะทำให้ฝันเธอเป็นจริง เราเลยเลิกกัน
กว่าจะเลิกกัน ผมก็พยายามปรับปรุงตัว ไม่เรียนต่อ หางานทำเพื่อจะไปง้อเธอ แต่เธอมีคนอื่นไปนานแล้ว ก็เลยง้อไม่สำเร็จ แต่ผมก็ทำงานต่อไปเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำงานได้ หาเงินเป็น ไม่ได้พึ่งพาแต่พ่อแม่ เพื่อเรียกศรัทธา คุณค่า ความเชื่อมั่นในตนเองกลับคืนมา ผมสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาเพราะตัวตนที่เคยมีแฟน เคยใช้ชีวิตรวมกันมา 7 ปี มันถูกทำลายหายไป
ผมสร้างตัวตนแบบผู้ชายโสด โสดแบบ "กูไม่ง้อไม่ต้องการใคร" เชื่อมั่นในตัวเองสูง ให้กำลังใจตัวเองได้ อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว ไปร้านอาหาร ร้านเหล้า ดูคอนเสิร์ต ร้องคาราโอเกะคนเดียวก็ทำได้ และเป็นคนขี้เบื่อ ขี้รำคาญ เพื่อนมี ญาติพี่น้องมี แต่ผมรู้สึกว่าทำอะไรคนเดียว อยู่คนเดียวมันใช้พลังงานน้อยกว่า ไม่ต้องรอ ไม่ต้องคุย ไม่ต้องตัดสินใจร่วมกับใคร เพระเวลาเข้าสังคมผมก็จะเต็มที่ ผมเลยรู้สึกเหนื่อยและรู้สึกว่ามันยุ่งยากวุ่นวายเวลาเข้าสังคม
ตอนนี้ผมมีรายได้เลี้ยงตัวได้ พอมีเงินเหลือเก็บ ไม่ได้เดือดร้อนพ่อแม่เหมือน 8 ปีก่อน และผมคิดว่า ชีวิตผมน่าจะพัฒนาได้อีก จนมาถึงสถานการณ์โควิด 19 ระบาดรอบแรก ผมตัดสินใจลาออก เพราะตอนนั้นที่ทำงานแทบจะไม่มีงานเกือบ 2 เดือน ผมจึงอยากเปลี่ยนงานใหม่ และคิดว่าสถานการณ์ปกติคงจะหางานง่าย แต่ผมตัดสินใจพลาด งานกลับหายากมาก ตอนนี้แหละผมเริ่มร้อนแล้วครับ พอไม่มีงานทำก็ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ผมต้องใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ได้พูดคุยกับใครเหมือนตอนทำงาน ไม่ได้เหนื่อยจากการทำงานแล้วมาพักผ่อน ดูหนังฟังเพลงแล้วนอนเพื่อตื่นไปทำงาน ชีวิตผมโคตรว่าง พอว่างก็เริ่มเหงา ฟุ้งซ่าน คิดมาก เริ่มอยู่กับตัวเองไม่ได้ คุยกับตัวเองไม่รู้เรื่อง โควิดระบาดรอบแรกผมยังกลับบ้านได้ไปหาพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ผมก็พอคลายเครียด พออยู่ได้
จนโควิดระบาดรอบสอง บ้านเกิดผมกลายเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผมกลับบ้านไม่ได้ ผมเลยคิดจะหาแฟน ผมเจอน้องในทินเนอร์คนหนึ่ง คุยกันมาเกือบ 2 เดือน นัดเจอกันประมาณเดือนหนึ่ง ผมทุ่มไปทั้งกายและใจเลยครับ บอกความรู้สึก เลี้ยงข้าว พาไปเที่ยว ซื้อของให้ สุดท้ายผมแห้วหัวใหญ่มาก
พอแห้วหัวใหญ่ ความรู้สึกผมเมื่อ 8 ปีที่แล้วกลับมาครับ ความรู้สึกไร้คุณค่า ความเชื่อมั่นในการชีวิตร่วมกับใครมันหายไป กลายเป็นความรู้สึกกลัว รู้สึกผิดกับตัวเองที่ไปหาเรื่อง อยู่เป็นโสดมาตั้งนานไม่ได้เดือดร้อน นี่แค่เริ่มต้นจะจีบใครครั้งแรกก็หัวทิ่มรับไม่ได้กับความผิดหวัง ตอนนี้ผมเสียศูนย์มาอาทิตย์หนึ่งแล้ว ลืมน้องก็ยาก เพราะ
ทุ่มไปทั้งกายและใจ จะไปต่อก็กลัวความผิดหวัง หรือไปต่อได้ก็ไม่รู้ว่า การที่ผมโสดมานานแล้วต้องไปแชร์ชีวิต แชร์ความคิด และแชร์อารมณ์ความรู้สึกร่วมกับใคร ผมจะปรับตัวได้มั้ย โดยเฉพาะความรัก ถ้าต้องกลับเข้าไปสัมผัสมันอีกครั้ง ผมไม่รู้เลยว่ามันจะเยียวยาแผลใจเมื่อ 8 ปีทีแล้ว หรือขยี้ซ้ำแผลเดิมจนผมสาหัสกว่าเก่า
โสดมา 8 ปี การเริ่มต้นใหม่ ยากมากครับ
กว่าจะเลิกกัน ผมก็พยายามปรับปรุงตัว ไม่เรียนต่อ หางานทำเพื่อจะไปง้อเธอ แต่เธอมีคนอื่นไปนานแล้ว ก็เลยง้อไม่สำเร็จ แต่ผมก็ทำงานต่อไปเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำงานได้ หาเงินเป็น ไม่ได้พึ่งพาแต่พ่อแม่ เพื่อเรียกศรัทธา คุณค่า ความเชื่อมั่นในตนเองกลับคืนมา ผมสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาเพราะตัวตนที่เคยมีแฟน เคยใช้ชีวิตรวมกันมา 7 ปี มันถูกทำลายหายไป
ผมสร้างตัวตนแบบผู้ชายโสด โสดแบบ "กูไม่ง้อไม่ต้องการใคร" เชื่อมั่นในตัวเองสูง ให้กำลังใจตัวเองได้ อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว ไปร้านอาหาร ร้านเหล้า ดูคอนเสิร์ต ร้องคาราโอเกะคนเดียวก็ทำได้ และเป็นคนขี้เบื่อ ขี้รำคาญ เพื่อนมี ญาติพี่น้องมี แต่ผมรู้สึกว่าทำอะไรคนเดียว อยู่คนเดียวมันใช้พลังงานน้อยกว่า ไม่ต้องรอ ไม่ต้องคุย ไม่ต้องตัดสินใจร่วมกับใคร เพระเวลาเข้าสังคมผมก็จะเต็มที่ ผมเลยรู้สึกเหนื่อยและรู้สึกว่ามันยุ่งยากวุ่นวายเวลาเข้าสังคม
ตอนนี้ผมมีรายได้เลี้ยงตัวได้ พอมีเงินเหลือเก็บ ไม่ได้เดือดร้อนพ่อแม่เหมือน 8 ปีก่อน และผมคิดว่า ชีวิตผมน่าจะพัฒนาได้อีก จนมาถึงสถานการณ์โควิด 19 ระบาดรอบแรก ผมตัดสินใจลาออก เพราะตอนนั้นที่ทำงานแทบจะไม่มีงานเกือบ 2 เดือน ผมจึงอยากเปลี่ยนงานใหม่ และคิดว่าสถานการณ์ปกติคงจะหางานง่าย แต่ผมตัดสินใจพลาด งานกลับหายากมาก ตอนนี้แหละผมเริ่มร้อนแล้วครับ พอไม่มีงานทำก็ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ผมต้องใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ได้พูดคุยกับใครเหมือนตอนทำงาน ไม่ได้เหนื่อยจากการทำงานแล้วมาพักผ่อน ดูหนังฟังเพลงแล้วนอนเพื่อตื่นไปทำงาน ชีวิตผมโคตรว่าง พอว่างก็เริ่มเหงา ฟุ้งซ่าน คิดมาก เริ่มอยู่กับตัวเองไม่ได้ คุยกับตัวเองไม่รู้เรื่อง โควิดระบาดรอบแรกผมยังกลับบ้านได้ไปหาพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ผมก็พอคลายเครียด พออยู่ได้
จนโควิดระบาดรอบสอง บ้านเกิดผมกลายเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผมกลับบ้านไม่ได้ ผมเลยคิดจะหาแฟน ผมเจอน้องในทินเนอร์คนหนึ่ง คุยกันมาเกือบ 2 เดือน นัดเจอกันประมาณเดือนหนึ่ง ผมทุ่มไปทั้งกายและใจเลยครับ บอกความรู้สึก เลี้ยงข้าว พาไปเที่ยว ซื้อของให้ สุดท้ายผมแห้วหัวใหญ่มาก
พอแห้วหัวใหญ่ ความรู้สึกผมเมื่อ 8 ปีที่แล้วกลับมาครับ ความรู้สึกไร้คุณค่า ความเชื่อมั่นในการชีวิตร่วมกับใครมันหายไป กลายเป็นความรู้สึกกลัว รู้สึกผิดกับตัวเองที่ไปหาเรื่อง อยู่เป็นโสดมาตั้งนานไม่ได้เดือดร้อน นี่แค่เริ่มต้นจะจีบใครครั้งแรกก็หัวทิ่มรับไม่ได้กับความผิดหวัง ตอนนี้ผมเสียศูนย์มาอาทิตย์หนึ่งแล้ว ลืมน้องก็ยาก เพราะทุ่มไปทั้งกายและใจ จะไปต่อก็กลัวความผิดหวัง หรือไปต่อได้ก็ไม่รู้ว่า การที่ผมโสดมานานแล้วต้องไปแชร์ชีวิต แชร์ความคิด และแชร์อารมณ์ความรู้สึกร่วมกับใคร ผมจะปรับตัวได้มั้ย โดยเฉพาะความรัก ถ้าต้องกลับเข้าไปสัมผัสมันอีกครั้ง ผมไม่รู้เลยว่ามันจะเยียวยาแผลใจเมื่อ 8 ปีทีแล้ว หรือขยี้ซ้ำแผลเดิมจนผมสาหัสกว่าเก่า