ทีมงานองค์การอนามัยโลกถูกจีนปฏิเสธไม่ให้เข้าตรวจสอบที่มาของไวรัสโคโรนาในอู่ฮั่น
บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่าทีมงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องการตรวจสอบที่มาและการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในอู่ฮั่นถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศจีน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีวีซ่า
ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่องค์การอนามัยโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ตอบตกลงแล้วในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่าจะให้องค์การอนามัยโลกเข้ามาตรวจสอบได้ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ หลังจากที่เจรจากันมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน
โดยเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่าผิดหวังอย่างมากที่จีนไม่อนุญาตให้ทีมงานเข้าตรวจสอบเนื่องจากมีทีมงาน 2 คนได้เริ่มเดินทางแล้ว และยังมีทีมงานคนอื่นๆ ที่เตรียมตัวจะเดินทางแต่พวกเขากลับได้รับแจ้งในนาทีสุดท้ายว่าไม่สามารถเดินทางไปได้
อาการของคนร้อนตัว ไม่นับรวม
1. ปิดกั้นนักข่าว หมอ ไม่ได้เปิดเผย โควิดหายตัว
2. กล่าวโทษสหรัฐ แต่คนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แถมจะรัฐประหารแบบ ทรัมป์ กับติดโควิท แถมสอบตกเลือกตั้ง เพราะบริหารโควิดไม่ดี
คลิปความยาว 7 นาทีที่ถูกนำมาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ขณะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกำลังเริ่มต้น ทำให้เห็นว่านายเถียนได้เข้าไปในถ้ำหลายแห่งในหูเป่ยและเก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสจากค้างคาวที่จับมาและเก็บไว้ในหลอดทดลอง 'ผมไม่ใช่หมอ แต่ทำงานเพื่อรักษาและช่วยชีวิตผู้คน ผมไม่ใช่ทหาร แต่ทำงานในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากศัตรูที่มองไม่เห็นไม่ข้ามเส้นป้องกันเข้ามา' นายเถียนกล่าวไว้ในคลิป
อู่ฮั่น อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อในเมืองอู่ฮั่น เคยรายงานบทสัมภาษณ์นายเถียน เมื่อ พ.ค.2560 ซึ่ง ได้ไปถ้ำหลายสิบแห่งในหูเป่ย โดยเขากล่าวว่า ค้างคาวมีไวรัสที่เรายังไม่รู้จักจำนวนมากบนตัวของพวกมัน การวิจัยของตนในการศึกษาไวรัสบนค้างคาว จะเป็นการช่วยทำให้มนุษย์มีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น
อีกทั้งยังมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชุดป้องกันเชื้อของนายเถียงเกิดความผิดพลาด ทำให้เขาสัมผัสกับฉี่ค้างคาว และเพื่อเป็นการเลี่ยงแพร่เชื้อไปให้คนอื่น มีรายงานว่านายเถียงได้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เท่ากับการกักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19
ขนาด who เป็นลูกไล่ จีนยังไม่อนุญาตให้เข้าตรวจแล็ปอีกหรอ ครบปีแล้วนะ ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่าทีมงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ต้องการตรวจสอบที่มาและการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในอู่ฮั่นถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศจีน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีวีซ่า
ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่องค์การอนามัยโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ตอบตกลงแล้วในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่าจะให้องค์การอนามัยโลกเข้ามาตรวจสอบได้ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ หลังจากที่เจรจากันมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน
โดยเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่าผิดหวังอย่างมากที่จีนไม่อนุญาตให้ทีมงานเข้าตรวจสอบเนื่องจากมีทีมงาน 2 คนได้เริ่มเดินทางแล้ว และยังมีทีมงานคนอื่นๆ ที่เตรียมตัวจะเดินทางแต่พวกเขากลับได้รับแจ้งในนาทีสุดท้ายว่าไม่สามารถเดินทางไปได้
อาการของคนร้อนตัว ไม่นับรวม
1. ปิดกั้นนักข่าว หมอ ไม่ได้เปิดเผย โควิดหายตัว
2. กล่าวโทษสหรัฐ แต่คนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แถมจะรัฐประหารแบบ ทรัมป์ กับติดโควิท แถมสอบตกเลือกตั้ง เพราะบริหารโควิดไม่ดี
คลิปความยาว 7 นาทีที่ถูกนำมาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ขณะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกำลังเริ่มต้น ทำให้เห็นว่านายเถียนได้เข้าไปในถ้ำหลายแห่งในหูเป่ยและเก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสจากค้างคาวที่จับมาและเก็บไว้ในหลอดทดลอง 'ผมไม่ใช่หมอ แต่ทำงานเพื่อรักษาและช่วยชีวิตผู้คน ผมไม่ใช่ทหาร แต่ทำงานในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากศัตรูที่มองไม่เห็นไม่ข้ามเส้นป้องกันเข้ามา' นายเถียนกล่าวไว้ในคลิป
อู่ฮั่น อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อในเมืองอู่ฮั่น เคยรายงานบทสัมภาษณ์นายเถียน เมื่อ พ.ค.2560 ซึ่ง ได้ไปถ้ำหลายสิบแห่งในหูเป่ย โดยเขากล่าวว่า ค้างคาวมีไวรัสที่เรายังไม่รู้จักจำนวนมากบนตัวของพวกมัน การวิจัยของตนในการศึกษาไวรัสบนค้างคาว จะเป็นการช่วยทำให้มนุษย์มีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น
อีกทั้งยังมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชุดป้องกันเชื้อของนายเถียงเกิดความผิดพลาด ทำให้เขาสัมผัสกับฉี่ค้างคาว และเพื่อเป็นการเลี่ยงแพร่เชื้อไปให้คนอื่น มีรายงานว่านายเถียงได้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เท่ากับการกักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19