JJNY : 5in1 ส.ภัตตาคารไทยร้องคำสั่งกทม./‘แทค’พูดแทนชาวบ้าน/เพจดังแย้งศบค./ชี้รัฐต้องหาทางออก/พท.ติงสั่งปิดร้านรายย่อย

ส.ภัตตาคารไทยส่งจม.ถึง “บิ๊กตู่” ร้องคำสั่งกทม.ทุบยอดร้านอาหาร 1 แสนล้าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_2510382
 

 
ส.ภัตตาคารไทยส่งจม.เปิดผนึกถึง “บิ๊กตู่” ร้องคำสั่งกทม.ทุบยอดร้านอาหาร 1 แสนล้าน รับคับแค้นใจไม่ใช่สาเหตุ ชี้รัฐควรจัดการแหล่งเชื้อต้นตอ
 
วันที่ 2 ม.ค. นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงผลกระทบจากประกาศของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่1 มกราคม 2564 ที่อาจมีคำสั่งไม่ให้นั่งรับประทานที่ร้านอาหาร โดยระบุว่า
 
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
 
เรื่อง ชี้แจงข้อมูลเรื่องผลกระทบ COVID-19 ที่อาจมีคำสั่งไม่ให้นั่งรับประทานที่ร้านอาหาร
 
จากประกาศของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่1 มกราคม 2564 ว่าอาจมีมาตรการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร โดยจะต้องซื้อกลับเท่านั้นทางสมาคมขอเรียนชี้แจงให้เข้าใจเพื่อยกเลิกมาตราการและคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากร้านอาหารเป็นธุรกิจSMEและMICRO SME ซึ่งมีมูลค่าธุรกิจ4แสนล้านบาทต่อปี จากประกาศดังกล่าวจะทำให้มูลค่าธุรกิจร้านอาหารไทยหายไปไม่ต่ำกว่า1แสนล้านและจะทำให้มีผลกระทบเป็นห่วงลูกโซ่ ดังนี้
 
1. อัตราการจ้างงานซึ่งจะทำให้พนักงานตกงานทันทีเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากการกลับมาเปิดธุรกิจร้านอาหารได้มีการว่าจ้างแรงงานกลับเข้าระบบได้เป็นจำนวนมากแต่จากประกาศวันที่1มกราคม 2564 จะมีผลกระทบต่อการจ้างงานอีกครั้ง
 
2. ผลกระทบกับสินค้าภาคการเกษตรกร ซึ่งร้านอาหารต้องใช้วัตถุดิบจากภาคเกษตรกรจำนวนมหาศาลซึ่งจะต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งจากคำสั่งวันที่1 มกราคม 2564 จะมีผลทำให้รายได้ของภาคเกษตรกรลดลงเช่นกัน
 
3. จะมีผลกระทบเรื่องการจัดเก็บภาษี,vatและเงินประกันสังคมของภาครัฐบาลที่หายไปอีกครั้ง
 
ซึ่งธุรกิจร้านอาหารทั้งในส่วนภัตตาคารและร้านอาหารขนาดเล็กรวมไปถึงร้านอาหารตามริมข้างทางได้ปฎิบัติตามมาตราการป้องกันCOVID-19 จากคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขด้วยความเคร่งครัดมาโดยตลอดรวมไปถึงร้านอาหารขนาดใหญ่และขนาดกลางได้เข้าร่วมอบรมและเรียนรู้จนได้สัญลักษณ์SHAเกิน80%และผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดยังตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานที่ปฎิบัติงานในร้านด้วยการเพิ่มมาตราการเสริมเข้าไปมากขึ้นกว่าคำสั่งของสาธารณสุขด้วยเช่น
 
1. จัดให้มีการเช็คอินก่อนเข้ารับบริการที่ร้านด้วยแอปพลิเคชันไทยชนะ
 
2. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทั้งพนักงานและลูกค้าก่อนเข้าร้าน
 
3. ทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้ด้วยแอลกอฮอล์ ทุกครั้งเมื่อมีลูกค้าใช้เสร็จ
4. แจกแอลกอฮอล์ล้างมือทุกครั้งเมื่อมาใหม่
 
5. จัดให้พนักงานทั้งส่วนหน้า,ส่วนหลัง และในครัวมีการใส่ถุงมือยางและผ้าปิดปากตลอดเวลาที่มีการปฎิบัติงาน
 
6. มีการถูพื้นด้วยน้ำยากำจัดเชื้อโรค ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
 
7. จัดตารางทำความสะอาดห้องน้ำและถูพื้นด้วยน้ำยากำจัดเชื้อโรค ทุกๆ 2 ชั่วโมง
 
8. ร้านที่มีประตู ให้เช็ดมือจับด้วยแอลกอฮอล์ ทุกครั้งที่มีการสัมผัส
 
9.แจกช้อนกลางส่วนตัวให้ลูกค้าเพื่อลดการสัมผัสภาชนะร่วมกัน
 
10. ร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศ ทางร้านจะทำความสะอาดทุกๆ4ชั่วโมง
 
ซึ่งจากการปฎิบัติตามมาตราการที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดมีผลสะท้อนให้เห็นว่า การระบาดCOVID-19 รอบสองในครั้งนี้ไม่ได้มีมูลเหตุหรือต้นตอมาจากร้านอาหารเลย แต่แท้จริงการระบาดรอบสองมาจากกลุ่มธุรกิจที่ผิดกฎหมายทั้งหมดเพราะไม่การปฎิบัติตามมาตราการ
 
ทางสมาคมภัตตาคารไทยจึงใคร่ขอความกรุณานายกรัฐมนตรีและคณะ ศบค. ใด้ช่วยพิจารณาไม่ออกมาตรการห้ามรับประทานอาหารในร้านอาหาร​ ดังที่แถลงข่าวไว้ในวันที่1 มกราคม 2564 โดยให้ร้านอาหารสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติดังเดิม
 
ภายหลังจดหมายดังกล่าวมีการเผยแพร่ “มติชนออนไลน์” ได้สอบถามไปยัง นางฐนิวรรณ ได้รับการยืนยันว่า ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวจริง ส่งผ่านทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เบื้องต้น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แจ้งว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) วันที่ 6 มกราคมนี้
 
นางฐนิวรรณ กล่าวด้วยว่า นอกจากเสนอผ่านตัวแทนภาคเอกชน เชื่อว่าหากสื่อช่วยทำข่าวจะทำให้ นายกรัฐมนตรี ได้รับรู้ถึงผลกระทบที่ผู้ประกอบการกำลังเจอ สาเหตุที่ต้องทำหนังสือเพราะรู้สึกคับแค้นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การแพร่ระบาดของโควิดเกิดขึ้นจากบ่อน สถานบันเทิง ไม่ใช่ร้านอาหารที่ปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รัฐควรไปจัดการตรงนั้น ประกอบกับหากให้ลูกค้าซื้อกลับบ้าน นั่งรับประทานที่ร้านไม่ได้ ผลกระทบนอกจากยอดขายที่ลดลง ยังอาจทำให้แรงงานในระบบหลายล้านต้องตกงานไปด้วย เพราะธุรกิจคงอยู่ไม่ไหว เมื่อรายได้ กำไรลดลง
 

 
‘แทค ภรัณยู’ ขอพูดแทนชาวบ้านฝากถึงรัฐ บอกงานหยุดแต่หนี้ไม่หยุด
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_2510550
 
‘แทค ภรัณยู’ ขอพูดแทนชาวบ้านฝากถึงรัฐ บอกงานหยุดแต่หนี้ไม่หยุด
 
หลังจากที่คำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงโควิดออกมาตามข่าวนั้น ล่าสุด นักแสดงหนุ่ม แทค ภรัณยู ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า
 
“สั่งปิดได้ไม่ว่า แต่ขออย่างเดียวรัฐบาลช่วยแจ้งให้ ธนาคาร ไฟแนนซ์ บัตรเครดิต หยุดชำระหนี้ด้วย ไม่ใช่พักชำระหนี้ แล้วคิดดอกเบี้ยทบไปอีก หากรัฐบาลทำได้ ชาวบ้านก็พร้อมจะหยุดเช่นเดียวกัน เพราะถ้าเหมือนเดิม งานหยุดแต่หนี้ไม่หยุด ก็ต้องดิ้นรนออกไปหาเงินมากินมาใช้อยู่ดี มาตรการที่รัฐบอกมาก็ไม่มีความหมายอะไร”
 
พร้อมแคปชั่นว่า “🙏🏻ชาวบ้านเค้าบ่นมาครับ🙏🏻เห็นใจและเข้าใจเลยเลยครับ ยังไงฝากถึงผู้ใหญ่ด้วยนะครับ หรือ คนที่รับเงินเดือนจากภาษีของพวกเรา#ประชาชนเดินดิน”
 

 
เพจดัง เปิดอีกมุม แย้งข้อมูล ศบค. หญิงชลบุรี ติดโควิดเสียชีวิต ไม่ได้เป็นนักพนัน 
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5655096
  
เพจดัง เปิดอีกมุม แย้งข้อมูล ศบค. เผยหญิงชลบุรี ติดโควิดเสียชีวิต ไม่ได้เป็นนักพนัน หลัง หมอทวีศิลป์ แถลง ญาติโร่แจงข้อเท็จจริง
  
กรณี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด แถลงสถานการณ์ โควิด วันนี้ ว่า ผู้ป่วยใหม่วันนี้ 216 ราย ติดเชื้อในประเทศ 214 ราย ยืนยันสะสม 7,379 รายเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย
  
สำหรับรายละเอียด ผู้เสียชีวิต หญิงอายุ 47 ปี ชาวบางละมุง ชลบุรี มีโรคประจำตัว เบาหวาน เป็นผู้ที่เล่นการพนัน
  
ต่อเรื่องดังกล่าว มีเพจ PattayaWatchdog และ Drama-addict นำเสนอเรื่องราวของผู้เสียชีวิตในอีกมุม โดยระบุว่า ทางญาติของผู้ที่เสียชีวิตจาก covid-19 ที่มีแถลงข่าววันนี้ฝากแจ้งมาว่า ผู้ตายไม่ได้ไปเล่นการพนันจนติดเชื้อ แต่ติดมาจากคนใกล้ชิดที่ไปในพื้นที่เสี่ยงมาอีกทีนึ
  
อ่าน Drama-addict
 
อ่าน PattayaWatchdog
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่