ทุกกองเป็นแบบสะสมมูลค่านะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กองต่างประเทศ 70%
K-Chx 10% (กอง Passive) - กลุ่มหุ้นจีน อิงดัชนี China A50
K-Oil 10% (กอง Passive) - กลุ่มน้ำมัน
K-WorldX 10% (กอง Passive) - กลุ่มหุ้นโลก (เน้นสหรัฐ)
KT-PIF 10% (กอง Active) - กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (เน้นสิงคโปร์)
KT-WTAI 10% (กอง Active) - กลุ่มเทคโนโลยี
KT-Healthcare 10% (กอง Active) - กลุ่มวิทยาศาสตร์และสุขภาพ
KT-Wcorp - 20% (กองตราสารหนี้ต่างประเทศ) - เน้นเรต BB+ /BB
กองในประเทศ 30%
K-ICT 10% (กอง Passive) - กลุ่มสื่อสาร (เน้น Advanc)
K-Banking 10% (กอง Passive) - กลุ่มธนาคาร ( BBL /SCB /KBANK)
เป้าหมาย ระยะสั้น-กลาง (3 ปี - 5 ปี)
กองไหนกำไร 10% ขึ้นไป พิจารณาขายครับ
กองไหนขาดทุน อดทนถือต่อไป แต่ถ้าขาดทุนเกิน 10-15% ขึ้นไป อาจพิจารณา Cut Loss ครับ
แนวคิด : การเลือกกองทุน ผมมองที่ค่าธรรมเนียม + พิจารณา ดังนี้
**มองการเติบโตระยะยาว** - จีน - เทคโน - สุขภาพ - หุ้นโลก
**มองพื้นที่ในการอัพไซต์** - อสังหาไทย+เทศ - สื่อสารไทย - ธนาคารไทย - น้ำมันโลก
ขอคำแนะนำครับ
ยังเหลือเงินสดอีกส่วนหนึ่ง (คิดเป็นมูลค่า 30% ของพอร์ตครับ) ที่จะนำมาเพิ่มน้ำหนักให้กับกองที่ลงทุนไปแล้ว ควรเพิ่มน้ำหนักไปที่กองไหนดีครับ หรือเก็บเงินสดไว้ รอถัว กรณีกองไหนมูลค่าลดลงมาก ๆ
จัดพอร์ตกองทุนรวมแบบนี้ และยังมีเงินสดเหลืออยู่ ควรเพิ่มน้ำหนักไปที่กองไหนดีครับ ?
ทุกกองเป็นแบบสะสมมูลค่านะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป้าหมาย ระยะสั้น-กลาง (3 ปี - 5 ปี)
กองไหนกำไร 10% ขึ้นไป พิจารณาขายครับ
กองไหนขาดทุน อดทนถือต่อไป แต่ถ้าขาดทุนเกิน 10-15% ขึ้นไป อาจพิจารณา Cut Loss ครับ
แนวคิด : การเลือกกองทุน ผมมองที่ค่าธรรมเนียม + พิจารณา ดังนี้
**มองการเติบโตระยะยาว** - จีน - เทคโน - สุขภาพ - หุ้นโลก
**มองพื้นที่ในการอัพไซต์** - อสังหาไทย+เทศ - สื่อสารไทย - ธนาคารไทย - น้ำมันโลก
ขอคำแนะนำครับ
ยังเหลือเงินสดอีกส่วนหนึ่ง (คิดเป็นมูลค่า 30% ของพอร์ตครับ) ที่จะนำมาเพิ่มน้ำหนักให้กับกองที่ลงทุนไปแล้ว ควรเพิ่มน้ำหนักไปที่กองไหนดีครับ หรือเก็บเงินสดไว้ รอถัว กรณีกองไหนมูลค่าลดลงมาก ๆ