ผมออมเงินในหุ้นแบบเก็บก่อนใช้ทุกเดือนประมาณ 10% โดยตั้งเป้าว่าจะเก็บให้ได้ 1 ล้านบาท ในระยะเวลา 7 ปี
ผมสามารถเก็บได้แล้วในระยะเวลา 6 ปี ขอมาแบ่งปันประสบการณ์ครับ
ก่อนหน้านั้นผมก็มีปัญหาการออมเงินที่เก็บไม่ค่อยได้ หรือเก็บได้นิดหน่อยก็เอาไปใช้ เลยเก็บเงินก้อนใหญ่ไม่ได้สักที พอหลายปีเข้า ที่เราทำงานมา เหมือนเราไม่ได้อะไรจากการทำงาน ทำงานไปวันๆ เงินออกก็เอาไปใช้ คิดว่าเหลือแล้วจะเก็บออม แต่ก็ไม่เคยได้เหลือให้ออมสักที เลยมาตั้งเป้าใหม่เพื่อที่จะได้มีเงินล้านสักที และเนื่องจากศึกษาการลงทุนแบบ VI เลยเลือกที่จะนำเงินทั้งหมดไปลงในหุ้น
แผนงาน
1. ตั้งเป้าเก็บให้ได้ 1 ล้านใน 7 ปี
2. เก็บ 10% ของเงินเดือน และรายได้ทั้งหมด
3. เก็บก่อนใช้ เงินเดือนออก หักโอนเข้าบัญชีหุ้นก่อนเลย
4. ลงทุนในหุ้นตามแนวทาง VI
5. เงินคืนภาษีเอามาเก็บให้หมด
6. เงินปันผลจากหุ้นก็เอามาลงทุนต่อ
7. ไม่มีเหคุจำเป็นแบบสุดๆ ก็จะไม่ถอนก้อนนี้ออกมาใช้ เก็บเป็นเงินเกษียญไปเลย
- พอร์ตตอนปิดตลาดแล้วได้ 1 ล้านครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563
ผลลัพธ์
1. เก็บได้ 1 ล้านใน 6 ปี และเกินเป้ามาอีกจำนวนหนึ่ง เก็บได้ก่อนเป้าหมาย 1 ปี
2. ทำกำไรได้ 116.95% คิดเป็นกำไร 604,969.83 บาท
3. เก็บ 10% ได้ทุกเดือน แต่ก็มีบางเดือนที่ลาออกจากงานที่ไม่ได้เก็บ
4. เก็บก่อนใช้ สำคัญมาก ผมตั้งเป้าเก็บ 2 กอง กองหนึ่งเก็บก่อนใช้ กองหนึงเก็บหลังใช้ กองเก็บหลังใช้ยังเก็บไม่ได้สักบาทจนถึงทุกวันนี้
5. มีบางช่วงที่ผมมีหนี้บัตรเครดิต 2 แสน และมีเงินในหุ้น 2 แสน ก็มีความคิดจะถอนเงินหุ้นทั้งหมดมาใช้หนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะกว่าจะตั้งต้นเก็บใหม่ได้ คงใช้เวลานาน เลยเลือกเก็บเงินหุ้นต่อ แล้วค่อยๆใช้หนี้บัตรเครดิต
6. ช่วง Lockdown มูลค่าเงินทั้งหมดหายไปเกือบครึ่ง จาก 7 แสน หายไป 3 แสนกว่า ตอนนั้นก็กระวนกระวาน จิตไม่สุข จะขายดีไหม มันจะลงไปอีกแน่ๆ แต่สุดท้ายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ขาย(มีขายปรับพอร์ตบ้างเล็กน้อย) มาวันนี้คิดว่าโชคดีมากที่ไม่ได้ขาย เพราะถ้าขาย ตอนนี้คงยังไม่กล้าซื้อ
7. ซื้อหุ้นที่ดี ในช่วงวิกฤต คือโอกาสทองอันสุดยอด ผมมีเก็บเงินสดไว้รอซื้อ บวกกับปรับพอร์ตก่อน Lockdown ตอนนนั้นมีเงินสดประมาณ 1.5 แสน ผมซื้อหุ้นเพิ่มอาทิตย์ที่ตลาด Circuit Breaker และทำให้เงินก้อนนั้นได้กำไรมาประมาณ 100%
8. แนวทาง VI ทำให้ลงทุนได้สบายใจ และได้ผลตอบแทนที่ดี อาจจะมีบางช่วงที่ผันผวนบ้าง ก็ปล่อยวาง คิดว่าลงทุนทำธุรกิจ มองในระยะยาว
9. หุ้นบางตัวผมก็มีขายขาดทุน บางทีก็มีเลือกผิด หรือคิดผิด แล้วต้องขายขาดทุนไป
10. jitta.com ช่วยผมได้เยอะในการวิเคราะห์งบย้อนหลัง เปรียบเทียบต่างๆ รวมถึงดูแนวโน้มกำไรย้อนหลัง
- พอร์ตของผมเมื่อ สิ้นปี 2563
- ตารางการเก็บเงินรายเดือน
- ตารางการเก็บเงินและกำไรของแต่ละปี
- ตารางเงินสะสมและกำไรสะสม
มูลค่าสุทธิเมื่อสินปี 2563 คือ
1,122,243.96 (หนึ่งล้านหนึ่งแสนสองหมื่นสองพันสองร้อยสี่สิบสามบาทเก้าสิบหกสตางค์)
เป้าหมายต่อไป ล้านที่ 2 ในอีก 4 ปี (2567)
.
สิ้นปีแล้ว ปีหน้าถือเป็นโอกาสอันดี
ขอให้ทุกคนเริ่มเก็บเงิน วางแผน ตั้งเป้าหมาย ออมเงินและลงทุน ให้เงินช่วยทำงาน
เพื่อที่จะไม่ต้องทำงานทั้งชีวิต เพื่อหาเงินครับ
หนึ่งล้าน ใน 7 ปี ฉบับมนุษย์เงินเดือน ผมเก็บได้แล้ว แบ่งปันประสบการณ์ออมเงินในหุ้น
ผมสามารถเก็บได้แล้วในระยะเวลา 6 ปี ขอมาแบ่งปันประสบการณ์ครับ
ก่อนหน้านั้นผมก็มีปัญหาการออมเงินที่เก็บไม่ค่อยได้ หรือเก็บได้นิดหน่อยก็เอาไปใช้ เลยเก็บเงินก้อนใหญ่ไม่ได้สักที พอหลายปีเข้า ที่เราทำงานมา เหมือนเราไม่ได้อะไรจากการทำงาน ทำงานไปวันๆ เงินออกก็เอาไปใช้ คิดว่าเหลือแล้วจะเก็บออม แต่ก็ไม่เคยได้เหลือให้ออมสักที เลยมาตั้งเป้าใหม่เพื่อที่จะได้มีเงินล้านสักที และเนื่องจากศึกษาการลงทุนแบบ VI เลยเลือกที่จะนำเงินทั้งหมดไปลงในหุ้น
แผนงาน
1. ตั้งเป้าเก็บให้ได้ 1 ล้านใน 7 ปี
2. เก็บ 10% ของเงินเดือน และรายได้ทั้งหมด
3. เก็บก่อนใช้ เงินเดือนออก หักโอนเข้าบัญชีหุ้นก่อนเลย
4. ลงทุนในหุ้นตามแนวทาง VI
5. เงินคืนภาษีเอามาเก็บให้หมด
6. เงินปันผลจากหุ้นก็เอามาลงทุนต่อ
7. ไม่มีเหคุจำเป็นแบบสุดๆ ก็จะไม่ถอนก้อนนี้ออกมาใช้ เก็บเป็นเงินเกษียญไปเลย
- พอร์ตตอนปิดตลาดแล้วได้ 1 ล้านครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563
ผลลัพธ์
1. เก็บได้ 1 ล้านใน 6 ปี และเกินเป้ามาอีกจำนวนหนึ่ง เก็บได้ก่อนเป้าหมาย 1 ปี
2. ทำกำไรได้ 116.95% คิดเป็นกำไร 604,969.83 บาท
3. เก็บ 10% ได้ทุกเดือน แต่ก็มีบางเดือนที่ลาออกจากงานที่ไม่ได้เก็บ
4. เก็บก่อนใช้ สำคัญมาก ผมตั้งเป้าเก็บ 2 กอง กองหนึ่งเก็บก่อนใช้ กองหนึงเก็บหลังใช้ กองเก็บหลังใช้ยังเก็บไม่ได้สักบาทจนถึงทุกวันนี้
5. มีบางช่วงที่ผมมีหนี้บัตรเครดิต 2 แสน และมีเงินในหุ้น 2 แสน ก็มีความคิดจะถอนเงินหุ้นทั้งหมดมาใช้หนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะกว่าจะตั้งต้นเก็บใหม่ได้ คงใช้เวลานาน เลยเลือกเก็บเงินหุ้นต่อ แล้วค่อยๆใช้หนี้บัตรเครดิต
6. ช่วง Lockdown มูลค่าเงินทั้งหมดหายไปเกือบครึ่ง จาก 7 แสน หายไป 3 แสนกว่า ตอนนั้นก็กระวนกระวาน จิตไม่สุข จะขายดีไหม มันจะลงไปอีกแน่ๆ แต่สุดท้ายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ขาย(มีขายปรับพอร์ตบ้างเล็กน้อย) มาวันนี้คิดว่าโชคดีมากที่ไม่ได้ขาย เพราะถ้าขาย ตอนนี้คงยังไม่กล้าซื้อ
7. ซื้อหุ้นที่ดี ในช่วงวิกฤต คือโอกาสทองอันสุดยอด ผมมีเก็บเงินสดไว้รอซื้อ บวกกับปรับพอร์ตก่อน Lockdown ตอนนนั้นมีเงินสดประมาณ 1.5 แสน ผมซื้อหุ้นเพิ่มอาทิตย์ที่ตลาด Circuit Breaker และทำให้เงินก้อนนั้นได้กำไรมาประมาณ 100%
8. แนวทาง VI ทำให้ลงทุนได้สบายใจ และได้ผลตอบแทนที่ดี อาจจะมีบางช่วงที่ผันผวนบ้าง ก็ปล่อยวาง คิดว่าลงทุนทำธุรกิจ มองในระยะยาว
9. หุ้นบางตัวผมก็มีขายขาดทุน บางทีก็มีเลือกผิด หรือคิดผิด แล้วต้องขายขาดทุนไป
10. jitta.com ช่วยผมได้เยอะในการวิเคราะห์งบย้อนหลัง เปรียบเทียบต่างๆ รวมถึงดูแนวโน้มกำไรย้อนหลัง
- พอร์ตของผมเมื่อ สิ้นปี 2563
- ตารางการเก็บเงินรายเดือน
- ตารางการเก็บเงินและกำไรของแต่ละปี
- ตารางเงินสะสมและกำไรสะสม
มูลค่าสุทธิเมื่อสินปี 2563 คือ
1,122,243.96 (หนึ่งล้านหนึ่งแสนสองหมื่นสองพันสองร้อยสี่สิบสามบาทเก้าสิบหกสตางค์)
เป้าหมายต่อไป ล้านที่ 2 ในอีก 4 ปี (2567)
.
สิ้นปีแล้ว ปีหน้าถือเป็นโอกาสอันดี
ขอให้ทุกคนเริ่มเก็บเงิน วางแผน ตั้งเป้าหมาย ออมเงินและลงทุน ให้เงินช่วยทำงาน
เพื่อที่จะไม่ต้องทำงานทั้งชีวิต เพื่อหาเงินครับ