เกริ่นก่อนว่า จขกท เป็นลูกสาวคนโต มีน้องชาย 2คน
ตัว จขกท อายุ 3x ต้น ๆ โสด อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่มาตลอด ฐานะที่บ้านปานกลาง พ่อแม่อายุ 6x ปีกว่า ๆ โดยแม้พ่อแม่ค่อนข้างมีอสังหาริมทรัพย์เยอะ แต่ท่านค่อนข้างหวงสมบัติคือ ที่ผ่านมาใครจะมาขอเช่าบ้านหลังนึงที่ยังว่างอยู่ก็ยากมาก ๆ จนบ้านว่างมาตลอด 20-30ปีที่ซื้อมา (ไม่ใช้สินทรัพย์ทำเงินเพิ่ม แต่เราก็ยุ่งอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นสมบัติของท่าน)
ทำให้พ่อแม่แม้ท่านจะเกษียณแล้ว (พ่อเปนวิศวกร อดีตเปิดบริษัทรับเหมาเอง โดยปัจจุบันยังมีทำงานเปนจ๊อบ ๆ บ้าง แต่น้อยลงมาก และลูก ๆ ไม่มีใครรับช่วงกิจการต่อ ส่วนแม่เปนแม่บ้านมาตลอด คอยซัพพอร์ตกิจการพ่อและค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง)
ส่งผลให้ปัจจุบันพ่อแม่มีเงินสดหมุนน้อย (สภาพคล่องน้อย) แต่โดยรวมที่บ้านถือว่าอยู่ได้เรื่อย ๆ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก เราก็ช่วยเท่าที่ทำได้มาตลอด ส่วนน้องชายคนนึงก็แยกออกไปอยู่กับแฟน ไม่ได้ซัพพอร์ตทางบ้านเท่าไร ส่วนคนเล็กก็เพิ่งจบออกมาทำงานได้แค่ปีกว่า ๆ ทำให้ภาระดูแลที่บ้านส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเรื้องเงินอยู่ที่เรา
ที่ผ่านมา ตัวจขกท เป็นลูกสาวที่ดีมาตลอด เรียนดี ไม่นอกลู่นอกทาง ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ หลังเรียนจบตรี ก็มีงานการที่ดีทำ เงินเดือนพอสมควร ไม่น้อยไม่มาก บริหารเงินเป็น เก็บเงินเป็น ส่งตัวเองเรียนต่อโท ช่วงเรียนโทก้ออดทน ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย และออกเงินซื้อรถเอง ให้เงินที่บ้านรายเดือนและรายวันตลอดเท่าที่ให้ได้ พาไปเที่ยวฟรี ๆ ซื้อของให้ พาไปกินข้าว หาหมอบ้าง และลงทุนปรับปรุงบ้านให้ดูดีขึ้น
แต่ข้อเสียของ จขกท คือ ด้วยความเปนลูกคนโตและเรียนดี ทำให้เป็นคนมีความคิดของตัวเองสูง หรือมีอัตตาสูง ไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิตเท่าไร ชอบคิด ชอบตัดสินใจด้วยตนเอง ส่งผลให้มีปัญหากับพ่อค่อนข้างบ่อย เพราะท่านก็เป็นคนเรียนดี มีความคิดเปนของตัวเองสูง และชอบบงการชีวิต จขกท โดยเฉพาะเรื่องเงินต่าง ๆ เช่น การออกรถ ทั้ง ๆ ที่เป็นเงินของ จขกท เองทั้งหมด ทำให้ทะเลาะกัน และสุดท้ายท่านจะชอบไล่เราออกจากบ้าน บางครั้งก็ดูถูกว่า ไม่มีปัญญาไปซื้อบ้านเอง คือพ่อแม่เราเวลลามีปัญหากัน ท่านจะชอบดูถูกเงินที่เราให้ว่าเงินเดือนตั้งหลายหมื่น แต่ให้แค่นี้อ่ะนะ ทำนองนี้ เป็นแบบนี้มาหลายครั้งมาแล้ว หลัง ๆ ยิ่งบ่อย แล้วท่านทั้ง2 เราพูดอะไร ออกความเห็นเตือนอะไรก็ไม่ค่อยฟัง เช่น ช่วงนี้โควิดระบาด เราก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ท่านออกเดินทางไป ตจว. บ่อย ๆ แต่ท่านก็ขับรถกันออกไป 2คน วันเว้นวัน คือเราว่ามันเสี่ยงติดมา ท่านก็ไม่ฟัง แล้วก็มาทะเลาะกับเรา
ทำให้เรารู้สึกเหมือนพ่อแม่ไม่เห็นความดีเราที่ทำมาตลอดเลย เหมือนเราเป็นตู้เอทีเอ็ม เครื่องผลิตเงินแค่นั้น ตัวเราก็เป็นเด็กดีมาตลอด ดูแลท่านเท่าที่จะทำได้ ไม่เคยทำให้ที่บ้านเดือดร้อนอะไร มีแต่ให้ (คือเหมือนเราเสียใจน้อยใจอ่ะค่ะ ทำดีไม่เห็นค่า ไล่ออกจากบ้าน ดูถูกเงินที่เราให้ว่าน้อย)
จริง ๆ ใจ จขกท อยากออกไปซื้อคอนโดหรือบ้านอยู่เองคนเดียวมากค่ะ แต่ยังอยู่ระหว่างชั่งใจ ใจนึงก็เป็นห่วงพ่อแม่นะ แต่เราโดนว่า โดนดูถูก โดนไล่ออกจากบ้านเวลามีปัญหากันแบบนี้บ่อย ๆ ก็ไม่ไหวอ่ะค่ะ รู้สึกแย่ อีกอย่างถ้าจะซื้อคอนโดหรือบ้าน ก็จะมีภาระเพิ่มอีก อาจจะต้องวางแผนเก็บเงินเพิ่ม เพื่อซื้อบ้านคอนโดเองเพิ่มเติม
ใครเคยเจอปัญหาคล้าย ๆ จขกท บ้างมั้ยคะ? แล้วเราควรแก้ไขปัญหายังไง? เราควรออกไปใช้ชีวิตเองคนเดียวมั้ยคะ ไปมีชีวิตของตัวเอง แล้วกลับมาเยี่ยมท่านที่บ้านเป็นครั้งคราวน่าจะดีกว่า
ขอบคุณค่ะ
เราควรย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ ไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมั้ยคะ?
ตัว จขกท อายุ 3x ต้น ๆ โสด อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่มาตลอด ฐานะที่บ้านปานกลาง พ่อแม่อายุ 6x ปีกว่า ๆ โดยแม้พ่อแม่ค่อนข้างมีอสังหาริมทรัพย์เยอะ แต่ท่านค่อนข้างหวงสมบัติคือ ที่ผ่านมาใครจะมาขอเช่าบ้านหลังนึงที่ยังว่างอยู่ก็ยากมาก ๆ จนบ้านว่างมาตลอด 20-30ปีที่ซื้อมา (ไม่ใช้สินทรัพย์ทำเงินเพิ่ม แต่เราก็ยุ่งอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นสมบัติของท่าน)
ทำให้พ่อแม่แม้ท่านจะเกษียณแล้ว (พ่อเปนวิศวกร อดีตเปิดบริษัทรับเหมาเอง โดยปัจจุบันยังมีทำงานเปนจ๊อบ ๆ บ้าง แต่น้อยลงมาก และลูก ๆ ไม่มีใครรับช่วงกิจการต่อ ส่วนแม่เปนแม่บ้านมาตลอด คอยซัพพอร์ตกิจการพ่อและค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง)
ส่งผลให้ปัจจุบันพ่อแม่มีเงินสดหมุนน้อย (สภาพคล่องน้อย) แต่โดยรวมที่บ้านถือว่าอยู่ได้เรื่อย ๆ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก เราก็ช่วยเท่าที่ทำได้มาตลอด ส่วนน้องชายคนนึงก็แยกออกไปอยู่กับแฟน ไม่ได้ซัพพอร์ตทางบ้านเท่าไร ส่วนคนเล็กก็เพิ่งจบออกมาทำงานได้แค่ปีกว่า ๆ ทำให้ภาระดูแลที่บ้านส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเรื้องเงินอยู่ที่เรา
ที่ผ่านมา ตัวจขกท เป็นลูกสาวที่ดีมาตลอด เรียนดี ไม่นอกลู่นอกทาง ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ หลังเรียนจบตรี ก็มีงานการที่ดีทำ เงินเดือนพอสมควร ไม่น้อยไม่มาก บริหารเงินเป็น เก็บเงินเป็น ส่งตัวเองเรียนต่อโท ช่วงเรียนโทก้ออดทน ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย และออกเงินซื้อรถเอง ให้เงินที่บ้านรายเดือนและรายวันตลอดเท่าที่ให้ได้ พาไปเที่ยวฟรี ๆ ซื้อของให้ พาไปกินข้าว หาหมอบ้าง และลงทุนปรับปรุงบ้านให้ดูดีขึ้น
แต่ข้อเสียของ จขกท คือ ด้วยความเปนลูกคนโตและเรียนดี ทำให้เป็นคนมีความคิดของตัวเองสูง หรือมีอัตตาสูง ไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิตเท่าไร ชอบคิด ชอบตัดสินใจด้วยตนเอง ส่งผลให้มีปัญหากับพ่อค่อนข้างบ่อย เพราะท่านก็เป็นคนเรียนดี มีความคิดเปนของตัวเองสูง และชอบบงการชีวิต จขกท โดยเฉพาะเรื่องเงินต่าง ๆ เช่น การออกรถ ทั้ง ๆ ที่เป็นเงินของ จขกท เองทั้งหมด ทำให้ทะเลาะกัน และสุดท้ายท่านจะชอบไล่เราออกจากบ้าน บางครั้งก็ดูถูกว่า ไม่มีปัญญาไปซื้อบ้านเอง คือพ่อแม่เราเวลลามีปัญหากัน ท่านจะชอบดูถูกเงินที่เราให้ว่าเงินเดือนตั้งหลายหมื่น แต่ให้แค่นี้อ่ะนะ ทำนองนี้ เป็นแบบนี้มาหลายครั้งมาแล้ว หลัง ๆ ยิ่งบ่อย แล้วท่านทั้ง2 เราพูดอะไร ออกความเห็นเตือนอะไรก็ไม่ค่อยฟัง เช่น ช่วงนี้โควิดระบาด เราก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ท่านออกเดินทางไป ตจว. บ่อย ๆ แต่ท่านก็ขับรถกันออกไป 2คน วันเว้นวัน คือเราว่ามันเสี่ยงติดมา ท่านก็ไม่ฟัง แล้วก็มาทะเลาะกับเรา
ทำให้เรารู้สึกเหมือนพ่อแม่ไม่เห็นความดีเราที่ทำมาตลอดเลย เหมือนเราเป็นตู้เอทีเอ็ม เครื่องผลิตเงินแค่นั้น ตัวเราก็เป็นเด็กดีมาตลอด ดูแลท่านเท่าที่จะทำได้ ไม่เคยทำให้ที่บ้านเดือดร้อนอะไร มีแต่ให้ (คือเหมือนเราเสียใจน้อยใจอ่ะค่ะ ทำดีไม่เห็นค่า ไล่ออกจากบ้าน ดูถูกเงินที่เราให้ว่าน้อย)
จริง ๆ ใจ จขกท อยากออกไปซื้อคอนโดหรือบ้านอยู่เองคนเดียวมากค่ะ แต่ยังอยู่ระหว่างชั่งใจ ใจนึงก็เป็นห่วงพ่อแม่นะ แต่เราโดนว่า โดนดูถูก โดนไล่ออกจากบ้านเวลามีปัญหากันแบบนี้บ่อย ๆ ก็ไม่ไหวอ่ะค่ะ รู้สึกแย่ อีกอย่างถ้าจะซื้อคอนโดหรือบ้าน ก็จะมีภาระเพิ่มอีก อาจจะต้องวางแผนเก็บเงินเพิ่ม เพื่อซื้อบ้านคอนโดเองเพิ่มเติม
ใครเคยเจอปัญหาคล้าย ๆ จขกท บ้างมั้ยคะ? แล้วเราควรแก้ไขปัญหายังไง? เราควรออกไปใช้ชีวิตเองคนเดียวมั้ยคะ ไปมีชีวิตของตัวเอง แล้วกลับมาเยี่ยมท่านที่บ้านเป็นครั้งคราวน่าจะดีกว่า
ขอบคุณค่ะ