สส. แฉ ทอ. จัดซื้อ ดาวเทียม 2 ดวง 1.4 พันล้าน ในช่วงศก.กำลังย่ำแย่เพราะ 'โควิด'
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5630153
สส.ก้าวไกล โพสต์แฉ กองทัพอากาศ จัดซื้อ ดาวเทียม 2 ดวง พร้อมสถานีภาคพื้น ในงบ 1.4 พันล้านในช่วงเศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่เพราะ โควิด ระบาด
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความในทวิตเตอร์
@Bench_BenchaMFP ระบุว่า กองทัพอากาศกำลังจะเป็นหน่วยงานที่ "หาทำ" มากที่สุดในช่วงประเทศตกอยู่ในภาวะย่ำแย่จาก #โควิด19 อีกหน่วยนึง
ที่เผยว่าจะจัดหา ดาวเทียม Microsatellite 2 ดวง พร้อมสถานีควบคุม และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง มูลค่า 1,470,000,000 บาท งบพันกว่าล้านเป็นงบที่ค่อนข้างสูงในภาวะยากลำบากของประชาชนเช่นนี้
โดยทวีตภาพเอกสารที่ระบุว่า
1. ซื่อโครงการพัฒนาการปฏิบัติในห้วงอวกาศ จัดซื้อดาวเทียม Microsatellite จำนวน 2 ดวง พร้อมสถานีควบคุมภาคพื้น การฝึกอบรม อะไหล่ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง
2. หน่วยเจ้าของโครงการ กรมยุทธการทหารอากาศ กองทัพอากาศ
3. วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 1,470,000,000 บาท
4. วันที่กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) ณ วันที่ 27 พ.ย.63 เป็นเงิน 1,465,002,270 บาท
https://twitter.com/Bench_BenchaMFP/status/1343788516375842822
•
กองทัพอากาศ ซื้อ Microsat 2 ดวง 1.4 พันล้านบาท
ท่องเที่ยวซบเซาอีก ปีใหม่ 64 คนกรุงเทพฯ ขออยู่บ้าน งดเที่ยวกลัวโควิด
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/2003511
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลสำรวจคนกรุงเทพฯ งดเที่ยวปีใหม่ 64 ขออยู่บ้าน หวั่นโควิด-19 ระลอกใหม่ระบาดหนัก คาดหยุดยาว 4 วัน อาจสูญเสียรายได้ประมาณ 5,850 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.63-3 ธ.ค.64) ของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นฐานตลาดขนาดใหญ่ของตลาดไทยเที่ยวไทย โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 12 ธ.ค.-23 ธ.ค.63
ทั้งนี้ พบว่า เหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลทำให้คนกรุงเทพฯ ปรับแผนอยู่บ้านในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 รอสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
จากผลสำรวจ พบว่า คนกรุงเทพฯ กว่า 54.8% ไม่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 โดยกว่า 40.7% เป็นการยกเลิกหรือเลื่อนแผนการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้า เนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ขณะที่เหตุผลอื่นๆ อาทิ กลุ่มตัวอย่างเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวก่อนหน้านี้แล้ว หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่แต่มีแผนที่จะท่องเที่ยวหลังปีใหม่ และปัจจัยเศรษฐกิจในครัวเรือน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังพบว่า คนกรุงเทพฯ ประมาณ 30.9% ยังมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโควิดในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากหลังวันที่ 23 ธ.ค. 63 จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวจริงของผู้ตอบแบบสอบถาม
สำหรับผู้ที่มีแผนเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นจะมีทั้งการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนและการเดินทางไปเช้า-เย็นกลับ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตัวอย่างที่ยังมีแผนเดินทางไปต่างจังหวัดมองว่า จังหวัดที่จะไปไม่พบการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างบางกลุ่มมีการปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และมีแผนจะเดินทางแต่อาจปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดที่จะไป สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางภูเขา โดยมีการกระจายการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ มากขึ้น ไม่เพียงแต่เฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างเชียงใหม่ เชียงราย และนครราชสีมา
เมืองท่องเที่ยวรองที่ได้รับความนิยม อาทิ น่าน เลย และพิษณุโลก เป็นต้น ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางทะเลที่คนกรุงเทพฯ ยังเดินทางท่องเที่ยว อาทิ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มตัวอย่างกว่า 14.3% ยังมีความไม่แน่ใจ เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ของโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ของทางการ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะทำให้เกิดการสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,850 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่สูญเสียไปประมาณ 58.4% ของรายได้ไทยเที่ยวไทยในช่วงเวลาปกติ 4 วัน ที่ไม่ได้เกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ อย่างไรก็ดี กลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีแผนเดินทางส่วนใหญ่จะรอให้สถานการณ์โควิดดีขึ้นจึงจะวางแผนท่องเที่ยวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงเวลานี้ ภาคการท่องเที่ยวคงจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีข่าวการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
ขณะเดียวกันพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อในอัตราที่ต่ำก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้ของผู้ประกอบการ คือ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการ และผู้ประกอบการคงจะต้องเตรียมแผนรองรับการปรับเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามพัฒนการการระบาดของโควิด-19 ในระยะนี้
อย่างไรก็ดี จากการที่ทางการได้มีการออกมาตรการที่เข้มข้นในการควบคุมดูแลการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัด และหากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในช่วงระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพรวมของตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1 ของปี 2564
JJNY : แฉทอ.จัดซื้อดาวเทียมช่วงศก.ย่ำแย่/ท่องเที่ยวซบเซาอีก/อนุสรณ์ถล่มรัฐไม่ใช่ปชช.การ์ดตก/ชูวิทย์อาสาชี้เป้าบ่อนวีไอพี
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5630153
สส.ก้าวไกล โพสต์แฉ กองทัพอากาศ จัดซื้อ ดาวเทียม 2 ดวง พร้อมสถานีภาคพื้น ในงบ 1.4 พันล้านในช่วงเศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่เพราะ โควิด ระบาด
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ @Bench_BenchaMFP ระบุว่า กองทัพอากาศกำลังจะเป็นหน่วยงานที่ "หาทำ" มากที่สุดในช่วงประเทศตกอยู่ในภาวะย่ำแย่จาก #โควิด19 อีกหน่วยนึง
ที่เผยว่าจะจัดหา ดาวเทียม Microsatellite 2 ดวง พร้อมสถานีควบคุม และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง มูลค่า 1,470,000,000 บาท งบพันกว่าล้านเป็นงบที่ค่อนข้างสูงในภาวะยากลำบากของประชาชนเช่นนี้
โดยทวีตภาพเอกสารที่ระบุว่า
1. ซื่อโครงการพัฒนาการปฏิบัติในห้วงอวกาศ จัดซื้อดาวเทียม Microsatellite จำนวน 2 ดวง พร้อมสถานีควบคุมภาคพื้น การฝึกอบรม อะไหล่ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง
2. หน่วยเจ้าของโครงการ กรมยุทธการทหารอากาศ กองทัพอากาศ
3. วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 1,470,000,000 บาท
4. วันที่กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) ณ วันที่ 27 พ.ย.63 เป็นเงิน 1,465,002,270 บาท
https://twitter.com/Bench_BenchaMFP/status/1343788516375842822
• กองทัพอากาศ ซื้อ Microsat 2 ดวง 1.4 พันล้านบาท
ท่องเที่ยวซบเซาอีก ปีใหม่ 64 คนกรุงเทพฯ ขออยู่บ้าน งดเที่ยวกลัวโควิด
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/2003511
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลสำรวจคนกรุงเทพฯ งดเที่ยวปีใหม่ 64 ขออยู่บ้าน หวั่นโควิด-19 ระลอกใหม่ระบาดหนัก คาดหยุดยาว 4 วัน อาจสูญเสียรายได้ประมาณ 5,850 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.63-3 ธ.ค.64) ของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นฐานตลาดขนาดใหญ่ของตลาดไทยเที่ยวไทย โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 12 ธ.ค.-23 ธ.ค.63
ทั้งนี้ พบว่า เหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลทำให้คนกรุงเทพฯ ปรับแผนอยู่บ้านในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 รอสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
จากผลสำรวจ พบว่า คนกรุงเทพฯ กว่า 54.8% ไม่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 โดยกว่า 40.7% เป็นการยกเลิกหรือเลื่อนแผนการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้า เนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ขณะที่เหตุผลอื่นๆ อาทิ กลุ่มตัวอย่างเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวก่อนหน้านี้แล้ว หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่แต่มีแผนที่จะท่องเที่ยวหลังปีใหม่ และปัจจัยเศรษฐกิจในครัวเรือน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังพบว่า คนกรุงเทพฯ ประมาณ 30.9% ยังมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโควิดในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากหลังวันที่ 23 ธ.ค. 63 จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวจริงของผู้ตอบแบบสอบถาม
สำหรับผู้ที่มีแผนเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นจะมีทั้งการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนและการเดินทางไปเช้า-เย็นกลับ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตัวอย่างที่ยังมีแผนเดินทางไปต่างจังหวัดมองว่า จังหวัดที่จะไปไม่พบการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างบางกลุ่มมีการปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และมีแผนจะเดินทางแต่อาจปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดที่จะไป สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางภูเขา โดยมีการกระจายการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ มากขึ้น ไม่เพียงแต่เฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างเชียงใหม่ เชียงราย และนครราชสีมา
เมืองท่องเที่ยวรองที่ได้รับความนิยม อาทิ น่าน เลย และพิษณุโลก เป็นต้น ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางทะเลที่คนกรุงเทพฯ ยังเดินทางท่องเที่ยว อาทิ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มตัวอย่างกว่า 14.3% ยังมีความไม่แน่ใจ เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ของโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ของทางการ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะทำให้เกิดการสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,850 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่สูญเสียไปประมาณ 58.4% ของรายได้ไทยเที่ยวไทยในช่วงเวลาปกติ 4 วัน ที่ไม่ได้เกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ อย่างไรก็ดี กลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีแผนเดินทางส่วนใหญ่จะรอให้สถานการณ์โควิดดีขึ้นจึงจะวางแผนท่องเที่ยวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงเวลานี้ ภาคการท่องเที่ยวคงจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีข่าวการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
ขณะเดียวกันพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อในอัตราที่ต่ำก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้ของผู้ประกอบการ คือ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการ และผู้ประกอบการคงจะต้องเตรียมแผนรองรับการปรับเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามพัฒนการการระบาดของโควิด-19 ในระยะนี้
อย่างไรก็ดี จากการที่ทางการได้มีการออกมาตรการที่เข้มข้นในการควบคุมดูแลการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัด และหากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในช่วงระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพรวมของตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1 ของปี 2564