ใกล้เข้ามาทุกขณะกับเทศกาลปีใหม่ บางคนอาจหยุดแล้ว บางคนยังทำงาน
และหลายคนก็มีวางแผนเดินทางไกล ไม่ว่าจะกลับบ้าน หรือไปเที่ยว ซึ่งในวันนี้ทางทีม Pantip Garage ขอมาแนะนำ 7 ข้อ ควรตรวจเช็ครถก่อนเดินทางกันครับ
1. เช็คยาง
ยางนับเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อรถกับ ผิวถนน ดังนั้น ควรตรวจเช็คสภาพยางว่า รั่ว ซึม แตกลาย หรือไม่ ดอกยังเหลือเพียงพอหรือเปล่า
และ ก่อนออกเดินทางควรแวะปั๊มเติมลมยางให้เหมาะสมกับค่ามาตรฐาน ถ้ามีการบรรทุกของหนัก ก็อาจเติมลงยางให้มากกว่าค่าปกติ ได้เล็กน้อย
2. ตรวจเช็คระบบไฟ สัญญาณไฟต่างๆ
ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไฟตัดหมอก แตร
ว่าใช้งานได้ปกติ หากพบปัญหาควรเข้าศูนย์เช็คแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
3. เช็คแบตเตอรี่
ถ้าเป็นแบบต้องเติมน้ำกลั่น ก็ควรเช็คดูแล อย่าให้แห้ง โดยการหมั่นเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับ
ถ้าเป็นแบตแบบแห้ง ก็ควรจะต้องสังเกตุ หากสตาร์ทรถติดยาก บีบแตรเสียงเบา หรือ เวลาเปิด-ไฟรถ แล้วไฟอ่อน ไฟหน้ากระพริบเวลาเปิดไฟเลี้ยว
แบบนี้ควรเตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงเดินทางไปจอดรถ แล้ว สตาร์ทรถไม่ติด
4. ระบบหล่อเย็น เช็คน้ำในหม้อน้ำ ว่าพร่องไปหรือไม่
หรือ ควรเปลี่ยนเติมน้ำยาตามคู่มือเช็คระยะ ที่ระบุ
5. น้ำมันเครื่อง เช็คว่าน้ำมันเครื่องพร่องหรือไม่
โดยปกติ เราจะถ่ายน้ำมันเครื่องกันตามระยะคู่มืออยู่แล้ว แต่ ก็สามารถเช็คระดับได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง
จอดรถในระนาบ และดึงก้านดูระดับน้ำมันเครื่อง ให้อยู่ระหว่าง ขีด Min - Max ก็ถือว่าปกติ
ถ้าพร่องต่ำกว่า Min ควรเติมเพิ่ม
6. ระบบเบรก
สังเกตุว่ารถเบรกอยู่ หรือไม่ เสียงดังหรือเปล่า เพื่อตรวจเช็คว่าผ้าเบรกหมด ไหม กินจานหรือเปล่า
หรือมีอาการเบรกติด หรือไม่ ซึ่งถ้ามีอาการเบรกติด อาจต้องเข้าอู่ เพื่อไล่น้ำมันเบรกใหม่
7. พวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรลิก เช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์
ถ้ารถที่ใช้พวงมาลัยไฟฟ้า ก็จะสบายหน่อยไม่ต้องมาคอยเช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์ ซึ่งรถใครใช้พวงมาลัยแบบผ่อนแรงไฮโดรลิก ก็จะต้องคอยตรวจเช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์ ไม่ให้พร่องไปด้วย
7 ข้อ ควรตรวจเช็ครถ สำหรับคนที่จะเดินทางช่วงปีใหม่
และหลายคนก็มีวางแผนเดินทางไกล ไม่ว่าจะกลับบ้าน หรือไปเที่ยว ซึ่งในวันนี้ทางทีม Pantip Garage ขอมาแนะนำ 7 ข้อ ควรตรวจเช็ครถก่อนเดินทางกันครับ
1. เช็คยาง
ยางนับเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อรถกับ ผิวถนน ดังนั้น ควรตรวจเช็คสภาพยางว่า รั่ว ซึม แตกลาย หรือไม่ ดอกยังเหลือเพียงพอหรือเปล่า
และ ก่อนออกเดินทางควรแวะปั๊มเติมลมยางให้เหมาะสมกับค่ามาตรฐาน ถ้ามีการบรรทุกของหนัก ก็อาจเติมลงยางให้มากกว่าค่าปกติ ได้เล็กน้อย
2. ตรวจเช็คระบบไฟ สัญญาณไฟต่างๆ
ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไฟตัดหมอก แตร
ว่าใช้งานได้ปกติ หากพบปัญหาควรเข้าศูนย์เช็คแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
3. เช็คแบตเตอรี่
ถ้าเป็นแบบต้องเติมน้ำกลั่น ก็ควรเช็คดูแล อย่าให้แห้ง โดยการหมั่นเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับ
ถ้าเป็นแบตแบบแห้ง ก็ควรจะต้องสังเกตุ หากสตาร์ทรถติดยาก บีบแตรเสียงเบา หรือ เวลาเปิด-ไฟรถ แล้วไฟอ่อน ไฟหน้ากระพริบเวลาเปิดไฟเลี้ยว
แบบนี้ควรเตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงเดินทางไปจอดรถ แล้ว สตาร์ทรถไม่ติด
4. ระบบหล่อเย็น เช็คน้ำในหม้อน้ำ ว่าพร่องไปหรือไม่
หรือ ควรเปลี่ยนเติมน้ำยาตามคู่มือเช็คระยะ ที่ระบุ
5. น้ำมันเครื่อง เช็คว่าน้ำมันเครื่องพร่องหรือไม่
โดยปกติ เราจะถ่ายน้ำมันเครื่องกันตามระยะคู่มืออยู่แล้ว แต่ ก็สามารถเช็คระดับได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง
จอดรถในระนาบ และดึงก้านดูระดับน้ำมันเครื่อง ให้อยู่ระหว่าง ขีด Min - Max ก็ถือว่าปกติ
ถ้าพร่องต่ำกว่า Min ควรเติมเพิ่ม
6. ระบบเบรก
สังเกตุว่ารถเบรกอยู่ หรือไม่ เสียงดังหรือเปล่า เพื่อตรวจเช็คว่าผ้าเบรกหมด ไหม กินจานหรือเปล่า
หรือมีอาการเบรกติด หรือไม่ ซึ่งถ้ามีอาการเบรกติด อาจต้องเข้าอู่ เพื่อไล่น้ำมันเบรกใหม่
7. พวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรลิก เช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์
ถ้ารถที่ใช้พวงมาลัยไฟฟ้า ก็จะสบายหน่อยไม่ต้องมาคอยเช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์ ซึ่งรถใครใช้พวงมาลัยแบบผ่อนแรงไฮโดรลิก ก็จะต้องคอยตรวจเช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์ ไม่ให้พร่องไปด้วย