ทำไมแม่สอดไม่ตรวจเชิงรุกสักที? - จากเพจหมอแม่สอด

**บทความคัดลอกมาจากเพจ "หมอแม่สอด"**
https://www.facebook.com/doctormaesot/

ทำไมแม่สอดไม่ตรวจเชิงรุกสักที? จะปล่อยให้ติดทั้งเมืองหรือไง?
สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้จะมาดับประเด็นร้อนเรื่อง “ทำไมแม่สอดไม่สุ่มตรวจเชิงรุก” กันนะคะ
ขอแก้ข่าวก่อนว่า แม่สอดตรวจเชิงรุกค่ะ นอกจากรุกแล้วยังลุยมากๆเลยค่ะ!
ต้องบอกก่อนว่าในแม่สอดของเรา มีห้องแลปที่ตรวจเชื้อชนิด “PCR” ได้แค่ที่โรงพยาบาลแม่สอดเท่านั้น (ไม่นับของ NGO ที่เขาทำขึ้นอย่างพิเศษ เพื่อตรวจผู้อพยพโดยเฉพาะ)
และคนที่ทำได้ ได้รับอนุญาตให้ทำ อย่างมีมาตรฐานและเชื่อถือได้ มีเพียงแค่ 10 คน
นั่นคือในวันหนึ่งๆ เราสามารถทำ PCR ได้จำนวน 150 เทสต์เท่านั้น
ดังนั้นเราต้องใช้จำนวนนี้ล่ะ ให้ตรงจุด ให้โดน ให้จับได้ไล่ทันมากที่สุด
—-
ช่วงต้นปีที่โควิดเริ่มเข้ามา เราจับทุกคนที่เข้าข่ายตรวจ และรับแลปจากอีก 4 อำเภอพี่น้องตากตะวันตกด้วย
ถัดมาเมื่อโควิดเริ่มระบาดมากขึ้น เราขยายแลปของเราออกไป ให้ทำได้มากขึ้นและเริ่มปฏิบัติการบางอย่าง
ขณะนั้นนอกจากเคสที่กลับจากต่างประเทศแล้ว เรายังไม่มีเคสติดในประเทศ เราจึงเพ่งเล็งกลุ่มที่ข้ามไปมาระหว่างประเทศ เช่นคนขับรถรับส่งเป็นพิเศษ ในการนี้เราจึงทำการสุ่มตรวจ “เชิงรุก” ในคนขับรถทั้งไทยและเมียนมา
นั่นนำมาสู่การค้นพบเคสคนขับรถที่ติดโควิดในช่วง ต.ค. นั่นเองค่ะ
เมื่อเราจับเคสแรกได้ เราจึงขยายผลต่อ ตามเส้นทางที่คนขับรถนั้นขับไป แต่เนื่องจากคนขับรถเป็นชาวเมียนมา เราไม่อาจตามไทม์ไลน์อย่างหมดจดได้
เราจึงปิดทุกชุมชนที่รถคันนี้เข้าไป และพลิกแผ่นดินหาทันที!
เราไม่รู้ชาวแม่สอดรู้มั้ย แต่ปฏิบัติการในครั้งนั้น ทีมงานแม่สอดเล็กๆของเรา ทำการสวอบประชาชนทั่วไปที่อยู่ในชุมชนดังกล่าวถึง 5700 คน
ลองดูเทียบกับจังหวัดอื่นๆได้ การตรวจครึ่งหมื่นแบบนี้ เป็นเลขระดับจังหวัดเลยนะคะ สำหรับอำเภอเล็กๆอย่างเรา นี่ถือว่าสูงมาก ตรวจเยอะมากอย่างน่าตกใจเลยค่ะ
นั่นนำไปสู่เคสสามีภรรยาที่ติดจากบุตรชายคนขับรถ ซึ่งปิดวงการระบาดได้ในเวลาต่อมา
หลังจากนั้น โควิดก็เหมือนซาๆไป แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ
สถานการณ์เข้มข้นขึ้นทุกที หรือบางทีอาจมีคลื่นใต้น้ำซัดสาดข้างใต้ ในเมื่อมันยังไม่ปรากฏ เราก็ต้องหามันให้ได้ พวกเราทำการ “ตรวจเชิงรุก” ลุยต่อเนื่องทันที
แน่นอนชาวแม่สอดทั่วไป อาจจะรู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมรพ.ไม่มีให้ตรวจฟรีเหรอ เฮ้ย ไม่คิดตรวจให้ประชาชนบ้างเหรอไง
เราตรวจให้ และเราตรวจมากกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ
แต่เราตัดสินใจไม่ตั้งโต๊ะตรวจฟรีตามสถานที่ทั่วไป เพราะทำแบบนั้นเราจะได้ใคร...เราย่อมได้คนที่ “เดินได้” คนที่สุขภาพแข็งแรง คนที่สนใจทั่วไป ไม่ใช่ “คนไม่สบาย” ซึ่งต้องสงสัยมากกว่าค่ะ
ถ้าสังเกต เวลามาตรวจหวัดที่รพ. หากมาในเวลาราชการ จะมีคลินิคโรคทางเดินหายใจแยกออกมา นั่นคือจุดสวอบค่ะ
เราทำการสุ่มตรวจผู้ป่วยที่มีอาการหวัด โดยไม่สนใจว่าใครจะมาจากไหน เสี่ยงหรือไม่ เพราะเราต้องการไล่ให้ทันจับให้ได้ กับเคสที่หลบๆซ่อนๆไม่โผล่ออกมา
และหากอาการหวัดนั้นเป็นมากจนต้องนอนรพ.
จะต้องถูกสวอบทุกคนค่ะ!!
ไม่เท่านั้น เรายังสุ่มสวอบคนไข้ตามจุดต่างๆ เพื่อดักจับคนที่มีอาการน้อย หรือคนแก่ที่หากเป็นแล้วจะเป็นมาก เชิงรุกเชิงลุยสู้ขาดใจค่ะ
ถ้าใครได้นอนรพ.ในช่วงนี้ หรือไปเฝ้าญาติก็ตามที อาจจะเห็นหมอบางคนวิ่งเข้าวิ่งออก ไปสวอบคนไข้ตามเตียงต่างๆ นั่นคือหมอทีมงานที่จัดการสุ่มสวอบคนไข้ค่ะ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมไม่เห็นแม่สอดจะมีคนตั้งโต๊ะให้บริการตรวจฟรีบ้าง เพราะแทนที่จะไปตรวจคนไม่น่าสงสัย คนแข็งแรง คนไม่มีอาการ เราเลือกทุ่มเททุกสรรพกำลัง ไปยังกลุ่มที่มีความน่าสงสัยกว่านั่นเองค่ะ
นั่นทำให้เราจับเคสสาวแคชเชียร์ได้ และตามวงการระบาดย้อนขึ้นไปๆดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
จนถึงปัจจุบันนี้ เราตรวจไปแล้ว 14400 คน (นับเฉพาะ PCR)
ด้วยการทุ่มเทกำลังใจกำลังกาย ของทีมงานอำเภอเล็กๆแห่งนี้
นี่เป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาค่ะ
——
อย่างไรก็ตาม ตากตะวันตกของพวกเรา มีรูรั่วตามชายแดนมาก ทั้งการใช้ชีวิตที่เป็นพี่เป็นน้องกันกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การปิดรูรั่วกลายเป็นเรื่องยาก การพบเคสใหม่กลายเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมใจ
ครั้งหน้าหมอจะมาเล่าถึงแผนการขั้นต่อไปของแม่สอด ซึ่งอาจเกี่ยวพันถึงครอบครัวห้าอำเภอตากตะวันตกของเรา ที่ถึงเวลาแล้วจะต้องจับมือกันค่ะ
#ขออภัยหมอหล่อไม่ว่าง #แต่ฝากงานได้
#เราจะสู้ไปด้วยกัน
#ตื่นตัวแต่ไม่แตกตื่น
#ขอบคุณนะที่อ่านจบ

https://www.facebook.com/doctormaesot/posts/212294113781052
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่