สืบเนื่องจากประเด็นประเทศไทยห้ามคนตาบอดสีมีใบขับขี่ เลยพยายามเสิร์จ Google หาทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ก็เจอแต่เคสรถไฟชนในปี ค.ศ. 1875 ซึ่งนั่นก็ไม่สามารถสรุปได้ด้วยซ้ำว่ามาจากตาบอดสีจริงไหม ตามอ่านจากหลายๆเว็บไซต์ หลายประเทศส่วนมากก็ไม่ได้มีปัญหากับการให้คนตาบอดสีขับรถ ไม่ได้ห้ามคนตาบอดสีทำใบขับขี่แล้วด้วย

แถมอ่านที่ผ่านๆมาคนหลายคนที่เป็นตาบอดสีก็ยืนยันว่าขับรถได้ปกติ ไม่เคยเจออุบัติเหตุที่มาจากการมองสีไม่ออก มีแต่คนที่ตาไม่ได้บอดสีนี่แหละที่พากันมาพูดว่าตาบอดสีขับรถไม่ได้ อันตรายนู่นนี่ เป็นอันตรายต่อชีวิตเพื่อนร่วมถนน ตรงนี้ก็อยากถามเหมือนกันว่าเอาตรงไหนมาพูด แค่ฟังต่อๆกันมา หรือว่าคุณเคยโดนคนตาบอดสีขับรถชนใส่ นั่นเข้าใจได้

ผมมีพี่ชายตาบอดสี แกเล่าให้ฟังว่าไปสอบใบขับขี่ไม่ผ่านเพราะเขาบอกตาบอดสีทำไม่ได้ เลยตัดสินใจไม่มีมันไปเลย แต่เป็นเสาหลักของบ้าน ต้องได้ขับรถทุกวัน ถ้าเจอตรวจก็ยอมจ่ายค่าปรับ (แกพูดว่าเก็บเงินไว้จ่ายค่าปรับในลิ้นชักรถเลย) บางครั้งอธิบายตรงๆเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจแล้วปล่อยผ่านไม่ปรับ ผ่านมาสามสิบกว่าปีแล้วไม่เคยเจออุบัติเหตุ ที่เคยเฉี่ยวชนก็โดนคนอื่นมาเฉี่ยวใส่ล้วนๆ ไม่เคยเป็นฝ่ายผิดแม้แต่ครั้งเดียว (สำหรับคนสงสัยถ้าเป็นฝ่ายถูกประกันรับเคลมไหม รับครับ แต่อาจจะต้องได้เสียค่าปรับไม่มีใบขับขี่แยกต่างหาก)

ผมก็นึกว่าผมรอด สรุปผมก็ตาบอดสี มารู้จากการไปตรวจตากับหมอแล้วอ่านเลขไม่ได้ ผมก็งงว่าผมขับรถมาเป็นสิบกว่าปีแล้วนะ ทดสอบสายตาทำใบขับขี่ ชี้กระดานสีก็ผ่าน มองไฟก็ผ่าน (แต่เห็นเขาว่าทดสอบทางกว้างจะทำให้คนตาบอดสีไม่ผ่าน ผมยังไม่เคยเจออันนี้) หมอก็บอกว่าไม่ได้หนักมากไม่ต้องกังวล เลยไปโพสเฟซบ่นระบาย คนรู้จักก็มาคอมเมนต์เลยว่าเลิกขับรถเลยนะอันตราย ผมก็ตอบกลับไปว่าขับมาเป็นสิบๆปีมีใบขับขี่แล้ว เลิกขับอะไรก่อน
 
ยิ่งอ่านระเบียบยิ่งสงสัย คนไม่มีแขนขาทำใบขับขี่ได้ ตาบอดข้างเดียวยังทำได้ หูหนวกใส่เครื่องช่วยฟังยังทำได้ ทำไมคนตาบอดสีถึงไม่เข้าเกณฑ์นี้ เขาวัดจากตรงไหนว่ามันหนักยิ่งกว่าคนพิการมากๆถึงขั้นทำใบขับขี่ไม่ได้เลยเนี่ย