สวัสดีครับผมกับแฟน คบกันมา เข้าสู่ปีที่ 6 ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกินอยู่ด้วยกันมาตลอด (ขอไม่ลงลายละเอียดมากเรื่องนิสัยใจคอ)
พอมาถึงจุดหนึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ตัวผมเองได้รับความกดดันจากรอบข้าง ทั้งตัวแฟนผมเองและพ่อแม่แฟน ว่าจะแต่งเมื่อไรมาคุยให้เป็นเรื่องเป็นราวทำตาม
ประเพณี แล้วใช้ชีวิตทำมาหากินกันต่อ..
ผมพูดตรงชัดเจน ว่าทางบ้านผมไม่มีเงินถึงขั้นยากจน พ่อกับแม่ มีอาชีพเป็นช่างฝีมือทำงานรับเหมาประดับตกแต่งซ่อมบำรุงตามวัดวาอารามทั่วประเทศ จะเรียกได้ว่ามีงานที่ไหนไปที่นั่น ตอนนี้อายุพ่อแม่ ปาเข้า 60 กว่าแล้วครับทั้งคู่เลยรายได้ก็พอได้ ครับแต่ค่าใช้จ่ายทางบ้านของพ่อแม่ยังมีมากหนี้สินที่กู้เค้ามาส่งผมเรียนจนจบ ป.ตรี(ศิลปกรรม) ไม่ได้กู กยศ.
//// ตัวผมเองตอนนี้ เพิ่งจะ 29 ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ วาดภาพประกอด ฯลฯ อยู่ บริษัทเอกชน เงินเดือน 15000
. ... (คุยกับพ่อแม่แฟนครั้งแรก)ผมเสนอกับทางพ่อแม่แฟนไปว่า สินสอดมีให้เล็กน้อยไม่มากนัก (ขออณุญาติเป็นตัวเลขเลยนะครับ ทอง 1 บาท เงิน 10000ยังไม่ได้กำหนดวันแต่งจริงจัง เพราะเป็นช่วง โควิด - 19)
ท่านก็ยังโอเคไม่ได้ว่าอะไร
... (คุยกับพ่อแม่แฟนครั้งที่สอง) ท่านเริ่มอธิบายเหตุผลว่าไม่อยากอายใครเพราะทางบ้านแฟนผมมีญาติเยอะ สินสอดอย่างต่ำ ให้เป็น ทอง 2บาท เงิน 30000 คำนวนดูแล้ว ต้องมีเงินก้อน ถึง 100,000 บาท ในสถานะการณ์ณนั้น ผมคิดว่าต้องทำได้ เพราะจะสิ้นปีแล้ว โบนัสที่ทำงานจะออกให้บวกกับเงินช่วยเหลือจากพ่อแม่ผม (ผมคุยกับพ่อแม่ผมแล้วเรื่องพวกนี้ ท่านไม่ติดใจอะไรแต่ก็อยู่กำลังฐานะที่เรามี) เรื่องานแต่งไม่ใหญ่โตมากมายแค่ทำพิธี แต่คงติดที่ข้อเรียกร้องของทางพ่อแม่แฟนครับ
ตอนนี้ ถึงขั้นมีปากมีเสียงกันทั้ง พ่อแม่ของผมและพ่อแม่ของแฟน เพราะ พ่อแม่ผมไปเจรจรากับทางพ่อแม่แฟน แต่ตกลงกันไม่ได้ครับ ผมก็พยายามปรึกษาแฟน โดยมีความคิดที่ว่า ชีวิตคู่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีไรหนักใจทำร่วมกัน แก้ปัญหาร่วมกัน มาวันนี้ ผมกลับรู้สึกว่า มันไม่ใช่แบบนี้ แฟนผมพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ลำคาน ต่อว่าผมว่าทำการรับปากแล้วทำไมทำไม่ได้ เงินแค่ แสนไม่มีปัญญาหา เปรียบเทียบกับความรัก ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ก็แสดงว่าไม่รักกันไม่อยากมีกันเป็นชีวิตคู่ต่อไป
เชื่อเถอะครับ ผมรักแฟนผมมาก สบายใจอยู่ทุกวันเลิกงานกลับบ้าน(บ้านเช่าอยู่ด้วยกัน 2คนช่วยกันทำงาน แมวอีก 4 ตัว) ติดที่ว่าผมคิดไม่ออกจริงๆว่าจะเอาปัญญาที่ไหนไปหาเงินสินสอดมาแต่งให้จบเรื่องแล้วใช้ชีวิตด้วยกันต่อ ผมเครียดมากครับ แล้วก็สับสนว่าทุกววันนี้มันเป็นความรักหรืออะไรกันแน่ ทำไม่คำพูดของแฟนผมถึงกลับไม่ใช้กำลังใจแต่กลับเป็น คำพูดแรงๆ เหมือนผมปัดความรับผิดชอปทั้งหมด ทั้งๆที่ผมตั้งใจที่จะแก้ปัญหา คิดแม้กระทั้งว่าเรื่องการเช่าสินสอดทองมั่นมาไม่ให้ผู้ใหญ่ท่านอายใคร เท่านั้นแหละครับ ตอนนี้ กำลังจะเลิกกัน เพราะอะไรเพราะผมจนไม่เอาไหนใช่ไหม เพราะผมไม่ใช่ลูกผู้ชายเหรอ ผมควรทำยังไงดีครับ
เป็นความรู้สึกสดๆร้อนของผม เนื่องจากไม่มีทางออกจริงๆ เลยอยากอธิบายและระบาย ครับ
ขอบคุณที่อ่านจบครับ ขอภัยถ้าผมพิมตกพิมผิดไปนะครับ 25/12/2563 17.30 น
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ขออณุญาติอัพเดทเรื่องราว ครับ ต่อจากเมื่อวาน ปัญหาเก่าจบไป ปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามา ...
กำหนดที่ทางผมได้เผลอไปรับปากพ่อแม่แฟน !! ถูกเลื่อไปครับเพราะทางจังหวัดบ้านเค้าประกาศ ว่าถ้าจะจัดงานอะไรให้ไปขอ อณุญาติที่อำเภอซะก่อน
ก็ยังพอมีเหตุผลที่จะเลื่อนการจัดออกไปอย่างไม่มีกำหนด โอเคโชคเข้าข้าง คือ เราได้เวลาทำงานหาเงินเพิ่ม ลบคำดูถูกสบประมาทต่างๆนาๆที่ เค้าว่าให้ผมมา และผมยังหวังว่าเค้าจะเห็นค่าผมและมีความสุขกับผมต่อไป
.
..... และนั่นละครับล่าสุดสดๆร้อนๆ ปัญหาใหม่เกิด พ่อแม่ผมโทรมาหา .. พูดคุยเหตผลต่างๆนาๆเรื่องชีวิตผมที่ผ่านมา กับเรื่องที่คุยกับพ่อแม่แฟนเมื่อวานด้วย พ่อแม่บอกว่าแบบนี้ไม่ใช่แล้ว แบบนี้มันเห็นแก่หน้าตาเกินไป คนเราจะดองกัน จะคบหากัน ต้องช่วยเหลือกัน เมื่อเริ่มต้นเป็นแบบนี้ไปแล้ว แล้วต่อไปตัวผมจะมีความสุขเหรอ อะไรประมาณนี้ครับ ( พูดในเชิงเป็นห่วงผม กลัวผมไม่มีความสุข )
แต่ตัวผมก็อยากสู้ให้ถึงที่สุด ในเมื่อเรามีโอกาสแล้ว ได้เวลาเพิ่มแล้ว 1 - 2 ปีค่อยว่ากันทางออกมันมี แฟนผมใจร้อนใช่ไหม มั้นก่อนก็ได้มั้ง มีค่อยแต่ง
(ตอนนี้หน้าที่การงานก็กำลังจะดี เนื่องจางผมทำงาน Art work ควบคู่กับงานประจำล่าสุด มีเพื่อนชาวต่างชาติสนใจจะว่าจ้างงานผม ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ)
โอเค ผมต้องก้าวหน้าผมต้องดีกว่านี้ กำลังใจมาเต็ม เอาหละแล้วไงต่อ ที่ผมจะบอกคือ ปัญหาหลักตอนนี้ ....เลือกทางไหนดี......
....1. ถ้าผมไม่เชื่อฟังพ่อแม่ผมแล้วเดินหน้าลุยต่อ โดยมีความหวังโลกสวยว่าทางครอบครัวแฟนและตัวแฟนเองจะเห็นถึงความตั้งใจของผม และมีความสุขด้วยกันต่อไป จบแบบแฮปปี้ ... แล้วหัวอกหัวใจพ่อแม่ผมจะเป็นแบบไหนจะเสียใจไหม
.....2.... ถ้าผม เชื่อฟังพ่อแม่ แตกหักไปเลย เลิกไม่เอา พวกคุณพ่อแม่แฟน แฟน รับแบบนี้ไม่ได้ใช่ไหม ไม่ต้องอยู่ เลิกกกก
ตั้งใจทำงาน ก้าวหน้า ดูแลพ่อแม่ .อยู่แบบนี้สบายๆ ทำงานศิลปะชิวๆ ออกแบบชิ้วๆ สบายใจ คนที่ใช่ถ้ามีถ้าใช่เดี๋ยวคงมาเอง ..
สับสนอีกแล้ว !! แนะนำได้ครับ ขอบคุณครับ
กระทู้แรกในชีวิต ความเครียดเรื่องชีวิตคู่ครับ ฐานะยากจน ไม่มีเงินเก็บ/เงินเดือน 15000 ไม่มีสินสอด สุดท้ายรักล่ม
พอมาถึงจุดหนึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ตัวผมเองได้รับความกดดันจากรอบข้าง ทั้งตัวแฟนผมเองและพ่อแม่แฟน ว่าจะแต่งเมื่อไรมาคุยให้เป็นเรื่องเป็นราวทำตาม
ประเพณี แล้วใช้ชีวิตทำมาหากินกันต่อ..
ผมพูดตรงชัดเจน ว่าทางบ้านผมไม่มีเงินถึงขั้นยากจน พ่อกับแม่ มีอาชีพเป็นช่างฝีมือทำงานรับเหมาประดับตกแต่งซ่อมบำรุงตามวัดวาอารามทั่วประเทศ จะเรียกได้ว่ามีงานที่ไหนไปที่นั่น ตอนนี้อายุพ่อแม่ ปาเข้า 60 กว่าแล้วครับทั้งคู่เลยรายได้ก็พอได้ ครับแต่ค่าใช้จ่ายทางบ้านของพ่อแม่ยังมีมากหนี้สินที่กู้เค้ามาส่งผมเรียนจนจบ ป.ตรี(ศิลปกรรม) ไม่ได้กู กยศ.
//// ตัวผมเองตอนนี้ เพิ่งจะ 29 ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ วาดภาพประกอด ฯลฯ อยู่ บริษัทเอกชน เงินเดือน 15000
. ... (คุยกับพ่อแม่แฟนครั้งแรก)ผมเสนอกับทางพ่อแม่แฟนไปว่า สินสอดมีให้เล็กน้อยไม่มากนัก (ขออณุญาติเป็นตัวเลขเลยนะครับ ทอง 1 บาท เงิน 10000ยังไม่ได้กำหนดวันแต่งจริงจัง เพราะเป็นช่วง โควิด - 19)
ท่านก็ยังโอเคไม่ได้ว่าอะไร
... (คุยกับพ่อแม่แฟนครั้งที่สอง) ท่านเริ่มอธิบายเหตุผลว่าไม่อยากอายใครเพราะทางบ้านแฟนผมมีญาติเยอะ สินสอดอย่างต่ำ ให้เป็น ทอง 2บาท เงิน 30000 คำนวนดูแล้ว ต้องมีเงินก้อน ถึง 100,000 บาท ในสถานะการณ์ณนั้น ผมคิดว่าต้องทำได้ เพราะจะสิ้นปีแล้ว โบนัสที่ทำงานจะออกให้บวกกับเงินช่วยเหลือจากพ่อแม่ผม (ผมคุยกับพ่อแม่ผมแล้วเรื่องพวกนี้ ท่านไม่ติดใจอะไรแต่ก็อยู่กำลังฐานะที่เรามี) เรื่องานแต่งไม่ใหญ่โตมากมายแค่ทำพิธี แต่คงติดที่ข้อเรียกร้องของทางพ่อแม่แฟนครับ
ตอนนี้ ถึงขั้นมีปากมีเสียงกันทั้ง พ่อแม่ของผมและพ่อแม่ของแฟน เพราะ พ่อแม่ผมไปเจรจรากับทางพ่อแม่แฟน แต่ตกลงกันไม่ได้ครับ ผมก็พยายามปรึกษาแฟน โดยมีความคิดที่ว่า ชีวิตคู่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีไรหนักใจทำร่วมกัน แก้ปัญหาร่วมกัน มาวันนี้ ผมกลับรู้สึกว่า มันไม่ใช่แบบนี้ แฟนผมพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ลำคาน ต่อว่าผมว่าทำการรับปากแล้วทำไมทำไม่ได้ เงินแค่ แสนไม่มีปัญญาหา เปรียบเทียบกับความรัก ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ก็แสดงว่าไม่รักกันไม่อยากมีกันเป็นชีวิตคู่ต่อไป
เชื่อเถอะครับ ผมรักแฟนผมมาก สบายใจอยู่ทุกวันเลิกงานกลับบ้าน(บ้านเช่าอยู่ด้วยกัน 2คนช่วยกันทำงาน แมวอีก 4 ตัว) ติดที่ว่าผมคิดไม่ออกจริงๆว่าจะเอาปัญญาที่ไหนไปหาเงินสินสอดมาแต่งให้จบเรื่องแล้วใช้ชีวิตด้วยกันต่อ ผมเครียดมากครับ แล้วก็สับสนว่าทุกววันนี้มันเป็นความรักหรืออะไรกันแน่ ทำไม่คำพูดของแฟนผมถึงกลับไม่ใช้กำลังใจแต่กลับเป็น คำพูดแรงๆ เหมือนผมปัดความรับผิดชอปทั้งหมด ทั้งๆที่ผมตั้งใจที่จะแก้ปัญหา คิดแม้กระทั้งว่าเรื่องการเช่าสินสอดทองมั่นมาไม่ให้ผู้ใหญ่ท่านอายใคร เท่านั้นแหละครับ ตอนนี้ กำลังจะเลิกกัน เพราะอะไรเพราะผมจนไม่เอาไหนใช่ไหม เพราะผมไม่ใช่ลูกผู้ชายเหรอ ผมควรทำยังไงดีครับ
เป็นความรู้สึกสดๆร้อนของผม เนื่องจากไม่มีทางออกจริงๆ เลยอยากอธิบายและระบาย ครับ
ขอบคุณที่อ่านจบครับ ขอภัยถ้าผมพิมตกพิมผิดไปนะครับ 25/12/2563 17.30 น
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ขออณุญาติอัพเดทเรื่องราว ครับ ต่อจากเมื่อวาน ปัญหาเก่าจบไป ปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามา ...
กำหนดที่ทางผมได้เผลอไปรับปากพ่อแม่แฟน !! ถูกเลื่อไปครับเพราะทางจังหวัดบ้านเค้าประกาศ ว่าถ้าจะจัดงานอะไรให้ไปขอ อณุญาติที่อำเภอซะก่อน
ก็ยังพอมีเหตุผลที่จะเลื่อนการจัดออกไปอย่างไม่มีกำหนด โอเคโชคเข้าข้าง คือ เราได้เวลาทำงานหาเงินเพิ่ม ลบคำดูถูกสบประมาทต่างๆนาๆที่ เค้าว่าให้ผมมา และผมยังหวังว่าเค้าจะเห็นค่าผมและมีความสุขกับผมต่อไป
.
..... และนั่นละครับล่าสุดสดๆร้อนๆ ปัญหาใหม่เกิด พ่อแม่ผมโทรมาหา .. พูดคุยเหตผลต่างๆนาๆเรื่องชีวิตผมที่ผ่านมา กับเรื่องที่คุยกับพ่อแม่แฟนเมื่อวานด้วย พ่อแม่บอกว่าแบบนี้ไม่ใช่แล้ว แบบนี้มันเห็นแก่หน้าตาเกินไป คนเราจะดองกัน จะคบหากัน ต้องช่วยเหลือกัน เมื่อเริ่มต้นเป็นแบบนี้ไปแล้ว แล้วต่อไปตัวผมจะมีความสุขเหรอ อะไรประมาณนี้ครับ ( พูดในเชิงเป็นห่วงผม กลัวผมไม่มีความสุข )
แต่ตัวผมก็อยากสู้ให้ถึงที่สุด ในเมื่อเรามีโอกาสแล้ว ได้เวลาเพิ่มแล้ว 1 - 2 ปีค่อยว่ากันทางออกมันมี แฟนผมใจร้อนใช่ไหม มั้นก่อนก็ได้มั้ง มีค่อยแต่ง
(ตอนนี้หน้าที่การงานก็กำลังจะดี เนื่องจางผมทำงาน Art work ควบคู่กับงานประจำล่าสุด มีเพื่อนชาวต่างชาติสนใจจะว่าจ้างงานผม ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ)
โอเค ผมต้องก้าวหน้าผมต้องดีกว่านี้ กำลังใจมาเต็ม เอาหละแล้วไงต่อ ที่ผมจะบอกคือ ปัญหาหลักตอนนี้ ....เลือกทางไหนดี......
....1. ถ้าผมไม่เชื่อฟังพ่อแม่ผมแล้วเดินหน้าลุยต่อ โดยมีความหวังโลกสวยว่าทางครอบครัวแฟนและตัวแฟนเองจะเห็นถึงความตั้งใจของผม และมีความสุขด้วยกันต่อไป จบแบบแฮปปี้ ... แล้วหัวอกหัวใจพ่อแม่ผมจะเป็นแบบไหนจะเสียใจไหม
.....2.... ถ้าผม เชื่อฟังพ่อแม่ แตกหักไปเลย เลิกไม่เอา พวกคุณพ่อแม่แฟน แฟน รับแบบนี้ไม่ได้ใช่ไหม ไม่ต้องอยู่ เลิกกกก
ตั้งใจทำงาน ก้าวหน้า ดูแลพ่อแม่ .อยู่แบบนี้สบายๆ ทำงานศิลปะชิวๆ ออกแบบชิ้วๆ สบายใจ คนที่ใช่ถ้ามีถ้าใช่เดี๋ยวคงมาเอง ..
สับสนอีกแล้ว !! แนะนำได้ครับ ขอบคุณครับ