สารานุกรมปืนตอนที่ 456 ปก.M240

ขอขอบคุณเพจ GUN in The World แอดมิน Gtd.77 อย่างสูงครับ"

https://www.facebook.com/Supakorngimzaa/?hc_ref=ARSVP07Rd-CFgU5_qUtnwLMw_f0KEuzMrtl4JqDBDueoDXYXpdasmnupVxHVRkYvqMQ&fref=nf



M240 เเบบทหารราบใช้
 
M240 หรือชื่อเต็ม Machine Gun,7.62 mm., M240 ปืนกลขนาด 7.62 มม. แบบ 240 เป็นชื่อทางกองทัพสหรัฐใช้เรียก ปก.FN MAG (Mitrailleuse d'Appui General) ที่เป็นปืนกลอเนกประสงค์ทำงานด้วยแก๊ส ป้อนกระสุนด้วยสายกระสุนขนาด 7.62x51 mm. NATO ของประเทศเบลเยี่ยม
ปก.M240 เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ ตั้งแต่ช่วงปลายยุคทศวรรษ 1970s ถูกใช้งานโดยทหารราบทั่วไป รวมทั้งนิยมไปติดตั้งกับยานพาหนะต่างๆทั้งทาง บก เรือ และ อากาศ แม้มันจะมีน้ำหนักมาก แต่ก็แลกมาด้วยความน่าเชื่อถือของระบบสูง และเป็นมาตรฐานเช่นเดียวกับปืนกลที่ใช้ตามกลุ่มประเทศ NATO เช่นกันด้วย
M240 สามารถป้อนกระสุนด้วยสายกระสุนที่มีข้อต่อแบบสลัดทิ้งสำหรับกระสุนขนาด 7.62 มม. และสามารถดัดแปลงให้รองรับสายกระสุนที่มีข้อต่อแบบไม่สลัดทิ้งเองได้เช่นกัน แต่ละแบบจะมีรายละเอียดปลีกย่อยต่าง เช่นน้ำหนัก อุปกรณ์ที่ติดเสริม เป็นต้น แต่ไม่ควรนำชิ้นส่วนอะไหล่มาสลับกันใช้ M240 ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา จะผลิตโดยโรงงาน FN America และโรงงานอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตโดย FN Herstal
M240B และ M240G สามารถทำการยิงบนขาทราย ขาหยั่ง หรือแท่นติดปืนกลบนยานพาหนะต่างๆ เช่น กองทัพบกสหรัฐ ติดตั้งกับชุดขาหยั่งน้ำหนักเบาแบบ M192 หรือ นาวิกโยธินสหรัฐ ใช้ติดตั้งกับชุดขาหยั่ง M122A1 เป็นต้น
 
การพัฒนา
กองทัพสหรัฐเริ่มต้นนำ ปก.FN MAG มาใช้ในช่วงปลายยุค 60 ถึง ต้น 70 สำหรับโครงการปืนกลร่วมแกนสหรับรถถังทดแทน ปก.แบบ M73 และ M219 ที่กำลังใช้อยู่ ซึ่ง ปก.M73 มีปัญหาจุกจิกมากมาย หรือแม้แต่ M73E1 หรือ M219 ที่เป็นรุ่นใหม่กว่าก็ไม่ได้ดีขึ้นจากเดิม จึงมีการหาแบบปืนกลใหม่มาทดแทน ซึ่งมี ปก.M60E2 และ MAG เป็นตัวเลือก ทั้งคู่เข้าทดสอบประสิทธิภาพเทียบกับ M219 ซึ่งจะใช้เกณฑ์ MRBS คือการแก้ไขปัญหาติดขัดภายในเวลาคิดเป็นนาที และ MRBF คือ จำนวนครั้งที่ชิ้นส่วนหยุดการทำงานลง ซึ่ง MAG มีประสิทธิภาพเหนือกว่า M60E2 ในการเป็นปืนกลร่วมแกน และได้ชื่อว่า M240 ในปี 1977 เป็นต้นมา



M240/M240C



M240E1

M240 เริ่มใช้ในกองทัพบกสหรัฐเป็นปืนกลมาตรฐานตั้งแต่ปี 1977 ส่วนนาวิกโยธินสหรัฐนำ M240 และ M240E1 มาใช้ใน ยานเกราะแบบ LAV-25 และได้นำเข้ามาทดแทนปืนกลแบบเก่าในยานพาหนะที่ใช้อยู่ทั้งหมดในทศวรรษ 1980 เมื่อได้ทดลองอย่างเพียงพอแล้วจึงมีการปรับให้ทหารราบใช้ เช่น M204G และ M240B ทางนาวิกโยธินสหรัฐได้นำ M240G เข้าประจำการในปี 1991 ทดแทนปืนกลแบบ M60 ของทหารราบนาวิกโยธิน ทั้งหมด แต่ก็ยังมีชุดปรับปรุงเป็น M60E3 ให้เลือกใช้อยู่ กองทัพบกสหรัฐ นำ M240B ประจำการทดแทน ปก.M60E4 แม้มีน้ำหนักเบากว่าและราคาถูกกว่า แต่ไม่สามารถใช้ของร่วมกับยานเกราะที่ใช้ M240 และนาวิกโยธิน หรือชาติ NATO ที่ประจำการด้วยปก.MAG อยู่นั่นเอง

ระบบการทำงาน เช่นเดียวกับ ปก.FN MAG แต่จะมีความต่างตรงที่กรวยจัดแก๊สที่จัดปรับจะตั้งถอดลำกล้องออกมา แล้วถอดชุดกรวยจัดแก๊ส จากนั้นหมุนไปตามตำแหน่งที่หนึ่ง อัตราเร็วจะอยู่ที่ 650-750 นัด/นาที ตำแหน่งที่ 2 จะอยู่ที่ 750-850 นัด/นาทีและตำแหน่งที่ 3 จะอยู่ที่ 850-950 นัด/นาที ซึ่งปกติจะจัดปรับก็ต่อเมื่อปืนยิงต่อเนื่องนานๆจนมีเขม่าสะสมที่รูแก๊สจึงจำเป็นต้องมีการขยายรูแก๊สเพื่อให้ปืนทำการยิงได้เป็นปกติต่อไป
รุ่นต่างๆ
M240 เป็นรุ่นที่ใช้งานเป็นปืนกลร่วมแกนในยานเกราะและรถถัง โดยกองทัพบกใช้เป็นปืนกลร่วมแกนในรถถังแบบ M1 Abrams และยานเกราะแบบ M2
และ M3 Bradley และนาวิกโยธินใช้ในยานเกราะล้อยางแบบ LAV-25


M240

M240E1 เป็นรุ่นที่ติดชุดไกปืนที่ท้ายโครงปืนสำหรับทำการยิงบนแท่นติดปืนกลบนหลังคาป้อม


M240E1

M240C มีตัวที่มีการป้อนกระสุนทางขวา โดยติดตั้งเป็นปืนกลร่วมแกนกับยานเกราะแบบ M2 M3 Bradley และ LAV-25 และป้อนกระสุนทางซ้ายติดตั้งกับรถถังแบบ M1A1 M1A2 หรือใหม่กว่า คันรั้งดัดแปลงเป็นการใช้สายดึง ชุดเครื่องลั่นไกไม่มีด้ามปืนแต่ใช้ชุดโซลินอยด์ไฟฟ้าควบคุมจังหวะการลั่นไก ลำกล้องไม่มีศูนย์หน้า และด้ามหิ้ว
การจัดปรับแก๊สทั้ง M240 M240E1 และ M240C
ตำแหน่งที่ 1 650-750 นัด/นาที
ตำแหน่งที่ 2 750-850 นัด/นาที
ตำแหน่งที่ 3 850-1,235 นัด/นาที
 

M240C

M240B หรือ M240E4 เป็นปืนกลขนาดกลางสำหรับทหารราบนาวิกโยธินสหรัฐใช้งาน มีใช้ในหน่วยยามฝั่งสหรัฐ รวมไปถึงมีใช้งานในกองทัพบกสหรัฐส่วนหนึ่งเช่นกัน ตัวปืนมาพร้อมกับพานท้ายและชุดขาทราย สามารถติดตั้งบนขาหยั่งหรือบนยานพาหนะแบบต่างๆ มีชื่อเล่นว่า M240 Bravo หรือ 240 สั้นๆ
M60E4 หรือ Mk.43 ในกองทัพเรือสหรัฐ เป็นคู่แข่งที่สำคัญของ M240E4 ในช่วงการทดสอบหาปืนกลขนาดกลางแบบใหม่ทดแทน M60 แบบเก่า ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามเวียดนาม ซึ่ง M240E4 ชนะและได้ชื่อใหม่ว่า M240B ขั้นต้นมีการนำ M240 จำนวน 1000 กระบอก ให้ทาง FN ไปปรับปรุงใหม่ให้มีชุดพานท้าย ด้ามปืน และขาทราย ที่เหมาะสำหรับให้ทหารราบใช้งาน และสั่งแบบผลิตใหม่ ช่วงปลายทศวรรษ 1990 สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน M240B คือ ชุดรับแรงสะท้อนถอยหลังแบบ Hydropneumatic ในชุดพานท้าย ทำให้รู้สึกว่ายิงได้นิ่มนวลขึ้น ซึ่งระบบนี้ไม่มีมาก่อนใน M60 ในการทำสอบ M240B มีความน่าเชื่อถือเหนือกว่า M60E4 มาก แต่ว่าตัวปืนหนักกกว่า ซึ่งต่อมามีการพัฒนา M240L ที่มีน้ำหนักเบาขึ้นมาใช้งาน อย่าสับสนในกองทัพบก นำ M240 ปรับปรุงเป็น M240B ส่วนนาวิกโยธิน เป็นการนำ M240/E1 ไปปรับปรุงเป็น M240G


M240B

M240G เป็นรุ่นที่ใช้งานโดยทหารราบนาวิกโยธิน ส่วนหนึ่งเป็นการปรับปรุงขึ้นมาจาก M240 กับ M240E1 ที่ใช้งานในยานเกราะ LAV และ รถถัง M1 Abrams โดยเปลี่ยนจากเครื่องลั่นไกแบบปิดท้ายมาเป็นชุดพานท้าย ชุดด้ามปืนพร้อมเครื่องลั่นไก (ไกแบบเดียวกับ FN MAG) ชุดขาทราย ปลอกลดแสงที่ปลายลำกล้อง ศูนย์เล็งด้านหน้าบนลำกล้อง ด้ามหิ้ว และชุดศูนย์เล็งด้านหลัง ซึ่งเรียกรวมๆกันว่า Infantry Modification Kit M240G จะต่างกับ M240B ตรงที่ไม่มีประกับครอบบนลำกล้อง มีน้ำหนักตัวปืน 11.6 กก. สามารถปรับอัตราเร็วการยิงได้ 3 ตำแหน่ง โดยตั้งไว้ที่ 650-750 นัด/นาที ในตำแหน่งที่หนึ่ง 750-850 นัด/นาที ในตำแหน่งที่สอง และ 850-950 นัด/นาที ในตำแหน่งที่สาม การจัดปรับแก๊สเป็นการขยายรูแก๊สเพื่อให้แรงดันแก๊สไหลเข้าระบบมากขึ้น แต่ถ้ายิงในตำแหน่งที่ 3 จะทำให้อายุลำกล้องสั้นลงกว่าปกติ การจัดปรับแก๊สจึงมีไว้สำหรับการยิงต่อเนื่องนานๆ จะมีเขม่าจากแก๊ส มาเกาะที่รูแก๊สทำให้แรงดันไหลมาดันลูกสูบไม่เต็มที่ จึงต้องมีการขยายรูแก๊สนั่นเอง
 

M240G

M240L (M240 Light) หรือ M240E6 เป็นการปรับปรุง M240B ให้มีน้ำหนักลดลงจากเดิม ถึง 2.5 กก. โดยเปลี่ยนวัสดุทำโครงปืนใหม่จากเหล็กกล้าเป็นโลหะผสมไทเทเนียม หรือเลือกได้จากโรงงาน ซึ่งจะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของพลประจำปืน ลดการเมื่อยล้าในการนำพา ซึ่งปัจจุบันทะยอยเข้าทดแทน M240B ในกองทัพบก ช่วงปี 2010
ไทเทเนียม ใช้ทำชุดโครงปืน โครงศูนย์หน้า ด้ามหิ้ว รวมทั้งส่วนประกอบของชุดเคลื่อนที่ การใช้ไทเทเนียมผลิตทำให้โรงงานต้องปรับปรุงการผลิต เนื่องจากไทยเทเนียมใช้เวลาขึ้นรูปนานกว่าเหล็กกล้า และต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อยๆในการผลิต เสริมความแข็งแกร่งด้วยการใช้หมุดยึดทำจากสแตนเลส โครงปืนเคลือบด้วย Boron และ Chrome Carbo-Nitrite กับเซรามิก ด้านบน สำหรับรองรับความร้อนจากการใช้งานอย่างหนัก M240L มีน้ำหนัก 10.1 กก. เมื่อใช้ลำกล้องมาตรฐาน และ 9.9 กก. เมื่อใช้ลำกล้องสั้น กับชุดพานท้ายแบบปรับระยะและพับได้ ลำกล้องสั้น มีความยาวที่สั้นกว่าลำกล้องมาตรฐานอยู่ 4 นิ้ว M240L ยังมีรุ่นเล็กและเบากว่าปกติคือ M240P ได้ส่งไปทดสอบในอัฟกานิสถาน แต่ก็ไม่มีการใช้ต่อ ปัจจุบันมี M240L ในกองทัพบกสหรัฐราวๆ 4,000 กระบอกจากแผนการจัดหา 12,000 กระบอก
ข้อมูลทางเทคนิคของ M240L (Light)
-ระบบทำงานด้วยแก๊ส (ยิงอัตโนมัติ)
-การป้อนกระสุน ด้วยสายกระสุนชนิดใช้ข้อต่อแบบสลัดทิ้งตามมาตรฐาน NATO
-ความยาว 1230 มม.(ลำกล้องมาตรฐาน) 1130 มม.(ลำกล้องสั้น)
-ความยาวลำกล้อง 21.7 นิ้ว
-น้ำหนัก 10.1 กก.
-ขนาดกระสุน 7.62x51 mm NATO
-ระยะหวังผล 1100 ม. เมื่อประกอบขาหยั่ง
-ระยะยิงไกลสุด 3725 ม.
-ระยะเผาไหม้ของกระสุนส่องวิถี 900 ม.
-วงรอบการทำงาน 550-650 นัด/นาที



M240L

M240D คือการอัพเกรดจาก M240E1 เช่น เพิ่มรางสำหรับติดกล้องเล็งบนฝาครอบห้องลูกเลื่อน มี 2 แบบใหญ่ๆคือแบบติดกับอากาศยาน และแบบติดบนยานพาหนะบนภาคพื้น ในแบบอากาศยานจะมีศูนย์เล็งหน้าหลัง รางสำหรับติดกล้องเล็งบนฝาครอบห้องลูกเลื่อน และชุดเครื่องลั่นไกที่ต่อเข้ากับชุดด้ามจับที่ท้ายตัวปืน ในรุ่นภาคพื้นดิน จะมีชุดสำหรับแปลงที่เรียกว่า infantry modification kit ที่มาพร้อมกับชุดด้ามปืน พานท้าย และขาทราย สำหรับถอดออกไปยิงเหมือนรุ่นที่ใช้งานโดยทหารราบ
M240D รุ่นบนอากาศยาน จะปรับแก๊สได้ 3 ระดับ ระดับ 1 650-750นัด/นาที ระดับ 2 750-850 นัด/นาที และระดับ 3 850-950 นัด/นาที ความยาว 1074.2 มม. หนัก 11.6 กก. ส่วนรุ่นทางภาคพื้น 11.9 กก. ยาว 1244.6 มม.


M240D

M240H เป็นรุ่นอัพเกรดจาก M240D โดยจะเพิ่มเติมชุดรางสำหรับช่วยป้อนสายกระสุน ปรับปรุงปลอกลดแสง เพิ่มเติมชุด Infantry Modification Kit สำหรับถอดออกมาประกอบแล้วยิงแบบรุ่นที่ใช้งานโดยทหารราบ ตัวปืนยาว 1056.6 มม. ลำกล้องยาว 21.7 มม. น้ำหนัก 11.9 กก. อัตราเร็วการยิง 550-650 นัด/นาที เข้าประจำการในปี 2004 ติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกสหรัฐ มันติดตั้งชุดลั่นไกด้วยแป้นกดจากนิ้วโป้งแทนชุดพานท้าย ต่อสะพานไกไปยังไกปืนหลัก สำหรับเปลี่ยนใส่ชุด IMK ได้ง่ายนั่นเอง
M240N เป็นรุ่นที่ใช้ติดบนยานพาหนะทางน้ำ โดยตัวปืนมีศูนย์หน้า-หลัง โดยรวมคล้าย M240G แต่ไม่มีชุดขาทรายในตัว และตั้งวงรอบการยิงที่ 550-650 นัด/นาที


M240H




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่