"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
ในปี1961 Heckler & Koch ได้ออกแบบปืนกลเอนกประสงค์(General-purpose machine gun) ขนาด 7.62 X51 mm NATO ซึ่งมีลักษณะการใช้งานแบบเดียวกับปืนกลแบบM60 ของอเมริกัน ซึ่งการออกแบบอาศัยพื้นฐานจาก ปืนเล็กยาวแบบG3
ปืนใช้ระบบบริหารกลไกตามแบบปืนเล็กยาวG3 ในระบบหน่วงเวลาด้วยลูกกลิ้งขัดกลอน(Roller-delayed blowback-operated) ซึ่งเป็นระบบหลักที่HK ใช้งานในยุค50-70 ซึ่งก็เป็นการยกอกมาจากG3 และมีชิ้นส่วนที่สามารถใช้ร่วมกันได้ 48% นั้นเองรวมถึงเป็นปืนพร้อมยิงในขณะลูกเลื่อนปิด(closed bolt) แต่มีการเพิ่มชุดแหนบสปริงสำหรับเกี่ยวรั้งปลอกกระสุนที่แข็งแรงขึ้น (spring-powered extractor) และแหนบสปริงป้องกันการตีกลับของระบบขัดกลอน(anti-bounce device) เนื่องจากการยิงแบบต่อเนื่อง
ปืนยังสามารถปรับตำแหน่งการยิงได้ 3 ตำแหน่ง คือ ห้ามไก (S/0) ,ยิงกึ่งอัตโนมัติ(E/1) และยิงอัตโนมัติ (F/20)
ระบบป้อนกระสุนเป็นการป้อนด้วยสายกระสุนซึ่งใช้ระบบควบคุมการป้อนโดยจะมีชุด lever-type ejector system เป็นชุดป้อนกระสุนซึ่งบังคับด้วย การทำงานของระบบลูกเลื่อน ซึ่งจะมีคันบังคับในชุดลั่นไกอีกที โดยใช้สายกระสุนสลัดข้อต่อโลหะแบบ M13 (ของอเมริกัน), DM6 (เยอรมัน) และแบบข้อต่อไม่สลัดตัวแบบ DM1 (เยอรมัน) ระบบป้อนด้วย
สายกระสุนสามารถถอดใช้ชุดป้อนด้วยซองกระสุน (detachable box magazine) ของ G3 แบบ 20 นัด และแบบก้นหอย 50 นัดได้
ลำกล้องเป็นแบบลำกล้องหนาจับยึดอิสระ(heavy free-floating,)เปลี่ยนเร็ว(quick-change barrel) ซึ่งจะเวลาถอดจะต้องกดปุ่มที่ด้ามจับทางขวาของโคนลำกล้องหมุนทวนเข็มนาฬิกา ,ดึงลำกล้องออกไปทางด้านหน้า และ เบี่ยงออกมาดึงกลับออกมาจากครอบลำกล้อง ลำกล้องมีความยาว2ขนาดคือ 17.7 และ 22.0 นิ้วขาทรายติดตั้งอยู่กับครอบลำกล้อง ซึ่งสามารถติดตั้งได้ 2ตำแหน่งคือโคนครอบลำกล้องและปลายครอบลำกล้อง
ระบบศูนย์เล็งเป็นแบบ rotary diopter drum แบบเดียวกับ G3
อัตราการยิงของปืนอยู่ที่ 900 นัดต่อนาที
มีระยะศูนย์ยิงอยู่ที่100 ถึง 1,200 เมตร ซึ่งเป็นแบบปรับทางข้างได้
HK 11
และในช่วงคาบเกี่ยวก็มี HK11 (ไม่ใช่ปืนไร้ปลอกกระสุน G11) ซึ่งเป็นปืนเล็กยาวยิงหรือปืนกลเบา(ในช่วงหนึ่ง) ซึ่งใช้พื้นฐานของปืนเล็กยาวG3 เช่นเดียวกัน ใช้ระบบป้อนด้วยซองกระสุนเป็นหลัก โดยใช้ซองกระสุนร่วมกับ G3 แบบ 20 นัด และแบบก้นหอย 50 นัดได้ ซึ่งช่องยึดติดมากับโครงปืนส่วนบน ใช้ระบบลำกล้องหนาถอดเร็วเช่นเดียวกับ HK21 กองทัพเยอรมันประจำการในเชื่อ G8 ติดตั้งขาทราย
HK21A1 และ HK 11A1
ต่อมามีการพัฒนาทั้ง HK21A1 และ HK 11A1ในช่วงปี1970 ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้โดยทั้งคู่สามารถสลับชุดป้อนกระสุนกันได้ ซึ่งเดิมแล้ว HK21นั้นไม่สามารถถอดชุดป้อนกระสุน ใช้ระบบลำกล้องถอดเร็วเหมือนกัน และพานท้ายมีการเปลี่ยนมาใช้พานท้ายคอขวด ระบบศูนย์เล็งพื้นฐาน G3
HK11A1 มีชื่อประจำการในกองทัพเยอรมันคือ G8A1
ต่อมามีการนำซีรีย์ HK21A1 มาทำการปรับปรุงระบบศูนย์เล็งให้สามารถปรับทางข้างได้(เหมือน HK21) มีคันส่งลูกเลื่อน ใช้กับกระสุนขนาดอื่นๆเพื่อใช้เป็นกลุ่มส่งออกนั้นก็คือ
HK11E ปืนเล็กยาวยิงกล / automatic rifle ป้อนด้วยซองกระสุนใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO
HK13E ปืนเล็กยาวยิงกล / automatic rifle ป้อนด้วยซองกระสุนใช้กระสุนขนาด 5.56×45mm NATO
HK21E ปืนกลเอนกประสงค์/general-purpose machine gun ป้อนด้วยสายกระสุน ใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO หากใส่ลำกล้องสั้นจะเป็น HK21E-K
HK23E ปืนกลเบา light machine gun ป้อนด้วยสายกระสุน ใช้กระสุนขนาด 5.56×45mm NATO
โดย E มาจาก Export คือส่งออก ซึ่งในตัวส่งออกนี้ มีซองกระสุนแบบกล่องขนาด 100 นัด ที่บรรจุด้วยแหนบสปริงด้วย ซึ่งจะต้องถอดชุดป้อนด้วยสายหรือป้อนด้วยซองออก แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม แบบซองกระสุนก้นหอยแบบ 100 นัด
ในซีรีย์นี้นั้นสามารถใช้โครงปืนร่วมกันได้ทั้งหมด ซึ่งเปลี่ยนเพียงชุดป้อนกระสุนและลำกล้อง เท่านั้น ยกเว้น HK13E เดิม ซึ่งคือ HK 13A1 พัฒนามาจาก HK13 .ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบป้อนด้วยสายกระสุนได้ แต่สำหรับทั้ง HK21E ,HK11E และ HK23E นั้นจะมีชุดอเด็ปเตอร์ที่สามารถใช้ซองกระสุนของ AR-15 ได้ ซึ่งเท่ากับว่าซีรีย์ E นี้ จึงมีรุ่น automatic rifle 5.56 อยู่ 2 ตัวนั้นเอง
GR-series
เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาใช้ลายพรางและใช้ศูนย์เล็งแบบกล้องเล็งคือ GR-6 Automatic Rifle (HK13)และGR-9 Light Machinegun (HK23)
.
HK25
เป็นการออกแบบใช้กับกระสุนขนาด .50 BMG แต่ไม่เคยมีการผลิตจริง
HK51B
เป็นการนำ HK 51 (อยู่ในซีรีย์ G3)ไม่ได้มี มาตรฐานแน่นอนเป็นการดัดแปลง ไม่ได้ยึดแบบตาม G3A3 หรือ สร้างเลียนแบบ HK41 ,HK91 และ ดัดแปลง MP5 ปรับแต่งโดย F. J. Vollmer & Company Inc.มาใส่ชุดป้อนกระสุนของ HK 21 E .ใช้สายกระสุนแบบ M13 และใช้กล่องกระสุนขนาด 100 นัด อัตราการยิงอยู่ที่ 900 ถึง 1100 นัดต่อนาที
HK21E มีการซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตนอกเยอรมันคือ Fábrica de Braço de Prata ในประเทศโปรตุเกส ประจำการในชื่อ M/968 เป็นรุ่น Hk 21 และ SEDENA ประเทศแม็กซิโก ในชื่อ MG21 เป็นรุ่น HK21E
ในบ้านเรามีการนำมาใช้โดยหน่วยรบพิเศษทั้ง กองทัพบกและกองทัพเรือ(นย.) และกรมสรรพาวุธทหารบกเคยมีการนำรูปแบบนี้มาใช้ในการพัฒนา ปลย.11 ให้เป็นปืนกลเบานั้นคือ ปืนต้นแบบ ตส.๒ (TS 2) นั้นเอง
หากมีข้อผิดพลาดประการใดๆก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ครับ และขอบคุณที่ติดตาม จริงๆในกลุ่มนี้ผมเองก็ค่อนข้างจะสับสนอยู่จากการสืบค้นในทั้งรุ่นแรกยันรุ่นส่งออกเพราะมีการนำปืน G3 และ HK33 ไปดัดแปลงใส่ฟีดเจอร์ของ 21/11/13/23 รวมถึงการผลิตจากโรงงานเล็ก อีกหลายตัว จึงเรียนสมาชิกว่าบทความนี้ไม่ได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นครับ สามารถสืบค้นกันอีกได้นอกจากโพสนี้
Cr.
https://www.militaryfactory.com/smallarms/detail.php...
https://en.wikipedia.org/wiki/Heckler_%26_Koch_HK21
https://modernfirearms.net/.../germany.../hk-21-i-23-eng/
http://www.tscmachine.com/HK21E-23E-11E.html
#HK21 #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 580 Heckler & Koch HK21
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
ในปี1961 Heckler & Koch ได้ออกแบบปืนกลเอนกประสงค์(General-purpose machine gun) ขนาด 7.62 X51 mm NATO ซึ่งมีลักษณะการใช้งานแบบเดียวกับปืนกลแบบM60 ของอเมริกัน ซึ่งการออกแบบอาศัยพื้นฐานจาก ปืนเล็กยาวแบบG3
ปืนใช้ระบบบริหารกลไกตามแบบปืนเล็กยาวG3 ในระบบหน่วงเวลาด้วยลูกกลิ้งขัดกลอน(Roller-delayed blowback-operated) ซึ่งเป็นระบบหลักที่HK ใช้งานในยุค50-70 ซึ่งก็เป็นการยกอกมาจากG3 และมีชิ้นส่วนที่สามารถใช้ร่วมกันได้ 48% นั้นเองรวมถึงเป็นปืนพร้อมยิงในขณะลูกเลื่อนปิด(closed bolt) แต่มีการเพิ่มชุดแหนบสปริงสำหรับเกี่ยวรั้งปลอกกระสุนที่แข็งแรงขึ้น (spring-powered extractor) และแหนบสปริงป้องกันการตีกลับของระบบขัดกลอน(anti-bounce device) เนื่องจากการยิงแบบต่อเนื่อง
ปืนยังสามารถปรับตำแหน่งการยิงได้ 3 ตำแหน่ง คือ ห้ามไก (S/0) ,ยิงกึ่งอัตโนมัติ(E/1) และยิงอัตโนมัติ (F/20)
ระบบป้อนกระสุนเป็นการป้อนด้วยสายกระสุนซึ่งใช้ระบบควบคุมการป้อนโดยจะมีชุด lever-type ejector system เป็นชุดป้อนกระสุนซึ่งบังคับด้วย การทำงานของระบบลูกเลื่อน ซึ่งจะมีคันบังคับในชุดลั่นไกอีกที โดยใช้สายกระสุนสลัดข้อต่อโลหะแบบ M13 (ของอเมริกัน), DM6 (เยอรมัน) และแบบข้อต่อไม่สลัดตัวแบบ DM1 (เยอรมัน) ระบบป้อนด้วย
สายกระสุนสามารถถอดใช้ชุดป้อนด้วยซองกระสุน (detachable box magazine) ของ G3 แบบ 20 นัด และแบบก้นหอย 50 นัดได้
ลำกล้องเป็นแบบลำกล้องหนาจับยึดอิสระ(heavy free-floating,)เปลี่ยนเร็ว(quick-change barrel) ซึ่งจะเวลาถอดจะต้องกดปุ่มที่ด้ามจับทางขวาของโคนลำกล้องหมุนทวนเข็มนาฬิกา ,ดึงลำกล้องออกไปทางด้านหน้า และ เบี่ยงออกมาดึงกลับออกมาจากครอบลำกล้อง ลำกล้องมีความยาว2ขนาดคือ 17.7 และ 22.0 นิ้วขาทรายติดตั้งอยู่กับครอบลำกล้อง ซึ่งสามารถติดตั้งได้ 2ตำแหน่งคือโคนครอบลำกล้องและปลายครอบลำกล้อง
ระบบศูนย์เล็งเป็นแบบ rotary diopter drum แบบเดียวกับ G3
อัตราการยิงของปืนอยู่ที่ 900 นัดต่อนาที
มีระยะศูนย์ยิงอยู่ที่100 ถึง 1,200 เมตร ซึ่งเป็นแบบปรับทางข้างได้
HK 11
และในช่วงคาบเกี่ยวก็มี HK11 (ไม่ใช่ปืนไร้ปลอกกระสุน G11) ซึ่งเป็นปืนเล็กยาวยิงหรือปืนกลเบา(ในช่วงหนึ่ง) ซึ่งใช้พื้นฐานของปืนเล็กยาวG3 เช่นเดียวกัน ใช้ระบบป้อนด้วยซองกระสุนเป็นหลัก โดยใช้ซองกระสุนร่วมกับ G3 แบบ 20 นัด และแบบก้นหอย 50 นัดได้ ซึ่งช่องยึดติดมากับโครงปืนส่วนบน ใช้ระบบลำกล้องหนาถอดเร็วเช่นเดียวกับ HK21 กองทัพเยอรมันประจำการในเชื่อ G8 ติดตั้งขาทราย
HK21A1 และ HK 11A1
ต่อมามีการพัฒนาทั้ง HK21A1 และ HK 11A1ในช่วงปี1970 ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้โดยทั้งคู่สามารถสลับชุดป้อนกระสุนกันได้ ซึ่งเดิมแล้ว HK21นั้นไม่สามารถถอดชุดป้อนกระสุน ใช้ระบบลำกล้องถอดเร็วเหมือนกัน และพานท้ายมีการเปลี่ยนมาใช้พานท้ายคอขวด ระบบศูนย์เล็งพื้นฐาน G3
HK11A1 มีชื่อประจำการในกองทัพเยอรมันคือ G8A1
ต่อมามีการนำซีรีย์ HK21A1 มาทำการปรับปรุงระบบศูนย์เล็งให้สามารถปรับทางข้างได้(เหมือน HK21) มีคันส่งลูกเลื่อน ใช้กับกระสุนขนาดอื่นๆเพื่อใช้เป็นกลุ่มส่งออกนั้นก็คือ
HK11E ปืนเล็กยาวยิงกล / automatic rifle ป้อนด้วยซองกระสุนใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO
HK13E ปืนเล็กยาวยิงกล / automatic rifle ป้อนด้วยซองกระสุนใช้กระสุนขนาด 5.56×45mm NATO
HK21E ปืนกลเอนกประสงค์/general-purpose machine gun ป้อนด้วยสายกระสุน ใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO หากใส่ลำกล้องสั้นจะเป็น HK21E-K
HK23E ปืนกลเบา light machine gun ป้อนด้วยสายกระสุน ใช้กระสุนขนาด 5.56×45mm NATO
โดย E มาจาก Export คือส่งออก ซึ่งในตัวส่งออกนี้ มีซองกระสุนแบบกล่องขนาด 100 นัด ที่บรรจุด้วยแหนบสปริงด้วย ซึ่งจะต้องถอดชุดป้อนด้วยสายหรือป้อนด้วยซองออก แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม แบบซองกระสุนก้นหอยแบบ 100 นัด
ในซีรีย์นี้นั้นสามารถใช้โครงปืนร่วมกันได้ทั้งหมด ซึ่งเปลี่ยนเพียงชุดป้อนกระสุนและลำกล้อง เท่านั้น ยกเว้น HK13E เดิม ซึ่งคือ HK 13A1 พัฒนามาจาก HK13 .ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบป้อนด้วยสายกระสุนได้ แต่สำหรับทั้ง HK21E ,HK11E และ HK23E นั้นจะมีชุดอเด็ปเตอร์ที่สามารถใช้ซองกระสุนของ AR-15 ได้ ซึ่งเท่ากับว่าซีรีย์ E นี้ จึงมีรุ่น automatic rifle 5.56 อยู่ 2 ตัวนั้นเอง
GR-series
เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาใช้ลายพรางและใช้ศูนย์เล็งแบบกล้องเล็งคือ GR-6 Automatic Rifle (HK13)และGR-9 Light Machinegun (HK23)
.
HK25
เป็นการออกแบบใช้กับกระสุนขนาด .50 BMG แต่ไม่เคยมีการผลิตจริง
HK51B
เป็นการนำ HK 51 (อยู่ในซีรีย์ G3)ไม่ได้มี มาตรฐานแน่นอนเป็นการดัดแปลง ไม่ได้ยึดแบบตาม G3A3 หรือ สร้างเลียนแบบ HK41 ,HK91 และ ดัดแปลง MP5 ปรับแต่งโดย F. J. Vollmer & Company Inc.มาใส่ชุดป้อนกระสุนของ HK 21 E .ใช้สายกระสุนแบบ M13 และใช้กล่องกระสุนขนาด 100 นัด อัตราการยิงอยู่ที่ 900 ถึง 1100 นัดต่อนาที
HK21E มีการซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตนอกเยอรมันคือ Fábrica de Braço de Prata ในประเทศโปรตุเกส ประจำการในชื่อ M/968 เป็นรุ่น Hk 21 และ SEDENA ประเทศแม็กซิโก ในชื่อ MG21 เป็นรุ่น HK21E
ในบ้านเรามีการนำมาใช้โดยหน่วยรบพิเศษทั้ง กองทัพบกและกองทัพเรือ(นย.) และกรมสรรพาวุธทหารบกเคยมีการนำรูปแบบนี้มาใช้ในการพัฒนา ปลย.11 ให้เป็นปืนกลเบานั้นคือ ปืนต้นแบบ ตส.๒ (TS 2) นั้นเอง
หากมีข้อผิดพลาดประการใดๆก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ครับ และขอบคุณที่ติดตาม จริงๆในกลุ่มนี้ผมเองก็ค่อนข้างจะสับสนอยู่จากการสืบค้นในทั้งรุ่นแรกยันรุ่นส่งออกเพราะมีการนำปืน G3 และ HK33 ไปดัดแปลงใส่ฟีดเจอร์ของ 21/11/13/23 รวมถึงการผลิตจากโรงงานเล็ก อีกหลายตัว จึงเรียนสมาชิกว่าบทความนี้ไม่ได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นครับ สามารถสืบค้นกันอีกได้นอกจากโพสนี้
Cr.
https://www.militaryfactory.com/smallarms/detail.php...
https://en.wikipedia.org/wiki/Heckler_%26_Koch_HK21
https://modernfirearms.net/.../germany.../hk-21-i-23-eng/
http://www.tscmachine.com/HK21E-23E-11E.html
#HK21 #ป_ปืน