JJNY : ปีใหม่ 64 ใช้จ่ายหดหนัก/เที่ยวปีใหม่64ไม่คึก/จดทะเบียนตั้งบ.ใหม่พ.ย.วูบ17%/ร้องสายด่วนแทบไหม้ หน้ากาก-คนละครึ่ง

ปีใหม่ 64 อ่วม! หอการค้า เผยใช้จ่ายหดตัวหนัก ต่ำแสนล้านรอบสิบปี ติดลบครั้งแรกรอบ 15 ปี
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2500094

 
ปีใหม่ 64 อ่วม ม.หอการค้า เผยใช้จ่ายหดตัวหนักต่ำแสนล้านรอบ 10 ปี และติดลบครั้งแรกรอบ 15 ปี ถึง 33.6%
 
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเทศกาลปีใหม่ 2564 จากประชาชน ช่วงวันที่ 14-23 ธันวาคม 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ 42.7% ระบุ คึกคักน้อยกว่าปีก่อน และอีก 16.1 %ระบุ ไม่คึกคัก เพียง4.6% มองว่า จะคึกคักกว่าปีก่อน และ 36.6% มองว่า คึกคักเท่าปีก่อน
 
ทั้งนี้ ในปีนี้ ความวิตกจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ กระทบต่อแผนท่องเที่ยว และการใช้จ่ายลดลง รวมถึงยังห่วงปัญหาค่าครองชีพ การฟื้นของเศรษฐกิจ และ การเมือง ในปี 2564. ทำให้ประชาชน ลดกิจกรรม ลดออกนอกบ้าน งดเดินทางท่องเที่ยวแม้เที่ยวในประเทศ และวิตกรายได้ในอนาคต
นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้เงินสะพัดปีใหม่นี้ มีมูลค่า 91,468 ล้านบาท เป็นครั้งแรกมูลค่าต่ำกว่า 1แสนล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 9 ปี และมูลค่าต่ำสุดรอบ 10 ปี ขณะที่อัตราใช้จ่ายติดลบ 33.6. % เป็นครั้งแรกที่ติดลบและครั้งแรกที่อัตราต่ำสุดในรอบ 15 ปีนับจากทำการสำรวจ
 

 
เที่ยวปีใหม่ 64 ไม่คึกหลังโควิดระบาดใหม่ - ส่วนรายได้ทั้งปีหด 72% เหลือ 8.3 แสนล้านจากปีก่อน 3 ล้านล้าน 
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5595752
 
เที่ยวปีใหม่ 64 ไม่คึกหลังโควิดระบาดใหม่ - รายได้ทั้งปีหด 72% เหลือ 8.3 แสนล้านจากปีก่อน 3 ล้านล. ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวรวมมีแค่ 6.7 ล้านคน
 
เที่ยวปีใหม่ 64 ไม่คึก - นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2563 - 3 ม.ค. 2564 ททท. คาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางภายในประเทศ 2.75 ล้านคน-ครั้ง และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่มากกว่า 10,700 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 37% ปี 2564 คาดว่าหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนักท่องเที่ยวจนเกิดความหวั่นวิตก กังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาด
 
ส่วนปี 2563 คาดรายได้รวมจากการท่องเที่ยวจะลดลงเหลือ 8.3 แสนล้านบาท ลดลง 72% จาก 3 ล้านล้านบาท ในปี 2562 โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 6.7 ล้านคน ลดลง 83% จาก 39.8 ล้านคนในปี 2562 เป็นตัวเลขสะสมตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2563 ซึ่งไม่ได้ขยับเข้ามามากนัก แม้รัฐบาลมีความพยายามในการเปิดประเทศ แต่ในเดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีจำนวนต่างชาติเข้ามาแค่ 1,500 คนเท่านั้น
 
ส่วนตลาดในประเทศ เริ่มเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ช่วงเดือนก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากต้องหยุดเชื้อเพื่อชาติในช่วงการล็อกดาวน์เดือนมี.ค. ทำให้ตัวเลขล่าสุดมีการเดินทางในประเทศสะสมประมาณ 81 ล้านคน-ครั้ง โดยเฉพาะในเดือนพ.ย. ซึ่งมีการเดินทางฟื้นกลับมาเท่าระดับเดียวกันของปี 2562 ที่ประมาณ 15-16 ล้านคน-ครั้ง ทำให้หากในเดือนธ.ค. มีการเดินทางใกล้เคียงกันในระดับดังกล่าว ปี 2563 ไทยเที่ยวไทยน่าจะอยู่ประมาณ 95 ล้านคน-ครั้ง ลดลง 48% จากปี 2562 อยู่ที่ 172 ล้านคน-ครั้ง
 
ขณะที่สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ความจริงได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. หลังจากมีการระบาดในภาคเหนือของประเทศไทย จนล่าสุดที่สมุทรสาคร โดยขณะนี้ยอมรับว่าส่งผลต่อจิตวิทยาในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดออกไปในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ต้องงดการจัดกิจกรรม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า กิจการเหล่านั้นมีส่วนในการดึงดูดนักท่องเที่ยวออกไป แต่ททท.ยังหวังว่า ในช่วงปลายปีนี้ จะมีการเดินทางท่องเที่ยว แม้อาจสั้นลง หรือไม่ได้มีจำนวนมากเหมือนปีที่ผ่านมา
 
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การยกเลิกจัดเคาต์ดาวน์ ททท. สนับสนุนอยู่ 10 แห่ง และจัดเอง 1 แห่ง ซึ่งงานที่จัดเองได้ตัดสินใจเลื่อนจัดงาานที่จังหวัดเชียงใหม่ออกไปก่อน ส่วนอีก 10 แห่งที่สนับสนุนนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเอกชนว่าจะพิจารณาดำเนินการอย่างไร แต่เน้นย้ำว่ากิจกรรมที่จัดจะต้องให้ความสำคัญกับมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะไม่อยากให้การท่องเที่ยวเป็นสาเหตุให้เกิดโควิด-19 ระบาดซ้ำ อย่างไรก็ตาม การรับมือกับโรคระบาด หากต้องมีการล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นกรณีเลวร้ายสุด ที่อาจเกิดขึ้น ประเมินว่าหากทำได้ดี เป็นการล็อกดาวน์เร็วและใช้เวลาสั้น ซึ่งหากทำได้แบบนี้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็คงไม่มากนัก
 
“ขอให้เชื่อมั่นในตัวระบบสาธารณสุข ที่ผ่านมาเราสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี ครั้งนี้ก็ไปเป็นอีกบททดสอบ ซึ่งคิดว่าเราตระหนักได้ แต่อย่าตระหนก โดยพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทย ตัดสินใจในช่วงท้ายๆ เพื่อออกเดินทาง และส่วนใหญ่เป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนา ก็หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเร็วๆ และสามารถกลับมาเที่ยวได้อีกครั้ง ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่มีความปลอดภัย”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่