คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ส่งกำลังใจให้ละกันครับ เชื่อว่ามีคนรู้สึกแบบนี้ไม่น้อย
ผมก็เคยรู้สึกแบบนี้ครับ เท่าที่รู้มา ก็มีหลายเหตุปัจจัยนะครับ
เช่น
- ถ้าใครรู้มาก รู้เยอะ และบวกกับชอบคิด ปรุงแต่งเก่ง
ยิ่งรู้อะไรเยอะ ไม่ว่าทางโลก ทางธรรม ก็จะยิ่งคิดเยอะ
กลายเป็นยิ่งทุกข์มากขึ้นเพราะความคิดฟุ้งซ่านครับ
ประเด็นไม่ได้อยู่แค่ว่า เรารู้อะไร?
แต่ยังขึ้นกับว่า เราจัดการกับสิ่งที่รู้อย่างไร?
ถ้ารู้อะไร แล้ววางจิตวางใจ รับมือกับสิ่งที่รู้ได้อย่างเหมาะสม
เอาสิ่งที่รู้มาพิจารณา ถ้าเห็นโทษส่วนไหน ก็หลีกเลี่ยงซะ
ถ้าเห็นประโยชน์ส่วนไหน ก็เอามาใช้
ถ้าทำแบบนี้ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรนักครับ
- ที่ จขกท. เขียนว่า "ยิ่งคิดมาก ก็ทุกข์มาก" ก็ใช่เลยครับ
หมายถึง คิดฟุ้งปรุงแต่งนะครับที่ทำให้ทุกข์ใจ
ถ้าคิดวิเคราะห์ คิดแบบมีระบบ คิดพิจารณาเหตุและผล คิดเพื่อเอามาใช้ประโยชน์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
- ความคิด ความอยาก ความคาดหวัง อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ
เป็นเรื่องปกติของปุถุชนครับ
ถ้าอยากแก้ไข ก็ต้องแก้ที่ "ทำยังไง ถึงจะรับมือกับพวกความคิดฟุ้งซ่าน ปรุงแต่งต่างๆ"
เช่น วิตก กังวล เครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง หดหู่ โกรธ เหงา เศร้า เหนื่อยหน่าย
.... ฯลฯ สารพัดความคิดและอารมณ์ด้านลบๆ ครับ
ในทางพุทธ การปฏิบัติธรรม หรือเรียกว่า การฝึกภาวนา นี่แหละครับ
ที่รับมือกับเรื่อง "ความคิดฟุ้งซ่าน" โดยตรง
ลองศึกษาเรื่องการฝึกเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ดูนะครับ
เสิชใน youtube ก็มีการสอนเจริญสติกันหลายเทคนิคครับ
ลองศึกษา แล้วลองฝึกดูครับ ไม่ยากครับ ฝึกได้ในชีวิตทั่วไป หากยังไม่พร้อมไปบวชหรือไปเข้าคอร์สอะไรครับ
ขอส่งกำลังใจให้ครับ
ผมก็เคยรู้สึกแบบนี้ครับ เท่าที่รู้มา ก็มีหลายเหตุปัจจัยนะครับ
เช่น
- ถ้าใครรู้มาก รู้เยอะ และบวกกับชอบคิด ปรุงแต่งเก่ง
ยิ่งรู้อะไรเยอะ ไม่ว่าทางโลก ทางธรรม ก็จะยิ่งคิดเยอะ
กลายเป็นยิ่งทุกข์มากขึ้นเพราะความคิดฟุ้งซ่านครับ
ประเด็นไม่ได้อยู่แค่ว่า เรารู้อะไร?
แต่ยังขึ้นกับว่า เราจัดการกับสิ่งที่รู้อย่างไร?
ถ้ารู้อะไร แล้ววางจิตวางใจ รับมือกับสิ่งที่รู้ได้อย่างเหมาะสม
เอาสิ่งที่รู้มาพิจารณา ถ้าเห็นโทษส่วนไหน ก็หลีกเลี่ยงซะ
ถ้าเห็นประโยชน์ส่วนไหน ก็เอามาใช้
ถ้าทำแบบนี้ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรนักครับ
- ที่ จขกท. เขียนว่า "ยิ่งคิดมาก ก็ทุกข์มาก" ก็ใช่เลยครับ
หมายถึง คิดฟุ้งปรุงแต่งนะครับที่ทำให้ทุกข์ใจ
ถ้าคิดวิเคราะห์ คิดแบบมีระบบ คิดพิจารณาเหตุและผล คิดเพื่อเอามาใช้ประโยชน์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
- ความคิด ความอยาก ความคาดหวัง อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ
เป็นเรื่องปกติของปุถุชนครับ
ถ้าอยากแก้ไข ก็ต้องแก้ที่ "ทำยังไง ถึงจะรับมือกับพวกความคิดฟุ้งซ่าน ปรุงแต่งต่างๆ"
เช่น วิตก กังวล เครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง หดหู่ โกรธ เหงา เศร้า เหนื่อยหน่าย
.... ฯลฯ สารพัดความคิดและอารมณ์ด้านลบๆ ครับ
ในทางพุทธ การปฏิบัติธรรม หรือเรียกว่า การฝึกภาวนา นี่แหละครับ
ที่รับมือกับเรื่อง "ความคิดฟุ้งซ่าน" โดยตรง
ลองศึกษาเรื่องการฝึกเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ดูนะครับ
เสิชใน youtube ก็มีการสอนเจริญสติกันหลายเทคนิคครับ
ลองศึกษา แล้วลองฝึกดูครับ ไม่ยากครับ ฝึกได้ในชีวิตทั่วไป หากยังไม่พร้อมไปบวชหรือไปเข้าคอร์สอะไรครับ
ขอส่งกำลังใจให้ครับ
แสดงความคิดเห็น
** รู้จักธรรมะมากขึ้น ทำไมยิ่งทุกข์มากขึ้น
เลยทำให้รู้สึกว่าทางโลกเราก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทางธรรมเราก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ(ไม่มีเวลาที่จะศึกษาอย่างจริงจัง และไม่กล้าที่จะออกบวชตลอดชีวิต) มันเลยทำให้ยิ่งคิดมากเข้าไปอีก คิดมากก็ทุกข์มาก
แก้อย่างไรดี