จาก หลวงพี่เเจ๊ส ถึง งู - who watch the MISSIONARY?

  เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งได้มีโอกาศได้ดูหนังอย่างหลวงพี่แจ๊ส ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะมีในหัวเลยว่าอยากจะดู จะว่าไบแอสก็ได้แหละ ผมก็มีรสนิยมส่วนตัวบวกกับชอบเล่น Pantip เนอะ
เวลาเจอรีวิวใน Pantip ด่าหนังเรื่องไหนกันเยอะๆหลายๆคอมเม้นมันก็เหมือนจะทำให้เราซึมซับความคิดเห็นทำนองนั้นมาด้วยและก็เอาไปตัดสินหนังเลยโดยที่ยังไม่ได้ดู...ก็ว่าไม่ได้อ่ะนะ จะบอกว่าไม่แฟร์ก็ไม่ได้ สมัยนี้ไม่ว่าหนังหรือเกมคนเรามันก็ชอบอ่านรีวิวก่อนดูหรือเล่นกันทั้งนั้น บางทีถ้าหลวงพี่เเจ๊สมีคำว่า 9/10 IGN แปะโปสเตอร์คงทำรายได้ถล่มทลายกว่านี้อีก5555

  เอาล่ะ ไม่ได้จะมาพูดถึงหนังดีไม่ดี คนเขารีวิวกันไปถึงไหนเเล้ว สิ่งที่อยากจะพูดถึงหนังเรื่องนี้คือประเด็นเกี่ยวกับศาสนามากกว่า เพราะมันทำให้ผมนึกถึงหนังอีกเรื่องนึงอย่าง"งู"
 
ใช่แล้วเนี้ยล่ะชื่อหนัง หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินเพราะหนังเรื่องนี้เข้าฉายแบบเงียบๆและลาโรงไปเงียบๆอีกนั่นเเหละ หนังมันไม่มี PR อะไรเลย ก็ไม่แปลกที่กลุ่มคนดูจะมีเฉพาะแฟนหนังสือของคุณ วิมล ไทรนิ่มนวล เท่านั้น เเละหนังสือมันก็ผ่านมาโคตรนานแล้วด้วย
งู เป็นหนึ่งในหนังสือสามเล่มของจักรวาลโคกพระนาง ที่ยิ่งใหญ่อย่างกะ Avenger 5555555 เอาจริงๆนะคุณ มันโคตรอลังการ เล่มแรก คือ "งู" ปฐมบทของหลวงพ่อเนียน ต่อมาคือ"คนทรงเจ้า" ที่เป็นเรื่องราวของคนทรงเจ้าที่จะเข้ามาคานอำนาจกับหลวงพ่อเนียน จนไปจบเล่มสุดท้ายกับ "เจ้าแผ่นดิน" ที่ทั้งสองจะมาซัดกันเพื่อที่จะหาผู้ที่ได้ครองโคกพระนาง55555555555 โคตรบันเทิงเเละอีพิคสุดๆ

  หนังเรื่องงู ถอดบทมาจากหนังสืออย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น(ก็นั่นเเหละ มันทำให้บทมีปัญหาเพราะไม่ได้ถูกการนำไปเกลาบทให้เข้ากับบทพูดหนังเท่าไหร่) เป็นเรื่องของวัดโคกพระนางที่ได้มีการเชิญเจ้าอาวาสองค์ใหม่ซึ่งแกชื่อหลวงพ่อเนียน ท่านเป็นพระหนุ่ม รูปงาม พูดจาไพเราะ เทศเก่งมากจนสาวแก่แม่หม้ายต่างหลงกันไปทั้งหมู่บ้าน ประเด็นคือหลวงพ่อเนียนแกจะออกเเนวพระนักพัฒนา มีแนวคิดอยากจะหาเงินมาสร้างวัดให้ใหญ่โตงดงาม สู้กับวัดอื่นๆได้ แต่ติดปัญหาคือช่วงแรกๆแกไม่มีเงิน หลวงพ่อเนียนก็จะไปพูดกับชาวบ้านทำนองว่า "บริจาคเยอะๆสิโยม บริจาคเยอะๆจะยิ่งได้บุญนะ ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ เเต่ถ้ามีน้อยก็บริจาคน้อยก็ได้ตามแต่กำลังนะโยมนะ" 
แกเป็นคนมาร์เก็ตติ้งเก่ง พูดเก่งมากบวกกับรูปหล่อหน้าตาดี ทำเอาชาวบ้านหลงบุญบริจาคกันอย่างมากมาย ทว่านั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาภายในวัดและตัวหมู่บ้านเองก็กำลังจะเกิดเรื่องราวต่างๆอีกมากมายที่ขอบอกเลยว่า คุณวิมลจัดหนักวงการสงฆ์ซะจนคุณจะต้องอ้าปากค้างล่ะครับ
ไม่ว่าจะเป็นประเด็น พิษงู , LGBT , ความเชื่อระหว่างศาสนาพุทธกับศาสนาผีตีกันพัลวันอย่างกะกับตันอเมริกากับไอร่อนแมน ใครอยากเสพเนื่อหาแบบเน้นๆเชิญหนังสือสามเล่มเลยนะครับ รับรองว่ามันส์ถึงใจโยมเลยทีเดียว5555

  จากหลวงพี่เเจ๊สถึงงู กุญแจหลักของเรื่องก็คือ ในยามที่ศาสนาถูกนำมาเผยเเพร่ หรือถูกบิดให้ได้ผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเนี้ย ใครจะเป็นตรวจสอบหรือบอกว่าสิ่งนั้นถูกสิ่งนั้นผิด
การสังคายนาพระไตรปิฎกเกิดขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเป็น 100 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้วิธีจำเเละท่องส่งต่อกัน...เคยดูรายการบอกคำเเละส่งต่อให้อีกคนไปเรื่อยๆถึงสิบคนไหมครับ แค่ระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ลืมแล้วมั้ย...อาทิตย์ที่แล้วกินข้าวกะอะไรยังนึกกันยากเลย เพราะงั้นไม่มีใครบอกว่ามันถูกหรือมันผิดทั้งหมดกับศาสนาในหนังทั้งสองเรื่อง ที่หนังนำเสนอออกมาให้เห็นภาพผู้คนกราปใว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เบื้องหลังผ่านกรรมวิธีต่างๆอันพิลึกพิลั่นสุดจะจินตนาการได้ไม่ว่าจะพิษงู ไปจนถึงบทสวดที่เราเเทบจะไม่เข้าใจความหมายโดยเราก็ไม่อาจจะตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านั้นได้เลย เพราะคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"
  ไม่ว่าคุณจะทำอะไรมา ทำตัวเลวร้ายเเค่ไหน เพียงเเค่คุณใส่ชุดสีส้ม คุณก็จะได้รับการกราบใว้ทันที การกระทำทุกอย่างเบื้องหลังจะไม่ได้รับการตรวจสอบ หรือต่อให้ตรวจก็เหอะ เเต่มันก็เเทบจะน้อยมากๆที่จะถูกตีตราว่าผิดจริง
  และระหว่างหนัง 2 เรื่องนี้ ถ้า PR ในระดับที่เท่าๆกัน งู มีโอกาศสูงมากที่จะไม่ได้ฉาย ทั้งๆที่ประเด็นในหนัง(หรือส่วนน้อยในเรื่องหลวงพี่เเจ๊ส) ก็นำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน เกี่ยวกับผู้ที่หากินกับศาสนา ลองคิดเล่นๆกันหน่อยสิครับว่าอะไรคือมาตรฐานระดับจิตใจของผู้ตัดสิน ว่าอะไรควร หรือไม่ควรที่จะถูกนำมาเสนอกับผู้ชมทั่วไป