สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เลิกคิดเรื่องแก้แค้นไปได้เลยค่ะ
นิสัยแบบสามีคุณนี่คิดเหรอคะว่าจะมีปัญญาไปแก้แค้นใครได้
เกรงใจไปหมดซะทุกอย่าง เกรงใจแบบไม่เข้าเรื่อง ต่อหน้าก็ทำได้แค่รับฟังไม่กล้าเถียงอะไรเค้า
ไม่มีทางแก้แค้นใครได้แน่นอน
และเราเชื่อว่าความคิดแก้แค้นไม่มีในสามีแน่นอน มีแต่ภรรยานี่แหละที่โกรธแทนและพยายามเสี้ยมอยู่
ส่วนเรื่องควรทนต่อมั้ย ก็แล้วแต่สามีคุณสิคะว่าทนไหวมั้ย
ที่เห็นตอนนี้คือคุณกำลังเดือดร้อนแทนสามีและพยายามคิดแทนสามีอยู่
ในขณะที่สามีอาจไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นก็ได้ เขาอาจแค่เสียใจเลยมาระบายให้คุณ แต่สุดท้ายก็กลับไปทำงานต่อได้
คุณแค่รับฟังก็พอแล้ว ไม่ต้องไปวุ่นวายหรือจัดการชีวิตเค้าขนาดนั้นหรอก
คุณทนไม่ได้ไม่ได้แปลว่าสามีจะทนไม่ได้เหมือนกันซะหน่อย
ส่วนประเด็นสุดท้ายที่เราจะพูดถึง และเป็นประเด็นที่สำคัญมากแต่คุณกลับไม่สนใจจะกล่าวถึงเลยคือ
สามีคุณได้พิจารณาตัวเองแล้วหรือยังว่าบกพร่องตามที่เค้ากล่าวหามั้ย
แสดงว่าคุณไม่ได้มองว่าสามีตัวเองบกพร่องเลยแม้แต่นิดเดียว
คุณเข้าข้างสามีมากและมองว่าโดนคนอื่นกลั่นแกล้ง
แต่ความจริงทางฝ่ายผู้บริหารอาจจะมองอีกแบบก็ได้
ทำไมถึงคิดว่าการรายงานปัญหากับผู้บริหารคือการประจบคะ
ถ้ามีปัญหาอะไรในบริษัท ยังไงคนที่เป็นหัวหน้าก็ควรรู้ไม่ใช่เหรอคะ
สิ่งที่สามีคุณทำอยู่นี้เรียกว่าการหมกเม็ดค่ะ มีปัญหาก็ปิดบังไว้แล้วแอบมางุบงิบแก้ปัญหาเอง
ถ้ามันเป็นเรื่องเล็กอาจจะไม่ส่งผลอะไร แต่ถ้าสามีคุณประเมินพลาดล่ะ ถ้าปัญหานั้นสุดท้ายแล้วมันใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ไขกันเองได้
สามีคุณอาจทำให้บริษัทเสียหายไปมากกว่าที่คาดคิดนะคะ
ลองคิดดูนะคะว่าถ้าลูกน้องสามีทำงานพลาดแล้วไม่ยอมรายงานกับสามีแต่ช่วยกันปกปิดและแก้ปัญหากันเอง
แล้วมันเกิดความเสียหายขึ้นมา สามีจะรู้สึกยังไง สิ่งที่ลูกน้องทำนั้นถูกต้องมั้ย
ถ้าไม่เข้าข้างสามีจนเกินไป คุณน่าจะรู้แล้วว่าสามีบกพร่องตรงไหน และควรปรับปรุงตัวยังไง
แต่ถ้ายังโทษแต่คนอื่นอยู่แบบนี้ เปลี่ยนงานไปก็คงมีปัญหาอีกแหละค่ะ เพราะไม่รู้จักการปรับปรุงตัวเองเลย
นิสัยแบบสามีคุณนี่คิดเหรอคะว่าจะมีปัญญาไปแก้แค้นใครได้
เกรงใจไปหมดซะทุกอย่าง เกรงใจแบบไม่เข้าเรื่อง ต่อหน้าก็ทำได้แค่รับฟังไม่กล้าเถียงอะไรเค้า
ไม่มีทางแก้แค้นใครได้แน่นอน
และเราเชื่อว่าความคิดแก้แค้นไม่มีในสามีแน่นอน มีแต่ภรรยานี่แหละที่โกรธแทนและพยายามเสี้ยมอยู่
ส่วนเรื่องควรทนต่อมั้ย ก็แล้วแต่สามีคุณสิคะว่าทนไหวมั้ย
ที่เห็นตอนนี้คือคุณกำลังเดือดร้อนแทนสามีและพยายามคิดแทนสามีอยู่
ในขณะที่สามีอาจไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นก็ได้ เขาอาจแค่เสียใจเลยมาระบายให้คุณ แต่สุดท้ายก็กลับไปทำงานต่อได้
คุณแค่รับฟังก็พอแล้ว ไม่ต้องไปวุ่นวายหรือจัดการชีวิตเค้าขนาดนั้นหรอก
คุณทนไม่ได้ไม่ได้แปลว่าสามีจะทนไม่ได้เหมือนกันซะหน่อย
ส่วนประเด็นสุดท้ายที่เราจะพูดถึง และเป็นประเด็นที่สำคัญมากแต่คุณกลับไม่สนใจจะกล่าวถึงเลยคือ
สามีคุณได้พิจารณาตัวเองแล้วหรือยังว่าบกพร่องตามที่เค้ากล่าวหามั้ย
แสดงว่าคุณไม่ได้มองว่าสามีตัวเองบกพร่องเลยแม้แต่นิดเดียว
คุณเข้าข้างสามีมากและมองว่าโดนคนอื่นกลั่นแกล้ง
แต่ความจริงทางฝ่ายผู้บริหารอาจจะมองอีกแบบก็ได้
ทำไมถึงคิดว่าการรายงานปัญหากับผู้บริหารคือการประจบคะ
ถ้ามีปัญหาอะไรในบริษัท ยังไงคนที่เป็นหัวหน้าก็ควรรู้ไม่ใช่เหรอคะ
สิ่งที่สามีคุณทำอยู่นี้เรียกว่าการหมกเม็ดค่ะ มีปัญหาก็ปิดบังไว้แล้วแอบมางุบงิบแก้ปัญหาเอง
ถ้ามันเป็นเรื่องเล็กอาจจะไม่ส่งผลอะไร แต่ถ้าสามีคุณประเมินพลาดล่ะ ถ้าปัญหานั้นสุดท้ายแล้วมันใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ไขกันเองได้
สามีคุณอาจทำให้บริษัทเสียหายไปมากกว่าที่คาดคิดนะคะ
ลองคิดดูนะคะว่าถ้าลูกน้องสามีทำงานพลาดแล้วไม่ยอมรายงานกับสามีแต่ช่วยกันปกปิดและแก้ปัญหากันเอง
แล้วมันเกิดความเสียหายขึ้นมา สามีจะรู้สึกยังไง สิ่งที่ลูกน้องทำนั้นถูกต้องมั้ย
ถ้าไม่เข้าข้างสามีจนเกินไป คุณน่าจะรู้แล้วว่าสามีบกพร่องตรงไหน และควรปรับปรุงตัวยังไง
แต่ถ้ายังโทษแต่คนอื่นอยู่แบบนี้ เปลี่ยนงานไปก็คงมีปัญหาอีกแหละค่ะ เพราะไม่รู้จักการปรับปรุงตัวเองเลย
ความคิดเห็นที่ 4
นอกจากประเด็นการประจาน
แล้วสามีคุณไม่ได้ทำงานจริง ตามที่เขาตำหนิมาไหมละ
แล้วคนที่โพส มีตำแหน่งสูงกว่าสามีคุณไหม
จริงอยู่การประจานการทำงาน มันเป็นมารยาทที่ไม่ดี
แต่อย่าลืมประเด็นหลักไปก็คือ "ผลงาน"
เขาตามงานที่เขาไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าลึกๆ เขาตามสามีคุณกี่ครั้ง กี่ช่องทางแล้ว ทำไมสามีคุณถึงยังไม่ส่งงานให้เขา
ถ้าอยากแตกหัก ก็แตกหักได้ครับ แต่นั้นก็คือเงินเดือนรายได้ มีที่ใหม่หรือยัง มีเงินเก็บไหม ต้องคิดต้องนี้ด้วย
แล้วสามีคุณไม่ได้ทำงานจริง ตามที่เขาตำหนิมาไหมละ
แล้วคนที่โพส มีตำแหน่งสูงกว่าสามีคุณไหม
จริงอยู่การประจานการทำงาน มันเป็นมารยาทที่ไม่ดี
แต่อย่าลืมประเด็นหลักไปก็คือ "ผลงาน"
เขาตามงานที่เขาไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าลึกๆ เขาตามสามีคุณกี่ครั้ง กี่ช่องทางแล้ว ทำไมสามีคุณถึงยังไม่ส่งงานให้เขา
ถ้าอยากแตกหัก ก็แตกหักได้ครับ แต่นั้นก็คือเงินเดือนรายได้ มีที่ใหม่หรือยัง มีเงินเก็บไหม ต้องคิดต้องนี้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
เมื่อหัวหน้าพิมพ์ข้อความประจานในไลน์กลุ่ม
มาเลยยย........
เรื่องมีอยุ่ว่า สามี เราไปทำงาน ตจว (เป็นการชักชวนของรุ่นพี่ที่สนิทกัน ซึ่งรุ่นพี่คนนี้เป็นเจ้าของ บ.)
เมื่อลองคิดทบทวน จึงได้ตกลงปลงใจกันว่า สามีจะไปทำงานกับรุ่นพี่คนนี้ ใน ตำแหน่ง สูง พอสมควร
โดย เรากับสามี อยู่แยกกันคนละจังหวัด เรามีรถ มีบ้านที่นี้ ส่วนสามี ไปเช่าห้องและออกรถมาอีกคัน
และวันที่เริ่มงานก็มาถึง ช่วงเดือน ตุลาคม
ในช่วงแรก งานก็ปกติธรรมดาต้องมีการปรับตัว มีท้อ เหนื่อยบ้าง ถือเป็น ประสบการณ์
แต่วันนี้มาถึง.........
หัวหน้างานที่ตำแหน่งสุงในบ. โพสข้อความลงไลนกลุ่มว่า สามีเราไม่ทำงาน ซึ่ง สิ่งที่เค้าต้องการเวลามีปัญหาให้โพสในไลนกลุ่มที่มีระดับ ผจก และเจ้าของบ.อยุ่ แต่สามีเรา เป็นพวกประจบไม่เป็น เวลามีปัญหาจะแก้ปัญหาที่ตรงจุดเลย ไม่ได้มาโพสลงในไลน์ เพราะบางเรื่องเป็นความผิดของพนง ก็อยากให้มันจบแค่นี้ (คนดีเกิ๊น) ซึ่งข้อความกระทบถึงจิตใจมาก จากนั้นสามีโทมาร้องไห้ บอกว่าทำไมชีวิตตัวเองต้องมาเจออะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็ให้ กลจ ถ้าไม่ไหส ก็กลับมา หางานใหม่
ตัวละคร
👍🏻หัวหน้างานระดับสูงที่ประจานแฟนเรา เป็นเพื่อนป โท รุ่นเดียวกัน แต่อายุเค้าเยอะกว่า วุฒิภาวะเยอะกว่า เป็นคนชักชวนสามีเราไปทำงานด้วย(นานๆเข้าบ.ที มาทีก็วุ่นวายทั้งบ. มักจะโพทะนาทุกคนว่า เด็กอาจารย์เก่งทุกคน กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เด็กร้องไห้มาเยอะ ((พูดเพื่อ))
👍🏻เจ้าของบ. เป็นเพื่อน ปโทรุ่นเดียวกันของสามี เป็นคนชักชวนสามีเราไปทำงานด้วย(เป็นคนจ่ายเงินเดือน แต่เค้าเข้าข้างหัวหน้างานคนนนั้น เพราะเป็นคนชักชวนให้เข้ามาช่วยบริหารงานในบ.)
👍🏻สามีเจ้าของบ. นิสัยดีมาก ดูแลสามีเราดี ที่สามียังอยู่ในวันนี้เพราะสำนึกในบุญคุณของพี่เค้า
คำถาม?????
1. ควรออกมาไหม ตอนนี้ หางานใหม่ (สายโลจิสติก)
2. อดทน ทำไป
3. จะแก้แค้นหัวหน้างานระดับสูงอย่างไร
4. ขอข้อคิดเห็นอื่นๆคะ