แชร์ประสพการณ์ การเปิดร้านกาแฟ ร้านชานม ร้านซูชิ พร้อมๆกันในช่วง COVID-19

สืบเนื่องจากการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้ผมมีเวลามาแบ่งปันประสพการณ์เล็กๆในที่นี้ กระทู้นี้อาจไม่ได้มี How-to หรือเคล็ดลับอะไร แต่เปนประสพการณ์ลองผิดลองถูก ความคิดต่างๆของตัวเอง และอุปสรรคต่างๆที่ผมเจอมาในช่วง 4 เดือนนี้ (สิงหาคม 2563 - ธันวาคม 2563 ) ของการเปิดร้าน อาหาร-เครื่องดื่ม 3 ร้านในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยที่ผมไม่เคยมีประสพการณ์ใดๆเลย เรียกว่าเริ่มจาก 0 อย่างแท้จริง ยังไงก็จะพยายามเขียนไม่ให้น่าเบื่อนะครับ

ช่วงที่1 : ปี 2562 - มิถุนายน 2563
'ยิ้มบ้าไปแล้ว'** คือคำพูดของเพื่อนทุกคนที่ฟังไอเดียตอนแรกของผมว่าอยากจะทำอะไรบ้าง 
'ค่อยๆทำทีละอย่างสิ'** คือ 100% ของคำแนะนำจากคนอื่นๆ ซึ่งมีความหมายในเชิงไม่เห็นด้วยกับแผนของผม

ซึ่งคำเตือนเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร และมีเหตุผล ย้อนกลับไป 2 ปี ผมเป็นหนึ่งในคนที่พยายามก้าวออกจาก safe zone ของตัวเอง และพยายามมองหาลู่ทางทำธุรกิจใหม่ๆ จากเดิมที่ทำอยู๋ในกงสีของที่บ้าน ที่มีแนวโน้มแย่ลงทุกวัน จากการแข่งขันอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมที่ผมอยู่ ลูกค้าใหม่ที่หาได้ยากขึ้นทุกวัน ลูกค้าเก่าก็มีคู่แข่งเข้ามานำเสนอบริการแข่งขันตลอด รวมถึงปัญหาหนี้สินต่างๆทำให้ผมเริ่มดิ้นรนและมองหาทางลงทุนใหม่ๆ และแฟรนไชส์กาแฟแบรนด์ดัง โลโก้นกแก้ว คือไอเดียแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว ผมเริ่มทำสิ่งแรกที่ผมเชื่อว่าทุกคนที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ควรทำคือ

Lesson 1 : หาข้อมูลเกี่ยวกับแฟรนไชส์ที่ตัวเองสนใจให้มากที่สุด 

การหาข้อมูลในสมัยนี้ที่ง่ายสุดที่คือ google เข้าไปที่เพจหลักของแบรนด์ โดยส่วนใหญ่เจ้าของแฟรนไชส์จะพยายามใส่ข้อมูลด้านการลงทุน และข้อมูลด้านดีๆอื่นๆให้ผู้สนใจเคลิบเคลิ้มอยู่แล้วไม่มากก็น้อย ตรงนี้ก็ต้องใช่วิจารณญานด้วยนะครับ ว่าสิ่งที่เค้าพูดมันจริงแค่ไหนและต้องหาข้อมูลต่อไป แต่อย่างไรก้ตาม แฟรนไชส์กาแฟนกแก้วที่ผมสนใจ ไม่มีข้อมูลเชิญชวนหรือชวนเชื่อ อะไรแม้แต่อย่างเดียว เหตุผลที่ผมรับทราบคือ แบรนด์ติดตลาดมากแล้ว มีผู้สนใจอยากลงทุนจำนวนมากมหาศาล ทางเจ้าของแฟรนไชส์ไม่มีความจำเป็นต้องเชิญชวนคนสนใจมาลงทุนอีกแล้วกลับกัน แฟรนไชส์มีหน้าที่คัดกรองผู้ที่สนใจต่างหาก ซึ่งการสนใจแบรนด์ที่ประความสำเร็จแล้วเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนเพราะเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุนนั้นๆ แต่ข้อเสียคือมันก็จะมีคนอีกมากมายที่เห็นเหมือนเรา ทำเลดีๆก็จะถูกจับจองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องทำเล จะเป็นเรื่องที่กล่าวต่อไปครับ เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก เรื่องความรวดเร็วก็เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจด้วยสำหรับผม 'เห็นก่อน คิดก่อน ทำก่อน' เปนจุดตัดสินได้เลยว่าการลงทุนจะประสพความสำเร็จมั้ย แม้ภายหลังจะมีคนเข้ามาแข่งตามปกติของทุนนิยม แต่คุณก็น่าจะคืนทุนและทำกำไรไปมากแล้ว กลับมาที่การหาข้อมูลครับ
ถ้าใน google ไม่มีข้อมูลมากพอต้องทำยังไง 'ถามจากคนที่เคยทำ' หรือ ถามจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมก็ได้  ซึ่งในภาษานักเล่นหุ้น เรียก Scuttlebut ก็เป็นวิธีที่ดี แม้ข้อมูลที่ได้จะใช้อ้างอิงไมไ่ด้ 100% เพราะธุรกิจจะสำเร็จต้องมีปัจจัยหลายอย่าง แต่ก็ช่วยให้เราเห็นถึงภาพรวมได้ดี  ผมจำได้ว่าระหว่างนั้น ผมไปหาเพื่อนทุกคนที่ทำร้านกาแฟ และลองกินกาแฟเกือบทุกยี่ห้อ ทุกวันๆ เมื่อผมได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว อาทิเช่น รสชาติ, ยอดขายเฉลี่ย, กำไรขั้นต้น , ระบบ Loyalty , การ Support ต่างๆ ก็จะเข้าสู่ก้าวถัดไป 

Lesson 2 : ประเมินความน่าสนใจและศักยภาพของธุรกิจ 

จุดนี้นับเป็นการชี้ชะตานักลงทุนเลยก็ว่าได้ ซึ่งผมพลาดมาแล้วกับธุรกิจชานม T_T ซึ่งเด่วจะเล่าต่อไปในภายหลัง การประเมินความสนใจและความแข็งแกร่งของธุรกิจมีทฎษฏีมากมาย ง่ายสุดเลยคือ Five force Analysis แต่ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ใช้หัวใจและความร็สึกตัวเอง รวมทั้งผมด้วย
คือ 'กูชอบอะ' หรืออารมณ์ 'ถ้าได้เปิดคงจะขายดีนะ' ซึ่งเป็นอารมณ์ล้วนๆ จริงๆตรงนี้ก็มีส่วนถูก ธุรกิจที่ทำให้คุณเกิดอารมณ์สนใจ คงมีอะไรดีสักอย่าง เหมือนการที่เราถูกใจใครสักคนนึง แสดงว่าพวกเขาต้องมีอะไรดีๆบ้างและเราเห็นมัน คุณอาจจะสนใจธุรกิจตัวนี้ เพราะเห็นสาขาเปิดเยอะ หรือเห็นคนต่อแถวเพื่อใช้บริการ หรือได้ลองชิมแล้วชอบในรสชาติ ผมค่อนข้างมั่นใจในเทสรสชาติของตัวเองพอสมควร อะไรที่ผมชอบ คนอื่นก็น่าจะชอบบ้างเหมือนกัน
แต่เดด่วก่อนนนนในจุดนี้จะมี คำถามสำคัญที่คุณต้องตอบให้ได้ คือ **ลูกค้าของคุณจะเป็นใคร** คำตอบของคำถามนี้จะนำไปสู่การเลือกทำเล ซึ่งจะชี้ชะตาการลงทุนในร้านอาหาร-เครื่องดื่มแฟรนไชส์ของคุณได้ 90% เราคงเคยได้กินบรรดาร้านเด็ดร้านดังต่างๆมา ไม่มากก็น้อย ร้านเรานั้นมีสูตรลับ มีรสชาติเฉพาะ มีราคาที่เหมาะสม หลายๆร้านซ่อนตัวอยู๋ในหลืบตรอกซอกซอย ที่จอดรถก็ไม่มี เดินทางก็ลำบาก รอคิวก็นาน ยกตัวอย่าง ร้าน เจ๊ไฝ แถวประตูผี ถนนราชดำเนิน ที่ช่วงหลังจากได้รับ ดาวมิชลิน มา ใครจะกิน คุณต้องส่งอีเมลล์จองล่วงหน้า 1 เดือน แต่คนก็มาเพราะรสชาติที่เป็นเอกลักษณฺ์ แต่กับร้านแฟรนไชส์ คุณจะไม่มีตรงนั้นเลย ไม่ว่าเค้าจะกินสาขาคุณหรือสาขาอื่น รสชาติก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ราคาก็เท่ากัน เพราะฉนั้น หลังจากที่ได้แบรนด์ที่สนใจแล้ว หาข้อมูลมาแล้วว่า ตกลงละ เราจะเอาแบรนด์นี้ และตอบคำถามได้แล้วว่า Target customer ของแบรนด์คือใคร ก็จะไปถึง ข้อสำคัญ****ที่สุดของธุรกิจแฟรนไชส์ 

Lesson 3 : ทำเล ทำเลลลลล และ ทำเลลลลลลล

สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณมากครับ  ไว้มาต่อนะครับ ถ้ามีคนอ่าน 55
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่