สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ผมจะมาแนะนำอีกมุมมองเล็กให้ดูนะครับ
ดอกเบี้ยบ้าน รันทุกวัน ทุกวันเลย ห้าแสนที่จะไปโปะ ถ้าคิดที่ 3% คือตกวันละ 41 บาท ถ้าคุณมีเงินสด โปะไปเลยวันนี้ คือคุณได้ผลตอบแทนทันทีที่ 41 บาทต่อวัน อันนี้คือแน่เป็นแช่แป้ง ไม่มีทางเป็นอื่น
การลงทุน คือมีความเสี่ยง เอาเถอะ สมมุติว่า หาที่เสี่ยงน้อยมากๆละกัน แต่การลงทุน มีสิ่งนึงที่มักลืมคำนึงถึง คือเรื่องของเวลา
ลงทุนไปวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าผลตอบแทนจะมาวันนี้ ในระหว่างปีที่ผ่านไปกว่าผลตอบแทนจะมา (เช่นดอกเบี้ยหุ้นกู้ หรือกำไรจากธุรกิจใดๆ) มันมีเหตุให้เกิดได้ร้อยแปดพันเก้า เรื่องพวกนั้นท้งหมด เราเรียกว่าความเสี่ยง เกิดคุณตกงาน เกิดโดนลดเงินเดือน มันทำให้คุณมีทางเลือกน้อยลง
ถ้าเลือกโปะไป ยอดหนี้ลดลงเหลือ 2 ล้าน ถ้าเกิดตกงาน หรือโดนลดเงินเดือน ไปคุยกับแบงค์เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ การผ่อนต่อเดือนจะลดลง หนี้ 2.5 ล้าน ผมเดาว่าผ่อนแถวๆ 16000 บาทต่อเดือน
ถ้าปรับโครงสร้างที่ยอด 2 ล้าน อาจเหลือผ่อนเพียงเดือนละ 12000 - 13000 ได้
อันนี้ คือเอาประสบการณ์ตรงของผม จากวิกฤตโควิทมาเลย คือรายได้ต่อเดือนลดลงมหาศาล การไปปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารเพื่อให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง เป็นความเป็นความตายของครอบครัวเลยทีเดียว
ผมจึงไม่ค่อยอยากให้มามองหาความสำคัญ ของการได้ผลตอบแทนเพิ่มเพียง 2-3% เทียบกับความเสี่ยงที่จะเผชิญในวิกฤตครับ ในยามคับขัน หนี้ที่น้อย จะบีบรัดคุณ น้อยกว่าหนี้ที่เยอะ "เสมอ"
ดอกเบี้ยบ้าน รันทุกวัน ทุกวันเลย ห้าแสนที่จะไปโปะ ถ้าคิดที่ 3% คือตกวันละ 41 บาท ถ้าคุณมีเงินสด โปะไปเลยวันนี้ คือคุณได้ผลตอบแทนทันทีที่ 41 บาทต่อวัน อันนี้คือแน่เป็นแช่แป้ง ไม่มีทางเป็นอื่น
การลงทุน คือมีความเสี่ยง เอาเถอะ สมมุติว่า หาที่เสี่ยงน้อยมากๆละกัน แต่การลงทุน มีสิ่งนึงที่มักลืมคำนึงถึง คือเรื่องของเวลา
ลงทุนไปวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าผลตอบแทนจะมาวันนี้ ในระหว่างปีที่ผ่านไปกว่าผลตอบแทนจะมา (เช่นดอกเบี้ยหุ้นกู้ หรือกำไรจากธุรกิจใดๆ) มันมีเหตุให้เกิดได้ร้อยแปดพันเก้า เรื่องพวกนั้นท้งหมด เราเรียกว่าความเสี่ยง เกิดคุณตกงาน เกิดโดนลดเงินเดือน มันทำให้คุณมีทางเลือกน้อยลง
ถ้าเลือกโปะไป ยอดหนี้ลดลงเหลือ 2 ล้าน ถ้าเกิดตกงาน หรือโดนลดเงินเดือน ไปคุยกับแบงค์เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ การผ่อนต่อเดือนจะลดลง หนี้ 2.5 ล้าน ผมเดาว่าผ่อนแถวๆ 16000 บาทต่อเดือน
ถ้าปรับโครงสร้างที่ยอด 2 ล้าน อาจเหลือผ่อนเพียงเดือนละ 12000 - 13000 ได้
อันนี้ คือเอาประสบการณ์ตรงของผม จากวิกฤตโควิทมาเลย คือรายได้ต่อเดือนลดลงมหาศาล การไปปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารเพื่อให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง เป็นความเป็นความตายของครอบครัวเลยทีเดียว
ผมจึงไม่ค่อยอยากให้มามองหาความสำคัญ ของการได้ผลตอบแทนเพิ่มเพียง 2-3% เทียบกับความเสี่ยงที่จะเผชิญในวิกฤตครับ ในยามคับขัน หนี้ที่น้อย จะบีบรัดคุณ น้อยกว่าหนี้ที่เยอะ "เสมอ"
แสดงความคิดเห็น
โปะบ้าน ดีกว่า ลงทุน จริงหรือ?
- ยอดกู้บ้าน 2.5M
- ดอกเบี้ย 3%ต่อปี (ถ้าดอกเบี้ยมากกว่านี้มีแผนจะรีไฟแนนซ์ทุก3ปี)
- มีเงินก้อนอยู่ 5แสน
เคยอ่านพบบางคนบอกว่า "นำเงิน5แสนมาโปะบ้าน จะช่วยลดดอกเบี้ยบ้านได้เยอะมากในระยะยาว" อันนี้จริงครับไม่เถียง
แต่อยากทราบว่า ...
ถ้าผมมั่นใจว่าสามารถนำเงิน5แสนมาลงทุนได้กำไรมากกว่า3%ต่อปี (ทุกปี แต่อาจจะ4-6%ก็แล้วแต่ปีนั้นๆครับ) ซึ่งมากกว่าดอกเบี้ยบ้านแน่นอน
(เป็นการซื้อหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ของราชการครับ กำไรต่อปีค่อนข้างคงที่ เรื่องความเสี่ยงผมพอรู้มาบ้างครับ ขอไม่พูดถึง)
มองเฉพาะเงินก้อน5แสนนี้นะครับ โปะครั้งเดียวหรือลงทุนครั้งเดียวทั้งก้อน ไม่รวมถึงการโปะเพิ่มหรือลงทุนเพิ่มในแต่ละเดือนครับ
แบบนี้การโปะบ้านยังคุ้มกว่าในการลดดอกเบี้ยได้เยอะในระยะยาวอยู่ไหมครับ หรือ การนำเงินไปลงทุนจะได้คุ้มกว่าในระยะเวลาพอๆกันครับ