ตามความเชื่อของคนโบราณที่ว่า ไปก่อนไก่ กลับก่อนอีกา
ตามความเชื่อของคนทางบ้านผม ในภาคเหนือตอนบน ตามที่ได้เกริ่นเอาไว้ ภายหลังวันฌาปนกิจศพ ให้ญาติไปเก็บกระดูก ในช่วงเวลาก่อนไก่ขัน
และกลับออกมา ก่อนอีกาจะออกจากรัง ช่วงเวลาก็คงจะประมาณตี 3-4 ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเล่านี้ เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนครับ
ซึ่งตอนนั้น ยังคงใช้เชิงตะกอนเผาศพ ยังไม่มีเมรุให้ใช้อย่างในปัจจุบัน รวมทั้งปัจจัยที่น่าขนลุกคือ บรรยากาศภายในเขตสุสาน ซึ่งเป็นป่าจริงๆ เป็นป่าที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ พื้นที่เกือบร้อยไร่ แยกต่างหากจากเขตวัด เขตชุมชน สมัยก่อนใช้การฝังเป็นหลัก พื้นที่ป่าช้าไม่ได้ถูกบุกรุกเหมือนทางภาคอื่น จึงเป็นป่าของชุมชนโดยเเท้จริง
การเตรียมตัวของญาติมิตรก่อนไปสุสาน ทุกคนที่ตกลงใจจะไป จะต้องเเต่งกายมิดชิด และเตรียมพร้อมก่อนจะเข้านอน เวลาตื่นต้องไม่พูดคุยบอกกล่าวอะไร กันอีก ตอนปลุกเรียกกันก็เพียงแตะตัว เขย่าตัว เป็นที่เข้าใจกันแล้ว ทุกอย่างจะต้องดำเนินการไปอย่างเงียบเชียบที่สุด รวมทั้งในขณะเดินทาง จะต้องไปด้วยการเดินเท้าเท่านั้น ไม่มีการใช้ไฟฉายนำทาง
โดยมีสัปเหร่อมาคอยท่าอยู่เเล้วหน้าบ้าน สะพายย่ามกับเครื่องมือ เพื่อทำพิธีดับไฟในเชิงตะกอน รวมทั้งรับสาส์นจากโลกหหลังความตาย หมายถึงคนตายยังมีห่วงอะไรกับคนทางบ้านอยู่บ้าง สัปเหร่อจะมีวิธีรับรู้ และจะเรียกญาติคนใดคนหนึ่งมาทำพิธีตอนนั้นเลย เพื่อบอกกล่าววิญญาณให้ไปสู่สุขคติภพ
เคยไหม ประสบการณ์ขวัญหัวลุก ที่ต้องไปเก็บกระดูกหลังเผาเสร็จในเวลาเช้ามืด
ตามความเชื่อของคนทางบ้านผม ในภาคเหนือตอนบน ตามที่ได้เกริ่นเอาไว้ ภายหลังวันฌาปนกิจศพ ให้ญาติไปเก็บกระดูก ในช่วงเวลาก่อนไก่ขัน
และกลับออกมา ก่อนอีกาจะออกจากรัง ช่วงเวลาก็คงจะประมาณตี 3-4 ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเล่านี้ เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนครับ
ซึ่งตอนนั้น ยังคงใช้เชิงตะกอนเผาศพ ยังไม่มีเมรุให้ใช้อย่างในปัจจุบัน รวมทั้งปัจจัยที่น่าขนลุกคือ บรรยากาศภายในเขตสุสาน ซึ่งเป็นป่าจริงๆ เป็นป่าที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ พื้นที่เกือบร้อยไร่ แยกต่างหากจากเขตวัด เขตชุมชน สมัยก่อนใช้การฝังเป็นหลัก พื้นที่ป่าช้าไม่ได้ถูกบุกรุกเหมือนทางภาคอื่น จึงเป็นป่าของชุมชนโดยเเท้จริง
การเตรียมตัวของญาติมิตรก่อนไปสุสาน ทุกคนที่ตกลงใจจะไป จะต้องเเต่งกายมิดชิด และเตรียมพร้อมก่อนจะเข้านอน เวลาตื่นต้องไม่พูดคุยบอกกล่าวอะไร กันอีก ตอนปลุกเรียกกันก็เพียงแตะตัว เขย่าตัว เป็นที่เข้าใจกันแล้ว ทุกอย่างจะต้องดำเนินการไปอย่างเงียบเชียบที่สุด รวมทั้งในขณะเดินทาง จะต้องไปด้วยการเดินเท้าเท่านั้น ไม่มีการใช้ไฟฉายนำทาง
โดยมีสัปเหร่อมาคอยท่าอยู่เเล้วหน้าบ้าน สะพายย่ามกับเครื่องมือ เพื่อทำพิธีดับไฟในเชิงตะกอน รวมทั้งรับสาส์นจากโลกหหลังความตาย หมายถึงคนตายยังมีห่วงอะไรกับคนทางบ้านอยู่บ้าง สัปเหร่อจะมีวิธีรับรู้ และจะเรียกญาติคนใดคนหนึ่งมาทำพิธีตอนนั้นเลย เพื่อบอกกล่าววิญญาณให้ไปสู่สุขคติภพ