บอกก่อนเลยว่า นี่เป็นไม่ใช่ไอดีผม เพราะไอดีผมนั้นยังไม่ได้ยืนยันตัวตน Orz
ไหนๆก็ไหนๆ ขอรีวิวที่ตัวเครื่อง ACER OJO 500 [VR] กันก่อนเลยละกันนะครับ
Spec : หาดูจาก google น่าจะสะดวกกว่า หลักๆก็คล้ายๆ Oculus
ความรู้สึกตอนใส่ : จริงๆทำมาได้เบานะครับ ใส่สบายปรับแน่นก็ยังไม่รู้สึกว่าถูกกดมาก มีแถมหูฟังมาให้ด้วย
แต่ปัญหาสำคัญเลยคือ "มันไม่แนบหน้า" แล้วมันทำให้ปรับโฟกัสตำำแหน่งของตายากมาก ตอนแรกผมนี่คือมีปัญหาเลยว่า มองยังไงก็ไม่ชัด (สรุปคือต้องปรับขึ้นลงนิดหน่อยให้มันตรงกับตา) ทีนี้ปัญหาเรื่องไม่แนบหน้า มันก็เลยตามมาด้วยพอเรา"ก้มหน้า" มันก็จะมองไม่ค่อยเห็นจอ VR ละ จะเห็นเป็นเท้าของตัวเองแทน เพราะมันจะมีช่องว่างระหว่างหน้าเรากับตัวแว่น ทีนี้ปัยหาก็จะตามมาหลังจากเราเงยหน้าขึ้น นั่นก็คือ โฟกัสที่ปรับไว้ตอนแรกมันจะเลื่อนนั่นเอง..
จบพาทแรก สำหรับการรีวิวตัวเครื่อง ส่วนเรื่องอื่นเป็นยังไงไม่แน่ใจเพราะเอามาใช้ได้ คืนเดียวตื่นเช้ามา.. พรึบ!! "หมากัดสายไฟ"...
ครับคุณอ่านไม่ผิดหรอก "หมากัดสายไฟ" ซึ่งสายไฟของ ACER OJO 500 จะมีความแตกต่างจากเจ้าอื่นตรงที่ มันเป็นสาย build in ไม่ใช่เอาสายนอกมาเสียบกับแว่น ดังนั้น ถ้าสายมีปัญหาเราก็ไม่สามารถหาสายอื่นมาเสียบแทนกันได้ .. RIP
โอเคทีนี้เรามาเข้าเรื่องหลักของเรากันดีกว่า แน่นอนปัญหาแบบนี้มีทางเดียวคือ "ส่งซ่อมศูนย์" แต่พอดีที่จังหวัดเราไม่มีศูนย์ acer เลยต้องส่งไปร้านคอมพิวเตอร์เจ้าหนึ่งแทน
ทางร้านคอมพิวเตอร์นั้นแจ้งว่า จากปัญหาของเรามันไม่อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเวลารับประกัน(แน่ล่ะก็เพิ่งซื้อเมื่อวาน) ทางศูนย์น่าจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ โดยที่ให้เราจ่ายค่า "ส่วนต่าง" .. มาถึงตรงนี้เพื่อนๆคิดว่า "ค่าส่วนต่าง" ของสายไฟแบบ build in เนี่ย.. มันควรจะราคาเท่าไหร่กันนะ?
นั่นสิ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน มีทางเดียวที่จะรู้ได้ นั่นคือ.. อ่านต่อ >>
ทีนี้เราก็เลยต้องส่งน้อง ACER OJO(ด้วย) ไปยังศูนย์ ส่วนในใจนั้นวางแผนจะฆ่าหมาตัวเองอยู่
แล้วก็เฝ้ารอให้ทางร้านติดต่อกลับมา...
และแล้ววันนี้ก็มาถึง (วันที่ผมนั่งพิมพ์เนี่ยแหละ) ทางร้านคอม ก็โทรมาหา **คือเอาจริงๆมันมีเรื่องก่อนหน้านี้อีก พวกปัญหาการโทรไปเช็คกับ call center ทุกคนคงเข้าใจดี และอีกปัญหานึงคือ เบอร์ที่ผมทิ้งไว้ให้ร้านมันดันโดนปิด เลยติดต่อกันล่าช้าเล็กน้อย แต่ตรงนั้นข้ามๆไปละกัน**
ทางร้านโทรมาบอกผมว่า "อาการเสียของผมไม่อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน ดังนั้นศูนย์จะทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ในราคา '13,000.-' " ..
ผมนี่อึ้งไปเลย มือคือนิ่ง หน้าคือเงิบ เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะ ACER OJO(ด้วย) เครื่องนั้น ผมซื้อมาในราคา 12,900.- เท่านั้นเอง
ผมก็เลยบอกกลับทางร้านไปว่า ผมซื้อมาในราคา 12900.- ทางร้านเลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวให้ผมคุยกับทางศุนย์ ACER เลย
แล้ว ศูนย์ acer ก็โทรมา แล้วก็พูดเหมือนที่ร้านคอมพูดนั่นแหละ
ผมเลยบอกไปเหมือนเดิมว่า ผมนั้นซื้อมาในราคา 12900.- .. ปลายสายก็เหมือนจะเงียบๆไป แล้วก็ถามว่า ผมไม่ได้แจ้งราคากับทาง call center ไว้ก่อนหรอ?
ผมก็ งง? ก็ call center ไม่เคยถามผมเรื่องราคาแล้ว ทำไมผมต้องไปบอกว่าซื้อมาเท่าไหร่?
ผมเลยถามไปว่า สรุปคือ ถ้าผมจะเปลี่ยนเครื่อง ผมต้องจ่าย 13,000 หรอ? แล้วมันต่างจากผมไปซื้อเครื่องใหม่ยังไง?
ปลายสายก็บอก ค่ะ เนื่องจากบริษัทไม่มีการสำรองอะไหล่ในส่วนนี้ แล้วก็ส่วนที่ชำรุดไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน ดังนั้นถ้าจะให้เปลี่ยนเครื่อง ลูกค้าก็ต้องชำระ 13000 บาท ค่ะ..
ผมนี่เงิบไปอีก คือเพื่อนๆเข้าใจความรู้สึกมั้ย คือโอเคของเราพัง ไม่อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน ถ้าซ่อมแล้วต้องเสียเงิน ก็โอเค..รับได้ (ถ้าไม่แพงไปอะนะ)
แต่นี่ทางศูนย์ ไม่ แม้แต่จะยื่นขอเสนออย่างอื่น มีเพียงแค่ว่า ไม่จ่าย 13000 ก็เอาเครื่องของคุณคืนไป (ผมสรุปใจความให้ประมาณนี้นะ)
ทีนี้เรามาวิเคราะห์กันเล่นๆ
สินค้าตัวนี้ชื่อว่า ACER OJO 500 เป็นของ ACER เอง แต่ตัวบริษัทกลับไม่มีความสามารถในการซ่อม ทั้งๆที่มันก็แค่ "สายชำรุด"
ไม่แม้แต่จะยื่นความพยายามจะตัด-ต่อสายให้ใหม่ หรือหนทางอย่างอื่น ทั้งๆที่ลูกค้าเพิ่งจะซื้อของของคุณมาได้แค่ 1 วัน แล้วความประทับใจต่อบริษัทนี้เค้าจะอยู่ตรงไหน??
ที่ผมมาตั้งกระทู้ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าผมโวยวายอยากได้ของใหม่ฟรีๆ หรืออยากให้ซ่อมฟรีๆนะ แต่มันต้องสมเหตุสมผลมั้ยล่ะ?
หรือคุณก็ควรมีความพยายามช่วยเหลือลูกค้าไหม? ผมพร้อมจ่ายนะ ในราคาที่เหมาะสม ถ้ามันต้องซ่อมต้องแก้ไข
แต่คุณไม่ให้ทางเลือกผมเลย อันนี้ผมคงต้องขอบอกกันตามตรงเลยว่า หลังจากนี้ผมคงไม่หยิบสินค้าที่มีอบรนด์ ACER แปะอยู่อีกไปตลอดกาล
เนื่องจากบริการหลังการขายของคุณมัน ห่วย เข้าขั้นทุเรศ
สุดท้ายเรื่องนี้จบลงที่ผมต้องไปคุยกับที่ร้านคอมว่า พี่พอจะซ่อมให้ได้มั้ย ซึ่งพี่เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวรอของส่งกลับมา จะลองพยายามหาทางแก้ให้อีกที"
เนี่ย!! เห็นปะ? แค่เนี้ย แค่ถ้าคำพูดนี้ออกมาจากปากของ ACER นะผมคงไม่ต้องมานั่งตั้งกระทู้ด่า บริษัทของคุณในพันทิบหรอกนะ
ลาก่อน ACER (OJO ด้วย)
[รีวิว] การให้บริการของ ACER จากการใช้ ACER OJO 500
ไหนๆก็ไหนๆ ขอรีวิวที่ตัวเครื่อง ACER OJO 500 [VR] กันก่อนเลยละกันนะครับ
Spec : หาดูจาก google น่าจะสะดวกกว่า หลักๆก็คล้ายๆ Oculus
ความรู้สึกตอนใส่ : จริงๆทำมาได้เบานะครับ ใส่สบายปรับแน่นก็ยังไม่รู้สึกว่าถูกกดมาก มีแถมหูฟังมาให้ด้วย
แต่ปัญหาสำคัญเลยคือ "มันไม่แนบหน้า" แล้วมันทำให้ปรับโฟกัสตำำแหน่งของตายากมาก ตอนแรกผมนี่คือมีปัญหาเลยว่า มองยังไงก็ไม่ชัด (สรุปคือต้องปรับขึ้นลงนิดหน่อยให้มันตรงกับตา) ทีนี้ปัญหาเรื่องไม่แนบหน้า มันก็เลยตามมาด้วยพอเรา"ก้มหน้า" มันก็จะมองไม่ค่อยเห็นจอ VR ละ จะเห็นเป็นเท้าของตัวเองแทน เพราะมันจะมีช่องว่างระหว่างหน้าเรากับตัวแว่น ทีนี้ปัยหาก็จะตามมาหลังจากเราเงยหน้าขึ้น นั่นก็คือ โฟกัสที่ปรับไว้ตอนแรกมันจะเลื่อนนั่นเอง..
จบพาทแรก สำหรับการรีวิวตัวเครื่อง ส่วนเรื่องอื่นเป็นยังไงไม่แน่ใจเพราะเอามาใช้ได้ คืนเดียวตื่นเช้ามา.. พรึบ!! "หมากัดสายไฟ"...
ครับคุณอ่านไม่ผิดหรอก "หมากัดสายไฟ" ซึ่งสายไฟของ ACER OJO 500 จะมีความแตกต่างจากเจ้าอื่นตรงที่ มันเป็นสาย build in ไม่ใช่เอาสายนอกมาเสียบกับแว่น ดังนั้น ถ้าสายมีปัญหาเราก็ไม่สามารถหาสายอื่นมาเสียบแทนกันได้ .. RIP
โอเคทีนี้เรามาเข้าเรื่องหลักของเรากันดีกว่า แน่นอนปัญหาแบบนี้มีทางเดียวคือ "ส่งซ่อมศูนย์" แต่พอดีที่จังหวัดเราไม่มีศูนย์ acer เลยต้องส่งไปร้านคอมพิวเตอร์เจ้าหนึ่งแทน
ทางร้านคอมพิวเตอร์นั้นแจ้งว่า จากปัญหาของเรามันไม่อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเวลารับประกัน(แน่ล่ะก็เพิ่งซื้อเมื่อวาน) ทางศูนย์น่าจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ โดยที่ให้เราจ่ายค่า "ส่วนต่าง" .. มาถึงตรงนี้เพื่อนๆคิดว่า "ค่าส่วนต่าง" ของสายไฟแบบ build in เนี่ย.. มันควรจะราคาเท่าไหร่กันนะ?
นั่นสิ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน มีทางเดียวที่จะรู้ได้ นั่นคือ.. อ่านต่อ >>
ทีนี้เราก็เลยต้องส่งน้อง ACER OJO(ด้วย) ไปยังศูนย์ ส่วนในใจนั้นวางแผนจะฆ่าหมาตัวเองอยู่
แล้วก็เฝ้ารอให้ทางร้านติดต่อกลับมา...
และแล้ววันนี้ก็มาถึง (วันที่ผมนั่งพิมพ์เนี่ยแหละ) ทางร้านคอม ก็โทรมาหา **คือเอาจริงๆมันมีเรื่องก่อนหน้านี้อีก พวกปัญหาการโทรไปเช็คกับ call center ทุกคนคงเข้าใจดี และอีกปัญหานึงคือ เบอร์ที่ผมทิ้งไว้ให้ร้านมันดันโดนปิด เลยติดต่อกันล่าช้าเล็กน้อย แต่ตรงนั้นข้ามๆไปละกัน**
ทางร้านโทรมาบอกผมว่า "อาการเสียของผมไม่อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน ดังนั้นศูนย์จะทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ในราคา '13,000.-' " ..
ผมนี่อึ้งไปเลย มือคือนิ่ง หน้าคือเงิบ เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะ ACER OJO(ด้วย) เครื่องนั้น ผมซื้อมาในราคา 12,900.- เท่านั้นเอง
ผมก็เลยบอกกลับทางร้านไปว่า ผมซื้อมาในราคา 12900.- ทางร้านเลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวให้ผมคุยกับทางศุนย์ ACER เลย
แล้ว ศูนย์ acer ก็โทรมา แล้วก็พูดเหมือนที่ร้านคอมพูดนั่นแหละ
ผมเลยบอกไปเหมือนเดิมว่า ผมนั้นซื้อมาในราคา 12900.- .. ปลายสายก็เหมือนจะเงียบๆไป แล้วก็ถามว่า ผมไม่ได้แจ้งราคากับทาง call center ไว้ก่อนหรอ?
ผมก็ งง? ก็ call center ไม่เคยถามผมเรื่องราคาแล้ว ทำไมผมต้องไปบอกว่าซื้อมาเท่าไหร่?
ผมเลยถามไปว่า สรุปคือ ถ้าผมจะเปลี่ยนเครื่อง ผมต้องจ่าย 13,000 หรอ? แล้วมันต่างจากผมไปซื้อเครื่องใหม่ยังไง?
ปลายสายก็บอก ค่ะ เนื่องจากบริษัทไม่มีการสำรองอะไหล่ในส่วนนี้ แล้วก็ส่วนที่ชำรุดไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน ดังนั้นถ้าจะให้เปลี่ยนเครื่อง ลูกค้าก็ต้องชำระ 13000 บาท ค่ะ..
ผมนี่เงิบไปอีก คือเพื่อนๆเข้าใจความรู้สึกมั้ย คือโอเคของเราพัง ไม่อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน ถ้าซ่อมแล้วต้องเสียเงิน ก็โอเค..รับได้ (ถ้าไม่แพงไปอะนะ)
แต่นี่ทางศูนย์ ไม่ แม้แต่จะยื่นขอเสนออย่างอื่น มีเพียงแค่ว่า ไม่จ่าย 13000 ก็เอาเครื่องของคุณคืนไป (ผมสรุปใจความให้ประมาณนี้นะ)
ทีนี้เรามาวิเคราะห์กันเล่นๆ
สินค้าตัวนี้ชื่อว่า ACER OJO 500 เป็นของ ACER เอง แต่ตัวบริษัทกลับไม่มีความสามารถในการซ่อม ทั้งๆที่มันก็แค่ "สายชำรุด"
ไม่แม้แต่จะยื่นความพยายามจะตัด-ต่อสายให้ใหม่ หรือหนทางอย่างอื่น ทั้งๆที่ลูกค้าเพิ่งจะซื้อของของคุณมาได้แค่ 1 วัน แล้วความประทับใจต่อบริษัทนี้เค้าจะอยู่ตรงไหน??
ที่ผมมาตั้งกระทู้ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าผมโวยวายอยากได้ของใหม่ฟรีๆ หรืออยากให้ซ่อมฟรีๆนะ แต่มันต้องสมเหตุสมผลมั้ยล่ะ?
หรือคุณก็ควรมีความพยายามช่วยเหลือลูกค้าไหม? ผมพร้อมจ่ายนะ ในราคาที่เหมาะสม ถ้ามันต้องซ่อมต้องแก้ไข
แต่คุณไม่ให้ทางเลือกผมเลย อันนี้ผมคงต้องขอบอกกันตามตรงเลยว่า หลังจากนี้ผมคงไม่หยิบสินค้าที่มีอบรนด์ ACER แปะอยู่อีกไปตลอดกาล
เนื่องจากบริการหลังการขายของคุณมัน ห่วย เข้าขั้นทุเรศ
สุดท้ายเรื่องนี้จบลงที่ผมต้องไปคุยกับที่ร้านคอมว่า พี่พอจะซ่อมให้ได้มั้ย ซึ่งพี่เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวรอของส่งกลับมา จะลองพยายามหาทางแก้ให้อีกที"
เนี่ย!! เห็นปะ? แค่เนี้ย แค่ถ้าคำพูดนี้ออกมาจากปากของ ACER นะผมคงไม่ต้องมานั่งตั้งกระทู้ด่า บริษัทของคุณในพันทิบหรอกนะ
ลาก่อน ACER (OJO ด้วย)