กระทู้นี้ JobThai Tips จะชวนทุกคนไปพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกการทำงานหลังจากมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผ่านรายการ Oh My Job! Podcast
สถานการณ์ของตลาดแรงงานช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นไม่ปกติเหมือนปีก่อน ๆ เพราะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นั้นจะเป็นช่วงที่คนทำงานมีการเปลี่ยนงานกันค่อนข้างเยอะ ทำให้มีจำนวนประกาศงานใน JobThai สูงถึง 120,000 อัตรา แต่หลังจากที่ COVID-19 มีการระบาดในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคมประกาศงานก็เริ่มลดลง โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่มีการล็อกดาวน์ ประกาศงานลดลงไปถึง 18% จากเดือนมีนาคม ก่อนบริษัทจะทยอยกลับมาเปิดรับมากขึ้นในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มคลายล็อกดาวน์ ถึงจะไม่ได้มีจำนวนมากเหมือนก่อนที่จะมี COVID-19 แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
นักศึกษาจบใหม่ ได้รับผลกระทบหนักในช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้นถือเป็นช่วงที่เด็กจบใหม่เริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานพอดี จนหลาย ๆ คนเรียกกันว่า “เด็กจบใหม่รุ่น COVID-19” ซึ่งเรามีโอกาสพูดคุยกับคนกลุ่มนี้พอสมควร ทำให้ได้ยินเด็ก ๆ กลุ่มนี้บ่นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเจอ บางคนจบมาก็ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี คนที่มีแผนจะเรียนต่อต่างประเทศ สอบและหาที่เรียนไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเบรกไว้ก่อน เพราะไม่สามารถเดินทางไปเรียนได้ คนที่กำลังจะสมัครงานก็รู้สึกว่ามันท้าทายมากในการหางานยุคนี้ หางานยากกว่าเดิม มีโอกาสได้เลือกทำงานที่อยากทำจริง ๆ น้อยลง
ในปีนี้มีเด็กจบใหม่มากถึง 5 แสนกว่าคน และมีการคาดการณ์ไว้ว่าพวกเขาอาจจะเสี่ยงอยู่ในภาวะคนว่างงานเพราะยังหางานไม่ได้ค่อนข้างสูง ซึ่งการแข่งขันในปีนี้ก็สูงขึ้นมาก จากข้อมูลของ JobThai ในปีก่อนอัตราการแข่งขันเฉลี่ยอยู่ที่ 5 คน ต่อ 1 ตำแหน่งงาน แต่ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 คน ต่อ 1 ตำแหน่งงาน
คนทำงานต้องรับมือกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจก็คือ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป หลายบริษัทมีการให้ทำงานแบบ Work from Home ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับทำงานแบบนี้ ตัวอย่างจาก CareerVisa Thailand ปกติก็มีการทำงานที่ค่อนข้าง Flexible อยู่แล้ว พอมาช่วงเดือนมีนาคมที่ COVID-19 เริ่มระบาดหนักบริษัทก็ให้ทำงานที่บ้านแบบเต็มตัว ไม่อยากให้เสี่ยงเดินทางออกมาในที่สาธารณะ ช่วงแรก ๆ หรือมีปัญหาทั้งเรื่องการปรับตัวในการทำงานที่บ้าน และมีปัญหาสุขภาพ เพราะอยู่บ้านก็ทำงานในห้องนอน ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ ผ่านไปสักระยะจึงเริ่มมีการจัดพื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะกับการทำงานอย่างจริงจังมากมากขึ้น ซึ่งหลังจากปรับตัวได้แล้วก็พบว่าข้อดีของการทำงานแบบ Work from Home คือไม่ต้องเผชิญกับการเดินทางไปทำงานที่ทำให้ทั้งเสียเวลา เสียเงิน หรือเสียอารมณ์จากการต้องเจอรถติด
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และคนทำงานต้อง Upskills ตามให้ทัน
การแพร่ระบาดของ COVID-19 และการที่คนทำงานต้องทำงานแบบ Work from Home ทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างมากและเข้ามาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นเหมือนตัวเร่งให้ธุรกิจต้อง Disrupt ตัวเอง คนทำงานเลยต้องมีการ Up ฃskills เพื่อตามให้ทันกับเทรนด์ธุรกิจอยู่เสมอ เพราะเราต้องพึ่งพาเทคโนโลยีกันมากขึ้น ทำให้นายจ้างจะให้ความสำคัญและมองหาพนักงานที่มีทักษะและ Mindset ด้านดิจิทัล
จะเห็นว่าระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี เทรนด์ในโลกการทำงานก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ถ้าอยากรู้ว่ารูปแบบและวิธีการทำงานในแต่ละธุรกิจจะเดินต่อไปในทิศทางไหน เขามีกลยุทธ์ยังไง และคนทำงานอย่างเราควรจะ Upskills อะไรบ้าง ก็ต้องมาอัปเดตกันในรายการ Oh My Job! Podcast ติดตามได้
ที่นี่
เมื่อโลกการทำงานเปลี่ยนไป คนทำงานควรปรับตัวยังไงให้ทัน
สถานการณ์ของตลาดแรงงานช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นไม่ปกติเหมือนปีก่อน ๆ เพราะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นั้นจะเป็นช่วงที่คนทำงานมีการเปลี่ยนงานกันค่อนข้างเยอะ ทำให้มีจำนวนประกาศงานใน JobThai สูงถึง 120,000 อัตรา แต่หลังจากที่ COVID-19 มีการระบาดในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคมประกาศงานก็เริ่มลดลง โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่มีการล็อกดาวน์ ประกาศงานลดลงไปถึง 18% จากเดือนมีนาคม ก่อนบริษัทจะทยอยกลับมาเปิดรับมากขึ้นในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มคลายล็อกดาวน์ ถึงจะไม่ได้มีจำนวนมากเหมือนก่อนที่จะมี COVID-19 แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
นักศึกษาจบใหม่ ได้รับผลกระทบหนักในช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้นถือเป็นช่วงที่เด็กจบใหม่เริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานพอดี จนหลาย ๆ คนเรียกกันว่า “เด็กจบใหม่รุ่น COVID-19” ซึ่งเรามีโอกาสพูดคุยกับคนกลุ่มนี้พอสมควร ทำให้ได้ยินเด็ก ๆ กลุ่มนี้บ่นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเจอ บางคนจบมาก็ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี คนที่มีแผนจะเรียนต่อต่างประเทศ สอบและหาที่เรียนไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเบรกไว้ก่อน เพราะไม่สามารถเดินทางไปเรียนได้ คนที่กำลังจะสมัครงานก็รู้สึกว่ามันท้าทายมากในการหางานยุคนี้ หางานยากกว่าเดิม มีโอกาสได้เลือกทำงานที่อยากทำจริง ๆ น้อยลง
ในปีนี้มีเด็กจบใหม่มากถึง 5 แสนกว่าคน และมีการคาดการณ์ไว้ว่าพวกเขาอาจจะเสี่ยงอยู่ในภาวะคนว่างงานเพราะยังหางานไม่ได้ค่อนข้างสูง ซึ่งการแข่งขันในปีนี้ก็สูงขึ้นมาก จากข้อมูลของ JobThai ในปีก่อนอัตราการแข่งขันเฉลี่ยอยู่ที่ 5 คน ต่อ 1 ตำแหน่งงาน แต่ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10 คน ต่อ 1 ตำแหน่งงาน
คนทำงานต้องรับมือกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจก็คือ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป หลายบริษัทมีการให้ทำงานแบบ Work from Home ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับทำงานแบบนี้ ตัวอย่างจาก CareerVisa Thailand ปกติก็มีการทำงานที่ค่อนข้าง Flexible อยู่แล้ว พอมาช่วงเดือนมีนาคมที่ COVID-19 เริ่มระบาดหนักบริษัทก็ให้ทำงานที่บ้านแบบเต็มตัว ไม่อยากให้เสี่ยงเดินทางออกมาในที่สาธารณะ ช่วงแรก ๆ หรือมีปัญหาทั้งเรื่องการปรับตัวในการทำงานที่บ้าน และมีปัญหาสุขภาพ เพราะอยู่บ้านก็ทำงานในห้องนอน ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับการทำงานโดยเฉพาะ ผ่านไปสักระยะจึงเริ่มมีการจัดพื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะกับการทำงานอย่างจริงจังมากมากขึ้น ซึ่งหลังจากปรับตัวได้แล้วก็พบว่าข้อดีของการทำงานแบบ Work from Home คือไม่ต้องเผชิญกับการเดินทางไปทำงานที่ทำให้ทั้งเสียเวลา เสียเงิน หรือเสียอารมณ์จากการต้องเจอรถติด
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และคนทำงานต้อง Upskills ตามให้ทัน
การแพร่ระบาดของ COVID-19 และการที่คนทำงานต้องทำงานแบบ Work from Home ทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างมากและเข้ามาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นเหมือนตัวเร่งให้ธุรกิจต้อง Disrupt ตัวเอง คนทำงานเลยต้องมีการ Up ฃskills เพื่อตามให้ทันกับเทรนด์ธุรกิจอยู่เสมอ เพราะเราต้องพึ่งพาเทคโนโลยีกันมากขึ้น ทำให้นายจ้างจะให้ความสำคัญและมองหาพนักงานที่มีทักษะและ Mindset ด้านดิจิทัล
จะเห็นว่าระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี เทรนด์ในโลกการทำงานก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ถ้าอยากรู้ว่ารูปแบบและวิธีการทำงานในแต่ละธุรกิจจะเดินต่อไปในทิศทางไหน เขามีกลยุทธ์ยังไง และคนทำงานอย่างเราควรจะ Upskills อะไรบ้าง ก็ต้องมาอัปเดตกันในรายการ Oh My Job! Podcast ติดตามได้ ที่นี่