เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาผมกับแฟนได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เลยตกลงกันว่าจะฝากท้องไว้ที่ชาบูชิเลย เนื่องจากไม่ได้กินนานแล้ว เลยขึ้นไปที่ชั้น 5 ก็ได้โต๊ะบาร์ 2 ที่ ก็เป็นปกติทั่วไปนั่งโต๊ะก็เลือกน้ำซุปเสร็จแล้วไปตักของกินเล่นพวกปูอัด ปลาซาบะย่าง อันนี้ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมมีอยู่ 2 อย่างครับ
          อย่างแรกคือ สายพานไม่เต็ม บางช่วงถึงกับโล่งไป 4-5 จาน เคยกินที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ มาให้เรื่อยๆไม่ขาด  ในขณะที่ร้านไม่ได้มีลูกค้าเต็ม ไม่น่าจะถึงครึ่งของโต๊ะที่มีด้วยซ้ำ หันไปข้างหลังตรงครัวก็ปรากฏว่ามีพนักงานวางของอยู่คนเดียว ที่พีคกว่านั้นคือ ตลอดระยะเวลาที่นั่งกิน กุ้ง ผ่านหน้าผมไม่ถึง 5 จาน เห็ดฟางไม่มีผ่านมาเลย ซึ่งสำหรับผมเองก็ไม่มีปัญหาเพราะว่าสามารถสั่งกับพนักงานได้ แต่มีผู้หญิงนั่งบาร์ข้างๆมานั่งคนเดียว เข้าใจว่าไม่กล้าสั่ง เลยได้กินตามมีตามเกิด ส่วนพนักงานออนฟลอร์ มีอยู่หน้าร้านคนนึง แคชเชียร์คนนึง ผู้จัดการอีกคนนึง จะสั่งของหรือจะเติมน้ำจิ้มทีหันแล้วหันอีก พนักงานไปไหนหมด ปกติน่าจะมีพนักงานคอยรับบริการลูกค้าสัก 2 คนต่อรอบวันนั้นผมเข้าใจว่าผู้จัดการมาเก็บจาน เช็ดโต๊ะเองเลย สิ่งที่สังเกตุได้จากการมาใช้บริการครั้งนี้คือ ชาบูชิเก็บเงินลูกค้าเต็มจำนวน แต่บริการที่ได้รับกลับขาดๆเกินๆ ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเลย ถ้าเทียบจากเมื่อก่อนที่ราคาน้อยกว่านี้แต่กลับได้รับบริการและอาหารที่ทั่วถึงกว่านี้
          อย่างที่สอง กุ้ง สำหรับกุ้งของสาขานี้กินแรกๆผมรู้สึกว่า มันทำไมเค็มๆ น้ำจิ้มออกรสเค็มหรือเปล่าก็ไม่ใช่ เลยลองกินกุ้งเปล่าๆ ใช่เลยครับ กินเปล่าๆก็เค็มแล้ว ยิ่งจิ้มน้ำจิ้มเข้าไปอีกเค็มหนักกว่าเดิม 
          ผมเลยอยากถามถึงมาตรฐานของชาบูชินะครับ ว่าชาบูระดับราคาเกือบสี่ร้อยบาท ที่แพงนี่เพราะแพงค่าเช่าใช่มั้ยครับ คุณภาพและรสชาดอาหารผมว่าไม่ต่างจากจากชาบู Local ราคา 199 เลยนะครับ (ชาบูข้างนอกทั่วไปใช้กุ้งสด ไม่ใช่กุ้งเด้ง แถมปลาหมึกสด ไม่ใช่ปลาหมึกบั้ง บวกด้วยหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์  แถมมีน้ำจิ้มซีฟู้ดให้ด้วย) ไปสองคนกับแฟนจ่ายเงินไปเกือบ 800 บาท ออกมามองหน้ากัน แล้วก็มีคำพูดเดียวที่เหมือนกันคือ อิ่ม....แต่ไม่อร่อย