ลอยกระทง timeline นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก ตอนที่ 5 สุโขทัย#ในคืนที่จำใจไปนอนพิษณุโลก

[CR] ลอยกระทง timeline นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก ตอนที่ 5 สุโขทัย#ในคืนที่จำใจไปนอนพิษณุโลก

กระทู้รีวิว

สุ โข ทั ย timeline #2

เช้าตรู่วันที่ 31 ตุลาคม 2563 06.40 น.

วัดตระพังทองอยู่ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยราว 300 เมตร แต่ถือว่าอยู่ในบริเวณเดียวกัน เป็นวัดที่ยังคงเป็นศาสนสถานในปัจจุบัน โดยในเช้าวันนั้นมีกิจกรรม “ใส่บาตรสะพานบุญ รับอรุณสุโขทัย” นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมกิจกรรมเยอะเลยครับ และส่วนใหญ่จะใส่ชุดไทยมาตักบาตรพร้อมเพื่อมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย อากาศเช้าวันนั้นสดใส ลมเย็นๆ พัดเอื่อยๆ แมกไม้บริเวณวัดร่มครึ้ม และสว่างตาด้วยแสงสีนวลจากหลอดดวงเล็กที่ถูกบรรจุอยู่ในโคมไฟโบราณสีเหลืองที่กำลังแข่งส่องแสงกับแสงแรกจากพระอาทิตย์ยามเช้าที่กำลังโผล่ขึ้นพ้นยอดไม้ทางทิศตะวันออก ที่ราวสะพานถูกวางเรียงไปด้วยถ้วยเทียนดินเผาขนาดเล็กยาวไปตลอดระยะของราวสะพาน เราแวะซื้อชุดตัดบาตรที่ตลาดวัดตระพังทองที่อยู่ไม่ไกลจากสะพานแห่งนี้แล้วรีบเร่งเดินไปจับจองพื้นที่

ราว 06.10 น. พระสงฆ์เริ่มเดินบิณฑบาตรโดยเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นของสะพานฝั่งหนึ่ง เดินเรื่อยไปตามทางจนไปสิ้นสุดที่ปลายสะพานอีกฝั่งหนึ่ง สีหน้าทุกคนต่างใส่บาตรด้วยจิตแจ่มใสและบรรยากาศที่สดชื่น และเกือบทุกคนที่หลังจากใส่บาตรเสร็จก็ไม่พลาดโอกาสจะถ่ายรูปความสวยงามของบรรยากาศเก็บเป็นความทรงจำ

จริงๆ แล้ว วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 เช้าเราเข้าไปตักบาตรที่วัดตระพังทองก่อนที่จะกลับไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก หลังจากนั้นค่อยเดินทางไปสวรรคโลก (ตอนที่ 4) แต่ขออนุญาติยกกิจกรรมตักบาตรยามเช้านี้ไว้ในกระทู้นี้ครับ คิดว่าน่าจะเข้ากับตอนสุโขทัยนี้มากกว่า และขออนุญาตพาสมาที่หลังจากขึ้นไปสวรรคโลกแล้ว และลงมาสุโขทัยเพื่อจะเช็คอินน์เข้าโรงแรม อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดไทยตามที่เราวางแผน

ที่โรงแรมซึ่งเราจองล่วงหน้าไว้ประมาณ 1 เดือน เวลา ณ ขณะนั้นราว 15.06 น.

“เช็คอินครับ จองไว้ 2 ห้อง ชื่อxxx xxx” เราเปิดการสนทนา

“ไม่มีชื่อตามที่แจ้งนะ และตอนนี้ห้องก็เต็มหมดแล้ว” ชายอายุราวหลังเกษียณตอบกลับมาพร้อมเปิดสมุดปกน้ำเงินเล่มใหญ่กลับไปกลับมา

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องยาวระหว่างเรา แอพพลิเคชั่นเอเยนซี่ และชายผู้กำลังเผชิญหน้ากันอยู่นี้ เรายืนยันสถานะการจองในแอพพลิเคชั่นที่มือถือในมือที่ยังคงเป็นปกติ (คือมีห้องและสามารถเข้าพักได้) และหลังจากที่น้าผู้ชายพยายามหาข้อมูลการจองของเราในเอกสารของทางโรงแรม ซึ่งก็ใช้เวลาพักใหญ่ สุดท้ายเราเลือกที่จะโทรไปที่คอลเซนเตอร์ของแอพฯ และทุกคนจะเข้าใจถ้าเคยมีปัญหาในการเข้าพักโรงแรมจากการจองผ่านแอพฯ ชนิดนี้ว่าการติดต่อคอลเซนเตอร์จนกว่าจะได้คุยกับคนแทนที่จะเป็น AI นั้นนานแสนนาน ยังดีที่ปัญหาเกิดตอนที่เราอยู่ในประเทศไทย แต่มันไม่ดีตรงที่วันนี้วันลอยกระทง โรงแรมทั้งจังหวัดสุโขทัยเต็มทั้งหมด และนี่ก็บ่ายแก่มากแล้ว ถ้าทุกอย่างยืดเยื้อ รถจะติดอย่างสาหัส สุดท้ายความแฮปปี้ในงานใหญ่ลอยกระทงครั้งแรกก็จะกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาทันที

เวลาผ่านไปราว 1 ชั่วโมงกับบทสรุปที่ได้คือ 1.โรงแรมนี้ไม่มีห้องให้เราในขณะที่สถานะการจอง (ที่เราจ่ายเงินล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว) ยังคงเป็นปกติ 2.เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ของแอพพลิเคชั่นติดต่อกับเราสลับกับทางโรงแรมหลายครั้งจนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าจะชดเชยค่าความเสียหายให้เราโดยให้เครดิตเป็นจำนวนเงินในการนำไปจองที่พักที่อื่น (ให้เราหาเอง) 3.เราขอทางโรงแรมใช้ห้องน้ำเล็กๆที่อยู่บริเวณส่วนกลางของโรงแรมเพื่อเปลี่ยนชุดแล้วเดินหน้าแผนเที่ยวงานวันลอยกระทงด้วยชุดไทยที่ต่างเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าร่วมเดือน 4.ระหว่างทางไปเข้างาน เราจองโรงแรมที่จังหวัดพิษณุโลกพร้อมวางแผนออกจากงานสัก 1 ทุ่มแล้วมุ่งหน้านอนพิษณุโลก (ซึ่งอยู่ห่างจากสุโขทัยประมาณขับรถ 1 ชั่วโมง)

จริงๆก็เป็นบทเรียนครับว่าถ้าคืนเข้าพักเป็น peak period ควรยืนยันการจองกับทางโรงแรมทุกครั้ง (ปล. ที่พักที่เราพบปัญหาคือโรงแรมชวนชมรีสอร์ท จองผ่านแอพพลิเคชั่นทราเวลโลก้า)

รถเริ่มติดก่อนที่เราจะได้ขับรถไปจอดก่อนถึงวัดตระพังทองที่ไปตักบาตรเมื่อเช้าสัก 100 เมตร จอดรถไว้ริมถนนแล้วเรียกตุ๊กตุ๊กไปในราคาเที่ยวละ 60 บาท เราถึงงานท่ามกลางผู้คนและรถยนต์แบบทะลักทลายประมาณ 17.10 น.แต่หารู้ไม่ว่าในตอนที่เราออกจากงานประมาณ 1 ทุ่ม 10 นาที รถติดยาวไปจนเกือบถึงตัวเมืองสุโขทัย ... มันคือระยะราว 20 กิโลเมตร ครับมันคือเรื่องจริงที่แสนเศร้า ไม่อยากจะคิดว่าแล้วรถยนต์มากมายพวกนี้ที่มุ่งหน้าไปทางเดียวกัน จุดหมายเดียวกัน จะไปอยู่ตรงไหนถ้าไม่มีคนและรถยนต์ที่เห็นนี้มากกว่าครึ่งมุ่งหน้าไปที่อื่นบ้าง หรือทางผู้จัดงานและจังหวัดไล่บอกคนขับรถทุกคนให้จอดรถ ณ จุดที่รถกำลังติดแน่นิ่งอยู่แล้วเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะเอา (ซึ่งก็อาจจะมีไม่พอ)