ที่ตั้งเป็นกระทู้คำถามก็เพื่อให้.... บางท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้...ครับ
เพราะเขาเหล่านั้น..เมื่อแสดงความเห็นไม่ได้ก็จะ....หลังไมค์...มาหาผม...
ผมจะสรุปว่า...
1....." อนัตตา..ก็คือ...อัตตา..ที่เกิดขึ้นและเสื่อมไป " <---นี่คือ..อนัตตา..ที่ถูกต้อง
2..... อนัตตา....มาจาก..อัตตา(ที่เกิดขึ้นและเสื่อมไป)...ดังนั้น..อย่าไปบอกว่า.." อัตตาไม่มี "
เพราะมันจะกลายเป็น.." อุจเฉททิฏฐิ "..ไปนะ ครับ
3.... จากเหตุผลข้อที่ 1 และ 2 ...นิพพานจึงไม่เกี่ยวกับ...อนัตตา...แต่อย่างใด
เพราะว่า...
นิพพานไม่มีเกิดปรากฏ........เมื่อเกิดไม่ปรากฏ...อัตตา...จึงไม่เกิดขึ้น
และ...
นิพพานไม่เสื่อมเกิดปรากฏ...เมื่อไม่เสื่อม...........อนัตตา..จะมีได้อย่างไร?
และ...
นิพพานเมื่อตั้งอยู่ก็ไม่มีอย่างอื่นปรากฏ..."ตั้งอยู่"..ก็แสดงว่ามี....แล้ว.."ไม่อย่างอื่นปรากฏ"...ก็เป็นอมตะ..ครับ
ผมจะยกคำกล่าวของพระศาสดามาอ้างอิง...ดังนี้ ครับ
พระสูตรที่..1
[๘๑๘] ผู้ใดกล่าวอย่างนี้ว่า จักษุเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร
จักษุย่อมปรากฏแม้ ความเกิด แม้ความเสื่อม
-
ก็สิ่งใดแล....ปรากฏแม้ความเกิด....แม้ความเสื่อม
-
"...สิ่งนั้นต้องกล่าวได้ อย่างนี้ว่า อัตตาของเราเกิดขึ้นและเสื่อมไป..."
เพราะฉะนั้น คำของผู้ที่กล่าวว่าจักษุเป็นอัตตานั้นจึง ไม่ควร ด้วยประการฉะนี้
จักษุจึง..เป็น..."..
อนัตตา.."
(ในทำนองเดียวกัน..ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ...รูป-รส-กลิ่น-เสียง-กายสัมผัส-ธรรม...และขันธ์๕)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จกฺขุ อตฺตาติ โย เอวํ วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติ ฯ
จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ ฯ
ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จาติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺย ฯ
อิติ จกฺขุ อนตฺตา ฯ
https://etipitaka.com/read/thai/14/388/
พระสูตรที่..2
[๙๑] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง
- สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์
- สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา. นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[๙๑] สาวตฺถิยํ ฯ ตตฺร โข ฯ
รูปํ ภิกฺขเว อนิจฺจํ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา ยทนตฺตา ตํ เนตํ มม เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตาติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ ฯ
https://etipitaka.com/read/thai/17/44/
พระสูตรที่...3
[๔๘๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓ประการ ๓ ประการเป็น ไฉน คือ
- ความเกิดขึ้นปรากฏ ๑
- ความเสื่อมปรากฏ ๑
- เมื่อตั้งอยู่ความแปรปรวนปรากฏ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตีณีมานิ ภิกฺขเว สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ กตมานิ ตีณิ
- อุปฺปาโท ปญฺญายติ
- วโย ปญฺญายติ
- ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ ปญฺญายติ
อิมานิ โข ภิกฺขเว ตีณิ สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานีติ ฯ
[๔๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓ประการนี้ ๓ ประการ เป็นไฉน คือ
- ไม่ปรากฏความเกิด ๑
- ไม่ปรากฏความเสื่อม ๑
- เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปร ปรวน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตีณีมานิ ภิกฺขเว อสงฺขตสฺส อสงฺขตลกฺขณานิ กตมานิ ตีณิ
- น อุปฺปาโท ปญฺญายติ
- น วโย ปญฺญายติ
- น ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ ปญฺญายติ
อิมานิ โข ภิกฺขเว ตีณิ อสงฺขตสฺส อสงฺขตลกฺขณานีติ ฯ
https://etipitaka.com/read/thai/20/144/
พระสูตรที่ 4
[๓๐๒] ดูกรโปฏฐปาทะ ความได้อัตตา ๓ เหล่านี้ คือ
- ได้...อัตตา...ที่หยาบ ๑
- ได้...อัตตา...ที่สำเร็จด้วยใจ ๑
- ได้...อัตตา...ที่หารูปมิได้ ๑
ความได้..
อัตตา...ที่หยาบเป็นไฉน?
คือ
อัตตา..ที่มีรูป ประกอบด้วยมหาภูต ๔ บริโภคกวลิงการาหาร
นี้ความได้...อัตตา...ที่หยาบ
ความได้...
อัตตา...ที่สำเร็จ ด้วยใจเป็นไฉน?
คือ
อัตตา...ที่มีรูปสำเร็จด้วยใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง
นี้ความได้...อัตตา...ที่สำเร็จด้วยใจ
ความได้....
อัตตา...ที่หารูปมิได้เป็นไฉน?
คือ
อัตตา...อันหารูปมิได้ สำเร็จ ด้วยสัญญา
นี้ความได้...อัตตา...ที่หารูปมิได้.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ [๓๐๒] ตโย โขเม โปฏฺฐปาท
- อตฺตปฏิลาภา โอฬาริโก
- อตฺตปฏิลาโภ มโนมโย
- อตฺตปฏิลาโภ อรูโป อตฺตปฏิลาโภ ฯ
กตโม จ โปฏฺฐปาท โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ ฯ....รูปี จาตุมฺมหาภูติโก กวลีการภกฺโข อยํ โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ ฯ
กตโม มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ ฯ.........................รูปี มโนมโย สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อนินฺทฺริโย อยํ มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ ฯ
กตโม อรูโป อตฺตปฏิลาโภ ฯ..............................อรูปี สญฺญามโย อยํ อรูโป อตฺตปฏิลาโภ ฯ
https://etipitaka.com/read/thai/9/276/
อ้าว..หัวหน้าทัวร์มาแล้ว ลูกทัวร์มาลงได้เลย....ครับ
อัตตา...อนัตตา... มาทำความเข้าใจให้ถูกต้อง..กันครับ..
เพราะเขาเหล่านั้น..เมื่อแสดงความเห็นไม่ได้ก็จะ....หลังไมค์...มาหาผม...
ผมจะสรุปว่า...
1....." อนัตตา..ก็คือ...อัตตา..ที่เกิดขึ้นและเสื่อมไป " <---นี่คือ..อนัตตา..ที่ถูกต้อง
2..... อนัตตา....มาจาก..อัตตา(ที่เกิดขึ้นและเสื่อมไป)...ดังนั้น..อย่าไปบอกว่า.." อัตตาไม่มี "
เพราะมันจะกลายเป็น.." อุจเฉททิฏฐิ "..ไปนะ ครับ
3.... จากเหตุผลข้อที่ 1 และ 2 ...นิพพานจึงไม่เกี่ยวกับ...อนัตตา...แต่อย่างใด
เพราะว่า...นิพพานไม่มีเกิดปรากฏ........เมื่อเกิดไม่ปรากฏ...อัตตา...จึงไม่เกิดขึ้น
และ...นิพพานไม่เสื่อมเกิดปรากฏ...เมื่อไม่เสื่อม...........อนัตตา..จะมีได้อย่างไร?
และ...นิพพานเมื่อตั้งอยู่ก็ไม่มีอย่างอื่นปรากฏ..."ตั้งอยู่"..ก็แสดงว่ามี....แล้ว.."ไม่อย่างอื่นปรากฏ"...ก็เป็นอมตะ..ครับ
ผมจะยกคำกล่าวของพระศาสดามาอ้างอิง...ดังนี้ ครับ
พระสูตรที่..1
[๘๑๘] ผู้ใดกล่าวอย่างนี้ว่า จักษุเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร
จักษุย่อมปรากฏแม้ ความเกิด แม้ความเสื่อม
- ก็สิ่งใดแล....ปรากฏแม้ความเกิด....แม้ความเสื่อม
- "...สิ่งนั้นต้องกล่าวได้ อย่างนี้ว่า อัตตาของเราเกิดขึ้นและเสื่อมไป..."
เพราะฉะนั้น คำของผู้ที่กล่าวว่าจักษุเป็นอัตตานั้นจึง ไม่ควร ด้วยประการฉะนี้
จักษุจึง..เป็น..."..อนัตตา.."
(ในทำนองเดียวกัน..ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ...รูป-รส-กลิ่น-เสียง-กายสัมผัส-ธรรม...และขันธ์๕)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://etipitaka.com/read/thai/14/388/
พระสูตรที่..2
[๙๑] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง
- สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์
- สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า
นั่นไม่ใช่ของเรา. นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://etipitaka.com/read/thai/17/44/
พระสูตรที่...3
[๔๘๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓ประการ ๓ ประการเป็น ไฉน คือ
- ความเกิดขึ้นปรากฏ ๑
- ความเสื่อมปรากฏ ๑
- เมื่อตั้งอยู่ความแปรปรวนปรากฏ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[๔๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓ประการนี้ ๓ ประการ เป็นไฉน คือ
- ไม่ปรากฏความเกิด ๑
- ไม่ปรากฏความเสื่อม ๑
- เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปร ปรวน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://etipitaka.com/read/thai/20/144/
พระสูตรที่ 4
[๓๐๒] ดูกรโปฏฐปาทะ ความได้อัตตา ๓ เหล่านี้ คือ
- ได้...อัตตา...ที่หยาบ ๑
- ได้...อัตตา...ที่สำเร็จด้วยใจ ๑
- ได้...อัตตา...ที่หารูปมิได้ ๑
ความได้..อัตตา...ที่หยาบเป็นไฉน?
คือ อัตตา..ที่มีรูป ประกอบด้วยมหาภูต ๔ บริโภคกวลิงการาหาร นี้ความได้...อัตตา...ที่หยาบ
ความได้...อัตตา...ที่สำเร็จ ด้วยใจเป็นไฉน?
คือ อัตตา...ที่มีรูปสำเร็จด้วยใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง นี้ความได้...อัตตา...ที่สำเร็จด้วยใจ
ความได้....อัตตา...ที่หารูปมิได้เป็นไฉน?
คือ อัตตา...อันหารูปมิได้ สำเร็จ ด้วยสัญญา นี้ความได้...อัตตา...ที่หารูปมิได้.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://etipitaka.com/read/thai/9/276/
อ้าว..หัวหน้าทัวร์มาแล้ว ลูกทัวร์มาลงได้เลย....ครับ