ทำไมบริษัทต้องบลูลี่เด็กราชภัฏโดยการไม่รับทำงานด้วย ไม่อคติหรือใจแคบไปหน่อยหรอ

เรื่องมีอยู่ว่าได้สมัครงานบริษัทหนึ่งไป แต่โดน reject โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีนโบายรับเด็กราชภัฏ คือแบบเห้ย!!!! เข้าใจองค์กรนะว่าอยากได้คนโปรไฟล์ดี จบที่ดีๆ แต่ทำไมไม่คิดมั่งว่าเด็กราชภัฏก็ไม่ได้แย่ทุกคน อย่าว่าแต่เด็กราชภัฏเลย ในมหาลัยชั้นนำก็ใช่ว่าจะเก่งทุกคน เด็กราชภัฏบางคนเก่งกว่าก็มี และของแบบนี้มันอยู่ที่ปสก.ด้วย อย่างเรา ปสก. 10 ปี เพื่อนเราจบบัญชี มธ.ยังต้องมาให้เพื่อนอีกคนที่เรียนราชภัฏสอนบช.ชั้นสูง สอนปิดบัญชีให้เลย เพราะฉะนั้น มหาลัยมันไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความรู้หรือการทำงานนะ นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ว ทำไมยังต้องมานั่งมองเรื่องสถาบันศึกษา ทำไมไม่มองความรู้ความสามารถ ใครมีความเห็นหรือมีปสก.แบบนี้ร่วมแชร์ได้นะ คืองงดี

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มีหลายกระทู้ในพันทิปที่เขียนถึงเรื่องนี้ลองอ่านดูได้ อย่างเช่น

https://ppantip.com/topic/31945567
https://ppantip.com/topic/38594724
https://ppantip.com/topic/37509923
https://ppantip.com/topic/37315674

ก็จะมีคนบอกเหตุผลว่าทำไมถึงไม่รับ ซึ่งโดยมากก็มาจากผลงานการกระทำของคนที่จบมารุ่นก่อนๆ

อันนี้ตัวอย่าง

https://ppantip.com/topic/38594724/comment5

ก็คนที่จบราชภัฏมามันทำตัวไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี เองจะโทษใครละครับ
รับมาทำงาน 10 คนนี้ จะเป็นแบบนี้ 9 คน คือ ความรู้ความสามารถตามสาขาจบก็ไม่มี ความขวนขวายในการทำงานก็ไม่มี
สอนงานให้ พอสิ้นเดือน เงินเดือนออกหายไปซะงั้น รู้มั้ยว่าเดือนแรกไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้บริษัทแต่เอาเงินเขาไปแล้ว
มันไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี เหมือนขโมยขอของคนอื่นกิน



https://ppantip.com/topic/31945567/comment12

เล่าจากประสบการณ์ที่เคยนัดเด็กจบราชภัฏมาสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนซักหน่อยดีกว่า

ก่อนอื่น ขอบอกว่าส่วนตัวเคยเจอพี่ที่จบราชภัฏสวนฯ เก่งคอมฯ 3D และโปรแกรมอื่นๆ อีกมากมายระดับเทพ เลยไม่ได้มองข้ามคนที่จบจากมหาลัยราชภัฏเลยนะ แต่เมื่อปลายปีที่แล้วได้ย้ายไปทำงานที่ภูเก็ตและต้อง recruit คนมาเป็นผู้ช่วย มีผู้ที่นัดแล้วมาสัมภาษณ์จาก 2 สถาบันเท่านั้น คือ มหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังย่านรามฯ และราชภัฏประจำจังหวัด ซึ่งบริษัทที่ทำเป็นบริษัทต่างชาติ 100% คุณสมบัติที่ต้องการมากที่สุดคือ สื่อสารภาษาอังกฤษได้ทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน เพราะต้องแปลเอกสารของชาวต่างชาติเป็นไทย และต้องทำงานเอกสารได้ มีประสบการณ์ทำงานมาบ้าง (ซึ่งประสบการณ์อะไรก็ได้) ส่วนตัวไม่ได้จะต้องการแบบ perfect เพราะเข้าใจว่าจะเอาคนที่มีคุณสมบัติแบบในกรุงเทพฯ คงยากมาก

ตอบสัมภาษณ์จะให้ทำเทส คือ แปลจากอังกฤษเป็นไทย เปิด Dict ได้ตามสบาย เพราะตอนทำงานคุณต้องเปิดอยู่แล้ว และตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่รับประมาณ 6-8 คำถาม

- คนที่จบจากม.รัฐ (นัดมาคุยได้แค่ 2 คน โดยนัดมาคนละวัน)
ผลเทสการแปลภาษาไม่ได้ดีมาก เทสการพูดคุยกันยังพอโอเค แต่ส่วนตัวไม่ซีเรียสเพราะทักษะด้านนี้มันพัฒนากันได้ และผู้สัมภาษณ์ทั้งสองคนพยายามตอบคำถามทุกข้อ ซึ่งดูแล้วมีความตั้งใจ ส่วนตัวคิดว่าถ้าทำงานก็น่าจะทำกันได้แบบไม่ต้องห่วง

- คนที่จบจากราชภัฏประจำจังหวัด (นัดมาคุยได้ 4 คน นัดมาคนละวันเช่นกัน)
ชอบเขียนในใบสมัครว่าทักษะด้านภาษาได้ทั้ง 4 ด้าน ซึ่งผลเทสการแปลภาษาไม่ได้เลย 1 คนใน 4 คนโทรฯ มาถามว่าตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง (แบบไม่สุภาพมากๆ) พอรู้ว่าต้องทำงานกับต่างชาติก็ไม่มา โดยให้เหตุผลว่า พูดไม่ได้เลย (แต่ใบสมัครเขียนว่าได้ภาษาอังกฤษ) และอีกคนที่นัดมาได้เขียนว่าเคยทำงานด้าน customer service ที่ร้านสะดวกซื้อร้านดังในภูเก็ต พอให้แนะนำตัว (ภาษาไทย) น้องเค้าพูดแค่

"สวัสดีค่ะ หนูชื่อจริงชื่อ....นามสกุล....ชื่อเล่น...." แล้วก็จบ แค่นี้จริงๆ
ซึ่งตอนที่เดินจะเข้าไปสัมภาษณ์ น้องแต่งตัวมาสัมภาษณ์เหมือนไปทะเล กรุยกรายมาก และนั่งรอโดยการนั่งชันเขา เท้าอยู่บนเก้าอี้ (ถอดรองเท้า) ซึ่งในห้องนั้นเป็นห้องปิดก็จริง แต่พอเดินไปมันก็มองเห็นได้ อีกทั้ง GPA ของน้องเค้าหรูมาก (มากกว่าคนสัมภาษณ์อีก) พอถามว่าเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง ถามให้ยกตัวอย่าง น้องไม่สามารถยกได้เลย อดทนสัมภาษณ์ได้แค่ 20 นาทีก็ต้องเชิญน้องกลับบ้านไป

2 ใน 3 (ตอนนี้เหลือ 3 คนแล้ว) ไม่ได้ทักษะด้านภาษาเลย คอมฯ ไม่ได้ เอกสารทำไม่เป็น (งงมากว่าทำไมทำไม่เป็น) ส่วนอีกคนที่มาจากที่นี่โอเคหน่อย คือ น่ารักสุภาพ มีมารยาท แต่น้องฟังลักษณะงานแล้วบอกว่าอยากทำโรงแรมมากว่า เพราะได้เงินเยอะกว่า (อันนี้เข้าใจได้ ไม่ว่ากัน)

ส่วนตัวยังเชื่อว่าเด็กจบราชภัฏเก่งๆ มี แต่เด็กที่ไม่เก่งมีเยอะกว่ามาก เพราะฉะนั้นสู้ต่อไปค่ะ



https://ppantip.com/topic/37509923

เมื่อ 7 ปีที่แล้วที่เราเข้ามาฝึกงานในบริษัทเป็นปีแรก ซึ่งหลังจากฝึกเสร็จก็ได้งานที่บริษัทนี้ ปีนั้นมีการรับนักศึกษาฝึกงานอีกหลายคนเข้ามา โดยมีเด็กราชภัฏที่เกรดดีแต่ทำงานอะไรไม่ได้เลย เหมือนไม่มีความรู้อะไรมาจากมหาลัย แม้แต่งานง่ายๆก็ทําไม่ได้ ทั้งเราและเค้าไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อนทั้งคู่ แต่เค้าทำงานแย่กว่าเราจนน่ากลัว เราที่ไม่เคยเจอเด็กมอนี้มาก่อนความประทับใจแรกก็ไม่ดีซะแล้ว
สุดท้ายhrก็โดนพี่ๆพนักงานต่อว่าจนเข็ด บริษัทจึงไม่รับนศจะราชภัฏอีกเลย

ส่วนนักศึกษาฝึกงาน6คนที่เจอในปีนี้ (เกือบทุกคนเกรดเกิน 3) แผนกเราเองรับไว้2 ส่วนอีก4คนถึงไม่ได้ดูแลเองแต่ก็พูดคุยถึงพฤติกรรมกับแผนกอื่นที่ดูแลอยู่เรื่อยๆ พูดง่ายๆก็คือบ่นในไลน์กรุ๊ป ซึ่งสิ่งที่พบคือ

1 น้องใช้ Word Excel PowerPoint ไม่ได้เลย ไม่ได้คือไม่ได้จริงๆ บางคนแค่โปรแกรมไม่ได้เอาไว้หน้า Desktop ก็กดหาเองไม่เป็น พอกดเข้าได้ก็นั่งเอ๋อ ลืมถามเหมือนกันว่าน้องทำรายงานตอนเรียนกันยังไง ทำไมทำอะไรไม่เป็นเลย
ไม่ต้องถามถึง Photoshop การตัดต่อวีดีโอ การทำแผ่นพับ ไม่ได้เลย

2 เกรดภาษาอังกฤษ a แต่ศัพท์ง่ายๆไม่รู้ สะกดภาษาอังกฤษผิดถูกๆ คำยาวหน่อยก็สะกดไม่ได้แล้ว ซึ่งจุดนี้เราเข้าใจว่ามหาลัยคงปล่อยเกรด

3 ขาดการคิดอย่างรอบคอบ เอกสารบางอย่างที่อยู่ในห้องเก็บเอกสารเป็นความลับของบริษัท น้องก็ไปถ่ายเซลฟี่กับเอกสารพวกนั้นแล้วโพสลงเฟส

เรื่องขาดความรอบคอบนี้ เราขอรวมไปถึงการขาดความฉลาดเฉลียวด้วย มีกรณีที่ใช้ให้จัดเก้าอี้ โดยมีรายชื่อ30คน น้องจัด30เก้าอี้เป๊ะ มันไม่ผิดค่ะน้องทำตามเอกสาร แต่พี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องจากอีกสถาบันเค้าถึงคิดได้ว่า30คนที่มาอาจมีผู้ติดตามมาด้วย ต้องเตรียมเก้าอี้เผื่อเพื่อความไม่วุ่นวาย

4 เมื่อทำงานตัวเองเสร็จก็นั่งเล่นเฉยๆเป็นชั่วโมง ไม่คิดจะเรียนรู้งานอย่างอื่นหรือหาวิธีทำให้งานที่ตัวเองทำอยู่มีประสิทธิภาพและเร็วขึ้น อันนี้เข้าใจว่าเป็นสิทธิ์ของน้อง แต่ส่วนตัวตอนพี่ฝึกงาน อาจารย์ที่ปรึกษาพี่สอนเสมอว่าเมื่อทำงานของตัวเองเสร็จแล้วให้ถามคนอื่นในที่ทำงานว่ามีอะไรให้ช่วยไหม

5 พรีเซนต์งานไม่เป็น มีน้องคนนึงเราให้ช่วยทำPowerpointก็ทำออกมาได้แย่มาก เลยทดสอบอีกเรื่องคือการนำเสนอ ให้น้องสมมุติตัวเองในการนำเสนองานดู สรุปว่าพัง พูดเหมือนเรียบเรียงประโยคไม่ได้ ใช้คำภาษาทางการไม่เป็น

6 ไม่พยายามเปิดรับอะไรที่ไม่เคยรู้ อย่างให้น้องใช้ googleไดรฟ์ googleเอกสาร น้องบอกไม่รู้จักทำไม่เป็น บางคนบอกว่าจำรหัสอีเมลตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
หนักที่สุดคือการ save pdf ของน้องคนหนึ่ง ใช้วิธีปริ้นไฟล์worldออกมาแล้วใช้เครื่องสแกนเป็น pdf
พอบอกให้หาวิธีในเน็ต (เราอยากให้ฝึกค้นคว้าเอง) ก็ไม่ทำ ไม่คำนึงถึงกระดาษที่ต้องเสียไป

7 มีพี่อีกแผนกที่ไปคุยงานภายนอก แล้วมีเลี้ยงอาหารโดยพาน้องๆไปด้วยเพราะอยากให้น้องไปลงพื้นที่ดูการคุยงานจริง พอกลับมาก็เล่าว่าน้องไม่มีมารยาททางสังคม หรือ มารยาทบนโต๊ะอาหาร

8 ขาดความระวังในการใช้โซเชียล การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ถึงจะไม่มีอันตรายแต่มันก็ยังไม่ถูกกฎหมายนะคะ แล้วก็โพสเรื่องไม่ดีกันเยอะ ไม่ใช่ว่าเด็กมหาลัยอื่นไม่เป็น เค้าก็เป็นกัน พี่เองยังเป็น ในทวิตพี่หยาบถ่อยมาก แต่พี่รู้ว่าต้องทำแบบไหนไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ตัวเองในพื้นที่ที่มีผู้ใหญ่เยอะอย่างเฟสหรือไอจี

9 ใช่ ค่ะ คะ ผิด บางคนที่ไม่รับเพราะขนาดในเมลยังพิมพ์ผิด แต่คนที่ในเมลสะกดถูก พอรับมาแล้วก็ไม่น้อยหน้า ในเฟสผิดยับ ในการทำงานจริงผิด ลามไปถึงตอนให้ช่วยพิสูจน์อักษร ให้ช่วยกัน2คนยังเจอคำผิด เพราะน้องไม่รู้ว่าคำที่ถูกมันสะกดยังไง

10 เวลาพี่ๆสอนหรือสั่งงาน คิดว่าตัวเองเก่ง คิดว่าตัวเองจำได้ ไม่จด สุดท้ายก็พลาด ในขณะที่น้องอีกมอขออนุญาตอัดเสียงไว้ พอไม่เข้าใจก็รีบถาม

อีกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานแต่สัมผัสได้จากการพูดคุยกับน้องๆคืออาชีพในหัวที่รู้จักมีน้อยมาก ซึ่งถ้าเป็นเด็กที่ติดตามข่าวหาข้อมูลไม่น่าจะรู้น้อยขนาดนี้ เหมือนเขามีแบบแผนในหัวว่ารุ่นพี่จบมาทำอะไร เขาก็จบมาทำตามเหมือนรุ่นพี่ ไม่มีความคิดใฝ่หาอะไรใหม่ๆที่ดีกว่าหรือหาว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง

ในขณะที่น้องมหาลัยรัฐที่ดีๆหน่อยและมหาลัยเอกชน ที่รับมาพร้อมกันหรือเคยรับในปีที่ผ่านๆมาไม่มีปัญหานี้เลย อาจมีที่ใช้excelไม่คล่องบ้าง แต่เค้าจะพยายามเรียนรู้เอง อะไรที่ทำไม่ได้เค้าก็ถาม
อะไรที่เค้าพอทำเป็นแต่ไม่รู้วิธีในรายละเอียด บางครั้งถ้าเค้ามีเวลาเพราะไม่ใช่งานด่วน เค้าไม่กวนพี่ที่ทำงาน เค้าเลือกที่จะเปิด Youtube หาวิธีทำเองด้วยซ้ำ

สุดท้ายก็ฝากน้องๆให้ปรับปรุงนะ เกรด3กว่าๆ กับรูปถ่ายว่าเป็นเด็กกิจกรรมของน้องทำที่ผิดหวังมาก
การพัฒนาตัวเองมันดีกับตัวน้องเอง พี่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้แล้ว เพราะต่อจากนี้ไปอย่างน้อยๆก็ในรุ่นของพี่ จะไม่เสี่ยงรับเด็กจากมหาลัยนี้อีกแล้ว

เพิ่มเติม เรารู้ว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นกันทุกคน คนที่เก่งๆก็คงมีบ้าง แต่เราโชคร้ายที่ยังไม่เจอแบบเก่งๆเลย ไม่รู้เพราะเราซวยหรือสัดส่วนคนเก่งกับห่วยมันห่างกันมากเกินไป
ความคิดเห็นที่ 22
แค่ใช้คำ bully ก็เห็นแล้วว่า เด็กราชคนนี้ภาษาไม่ให้

คำง่ายๆ พวกนี้ อากู๋ดูก็รู้ความหมาย แต่ใช้เรี่ยราดเอามัน เฮ้อ นี่คือ ตย ห่วยของศิษย์สำนักนี้

ก็น่าจะเป็นอย่างงั้น เพราะสมัครมหาวิทยาลัยที่ไหนไม่ได้ ก็เข้าราช

bad input > bad output ยังเป็นจริงอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่