อดีต กสม. ชี้ พ่นสีใส่ป้าย ตร.ยังไม่ร้ายแรงเท่า ปชช.ถูกพ่นสารเคมีใส่หน้า-ตา-ปาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2451747
อดีตกสม. ชี้ พ่นสีใส่ป้าย ตร.ยังไม่ร้ายแรงเท่า ปชช.ถูกพ่นสารเคมีใส่หน้า-ตา-ปาก
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นาง
อังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีการสลายการชุมนุมของคณะราษฎร ระบุว่า
วันนี้หลังทราบผลการตรวจสอบน้ำสีม่วงที่ตำรวจใช้ฉีดใส่ผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ทำให้ไม่แปลกใจที่อาการแสบตา แสบจมูกจนถึงปอดจึงทุเลาช้า เลยกลับมาดูคลิปที่ตำรวจฉีดน้ำ (water cannon) ใส่ผู้ชุมนุมในช่วงตั้งแต่ประมาณ 14.00 น. ที่ตัวเองโดยเต็มๆ หลายระลอกทั้งที่พยายามช่วยผู้ชุมนุมเจรจากับ จนท.ตำรวจเพื่อขอให้ จนท.จัดสถานที่ให้ประชาชนได้ร่วมลุ้นการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนในสภา ตำรวจระดับสูงหลายนายที่คอยบัญชาการก็คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ งานนี้บอกได้เลยว่า ตำรวจไม่ปฏิบัติตามหลักสากล เพราะสถานการณ์ขณะนั้น ไม่มีความจำเป็นที่ต้องฉีดน้ำผสมสารเคมีใส่ประชาชน
“ขอขอบคุณอย่างสูงต่อทีมการ์ด ที่ช่วยดูแลปกป้องตอนที่ตำรวจฉีดสารเคมีใส่ และหากมีโอกาสจะไปขอบคุณด้วยตัวเองนะคะ”
“ฝากถึงผู้ชุมนุมที่ยังมีอาการแสบตา แนะนำให้ล้างตาด้วยน้ำเกลือ (normal saline) และประคบเย็นนะคะ หากใครยังมีอาการแสบปอด หรือแสบจมูก ควรพบแพทย์ หรือควรใช้ยาพ่นจมูก หรือปอดจะช่วยได้มากค่ะ ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าในระยะยาวสารเคมีเหล่านี้จะยังตกค้างในร่างกายหรือไม่ และจะสามารถสะสมในร่างกายนานแค่ไหน ที่สำคัญ ใครจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น พ่นสีใส่ป้ายยังไม่ร้ายแรงเท่ากับที่ประชาชนถูกพ่นสารเคมีใส่หน้าใส่ตาใส่ปาก นะคะ”
https://www.facebook.com/angkhana.nee/posts/10159849263108268
ค้าชายแดนวูบเฉียดแสนล้าน หอการค้าร้องรัฐเปิด25ด่าน
https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-558287
หอการค้าจี้มหาดไทย-พาณิชย์ เจรจา สปป.ลาว เปิดชายแดนไทยลาว-กัมพูชา 25 แห่ง หลังธุรกิจนำเข้า-ส่งออกเสียหายเฉียด 1 แสนล้าน รมว.พาณิชย์รับลูกเร่งส่งหนังสือด่วนถึง รมว.อุตสาหกรรมและการค้าลาว อนุมัติเปิดด่านท้องถิ่น
นาย
นิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “
ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 และมีการปิดด่านชายแดนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อมูลค่ายอดค้าชายแดนทุกด้าน ทั้งเมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา จากยอดการค้ารวมเฉลี่ยประมาณ 8 แสนล้านบาท ตอนนี้ได้รับความเสียหายแล้ว 70,000-80,000 ล้านบาท
เมื่อเร็ว ๆ นี้จึงได้นำหอการค้าจังหวัดชายแดนหลายจังหวัดเข้าร่วมประชุมกับนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือประเด็นการค้าชายแดนและค้าข้ามแดน ที่ภาคเอกชนต้องการผลักดันให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเปิดจุดผ่านแดนกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องปิดไปชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อได้ข้อสรุปจะนำผลเสนอต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) แก้ไขปัญหาต่อไป
รวมถึงเตรียมนำเสนอข้อมูลทั้งหมดเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณา เพื่อส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไปเจรจากับทางการของประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และกัมพูชาต่อไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนของการเปิดด่านค้าชายแดน และค้าข้ามแดน
เสนอขอเปิดทั้งหมด 25 แห่ง แบ่งเป็นจุดผ่านแดนทำการค้าไทย-ลาว 8 จังหวัด รวม 21 ด่าน แยกเป็นจุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง จุดผ่อนปรนการค้า 12 แห่ง และท่าเรือ 2 แห่ง ซึ่งมีการปิดชายแดนทั้งฝั่งไทย และ สปป.ลาว ยกเว้นที่ จ.น่าน และอำนาจเจริญ ที่ไทยเปิดแล้ว แต่ลาวยังปิดด่านอยู่ และด้านชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าทั้ง 4 แห่ง กัมพูชาเปิด แต่ไทยปิดอยู่
หอชงเปิด 25 ด่านชายแดน
นาย
นิยมกล่าวว่า รายละเอียดจุดผ่านแดนไทย-ลาว ที่ขอเปิด 21 แห่ง ประกอบด้วย จ.เชียงราย 3 แห่ง ได้แก่ 1.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแจมป๋อง ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เห็นชอบให้เปิดได้ แต่ลาวไม่เปิด 2.ท่าเรือผาถ่าน อ.เชียงของ 3.ท่าเรือน้ำลึก อ.เชียงของ ส่วน จ.น่าน เสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านใหม่ชายแดน ซึ่งไทยเปิดอยู่แล้ว แต่ลาวปิดอยู่
จ.เลย เสนอเปิด 2 แห่ง 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคกไผ่ ซึ่ง ศบค.เห็นชอบให้เปิดได้ แต่ลาวยังปิดอยู่ 2.จุดผ่านแดนถาวร อ.เชียงคาน
และ จ.หนองคาย เสนอเปิด 3 ด่าน ได้แก่ 1. จุดผ่านแดนถาวรท่าเรือหนองคาย ซึ่ง ศบค.เห็นชอบให้เปิด แต่ลาวปิดอยู่ 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ และ 3.ด่านท่าเรือวัดหายโศก อ.เมือง
ที่ จ.นครพนมเสนอให้เปิด 4 แห่ง ได้แก่ 1. จุดผ่านแดนถาวรท่าเทียบเรือเทศบาล อ.เมือง ซึ่งทาง จ.นครพนมได้เคยสอบถามไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว ได้รับแจ้งว่าขอเลื่อนเปิดการขนส่งสินค้าผ่านออกไปก่อน จนกว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเข้าสู่ภาวะปกติ
2. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านดอนแพง อ.บ้านแพง 3.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน 4.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านธาตุพนมสามัคคี อ.ธาตุพนม จ.มุกดาหารเสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่านแดนถาวร อ.เมือง ซึ่งหอการค้าได้เคยทำเรื่อง
เสนอกระทรวงมหาดไทยขอให้เปิด
และ จ.มุกดาหารได้ทำหนังสือสอบถามไปยังแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบกลับ ในส่วน จ.อำนาจเจริญเสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ อ.ชานุมาน ซึ่งฝ่ายไทยเปิดอยู่แล้ว แต่ลาวปิดอยู่
สำหรับ จ.อุบลราชธานีเสนอให้เปิด 6 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมาทางการไทย และ สปป.ลาวมีนโยบายปิดด่านทั้ง 2 ฝั่ง ได้แก่ 1.จุดผ่านแดนถาวร บ.ปากแซง อ.นาตาล 2.จุดผ่อนปรนการค้าหน้าที่ว่าการ อ.เขมราฐ 3.จุดผ่อนปรนการค้า บ.สองคอน อ.โพธิ์ไทร 4.จุดผ่อนปรนการค้า บ.คันท่าเกวียน อ.โขงเจียม
5.จุดผ่อนปรนการค้า บ.ด่านเก่า อ.โขงเจียม และ 6.จุดผ่อนปรนการค้า บ.หนองแสง (ช่องตาอู) อ.บุณฑริก ด้านกัมพูชา ด่านทั้งหมดทางฝั่งไทยยังปิดอยู่ แต่ฝั่งกัมพูชาเปิดแล้ว แบ่งเป็น จ.จันทบุรีเสนอให้เปิดอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี อ.สอยดาว 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม อ.สอยดาว และ 3.จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านบึงชนังล่าง อ.โป่งน้ำร้อน จ.ตราดเสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง อ.บ่อไร่
พาณิชย์ขอ “ลาว-กัมพูชา” ช่วย
แหล่งข่าวจากหอการค้าเปิดเผยว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอให้ภาคเอกชนยื่นหนังสือถึงศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นประธาน ให้พิจารณาเปิดด่านเพื่อใช้ขนส่งสินค้าเท่านั้น พร้อมทั้งต้องทำแผนประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างรัดกุม ทั้งนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศจะมีหนังสือสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัด
ขณะที่ รมว.พาณิชย์จะขอความร่วมมือให้ รมว.อุตสาหกรรมและการค้าของลาว พิจารณาอนุมัติเปิดด่านท้องถิ่น และด่านประเพณีนั้น ๆ ให้ขนส่งสินค้าได้ภายใต้มาตรการควบคุมโควิด สำหรับชายแดนที่ติดกับกัมพูชา อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศจะประสานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) พนมเปญ ติดตามความคืบหน้าเพื่อยืนยันความพร้อมของฝั่งกัมพูชา
จี้รัฐเจรจาลาวขยายเวลาขนส่ง
ด้านนาง
มนนิภา โกวิทศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า หนองคายมีด่านค้าชายแดนทั้งหมด 7 ด่าน แบ่งเป็นด่านถาวร 3 แห่ง ด่านผ่อนปรน 4 แห่ง ตั้งแต่โควิดระบาดได้ปิดด่านทั้งหมด เหลือเพียงด่านชายแดนสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 1 ที่ขนส่งสินค้าได้ ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนจากปกติประมาณ 6 หมื่นล้านบาท/ปี ลดลงเหลือเพียง 4 หมื่นล้านบาท/ปี
และภาคเอกชนได้ยื่นเรื่องขอเปิดด่านเพื่อส่งสินค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ และด่านพรมแดนท่าเรือวัดหายโศก ซึ่งฝั่งไทยเห็นชอบแล้ว แต่ สปป.ลาวยังไม่เห็นด้วย และไม่ยอมเปิดด่าน
“ตอนนี้จุดผ่อนปรนทางฝั่ง สปป.ลาวยังไม่ยินยอมให้เปิด ทำให้ทุกจังหวัดในเขตเดียวกันมีปัญหาหมด สำหรับหนองคายมูลค่าการค้าลดลงนั้นเกิดจากสินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงหายไปมาก ขณะที่ชายแดน สปป.ลาว-เวียดนาม หรือ สปป.ลาว-จีน กลับได้รับอานิสงส์ เพราะมีการผ่อนปรนมากกว่าประเทศไทยที่ประกาศขยายเวลาเปิดด่านออกไปจนถึง 31 ธ.ค. 2563 ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับการเจรจาของภาครัฐ”
นาย
สมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไทยไป สปป.ลาว ทำได้เป็นปกติ แต่ติดเงื่อนไขหลังเกิดโควิด-19 ทางจังหวัดระบุว่า การขนส่งสินค้าไป สปป.ลาว ต้องกลับเข้ามายังประเทศไทยภายใน 7 ชั่วโมง หากเกินเวลาต้องถูกกักตัว 14 วัน
ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขนสินค้าไปออกยังด่านจังหวัดอื่นที่ไม่มีการจำกัดเวลา เช่น ด่านเชียงของ จ.เชียงราย, สะพานข้ามแดน จ.มุกดาหาร ส่งผลให้มูลค่าการค้าลดลงไปมาก จึงต้องการให้ภาครัฐผ่อนผันเวลาจาก 7 ชั่วโมงเป็น 16 ชั่วโมง โดยเฉพาะผลไม้ที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน กว่า 50% ต้องผ่านเส้นทาง R12 จาก สปป.ลาว ไปเวียดนาม ถึงจีนตอนใต้ ปัจจุบันยอดการส่งออกเมื่อเทียบกับปี 2562 จากหลักแสนล้าน ปีนี้เหลือ 6-7 หมื่นล้านบาท ลดลง 20-30%
JJNY : อดีตกสม.ชี้พ่นสีไม่แรงเท่าพ่นสารเคมี/ค้าชายแดนวูบเฉียดแสนล./แนะดึงข้อดีร่างปชช.ใส่รธน.ใหม่/อ๊อฟตอกคนเม้นท์ข่มขู่
https://www.matichon.co.th/politics/news_2451747
อดีตกสม. ชี้ พ่นสีใส่ป้าย ตร.ยังไม่ร้ายแรงเท่า ปชช.ถูกพ่นสารเคมีใส่หน้า-ตา-ปาก
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีการสลายการชุมนุมของคณะราษฎร ระบุว่า
วันนี้หลังทราบผลการตรวจสอบน้ำสีม่วงที่ตำรวจใช้ฉีดใส่ผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ทำให้ไม่แปลกใจที่อาการแสบตา แสบจมูกจนถึงปอดจึงทุเลาช้า เลยกลับมาดูคลิปที่ตำรวจฉีดน้ำ (water cannon) ใส่ผู้ชุมนุมในช่วงตั้งแต่ประมาณ 14.00 น. ที่ตัวเองโดยเต็มๆ หลายระลอกทั้งที่พยายามช่วยผู้ชุมนุมเจรจากับ จนท.ตำรวจเพื่อขอให้ จนท.จัดสถานที่ให้ประชาชนได้ร่วมลุ้นการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนในสภา ตำรวจระดับสูงหลายนายที่คอยบัญชาการก็คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ งานนี้บอกได้เลยว่า ตำรวจไม่ปฏิบัติตามหลักสากล เพราะสถานการณ์ขณะนั้น ไม่มีความจำเป็นที่ต้องฉีดน้ำผสมสารเคมีใส่ประชาชน
“ขอขอบคุณอย่างสูงต่อทีมการ์ด ที่ช่วยดูแลปกป้องตอนที่ตำรวจฉีดสารเคมีใส่ และหากมีโอกาสจะไปขอบคุณด้วยตัวเองนะคะ”
“ฝากถึงผู้ชุมนุมที่ยังมีอาการแสบตา แนะนำให้ล้างตาด้วยน้ำเกลือ (normal saline) และประคบเย็นนะคะ หากใครยังมีอาการแสบปอด หรือแสบจมูก ควรพบแพทย์ หรือควรใช้ยาพ่นจมูก หรือปอดจะช่วยได้มากค่ะ ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าในระยะยาวสารเคมีเหล่านี้จะยังตกค้างในร่างกายหรือไม่ และจะสามารถสะสมในร่างกายนานแค่ไหน ที่สำคัญ ใครจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น พ่นสีใส่ป้ายยังไม่ร้ายแรงเท่ากับที่ประชาชนถูกพ่นสารเคมีใส่หน้าใส่ตาใส่ปาก นะคะ”
https://www.facebook.com/angkhana.nee/posts/10159849263108268
ค้าชายแดนวูบเฉียดแสนล้าน หอการค้าร้องรัฐเปิด25ด่าน
https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-558287
หอการค้าจี้มหาดไทย-พาณิชย์ เจรจา สปป.ลาว เปิดชายแดนไทยลาว-กัมพูชา 25 แห่ง หลังธุรกิจนำเข้า-ส่งออกเสียหายเฉียด 1 แสนล้าน รมว.พาณิชย์รับลูกเร่งส่งหนังสือด่วนถึง รมว.อุตสาหกรรมและการค้าลาว อนุมัติเปิดด่านท้องถิ่น
นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 และมีการปิดด่านชายแดนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อมูลค่ายอดค้าชายแดนทุกด้าน ทั้งเมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา จากยอดการค้ารวมเฉลี่ยประมาณ 8 แสนล้านบาท ตอนนี้ได้รับความเสียหายแล้ว 70,000-80,000 ล้านบาท
เมื่อเร็ว ๆ นี้จึงได้นำหอการค้าจังหวัดชายแดนหลายจังหวัดเข้าร่วมประชุมกับนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือประเด็นการค้าชายแดนและค้าข้ามแดน ที่ภาคเอกชนต้องการผลักดันให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเปิดจุดผ่านแดนกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องปิดไปชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อได้ข้อสรุปจะนำผลเสนอต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) แก้ไขปัญหาต่อไป
รวมถึงเตรียมนำเสนอข้อมูลทั้งหมดเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณา เพื่อส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไปเจรจากับทางการของประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และกัมพูชาต่อไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนของการเปิดด่านค้าชายแดน และค้าข้ามแดน
เสนอขอเปิดทั้งหมด 25 แห่ง แบ่งเป็นจุดผ่านแดนทำการค้าไทย-ลาว 8 จังหวัด รวม 21 ด่าน แยกเป็นจุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง จุดผ่อนปรนการค้า 12 แห่ง และท่าเรือ 2 แห่ง ซึ่งมีการปิดชายแดนทั้งฝั่งไทย และ สปป.ลาว ยกเว้นที่ จ.น่าน และอำนาจเจริญ ที่ไทยเปิดแล้ว แต่ลาวยังปิดด่านอยู่ และด้านชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าทั้ง 4 แห่ง กัมพูชาเปิด แต่ไทยปิดอยู่
หอชงเปิด 25 ด่านชายแดน
นายนิยมกล่าวว่า รายละเอียดจุดผ่านแดนไทย-ลาว ที่ขอเปิด 21 แห่ง ประกอบด้วย จ.เชียงราย 3 แห่ง ได้แก่ 1.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแจมป๋อง ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เห็นชอบให้เปิดได้ แต่ลาวไม่เปิด 2.ท่าเรือผาถ่าน อ.เชียงของ 3.ท่าเรือน้ำลึก อ.เชียงของ ส่วน จ.น่าน เสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านใหม่ชายแดน ซึ่งไทยเปิดอยู่แล้ว แต่ลาวปิดอยู่
จ.เลย เสนอเปิด 2 แห่ง 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคกไผ่ ซึ่ง ศบค.เห็นชอบให้เปิดได้ แต่ลาวยังปิดอยู่ 2.จุดผ่านแดนถาวร อ.เชียงคาน
และ จ.หนองคาย เสนอเปิด 3 ด่าน ได้แก่ 1. จุดผ่านแดนถาวรท่าเรือหนองคาย ซึ่ง ศบค.เห็นชอบให้เปิด แต่ลาวปิดอยู่ 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ และ 3.ด่านท่าเรือวัดหายโศก อ.เมือง
ที่ จ.นครพนมเสนอให้เปิด 4 แห่ง ได้แก่ 1. จุดผ่านแดนถาวรท่าเทียบเรือเทศบาล อ.เมือง ซึ่งทาง จ.นครพนมได้เคยสอบถามไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว ได้รับแจ้งว่าขอเลื่อนเปิดการขนส่งสินค้าผ่านออกไปก่อน จนกว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเข้าสู่ภาวะปกติ
2. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านดอนแพง อ.บ้านแพง 3.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน 4.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านธาตุพนมสามัคคี อ.ธาตุพนม จ.มุกดาหารเสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่านแดนถาวร อ.เมือง ซึ่งหอการค้าได้เคยทำเรื่อง
เสนอกระทรวงมหาดไทยขอให้เปิด
และ จ.มุกดาหารได้ทำหนังสือสอบถามไปยังแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบกลับ ในส่วน จ.อำนาจเจริญเสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ อ.ชานุมาน ซึ่งฝ่ายไทยเปิดอยู่แล้ว แต่ลาวปิดอยู่
สำหรับ จ.อุบลราชธานีเสนอให้เปิด 6 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมาทางการไทย และ สปป.ลาวมีนโยบายปิดด่านทั้ง 2 ฝั่ง ได้แก่ 1.จุดผ่านแดนถาวร บ.ปากแซง อ.นาตาล 2.จุดผ่อนปรนการค้าหน้าที่ว่าการ อ.เขมราฐ 3.จุดผ่อนปรนการค้า บ.สองคอน อ.โพธิ์ไทร 4.จุดผ่อนปรนการค้า บ.คันท่าเกวียน อ.โขงเจียม
5.จุดผ่อนปรนการค้า บ.ด่านเก่า อ.โขงเจียม และ 6.จุดผ่อนปรนการค้า บ.หนองแสง (ช่องตาอู) อ.บุณฑริก ด้านกัมพูชา ด่านทั้งหมดทางฝั่งไทยยังปิดอยู่ แต่ฝั่งกัมพูชาเปิดแล้ว แบ่งเป็น จ.จันทบุรีเสนอให้เปิดอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี อ.สอยดาว 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม อ.สอยดาว และ 3.จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านบึงชนังล่าง อ.โป่งน้ำร้อน จ.ตราดเสนอให้เปิด 1 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง อ.บ่อไร่
พาณิชย์ขอ “ลาว-กัมพูชา” ช่วย
แหล่งข่าวจากหอการค้าเปิดเผยว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอให้ภาคเอกชนยื่นหนังสือถึงศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นประธาน ให้พิจารณาเปิดด่านเพื่อใช้ขนส่งสินค้าเท่านั้น พร้อมทั้งต้องทำแผนประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างรัดกุม ทั้งนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศจะมีหนังสือสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัด
ขณะที่ รมว.พาณิชย์จะขอความร่วมมือให้ รมว.อุตสาหกรรมและการค้าของลาว พิจารณาอนุมัติเปิดด่านท้องถิ่น และด่านประเพณีนั้น ๆ ให้ขนส่งสินค้าได้ภายใต้มาตรการควบคุมโควิด สำหรับชายแดนที่ติดกับกัมพูชา อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศจะประสานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) พนมเปญ ติดตามความคืบหน้าเพื่อยืนยันความพร้อมของฝั่งกัมพูชา
จี้รัฐเจรจาลาวขยายเวลาขนส่ง
ด้านนางมนนิภา โกวิทศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า หนองคายมีด่านค้าชายแดนทั้งหมด 7 ด่าน แบ่งเป็นด่านถาวร 3 แห่ง ด่านผ่อนปรน 4 แห่ง ตั้งแต่โควิดระบาดได้ปิดด่านทั้งหมด เหลือเพียงด่านชายแดนสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 1 ที่ขนส่งสินค้าได้ ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนจากปกติประมาณ 6 หมื่นล้านบาท/ปี ลดลงเหลือเพียง 4 หมื่นล้านบาท/ปี
และภาคเอกชนได้ยื่นเรื่องขอเปิดด่านเพื่อส่งสินค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ จุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ และด่านพรมแดนท่าเรือวัดหายโศก ซึ่งฝั่งไทยเห็นชอบแล้ว แต่ สปป.ลาวยังไม่เห็นด้วย และไม่ยอมเปิดด่าน
“ตอนนี้จุดผ่อนปรนทางฝั่ง สปป.ลาวยังไม่ยินยอมให้เปิด ทำให้ทุกจังหวัดในเขตเดียวกันมีปัญหาหมด สำหรับหนองคายมูลค่าการค้าลดลงนั้นเกิดจากสินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงหายไปมาก ขณะที่ชายแดน สปป.ลาว-เวียดนาม หรือ สปป.ลาว-จีน กลับได้รับอานิสงส์ เพราะมีการผ่อนปรนมากกว่าประเทศไทยที่ประกาศขยายเวลาเปิดด่านออกไปจนถึง 31 ธ.ค. 2563 ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับการเจรจาของภาครัฐ”
นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไทยไป สปป.ลาว ทำได้เป็นปกติ แต่ติดเงื่อนไขหลังเกิดโควิด-19 ทางจังหวัดระบุว่า การขนส่งสินค้าไป สปป.ลาว ต้องกลับเข้ามายังประเทศไทยภายใน 7 ชั่วโมง หากเกินเวลาต้องถูกกักตัว 14 วัน
ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขนสินค้าไปออกยังด่านจังหวัดอื่นที่ไม่มีการจำกัดเวลา เช่น ด่านเชียงของ จ.เชียงราย, สะพานข้ามแดน จ.มุกดาหาร ส่งผลให้มูลค่าการค้าลดลงไปมาก จึงต้องการให้ภาครัฐผ่อนผันเวลาจาก 7 ชั่วโมงเป็น 16 ชั่วโมง โดยเฉพาะผลไม้ที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน กว่า 50% ต้องผ่านเส้นทาง R12 จาก สปป.ลาว ไปเวียดนาม ถึงจีนตอนใต้ ปัจจุบันยอดการส่งออกเมื่อเทียบกับปี 2562 จากหลักแสนล้าน ปีนี้เหลือ 6-7 หมื่นล้านบาท ลดลง 20-30%