มุมมองเมือง Tyre จากเครื่องบินปี 1934
Tyre เมืองทางตอนใต้ของเลบานอนเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในช่วงสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราชโดยผู้ตั้งถิ่นฐานจากเมือง Sidon ที่อยู่ใกล้เคียง เมื่ออิทธิพลของอียิปต์ในฟีนิเซียนั้นลดลง Tyre จึงเป็นอิสระจากการเมือง และต่อมามันก็แซงหน้าเมือง Sidon โดยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและท่าเรือฟินีเซียนที่สำคัญที่สุดที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับทุกส่วนในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน
ชื่อของเมือง Tyre แปลว่า "หิน" ในภาษาฟินีเซียน ตั้งอยู่บนแหลมทรงกลมเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาจากชายฝั่งเลบานอนเกือบ 2 กม.ซึ่งแต่ก่อนมันไม่ได้เป็นแบบนี้ เมืองTyre เดิมเป็นเกาะที่มีน้ำเปิดเพียงครึ่งกม.แยกออกจากแผ่นดินใหญ่ เกาะนี้ได้รับการปกป้องอย่างน่าเกรงขามด้วยกำแพงสูงล้อมรอบทุกด้านด้วยความสูง 45 เมตรในทุกสถานที่ Tyre ได้รับการยกย่องว่ามีความแข็งแกร่งโดยทนต่อการปิดล้อมหลายครั้งในอดีต รวมถึงการปิดล้อม 13 ปีของกษัตริย์ Nebuchadnezzar (เนบูคัดเนสซาร์) แห่งบาบิโลน
ชาวฟินีเซียน เป็นชื่อที่ชาว "คานาอัน" ตั้งให้แก่ชาวกรีกที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณในเรื่องความกล้าหาญในการเดินเรือ เมื่อยุคสำริดสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเหล็กก็เป็นที่ต้องการอย่างมาก และนักเดินเรือชาวไทเรียนก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขนถ่ายแร่เหล็กจากสเปนและหมู่เกาะเมดิเตอร์เรเนียนไปยังสถานที่ที่ "ศิวิไลซ์" ในตะวันออกกลางมากขึ้น
ในเดือนมกราคมปี 332 ก่อนคริสตศักราช Alexander มาถึงเมืองฟีนิเซียโดยเอาชนะดาริอุสที่ 3 (Darius III) ในการรบที่ Issus ในเดือนพฤศจิกายนปี 333 ก่อนคริสตศักราช ทำให้เมืองฟินีเซียนทั้งหมดยกเว้นเกาะ Tyre ยอมจำนนต่อกองทัพของ Alexanderโดยไม่มีการสู้รบ Alexanderตระหนักถึงความสามารถในความแข็งแกร่งของ Tyre และเขารู้ดีว่าเมืองนี้จะพิชิตได้ด้วยกองเรือซึ่งเขาไม่มี แต่การปราบ Tyre เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขาเนื่องจากเป็นท่าเรือสุดท้ายของเปอร์เซียในภูมิภาคนี้
Alexander ตัดสินใจใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเข้าเมือง เขาบอกชาวไทเรียน (Tyrians) ว่าเขาต้องการทำการบูชายัญที่ วิหารโบราณของเทพเจ้าแห่ง Tyrian Melqart ซึ่งชาวกรีกระบุว่าเป็นเทพเจ้า Heracles ของพวกเขา แต่ชาวไทเรียนไม่ใช่คนโง่ พวกเขาปฏิเสธ Alexander โดยแนะนำให้ชาว Macedonian ของ Alexanderไปทำการบวงสรวง Heracles ในวิหารบนแผ่นดินใหญ่แทน จากนั้น Alexander ส่งทูตไปพยายามที่จะเจรจา แต่พวก Tyrians ได้ประหารทูตของเขาและโยนศพลงทะเล
Alexander โกรธจัดและมุ่งมั่นที่จะยึด Tyre ให้ได้ เขาสั่งให้สร้างทาง 'Causeway' (หรือ mole / ทางที่ข้ามแหล่งน้ำ) ขนาดใหญ่ ข้ามช่องแคบไปยังเมืองTyre โดยใช้เศษหินจากอาคารที่พังทลายบนแผ่นดินใหญ่ น้ำที่ตื้นโดยลึกแค่ประมาณสองเมตรทำให้งานดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อทางเข้าใกล้เกาะมากขึ้น น้ำก็ลึกขึ้นและทะเลก็มีคลื่นจัด ซึ่งชาวไทเรียนก็ยิงกระสุนออกจากเชิงเทินของป้อมปราการอยู่ตลอดเวลาเพื่อรังควานคนงานก่อสร้าง
Tyre แบ่งออกเป็นสองแห่งคือเกาะTyre ซึ่งเป็นเมืองที่มีป้อมปราการอย่างดีซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งเลบานอน ( ในปัจจุบัน )ประมาณครึ่งไมล์
และเมืองบนแผ่นดินใหญ่ซึ่งครั้งหนึ่งเรียกว่า " อูชู "
Ushu) โดยเมืองTyre ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
แต่ตอนนี้เกาะและแผ่นดินใหญ่เชื่อมต่อกันด้วยทางหลวงเทียม causeway (สะพานแผ่นดิน /land bridge)
ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกโดยอเล็กซานเดอร์มหาราชใน 332 ปีก่อนคริสตกาล
ภาพการล้อมเมืองTyre โดย Duncan B. Campbell
เพื่อป้องกันทางเดิน Alexander ได้สร้างหอคอยไม้เคลื่อนที่ (Siege Tower) 2 แห่งสูง 50 เมตร และคลุมมันด้วยหนังเพื่อป้องกันลูกธนูไฟของศัตรู
โดยป้อมปราการส่วนใหญ่ของ Alexander คือแท่นปืนใหญ่ที่เคลื่อนที่ได้โดยมีการยิงอยู่ด้านบน เขาวางตำแหน่งหอคอยไว้ที่ปลายสุดของทางข้ามและจากยอดหอคอยที่ยิงจากด้านบนจะทำให้กองทัพของเขาสามารถยิงตอบโต้ได้
ชาวไทเรียนตอบโต้ด้วยการสร้างเรือรบ พวกเขาเอาหม้อโลหะขนาดใหญ่ (cauldrons) บรรจุด้วยน้ำมันยางไม้, กำมะถัน และสารติดไฟอื่น ๆ แล้วแขวนไว้บนเสากระโดงเรือแล้วจุดไฟ จากนั้นพวกเขาก็ส่งเรือที่กำลังลุกไหม้ไปเกยตื้นที่ทางข้ามเพื่อเผาหอคอยทั้งสองแห่ง ส่วนเรือไทเรียนลำอื่นๆก็ยิงกระสุนใส่ชาวมาซิโดเนียที่กำลังสร้างทางและขับไล่ใครก็ตามที่พยายามดับไฟ
การทำลายหอคอยและบางส่วนของทางข้ามนี้ เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับ Alexander แต่กษัตริย์หนุ่มก็มุ่งมั่นที่จะสร้าง 'Causeway' พิเศษขึ้นมาใหม่ โดย 'Causeway' ครั้งที่สองนี้กว้างกว่าเก่าซึ่งสามารถยึดติดหอคอยได้มากขึ้น แต่ในใจของเขา เขาก็ยังคิดว่าการปิดล้อมจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อTyre ถูกโจมตีด้วยกองทัพเรือเท่านั้น
ใน 332 ปีก่อนคริสตกาล การปกครองของเปอร์เซียในอียิปต์สิ้นสุดลงพร้อมกับการมาถึงของอเล็กซานเดอร์มหาราช
หลังจากสิ้นราชวงศ์ของกษัตริย์กรีก เขาเข้าควบคุมอียิปต์และจะปกครองไปอีกสามศตวรรษข้างหน้า
(© Wikimedia เอื้อเฟื้อภาพจากกระเบื้องโมเสคโบราณในเมืองปอมเปอีประเทศอิตาลี)
ดังนั้น Alexander จึงออกเดินทางไปหาชาว Sidon เพื่อเอาข้อมูล เขาบุกขึ้นตรวจค้นตามชายฝั่งเพื่อรวบรวมเรือและลูกเรือของชาวฟินีเซียนซึ่งเคยให้บริการกับชาวเปอร์เซีย โดยมีกษัตริย์ฟินีเซียนสองคนคือ Gerostratus of Aradus และ Enylus of Byblos เข้าร่วมกับ Alexander เพราะอาจจะเดาได้ว่าโชคชะตาของสงครามจะไปทางใด นอกจากนี้ยังมีกษัตริย์แห่ง Cyprus ได้ส่งเรือรบอีก 120 ลำเข้าร่วมด้วย ในไม่ช้า Alexander ก็มีกองเรือที่น่าเกรงขามจำนวนกว่า 250 ลำ
เมื่อ Alexander มาถึงพร้อมกับกองเรือที่เข้มแข็ง พวกไทเรียนได้ปิดกั้นท่าเรือของพวกเขาและเข้าไปอยู่ในเกาะ ด้วยเรือที่คอยคุ้มกัน Alexander จึงเริ่มสร้างทางต่อ ขณะเดียวกันพวกไทเรียนพยายามป้องกันไม่ให้กองเรือของ Alexander เข้าใกล้กำแพงเมืองมากเกินไป โดยสร้างสิ่งกีดขวางในทะเลด้วยหินจำนวนมากที่ขว้างมาเหนือกำแพงเมือง ซึ่ง Alexanderก็สั่งให้คนงานใช้เชือกดึงก้อนหินขึ้นจากน้ำ เพื่อให้สามารถเคลียร์เส้นทางได้ จากนั้นพวก
ไทเรียนได้ส่งคนดำน้ำไปตัดเชือกสมอเรือที่มาปิดล้อม แต่ Alexander ตอบโต้ด้วยการเปลี่ยนเชือกเป็นโซ่เหล็กแทน
ภาพการล้อมเมืองTyre พฤศจิกายน 333 ก่อนคริสต์ศักราชถึง 332 สิงหาคมก่อนคริสต์ศักราช โดย Frank Martini
ในที่สุด ทางข้ามก็ถูกขยายออกไปจนถึงเมือง เพื่อให้ Alexander นำหอคอยจักรกลเข้ามาทุบกำแพงเมือง จุดอ่อนในกำแพงถูกพบอยู่ทางตอนใต้สุดซึ่งกองทัพของ Alexander สามารถเจาะช่องโหว่ได้ เมื่อกองทัพเข้ามาในเมือง พวกเขาก็สามารถจัดการกองทหารได้อย่างง่ายดายและยึดเมืองได้อย่างรวดเร็ว กองทัพ Macedonian ได้สังหารหมู่ประชากรของ Tyre และมีเพียงผู้ที่หลบภัยในวิหารแห่ง Melqart เท่านั้นที่ได้รับการอภัยโทษ
มีชาย 6,000 คนถูกสังหารจากการเข้ายึดเมือง และชาวไทเรียนอีก 2,000 คนถูกตรึงบนชายหาด ส่วนที่เหลือของประชากรประมาณ 30,000 คนซึ่งประกอบด้วยพลเรือนส่วนใหญ่ถูกขายให้เป็นทาส คนของ Alexander ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยโดยมีผู้เสียชีวิตเพียง 400 คน
การสร้างทางข้ามได้เปลี่ยนภูมิศาสตร์ของชายฝั่งโดยสิ้นเชิง เป็นเวลาหลายศตวรรษหลังจากการปิดล้อม ทางข้ามกลายเป็นอุปสรรคต่อกระแสน้ำในทะเลโดยทำให้มีตะกอนเกาะอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่งของทางข้ามจนเริ่มมีรูปร่างเป็นคอคอด (isthmus) ในเวลาต่อมา Tyre กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ
ไบแซนเทียมในปลายศตวรรษที่ 4 โดยไม่ได้เป็นเกาะอีกต่อไปแต่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่
วันนี้ คาบสมุทรที่กว้างนี้เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่โดยมีความกว้างประมาณครึ่งกิโลเมตร และเต็มไปด้วยอพาร์ทเมนต์หลายร้อยหลัง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาท่าเรือทางใต้ของTyre ค่อยๆเต็มไปด้วยตะกอนและไม่ถูกใช้งานมานานแล้ว แต่ท่าเรือทางตอนเหนือยังคงถูกใช้งานอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยเรือประมงและเรือสำราญ
ภาพวาดในศตวรรษที่สิบเก้าของลูกเรือและพ่อค้าชาวฟินีเซียน
มุมมองทางอากาศของ Tyre ในปัจจุบัน
ภาพโบราณของเมืองTyre ที่มีป้อมปราการเมื่อประมาณ 837 ปีก่อนคริสตกาลแสดงให้เห็นถึงกำแพงและหอคอย
ที่มา
- Marc G. De Santis, Alexander the Great and the Siege of Tyre, Warfare History Network
- Grant, Alexander's Siege of Tyre, 332 BCE, Ancient History Encyclopedia
- Yaacov Nir, The city of Tyre, Lebanon and its semi‐artificial tombolo, 3.0.CO;2-4">3.0.CO;2-4">3.0.CO;2-4">Wiley Online Library
- Wikipedia
Cr.
https://www.amusingplanet.com/2020/11/how-alexander-turned-island-of-tyre.html / KAUSHIK PATOWARY
Cr.
https://500questions.wordpress.com/2013/02/24/43-did-the-bible-accurately-predict-the-future-of-tyre-ezekiel-26/
Cr.
https://www.livescience.com/48448-what-if-alexander-the-great.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
เกาะที่ถูกเปลี่ยนเป็นคาบสมุทรในปี 332 BCE
ชื่อของเมือง Tyre แปลว่า "หิน" ในภาษาฟินีเซียน ตั้งอยู่บนแหลมทรงกลมเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาจากชายฝั่งเลบานอนเกือบ 2 กม.ซึ่งแต่ก่อนมันไม่ได้เป็นแบบนี้ เมืองTyre เดิมเป็นเกาะที่มีน้ำเปิดเพียงครึ่งกม.แยกออกจากแผ่นดินใหญ่ เกาะนี้ได้รับการปกป้องอย่างน่าเกรงขามด้วยกำแพงสูงล้อมรอบทุกด้านด้วยความสูง 45 เมตรในทุกสถานที่ Tyre ได้รับการยกย่องว่ามีความแข็งแกร่งโดยทนต่อการปิดล้อมหลายครั้งในอดีต รวมถึงการปิดล้อม 13 ปีของกษัตริย์ Nebuchadnezzar (เนบูคัดเนสซาร์) แห่งบาบิโลน
ชาวฟินีเซียน เป็นชื่อที่ชาว "คานาอัน" ตั้งให้แก่ชาวกรีกที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณในเรื่องความกล้าหาญในการเดินเรือ เมื่อยุคสำริดสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเหล็กก็เป็นที่ต้องการอย่างมาก และนักเดินเรือชาวไทเรียนก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขนถ่ายแร่เหล็กจากสเปนและหมู่เกาะเมดิเตอร์เรเนียนไปยังสถานที่ที่ "ศิวิไลซ์" ในตะวันออกกลางมากขึ้น
ในเดือนมกราคมปี 332 ก่อนคริสตศักราช Alexander มาถึงเมืองฟีนิเซียโดยเอาชนะดาริอุสที่ 3 (Darius III) ในการรบที่ Issus ในเดือนพฤศจิกายนปี 333 ก่อนคริสตศักราช ทำให้เมืองฟินีเซียนทั้งหมดยกเว้นเกาะ Tyre ยอมจำนนต่อกองทัพของ Alexanderโดยไม่มีการสู้รบ Alexanderตระหนักถึงความสามารถในความแข็งแกร่งของ Tyre และเขารู้ดีว่าเมืองนี้จะพิชิตได้ด้วยกองเรือซึ่งเขาไม่มี แต่การปราบ Tyre เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขาเนื่องจากเป็นท่าเรือสุดท้ายของเปอร์เซียในภูมิภาคนี้
Alexander ตัดสินใจใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเข้าเมือง เขาบอกชาวไทเรียน (Tyrians) ว่าเขาต้องการทำการบูชายัญที่ วิหารโบราณของเทพเจ้าแห่ง Tyrian Melqart ซึ่งชาวกรีกระบุว่าเป็นเทพเจ้า Heracles ของพวกเขา แต่ชาวไทเรียนไม่ใช่คนโง่ พวกเขาปฏิเสธ Alexander โดยแนะนำให้ชาว Macedonian ของ Alexanderไปทำการบวงสรวง Heracles ในวิหารบนแผ่นดินใหญ่แทน จากนั้น Alexander ส่งทูตไปพยายามที่จะเจรจา แต่พวก Tyrians ได้ประหารทูตของเขาและโยนศพลงทะเล
Alexander โกรธจัดและมุ่งมั่นที่จะยึด Tyre ให้ได้ เขาสั่งให้สร้างทาง 'Causeway' (หรือ mole / ทางที่ข้ามแหล่งน้ำ) ขนาดใหญ่ ข้ามช่องแคบไปยังเมืองTyre โดยใช้เศษหินจากอาคารที่พังทลายบนแผ่นดินใหญ่ น้ำที่ตื้นโดยลึกแค่ประมาณสองเมตรทำให้งานดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อทางเข้าใกล้เกาะมากขึ้น น้ำก็ลึกขึ้นและทะเลก็มีคลื่นจัด ซึ่งชาวไทเรียนก็ยิงกระสุนออกจากเชิงเทินของป้อมปราการอยู่ตลอดเวลาเพื่อรังควานคนงานก่อสร้าง
โดยป้อมปราการส่วนใหญ่ของ Alexander คือแท่นปืนใหญ่ที่เคลื่อนที่ได้โดยมีการยิงอยู่ด้านบน เขาวางตำแหน่งหอคอยไว้ที่ปลายสุดของทางข้ามและจากยอดหอคอยที่ยิงจากด้านบนจะทำให้กองทัพของเขาสามารถยิงตอบโต้ได้
ชาวไทเรียนตอบโต้ด้วยการสร้างเรือรบ พวกเขาเอาหม้อโลหะขนาดใหญ่ (cauldrons) บรรจุด้วยน้ำมันยางไม้, กำมะถัน และสารติดไฟอื่น ๆ แล้วแขวนไว้บนเสากระโดงเรือแล้วจุดไฟ จากนั้นพวกเขาก็ส่งเรือที่กำลังลุกไหม้ไปเกยตื้นที่ทางข้ามเพื่อเผาหอคอยทั้งสองแห่ง ส่วนเรือไทเรียนลำอื่นๆก็ยิงกระสุนใส่ชาวมาซิโดเนียที่กำลังสร้างทางและขับไล่ใครก็ตามที่พยายามดับไฟ
การทำลายหอคอยและบางส่วนของทางข้ามนี้ เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับ Alexander แต่กษัตริย์หนุ่มก็มุ่งมั่นที่จะสร้าง 'Causeway' พิเศษขึ้นมาใหม่ โดย 'Causeway' ครั้งที่สองนี้กว้างกว่าเก่าซึ่งสามารถยึดติดหอคอยได้มากขึ้น แต่ในใจของเขา เขาก็ยังคิดว่าการปิดล้อมจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อTyre ถูกโจมตีด้วยกองทัพเรือเท่านั้น
เมื่อ Alexander มาถึงพร้อมกับกองเรือที่เข้มแข็ง พวกไทเรียนได้ปิดกั้นท่าเรือของพวกเขาและเข้าไปอยู่ในเกาะ ด้วยเรือที่คอยคุ้มกัน Alexander จึงเริ่มสร้างทางต่อ ขณะเดียวกันพวกไทเรียนพยายามป้องกันไม่ให้กองเรือของ Alexander เข้าใกล้กำแพงเมืองมากเกินไป โดยสร้างสิ่งกีดขวางในทะเลด้วยหินจำนวนมากที่ขว้างมาเหนือกำแพงเมือง ซึ่ง Alexanderก็สั่งให้คนงานใช้เชือกดึงก้อนหินขึ้นจากน้ำ เพื่อให้สามารถเคลียร์เส้นทางได้ จากนั้นพวก
ไทเรียนได้ส่งคนดำน้ำไปตัดเชือกสมอเรือที่มาปิดล้อม แต่ Alexander ตอบโต้ด้วยการเปลี่ยนเชือกเป็นโซ่เหล็กแทน
มีชาย 6,000 คนถูกสังหารจากการเข้ายึดเมือง และชาวไทเรียนอีก 2,000 คนถูกตรึงบนชายหาด ส่วนที่เหลือของประชากรประมาณ 30,000 คนซึ่งประกอบด้วยพลเรือนส่วนใหญ่ถูกขายให้เป็นทาส คนของ Alexander ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยโดยมีผู้เสียชีวิตเพียง 400 คน
การสร้างทางข้ามได้เปลี่ยนภูมิศาสตร์ของชายฝั่งโดยสิ้นเชิง เป็นเวลาหลายศตวรรษหลังจากการปิดล้อม ทางข้ามกลายเป็นอุปสรรคต่อกระแสน้ำในทะเลโดยทำให้มีตะกอนเกาะอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่งของทางข้ามจนเริ่มมีรูปร่างเป็นคอคอด (isthmus) ในเวลาต่อมา Tyre กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ
ไบแซนเทียมในปลายศตวรรษที่ 4 โดยไม่ได้เป็นเกาะอีกต่อไปแต่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่
วันนี้ คาบสมุทรที่กว้างนี้เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่โดยมีความกว้างประมาณครึ่งกิโลเมตร และเต็มไปด้วยอพาร์ทเมนต์หลายร้อยหลัง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาท่าเรือทางใต้ของTyre ค่อยๆเต็มไปด้วยตะกอนและไม่ถูกใช้งานมานานแล้ว แต่ท่าเรือทางตอนเหนือยังคงถูกใช้งานอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยเรือประมงและเรือสำราญ
- Marc G. De Santis, Alexander the Great and the Siege of Tyre, Warfare History Network
- Grant, Alexander's Siege of Tyre, 332 BCE, Ancient History Encyclopedia
- Yaacov Nir, The city of Tyre, Lebanon and its semi‐artificial tombolo, 3.0.CO;2-4">3.0.CO;2-4">3.0.CO;2-4">Wiley Online Library
- Wikipedia
Cr.https://www.amusingplanet.com/2020/11/how-alexander-turned-island-of-tyre.html / KAUSHIK PATOWARY
Cr.https://500questions.wordpress.com/2013/02/24/43-did-the-bible-accurately-predict-the-future-of-tyre-ezekiel-26/
Cr.https://www.livescience.com/48448-what-if-alexander-the-great.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)