F-5E Tiger2 คือเครื่องที่สองที่ชินใช้ในเรื่อง
เครื่องบินขับไล่ตระกูล F-5 นั้นสร้างโดยบริษัทนอร์ธรอป ประเทศอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเครื่องบินขับไล่ราคาประหยัดให้ประเทศพันธ์มิตรนำไปใช้ แม้ F-5 จะเป็นเครื่องบินขับไล่เบาราคาถูกแต่ก็ถูกออกแบบมาด้วยแนวคิดให้เครื่องมีความคล่องตัว,สมรรถนะและความน่าเชื่อถือสูงโดยมีราคาเครื่องและค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้ F-5 แม้จะออกแบบมาเพื่อครองอากาศแต่ก็มีขีดความสามารถที่รองรับภารกิจอื่น ๆ เช่นการโจมตีภาคพื้นดินได้
F-5 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1962 ถูกผลิตออกมาทั้งสิ้น 2,246 ลำโดยเป็นรุ่น E/F ประมาณ 1300 ลำ มีราคาต่อเครื่อง (รุ่น E) อยู่ที่ประมาณ 2.1 ล้าน USD ในช่วงปี 1978 และยังคงมีการปรับปรุงต่ออายุเพื่อใช้งานอยู่ในบางประเทศจนถึงปัจจุบันโดยประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ยังคงประจำการ F-5 อยู่
F-5 ที่ชินใช้นั้นคือ F-5E ที่เป็นรุ่นอัพเกรดจาก F-5A โดยมีเครื่องยนต์ที่กำลังแรงขึ้นและมีการติดตั้งเรดาห์มาด้วย
เครื่องประสิทธิภาพดีเกินราคา, ค่าใช้จ่ายถูก, รองรับภารกิจหลากหลายแถมยังมีเรดาห์ในตัว เหมาะกับชินมาก ซึ่งเจ้าตัวใช้เครื่องนี้อยู่นานหลายตอนทีเดียวก่อนที่จะเสียหายยับเยินจากการถูกยิงที่ Landing Gear ทำให้ล่อนลงจอดผิดพลาด
F-5 ของชินนี้มีนัยยะที่สำคัญคือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองสูงสุดของเครื่องบิน Light Fighter เช่นเดียวกับชินที่ในช่วงที่ขับ F-5 นี้เค้าสามารถทำเงินได้จำนวนมากจนเกือบจะสะสมได้ครบ 1.5 ล้าน USD แต่ฝันก็ต้องมาสลายไปเมื่อเครื่องพัง เช่นเดียวกับโลกในความเป็นจริงที่ Light Fighter เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปเมื่อเข้าสู่ยุค 80s
หลังจากเสีย F-5E ไป ก่อนที่ชินจะได้เครื่องใหม่ฐานทัพของ Area88 ก็ถูกโจมตีเสียก่อนจากฝูงบินทหารรับจ้างของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทำให้เครื่องบินความเร็วเหนือเสียงทุกลำเสียหายจน Area88 ไม่สามารถออกรบได้ โชคดีว่าทางอิสราเอลสามารถสนับสนุนเครื่องบินขับไล่ให้ได้ 10 ลำ ซากิซึ่งเป็นผู้บัญชาการของ Area88 จึงฟอร์มทีมเฉพาะกิจเพื่อสู้กับทหารรับจ้างของฝ่ายต่อต้านโดยชินถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในทีมและได้รับเครื่องบินลำใหม่ฟรี ๆ เป็นเครื่องลำที่ 3 ของชิน
IAI Kfir(คเฟอร์) ผลิตโดย Israel Aircraft Industries ประเทศอิสราเอล เป็นเครื่องที่มีสายการพัฒนาที่ค่อนข้างซับซ้อน
หากให้สรุปโดยสังเขปก็คือ ทางอิสราเอลนั้นใช้งานเครื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศสชื่อรุ่น Dassault Mirage 3 อยู่และมีการว่าจ้างให้ทางผู้ผลิตพัฒนา Mirage 3 เวอร์ชั่นเน้นโจมตีภาคพื้นดินให้ ผลที่ได้คือ Mirage 5
แต่ก่อนที่จะได้ส่งมอบก็มีการเปลี่ยนรัฐบาลของฝรั่งเศสเสียก่อน รัฐบาลใหม่นั้นสนับสนุนกลุ่มประเทศอาหรับจึงมีคำสั่งไม่ให้ส่งมอบ Mirage 5 ทั้งที่อิสราเอลชำระเงินเต็มจำนวนแล้ว ทางอิสราเอลจึงทำการผลิตเครื่อง Mirage 5 เวอร์ชั่นของตนเองด้วยชิ้นส่วนและอะไหล่ของ Mirage 3 ที่มีประกอบกับข้อมูลแบบแปลนของ Mirage 3 รวมถึงพิมพ์เขียวของอุปกรณ์ประกอบที่ทางหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลจารกรรมมาให้เป็นจำนวนมาก ในที่สุดก็เกิด อิสราเอล Mirage 5 เครื่องแรกในชื่อ Nesher และได้พัฒนาต่อยอดโดยเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่เดิมใช้เครื่องเดียวกันกับ Mirage 3 มาเป็นเครื่องยนต์ของ F-4 Phantom 2 ที่แรงกว่าและอเมริกาให้สิทธิ์อิสราเอลสามารถผลิตได้เอง ผลลัพธ์คือ คเฟอร์
เครื่องนี้ถือเป็นเครื่องที่ทันสมัยและบินเร็วที่สุดที่ชินใช้ในตอนนั้นแต่ก็เป็นเครื่องที่ผิดจากหลักนิยมของชินมากที่สุดเช่นกันเพราะไม่ได้เลือกใช้เอง
แต่จะพูดอะไรได้
F-8E ตอนเริ่มเรื่องนั้นชินพูดว่าจ่ายไป 3 แสนเหรียญ ส่วนตอนที่ F-5E ตกนั้นแม๊คคอยว่าจะหาเครื่องแบบเดียวกันมาให้โดยตีราคาราว ๆ 5 แสนเหรียญ ถ้าชินสั่งคเฟอร์มาใช้เองน่าจะต้องจ่ายมากกว่า 5 แสนแน่นอน การได้เครื่องนี้มาฟรี ๆ นั้นช่วยชินได้มากแล้ว
แถมซากิยังจัดโปรค่าเชื้อเพลิง อาวุธกระสุนและซ่อมบำรุงไม่คิดเงินแลกกับการทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 3 เดือน ยิงข้าศึกตกก็มีเงินให้อีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ต่อมาเครื่องก็เสียหายยับเยินจากการถูกมิสไซส์ยิงที่ after burner และ Hard landing (ล่อนลงจอดฉุกเฉิน) ชินต้องหาเครื่องใหม่อีกครั้ง
เครื่องที่ 4 ของชินคือ Saab 35 Draken ผลิตโดยบริษัท Saab ประเทศสวีเดน โดยมีศักดิ์เป็นปู่ของ JAS 39 Gripen ที่กองทัพอากาศไทยเองก็ใช้อยู่ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1960
เมื่อได้เลือกซื้อเครื่องเองก็เห็นได้ว่าชินยังคงเลือกเครื่องตามความถนัดและคอนเซ็ปของตัวเองแต่จากการได้ขับคเฟอร์อยู่พักใหญ่ดูเหมือนจะทำให้เจ้าตัวถูกใจปีกแบบสามเหลี่ยมขึ้นมาเลยเลือกใช้ Draken
เครื่องนี้มีจุดที่เป็นข้อสังเกตนิดหน่อยคือเป็นเครื่องรุ่นเก่าและมีการผลิตออกมาน้อย เพียง 651 ลำ จึงทำให้หายาก พ่อค้าอาวุธแม๊คคอยเล่าว่าไปได้ Body เปล่าจากประเทศหนึ่งแล้วก็ต้องไปไล่ตามหาเครื่องยนต์ในอดีตหลายประเทศกว่าจะเจอ นี่ทำให้ราคาค่าจัดหา Draken สูงกว่า F-14 ของเพื่อนรักอย่างมิกกี้เสียอีกจนมิกกี้เองยังบ่นใส่แต่ก็โดนเพื่อนนักบินแควะเอาว่าเอ็งมันใช้แต่ของหรู เครื่องถึงจะล้าสมัยแต่ก็แค่ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นยังคงยอดเยี่ยมโดยเฉพาะความเร็วสูงสุดที่สูงได้ถึง 2 มัค
ซึ่งต่อมา Area88 เกิดการรบติดพันครั้งใหญ่ Draken ของชินจึงได้แสดงศักยภาพของมันออกมาอย่างเต็มที บินไว ไต่เพดานเร็ว ใช้เวลารีโหลดสั้น ช่วยอุดช่องโหว่แนวรบของ Area88 ระหว่างที่เครื่องอื่น ๆ กำลังรีโหลดได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้น Draken ของชินก็ถูกยิงตกโดยเรือบรรทุกเครื่องบินทะเลทรายและทำให้ชินไม่ได้เข้าร่วมในการรบแตกหักกับเรือดังกล่าว เมื่อการรบจบลง Area88 ก็ย้ายที่ตั้งไปยังฐานทัพแห่งใหม่แทนฐานเก่าที่เสียหายยับเยิน
การรบกับเรือบรรทุกเครื่องบินทะเลทรายนั้นมีจุดน่าเสียดายที่ เกรก มือหนึ่งด้านโจมตีจากอากาศสู่พื้นนั้นเสียเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกันมานาน ด้วยความแค้นจึงยอมทุ่มหมดตัวให้แม๊คคอยหา A-10 มาให้แต่เครื่องมาไม่ทัน ไม่เช่นนั้นฉากที่ A-10 ยิง Gau-8 30mm Gatling Canon ด้วยกระสุนหัวเจาะเกราะเพลิงหรือหัวยูเรเนียมด้อยสมรรถนะใส่เรือบรรทุกเครื่องบินนั้นจะต้องเป็นฉากที่น่าจดจำมากฉากหนึ่งในเรื่องอย่างแน่นอน
to be continued in “Aera88 ชีวิตของชินกับ Light Fighter” Part3
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/
บทความตามใจฉัน “Aera88 ชีวิตของชินและ Light Fighter” Part2
เครื่องบินขับไล่ตระกูล F-5 นั้นสร้างโดยบริษัทนอร์ธรอป ประเทศอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเครื่องบินขับไล่ราคาประหยัดให้ประเทศพันธ์มิตรนำไปใช้ แม้ F-5 จะเป็นเครื่องบินขับไล่เบาราคาถูกแต่ก็ถูกออกแบบมาด้วยแนวคิดให้เครื่องมีความคล่องตัว,สมรรถนะและความน่าเชื่อถือสูงโดยมีราคาเครื่องและค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้ F-5 แม้จะออกแบบมาเพื่อครองอากาศแต่ก็มีขีดความสามารถที่รองรับภารกิจอื่น ๆ เช่นการโจมตีภาคพื้นดินได้
F-5 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1962 ถูกผลิตออกมาทั้งสิ้น 2,246 ลำโดยเป็นรุ่น E/F ประมาณ 1300 ลำ มีราคาต่อเครื่อง (รุ่น E) อยู่ที่ประมาณ 2.1 ล้าน USD ในช่วงปี 1978 และยังคงมีการปรับปรุงต่ออายุเพื่อใช้งานอยู่ในบางประเทศจนถึงปัจจุบันโดยประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ยังคงประจำการ F-5 อยู่
F-5 ที่ชินใช้นั้นคือ F-5E ที่เป็นรุ่นอัพเกรดจาก F-5A โดยมีเครื่องยนต์ที่กำลังแรงขึ้นและมีการติดตั้งเรดาห์มาด้วย
เครื่องประสิทธิภาพดีเกินราคา, ค่าใช้จ่ายถูก, รองรับภารกิจหลากหลายแถมยังมีเรดาห์ในตัว เหมาะกับชินมาก ซึ่งเจ้าตัวใช้เครื่องนี้อยู่นานหลายตอนทีเดียวก่อนที่จะเสียหายยับเยินจากการถูกยิงที่ Landing Gear ทำให้ล่อนลงจอดผิดพลาด
F-5 ของชินนี้มีนัยยะที่สำคัญคือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองสูงสุดของเครื่องบิน Light Fighter เช่นเดียวกับชินที่ในช่วงที่ขับ F-5 นี้เค้าสามารถทำเงินได้จำนวนมากจนเกือบจะสะสมได้ครบ 1.5 ล้าน USD แต่ฝันก็ต้องมาสลายไปเมื่อเครื่องพัง เช่นเดียวกับโลกในความเป็นจริงที่ Light Fighter เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปเมื่อเข้าสู่ยุค 80s
หลังจากเสีย F-5E ไป ก่อนที่ชินจะได้เครื่องใหม่ฐานทัพของ Area88 ก็ถูกโจมตีเสียก่อนจากฝูงบินทหารรับจ้างของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทำให้เครื่องบินความเร็วเหนือเสียงทุกลำเสียหายจน Area88 ไม่สามารถออกรบได้ โชคดีว่าทางอิสราเอลสามารถสนับสนุนเครื่องบินขับไล่ให้ได้ 10 ลำ ซากิซึ่งเป็นผู้บัญชาการของ Area88 จึงฟอร์มทีมเฉพาะกิจเพื่อสู้กับทหารรับจ้างของฝ่ายต่อต้านโดยชินถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในทีมและได้รับเครื่องบินลำใหม่ฟรี ๆ เป็นเครื่องลำที่ 3 ของชิน
IAI Kfir(คเฟอร์) ผลิตโดย Israel Aircraft Industries ประเทศอิสราเอล เป็นเครื่องที่มีสายการพัฒนาที่ค่อนข้างซับซ้อน
หากให้สรุปโดยสังเขปก็คือ ทางอิสราเอลนั้นใช้งานเครื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศสชื่อรุ่น Dassault Mirage 3 อยู่และมีการว่าจ้างให้ทางผู้ผลิตพัฒนา Mirage 3 เวอร์ชั่นเน้นโจมตีภาคพื้นดินให้ ผลที่ได้คือ Mirage 5
แต่ก่อนที่จะได้ส่งมอบก็มีการเปลี่ยนรัฐบาลของฝรั่งเศสเสียก่อน รัฐบาลใหม่นั้นสนับสนุนกลุ่มประเทศอาหรับจึงมีคำสั่งไม่ให้ส่งมอบ Mirage 5 ทั้งที่อิสราเอลชำระเงินเต็มจำนวนแล้ว ทางอิสราเอลจึงทำการผลิตเครื่อง Mirage 5 เวอร์ชั่นของตนเองด้วยชิ้นส่วนและอะไหล่ของ Mirage 3 ที่มีประกอบกับข้อมูลแบบแปลนของ Mirage 3 รวมถึงพิมพ์เขียวของอุปกรณ์ประกอบที่ทางหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลจารกรรมมาให้เป็นจำนวนมาก ในที่สุดก็เกิด อิสราเอล Mirage 5 เครื่องแรกในชื่อ Nesher และได้พัฒนาต่อยอดโดยเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่เดิมใช้เครื่องเดียวกันกับ Mirage 3 มาเป็นเครื่องยนต์ของ F-4 Phantom 2 ที่แรงกว่าและอเมริกาให้สิทธิ์อิสราเอลสามารถผลิตได้เอง ผลลัพธ์คือ คเฟอร์
เครื่องนี้ถือเป็นเครื่องที่ทันสมัยและบินเร็วที่สุดที่ชินใช้ในตอนนั้นแต่ก็เป็นเครื่องที่ผิดจากหลักนิยมของชินมากที่สุดเช่นกันเพราะไม่ได้เลือกใช้เอง
แต่จะพูดอะไรได้
F-8E ตอนเริ่มเรื่องนั้นชินพูดว่าจ่ายไป 3 แสนเหรียญ ส่วนตอนที่ F-5E ตกนั้นแม๊คคอยว่าจะหาเครื่องแบบเดียวกันมาให้โดยตีราคาราว ๆ 5 แสนเหรียญ ถ้าชินสั่งคเฟอร์มาใช้เองน่าจะต้องจ่ายมากกว่า 5 แสนแน่นอน การได้เครื่องนี้มาฟรี ๆ นั้นช่วยชินได้มากแล้ว
แถมซากิยังจัดโปรค่าเชื้อเพลิง อาวุธกระสุนและซ่อมบำรุงไม่คิดเงินแลกกับการทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 3 เดือน ยิงข้าศึกตกก็มีเงินให้อีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ต่อมาเครื่องก็เสียหายยับเยินจากการถูกมิสไซส์ยิงที่ after burner และ Hard landing (ล่อนลงจอดฉุกเฉิน) ชินต้องหาเครื่องใหม่อีกครั้ง
เครื่องที่ 4 ของชินคือ Saab 35 Draken ผลิตโดยบริษัท Saab ประเทศสวีเดน โดยมีศักดิ์เป็นปู่ของ JAS 39 Gripen ที่กองทัพอากาศไทยเองก็ใช้อยู่ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1960
เมื่อได้เลือกซื้อเครื่องเองก็เห็นได้ว่าชินยังคงเลือกเครื่องตามความถนัดและคอนเซ็ปของตัวเองแต่จากการได้ขับคเฟอร์อยู่พักใหญ่ดูเหมือนจะทำให้เจ้าตัวถูกใจปีกแบบสามเหลี่ยมขึ้นมาเลยเลือกใช้ Draken
เครื่องนี้มีจุดที่เป็นข้อสังเกตนิดหน่อยคือเป็นเครื่องรุ่นเก่าและมีการผลิตออกมาน้อย เพียง 651 ลำ จึงทำให้หายาก พ่อค้าอาวุธแม๊คคอยเล่าว่าไปได้ Body เปล่าจากประเทศหนึ่งแล้วก็ต้องไปไล่ตามหาเครื่องยนต์ในอดีตหลายประเทศกว่าจะเจอ นี่ทำให้ราคาค่าจัดหา Draken สูงกว่า F-14 ของเพื่อนรักอย่างมิกกี้เสียอีกจนมิกกี้เองยังบ่นใส่แต่ก็โดนเพื่อนนักบินแควะเอาว่าเอ็งมันใช้แต่ของหรู เครื่องถึงจะล้าสมัยแต่ก็แค่ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นยังคงยอดเยี่ยมโดยเฉพาะความเร็วสูงสุดที่สูงได้ถึง 2 มัค
ซึ่งต่อมา Area88 เกิดการรบติดพันครั้งใหญ่ Draken ของชินจึงได้แสดงศักยภาพของมันออกมาอย่างเต็มที บินไว ไต่เพดานเร็ว ใช้เวลารีโหลดสั้น ช่วยอุดช่องโหว่แนวรบของ Area88 ระหว่างที่เครื่องอื่น ๆ กำลังรีโหลดได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้น Draken ของชินก็ถูกยิงตกโดยเรือบรรทุกเครื่องบินทะเลทรายและทำให้ชินไม่ได้เข้าร่วมในการรบแตกหักกับเรือดังกล่าว เมื่อการรบจบลง Area88 ก็ย้ายที่ตั้งไปยังฐานทัพแห่งใหม่แทนฐานเก่าที่เสียหายยับเยิน
การรบกับเรือบรรทุกเครื่องบินทะเลทรายนั้นมีจุดน่าเสียดายที่ เกรก มือหนึ่งด้านโจมตีจากอากาศสู่พื้นนั้นเสียเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกันมานาน ด้วยความแค้นจึงยอมทุ่มหมดตัวให้แม๊คคอยหา A-10 มาให้แต่เครื่องมาไม่ทัน ไม่เช่นนั้นฉากที่ A-10 ยิง Gau-8 30mm Gatling Canon ด้วยกระสุนหัวเจาะเกราะเพลิงหรือหัวยูเรเนียมด้อยสมรรถนะใส่เรือบรรทุกเครื่องบินนั้นจะต้องเป็นฉากที่น่าจดจำมากฉากหนึ่งในเรื่องอย่างแน่นอน
to be continued in “Aera88 ชีวิตของชินกับ Light Fighter” Part3
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/