โดนลูกค้าดิสเครดิตเพราะเราดูไม่โปรพอ

ก็ตามหัวข้อเลยค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า

เราเป็นพนักงานขายของร้านแว่นชื่อดัง ทีนี้เรารับลูกค้าผญ. เขามาตัดเลนส์โปรเกรสซีฟกับเรา แต่ตอนวัดสายตาพี่ผจก.อายุงานสิบกว่าปีเป็นคนวัดให้ พอลค.เลืกกรอบเสร็จเราก็อธิบายข้อจำกัดของกรอบและคุณภาพเลนส์โปรที่ลค.เลือกแล้วว่ามันไม่ค่อยจะโอเคกับกรอบกลมนะ พี่ผจก.ก็ช่วยอธิบายเสริมแล้วเพราะระยะเหลือบตาอ้านหนังสือมันจะต้องลึกกว่าเดิม (เราอธิบายมีแรกไม่เข้าใจ พอผจก.ย้ำคำเดิมที่เราพูดไปเข้าใจซะงั้น เริ่มไม่ดีแล้ว) และหากเอาตัวเลนส์เริ่มต้น ระยะมองกลางที่เป็นทรงคอขวดจะแคบ ค่าบิดเบือนจะเยอะนะ(เลนส์โปรทุกรุ่นมีหมดจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับรุ่น) ลค.บอกไม่เป็นไรเพราะตัวเองก็ใช้โปรอยู่

วันมารับแว่น ยังไม่ทันทำอะไร เราให้ลค.เช็คสินค้าก่อนเลย ลค.สวมแว่นแล้วบอกทันทีเลยว่ามองไม่เห็น แล้วทำท่าไม่พอใจใส่เรา ผจก.เลยจับเทสและปรับแป้นจมูกให้ใหม่อะไรใหม่พร้อมอธิบายข้อกำจัดเมื่อคุณเปลี่ยนดีไซน์กรอบ ลค.บอกโอเค เราก็ออกใบเสร็จวันมารับให้ ลค.โวยวายบอก "พี่ซื้อของ4100 ออกใบให้พี่มา2100 พี่เอาไปเบิกได้แค่2100ใช่ป่ะ แล้วอีก2000ที่พี่มัดจำไปคือพี่เบิกไม่ได้?" เราไม่รู้ว่าใบเบิกสำหรับเขาหน้าตาควรเป็นไงแต่ของบริษัทเราเป็นงี้ ก็อธิบายให้เขาเข้าใจ โอเคจบไป

และก่อนไปพี่ผจก.เขาไปส่งลค.เสร็จ เดินกลับมาบอกเรา "เขาดิสเครดิตแกอ่ะ บอกแกดูไม่เป็นมืออาชีพ แต่พี่เข้าใจแกนะ อายุงานไม่ถึงปีจะเอามืออาชีพอะไรวะ" พี่เขากับพี่พนักงานอีกคนในร้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาพูดจากวนและไร้มารยาท

2วันต่อมาเขากลับมาใหม่ เจอเรากับพี่อีก2คน แต่ถามหาพี่ผจก.ก่อนเลย (คือรู้แล้วว่าไม่ประทับใจในตัวเรา) แต่ผจก.หยุดกลับบ้าน เขาบอกว่าเขาใส่ไม่ได้ ภาพตรงกลางมันนูน เราก็ไม่รู้มันนูนยังไงเพราะอายุกับค่าสายตาเรามันไม่เหมือนเขา เราเลยพาเขาเดินข้ามไปอีกร้านนึงที่มีช่างอยู่ แต่วันนั้นช่างใหญ่หยุด ผจก.ร้านนั้นบอกให้มาหาวันพรุ่งนี้ได้ ก็โคเอจบกันไป

อีก2วันพี่รองผจก.ร้านนู้นโทรมาหาเรา บอก "ไล่ลูกค้าตัวเองไปร้านพี่ทำไม?" ทีนี้ล่ะเมิง รองผจก.ร้านเราโทรคุยกันเป็นเรื่องเลย บอกทางนี้ไม่ได้ไล่ เขาไม่มาหาตั้งแต่เช้าแล้ว พี่ร้านนั้นก็เสริมว่า "ค่าแว่นกับค่าสายตาที่พี่วัดให้มันไม่ใช่นะ แว่นมัน+175 แต่ตอนพี่วัดเขาโอเคกับ+200" รองผจก.ร้านนั้นก็พูดว่าลค.คนนี้เรื่องเยอะ เซ้นซิทีฟ และแย่มาก(ขออภัยในความไม่สุภาพ)

และวันนี้(วันที่ตั้งกระทู้) เราเดินเอาแว่นไปให้ช่างทำ ก็ถามเขาว่ามันเกิดอะไร อันนี้คือพี่ช่างใหญ่ก็อยู่ เขาอธิบายให้เราฟังถึงเรื่องที่เจอ พี่ช่างใหญ่บอก "พี่ปรับแป้นแล้วแต่เขาบอกว่าภาพยังนูน อันนั้นพี่ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว เขาเอาเลนส์อะไรไป?" เราก็บอกเขาเอาตัวถูกๆเริ่มต้นไป  เขาไม่สู้ราคา พี่ช่างตอบกลับมา "เขาดูเหมือนไม่ประทับใจแต่แรกแล้วเพราะเราดูเด็ก ดูไม่มีความโปรพอ แต่ลูกค้าเลือกเองทั้งที่เราบอกข้อจำกัดไปแล้วลูกค้าก็ต้องรับสภาพของที่ตอนเลือก จะแก้ไขยังไงก็คุยกันแล้วกัน" แล้วพี่รองผจก.ก็เสริมว่า "เขาบอกว่าถ้าค่าสายตาแว่นผิดก็ผิดตั้งแต่น้องเขาวัดแล้ว" ....นานิ๊!!! ดิสเครดิตไม่พอใส่สีไปอี๊ก!!!!! (อันนี้คือเส้นกระตุกจริง)

ได้! ถ้ามาอีกจะอัดคลิปเสียงและภาพไว้แล้วจ้ะเพราะร้านยังไม่ติดกล้อง ขอเซฟตัวเองหน่อยเถอะ เจ้านายใหญ่ปากเสียยังไม่จี๊ดเท่าเจอคนแบบนี้เลย

...คือเราอยากรู้ว่าเราต้องทำยังไงกับลค.แบบนี้นอกจากอดทนและทำใจ???

เราเข้าใจว่าอาชีพพนักงานขายต้องรับแรงกดดันได้ ต้องควบคุมอารมณ์ได้ เป็นอาชีพ หน้าชื่นอกตรม อายุงานเราแค่5เดือน จะเอาความโปรจ๋าระดับผจก.เลยคงยังเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ เราขายของเราก็ทำเต็มที่ ไม่มีใครอยากให้มีปัญหาตามมาหรอก เราแนะนำสิ่งที่เหมาะกับคุณแล้ว แต่ของทุกอย่างมันมีราคา คุณอยากได้ของดีจัดๆแต่ไม่อยากจ่ายแพง คุณก็ต้องรับกับสิ่งที่คุณเลือกให้ได้เพราะเราถือว่าเราแนะนำและแจ้งข้อจำกัดไปหมดแล้ว

เราเป็นคนตรงๆนะเวลาพูด แต่เมื่อสวมเครื่องแบบอยู่ในร้าน เราต้องทำทุกอย่างให้นุ่มนวลที่สุด ซอต์ฟสกิลที่สุด เราไม่กลัวที่เขาดิสเครดิตเรา แต่เรากลัวว่าเขาจะโทรไปร้องเรียนกับบริษัท เพราะบริษัทเรายังยึดคติลค.คือพระเจ้า ลค.ถูกเสมอ ยิ่งพนักงานโดนหักเงินนี่ชอบเลย(แต่กับเราถ้าลค.ถ้าไม่ตายบนกางเขนก็ไม่ใช่พระเจ้า5555)

ทำไมเขาไม่คิดถึงใจเขาใจเรา วันนี้คุณเป็นลูกค้า แต่ที่ทำงานคุณก็คือผู้ให้บริการเหมือนกันแม้คุณจะทำราชการก็เถอะ ทำไมไม่คิดบ้าง เงินแค่4100กับลค.แบบคุณ จบได้คือขอลาขาดกันแค่นี้ เราก็ทำดีที่สุดของเราแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ชอบนั่นก็เป็นปัญหาของคุณ ใครสวัสดีก็เป็นลค.คนนั้น และปากเราก็สวัสดีได้ถูกคนจริงๆ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่