ปี 2020 และช่วงเวลาถัดจากนี้เป็นเวลาที่เราต้องยอมรับกันแล้วล่ะครับว่าเรากำลังเผชิญหน้าอยู่กับ วิกฤติเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่งของประเทศเราและของโลกก็ว่าได้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ผลกระทบของวิกฤติรอบนี้ได้ถูกกระจายไปยังทุกภาคส่วน ทุกชนชั้น และ ทุกภูมิภาค เรียกว่าโดนกันถ้วนหน้าอย่างแท้จริงเลยครับ และที่ผมว่าน่ากลัวกว่านั้นคือเรายังไม่รู้เลยว่าวิกฤติรอบนี้จะจบลงเมื่อไร…..

     แน่นอนครับว่าเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้เศรษฐกิจก็ชะลอตัวลง หลายๆ ส่วนถึงกับหยุดชะงักเดินหน้าต่อไม่ได้ ประชาชนคนทำงานอย่างพวกเราก็รับผลกระทบไปตามๆกัน หลายคนขาดรายได้ รายได้ลดลง ก็ต้องนำเงินเก็บออมออกมาใช้จ่ายกับรายจ่ายจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าเช่าบ้าน ผ่อนรถ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต อีกสารพัด บางคนมีภาระใช้จ่ายเยอะทั้งของตัวเองของครอบครัว ชักหน้าไม่ถึงหลังกลายเป็นขาดสภาพคล่องทางการเงินกันไป

ซึ่งสำหรับบางคนแล้วออมเงินไว้ก็เพื่อแผนการที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น
- ค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม
- ค่าใช้จ่ายกำหนดคลอดของภรรยา
- ค่าซ่อมแซมบ้าน
- ค่าประกันรถ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต


      ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ข้างต้นที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ได้อ่านมาจนถึงตอนนี้คงรู้สึกเหมือนผมกันนะครับว่า มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวของพวกเราเลยจริงไหมครับ เมื่อขาดสภาพคล่องทางการเงิน พยายามประหยัด ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเท่าที่จะทำได้แล้ว ก็ยังมีเงินไม่พอที่จะเอาไปใช้จ่าย

     วันนี้ผมเลยมารีวิวสินเชื่อเงินด่วนตัวหนึ่งที่ช่วยปลดภาระค่าใช้จ่ายมากมายที่กองอยู่ตรงหน้าได้ พอพูดว่าสินเชื่อหลายคนอาจมองว่ามันก็คือการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอีก แต่สำหรับมุมมมองของผมการมีหนี้ไม่ได้น่ากลัวนะครับถ้าเรารู้จักบริหารจัดการหนี้นั้นอย่างมีวินัย มันสามารถช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของเราได้


     สินเชื่อตัวนี้ชื่อว่า สินเชื่อเงินด่วน  Xpress Loan (เอ็กเพรสโลน) จาก ธนาคารกสิกรไทย ครับ สินเชื่อตัวนี้เป็นสินเชื่อเงินก้อนอเนกประสงค์ ก็คือสามารถเอาไปใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์เลยนั่นแหละครับ  นอกจากค่าใช้จ่ายด้านบนที่ผมยกตัวอย่างไว้ บางคนมีหนี้จากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดหลายใบ รวมแล้วเดือนๆนึงต้องจ่ายหนี้พวกนี้ เกินกว่า 50 % ของรายได้ซะอีก การขอสินเชื่อเงินด่วนตัวนี้ก็สามารถนำเงินมาปิดหนี้บัตรทั้งหมด แล้วค่อยเลือกผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยหน่อยกับหนี้ก้อนเดียว พอได้เงินพิเศษ หรือพอสถานการณ์การเงินเริ่มคลี่คลายบ้างก็สามารถนำเงินมาผ่อนโปะมากหน่อย ให้หนี้หมดเร็วขึ้นก็ได้ครับ



มารู้จักกับเจ้าสินเชื่อเงินด่วน  Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย กันครับ

     สินเชื่อเงินด่วน  Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย ตัวนี้เป็นสินเชื่อที่ค่อนข้างมีความ Flexible สูงครับ คือเราสามารถกำหนดแผนการผ่อนชำระด้วยตัวเองได้ด้วยว่า เราต้องการจะผ่อนกี่ปี ผ่อนกี่งวด ผ่อนกี่บาท ซึ่งระยะเวลาผ่อนของสินเชื่อตัวนี้จะเริ่มตั้งแต่ 12 เดือน ไปจนถึง 60 เดือน พูดง่ายๆ ว่าเลือกระยะผ่อนได้ 1 - 5 ปี ครับ อยากผ่อนสักกี่เดือนและผ่อนต่อเดือนเยอะหรือน้อยดี เช่น ถ้าผมคิดว่าช่วงนี้รายจ่ายอื่นๆ เยอะแล้วอยากจะให้ค่าผ่อนของสินเชื่อตัวนี้น้อยหน่อยก็อาจจะเลือกให้ผ่อนยาวหน่อย แต่ถ้าเราคิดว่าช่วงนี้เรามีกำลังผ่อนไหวและอยากจบหนี้ตัวนี้เร็วๆ เราก็อาจจะเลือกผ่อนให้จบภายใน 1 ปีแบบนี้ก็สามารถทำได้นะครับ





     มาดูวิธีการคำนวณยอดผ่อนชำระกันครับ ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย
รายละเอียดเพิ่มเติมตามนี้ครับ https://kbank.co/2Hj56XT








จากรูปที่ผมลองคำนวนให้ดูจะเห็นว่า
     กรณีแรกถ้าผมขอสินเชื่อ 90,000 และผ่อนชำระ 5 ปี (60 งวด) ผมจะต้องส่งค่างวดเดือนละ 2,500 บาท เท่านั้นครับ แต่ถ้าผมร่นระยะเวลาเข้ามาเหลือ 1 ปี (12 งวด) ผมจะต้องส่งค่างวดเดือนละ 8,500 บาทครับ ดังนั้นก็ต้องบอกว่าสินเชื่อ Xpress Loan ตัวนี้ค่อนข้างที่จะยืดหยุ่นและปรับแผนการผ่อนให้เป็นไปตามกลยุทธ์ของเราได้อย่างดีมากๆ เลยครับ

     และที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวมากที่สุดเลยคือ วิธีการคิดดอกเบี้ยของ Xpress Loan ตัวนี้เป็นการคิดแบบ “ลดต้นลดดอก” เหมือนการคิดดอกเบี้ยบ้านเลยครับหมายความว่าถ้าช่วงไหนเรามีเงินก้อนเราสามารถโปะชำระเพิ่มต่อเดือนได้ไงครับ และทุกคนรู้ไหมครับว่าเงินที่เราโปะเพิ่มไปเขาจะไปตัดแต่ “เงินต้น” เท่านั้นเลย และยิ่งเงินต้นเหลือน้อยเท่าไร อยากให้จำไว้เลยนะครับว่าเรายิ่งประหยัดดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้นเลยครับ ดีมากๆเลย


สินเชื่อ Xpress Loan จาก ธนาคารกสิกรไทย เหมาะกับใคร
     สำหรับมุมมองส่วนตัวของผม ผมคิดว่า Xpress Loan  ตัวนี้เป็นสินเชื่อที่เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยาก “เพิ่มสภาพคล่อง” เอาเงินก้อนไปใช้จ่ายในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ครับ หรืออาจจะเป็นคนที่แพลนต้องใช้จ่ายกับเรื่องจำเป็นในชีวิตแต่อาจจะเก็บเงินไม่ทัน

      จุดเด่นหลักๆ ของเขาจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ตลอดสัญญาและที่สำคัญการคิดดอกเบี้ยของเขาเป็นแบบลดต้นลดดอกด้วยครับ และที่สำคัญระยะเวลาผ่อนที่ปรับได้ตามใจเราตั้งแต่ 12 เดือน ไปจนถึง 60 เดือนทำให้เราสามารถวางแผนการบริหารเงินได้อย่างดีเลยล่ะครับ


สินเชื่อ Xpress Loan ใครสมัครได้บ้างและจะไปสมัครได้ที่ไหน
     Xpress Loan ตัวนี้สามารถสมัครได้ง่ายมาก ไม่ยุ่งยากอะไรเลย ขอเพียงแค่เรามีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป เป็นคนไทยที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และถ้าเป็นพนักงานบริษัทต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เราก็เข้าเกณฑ์ที่จะขอสินเชื่อได้แล้วครับ

     ส่วนเอกสารการสมัครถ้าเรามีเงินเดือนกับทางธนาคารกสิกรไทยแค่ บัตรประชาชน 1 ใบแค่นี้ก็สามารถสมัครได้แล้วครับ แต่ถ้าไม่มีบัญชีเงินเดือนกสิกรไทย สิ่งที่ต้องใช้ก็ตามรายละเอียดด้านล่างเลยจ้า



     ส่วนวิธีการสมัคร แนะนำช่องทางที่สะดวกที่สุดคือ สมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย ตามนี้ครับ https://kbank.co/2Hj56XT  





     หลังจากที่เรากรอกรายละเอียดแล้ว ไม่เกิน 3 วันทำการ จะมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารติดต่อกลับมาให้รายละเอียด พร้อมกับนัดหมายเก็บเอกสารการสมัครให้ถึงที่ โดยที่เราไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา สะดวกมากเลยครับ

     อย่างที่บอกครับการเป็นหนี้ไม่ได้น่ากลัวถ้าเรารู้จักวางแผนและมีวินัยในการผ่อนชำระ วิกฤติรอบนี้ผมก็สุดจะรู้ได้ว่ามันจะจบลงเมื่อไร ดังนั้นไม่ว่าเรากำลังจะวางแผนจะทำอะไรหรือใช้จ่ายอะไร ผมอยากให้เพื่อนๆวางแผน คิดคำนวนเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ให้รอบคอบ ยังไงผมก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจและเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันครับ

     ที่สำคัญนะครับสำหรับในช่วงท้ายปีแบบนี้ กำลังจะถึงช่วงเวลาแห่งการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีไม่ว่าจะเป็น SSF หรือ RMF เพื่อที่จะใช้ลดภาษีในปี 2563 นี้ เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าครับว่ากองทุนพวกนี้ยิ่งใกล้เวลาสิ้นปี ราคาของเขาก็จะยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆๆ เพราะคนแย่งกันเข้าไปซื้อ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ คนไหนไม่อยากไปซื้อของแพงตอนสิ้นปี ทางธนาคารกสิกรไทยเขามี Product อีกตัวนึงครับเป็นบัตร Xpress Cash บัตรกดเงินตัวใหม่ของกสิกรครับ ซึ่งถ้าเรากดเงินสดออกมาตอนนี้จะได้ฟรีดอกเบี้ย 0% 30 วัน เลย ดังนั้น ถ้าเรามีแผนว่าจะเอาโบนัสปลายปีหรือเงินปลายปีมาซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอยู่แล้ว แต่ไม่อยากรอถึงสิ้นปีผมคิดว่าการกดเงินจาก Xpress Cash มาซื้อไปก่อนเพื่อที่จะได้ราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไปและพอถึงกำหนดใน 30 วัน ได้เงินมาก็เอาเงินมาชำระคืนแบบนี้ก็น่าสนใจมากๆ นะครับ ดอกเบี้ยก็ไม่เสีย ได้ราคากองทุนที่ไม่แพงจนเกินไป ได้สิทธิลดหย่อนภาษีอีกต่างหาก



     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนในกองทุนมีปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องคำนึงด้วยเสมอคือเรื่อง “ความเสี่ยง” นะครับ อยากให้เพื่อนๆ ศึกษารายละเอียดต่างๆ ของกองทุน เงื่อนไข ข้อบังคับ และความเสี่ยงต่างๆให้รอบคอบก่อนการซื้อทุกครั้งนะครับ

วิน Guru Living