สวัสดีจ้าแม่ๆและผู้ที่สนใจทุกท่าน เราเป็นคุณแม่อายุ27 ปี ที่ทำงานอยู่ในนิคมอมตะนครค่ะ เนื่องจากช่วงที่เราใกล้คลอดนั้น ก็มีหาข้อมูลและรีวิวของหลายๆโรงพยาบาลมามากแต่ไม่เคยเห็นรีวิวคลอดที่วิภาราม โดยส่วนตัวลงประกันสังคมไว้ที่นี่และคิดว่าเป็นโรงพยาบาลที่สะอาด ปลอดโปร่งดี สุดท้ายเลยเลือกที่จะฝากครรภ์​และผ่าคลอดที่นี้ค่ะ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์​กัน

แรกเริ่มเราฝากครรภ์​ที่คลินิกใกล้บ้านค่ะ หมอคิดครั้งละ800บาท แต่คิดไปคิดมาก็อยากจะคลอดกับหมอที่ดูท้องเรามาตั้งแต่ต้นเลยย้ายมาฝากที่วิภารามค่ะ ทางรพ.จะมีแพ๊คเกจฝากครรภ์​ด้วยนะคะ 17000.- บาท แต่ตอนนั้นเราคิดว่าคงไม่คุ้มเพราะย้ายมาตอนประมาณ18สัปดาห์ เลยฝากเป็นรายครั้งค่ัะ แต่ละครั้งก็จะอยู่ที่ 2000-2500 บาท (ใครคิดจะฝากที่นี่แนะนำให้ซื้อแพ๊คเกจไปเถอะ คุ้มกว่าTwT)​ ในส่วนของการฝากครรภ์​ที่นี่ เราว่ามันโอเคนะ มีที่นั่งรอไม่เบียดเสียดเหมือนที่คลินิก พยาบาลก็ไม่ได้หน้าหงิกอะไร ส่วนหมอก็ให้เวลากับการตรวจท้องดีมาก ละเอียดยิ้บเลย ถามได้ทุกอย่าง แรกๆจะนัดซาวน์เดือนละครั้ง เพื่อดูขนาดเด็กน้อยในท้อง พอใกล้คลอดหน่อยก็ 2 ทิตครั้ง และทุกอาทิตย์ในช่วงเดือนสุดท้าย

มาถึงช่วงจะคลอด.... หมอซาวด​แล้วปรากฎว่าลูกตัวใหญ่และเราก็ตัวใหญ่เลยว่าจะให้ผ่า ให้เลือกวันไหนก็ได้ในสัปดาห์ที่ 38 ขึ้นไป พอเราเลือกวันได้หมอก็ทำเรื่องจองห้องผ่าให้เราเรียบร้อย คุยกับหมอเสร็จจนท.รพ. ก็มาคุยเรื่องแพ๊คเกจผ่าคลอด ซึ่งถ้าคลอดธรรมชาติจะอยู่ที่ประมาณ 38000  บาท ของเราเลือกแพ๊คเกจผ่าคลอด 4วัน 3คืน มูลค่า 49000 บาท
พอตกลงเสร็จก็ถึงวันผ่า ทางรพ.ให้เรางดน้ำและอาหารหลังสองทุ่ม และให้เช็คอินที่รพ.3ทุ่มเป็นต้นไป
แรกเริ่มพยาบาลพาไปห้องฉุกเฉินให้นอนเตียงรอหนุ่มมาเข็นขึ้นห้องพัก>พยาบาลให้เปลี่ยนชุดคนไข้และเจาะหลังมือต่อสายน้ำเกลือให้>เช้าวันถัดมาพยาบาบจะมาจัดดารโกน..บริเวณนั้นให้ก่อนเข้าผ่าตัด>ถึงเวลาผ่าพยาบาลเข็นเราลงไปห้องผ่าตัดรอหมอและวิสัญญีแพทย์​>หมอวิสัญญีจะทำการบล็อคหลังให้โดยให้นอนตะแคงข้างแล้วขดตัวเป็นกุ้ง หมอจะฉีดยาชาไปตรงกลางหลัง (ขั้นตอนนี้เราสะดุ้งหนีเข็มหมอเลยต้องฉีดใหม่ซ้ำไปมาประมาณ4-5เข็มได้555 ใครไม่ได้บ้าจี้ก็อย่าทำแบบนี้ พรุนซะเปล่าๆ)​เข็มไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนะปกติ>เริ่มชาละ ะยาบาลสอดสายปัสสาวะให้ นางบอกแต่เราก็ไม่รู้สึกแล้วละ>หมอมาก็ประกาศว่า ลงมีดละนะ! >ผ่านไป20นาทีได้ ตั้งแต่เข้าห้องผ่าตัดไปยัยลูกสาวก็ร้องแว้กๆให้ได้ยิน(ระหว่างผ่า หมอวิสัญจะบรรยายไทยให้ฟังว่าตอนนี้ หมอผ่าแล้ว จะเสร็จแล้ว ใส่ยานี่นั่นให้เพิ่มนะ งั้นงี้ คุยเป็นเพื่อน ไม่น่ากลัวเลยค่ะ)​>พอน้องร้องพยาบาลเด็กก็เอาไปจัดการแปปนึงข้างๆเตียงเราแหละและอุ้มลูกมาให้ถ่ายรูป ให้เช็คความถูกต้องป้ายข้อมือน้อง จากนั้นก็เข็นนางออกไป>หมอเย็บแผลปิด>พยาบาลเข็นเราออกมานอนสังเกตุอาการเอาผ้าห่มไฟฟ้าให้ห่ม(ผ่าเสร็จคุณจะหนาวสั่นมาก ไม่รู้ทำไม)​>ครบ2ชม. เข็นขึ้นไปส่งที่ห้อง ก่อนขึ้นมีแวะดูตัวน้อยอีกที ก็เป็นอันจบขั้นตอนผ่าคลอด เข้าห้องผ่า8โมง น้องออกมา8:30 เราออกมา 10:30

ระหว่างพักฟื้น วันแรกผ่าเสร็จกลับมานอนตื่นมาก็ได้กินอาหารเหลว เป็นน้ำใสๆไร้รสชาติ (หิวแทบตายได้กินแค่นี้ ค่อนข้างเศร้า)​ช่วงที่คลอดนั้นเพิ่งซาๆเรื่องโควิท ทำให้ห้องเด็กอ่อนจะไม่ได้เอาน้องมาทิ้งให้เรา น้องจะได้กินนมผงและพยาบาลโทรเรียกเราลงไปทุก3ชม.เพื่อให้นม คนอื่นห้ามเข้า (ยายกะพ่อน้องเกาะตู้ดูตาละห้อย)

ในวันสองวันแรกนั้นเราพยายามลุกขึ้นนั่ง ยืน และเดิน เพื่อไม่ให้เกิดผังผืด บอกได้เลยว่าทรมานมาก แต่พอถึงวันออกจากรพ.ก็สามารเดินได้คล่องพอดี แม่ๆต้องอดทนนะคะ

เช็คบิลล~
พยาบาลจะแจ้งจนท.การเงินขึ้นมาเก็บเงินเราถึงห้องพักค่ะ ยอดที่ออกมา 49600.- บาท ก็ถือว่ามีส่วนเกินขึ้นมานิสนึง ไม่เกินแพ๊คเกจมาก อาจเป็นเพราะทีมคนเฝ้าไข้ถล่มตู้เย็นละมั้ง เราจ่ายแบบโอนเงินค่ะ ก็สะดวกดี ดำเนินการเสร็จได้ลงไปรับน้องที่ห้องเด็กตอนเกือบๆเที่ยง ได้ของแถมมาเต็มเลย พวกกิฟเซ็ทอาบน้ำเด็กไรงี้ พยาบาลเก็บพวกป้ายติดกระบะนอนกับสายรัดข้อมือน้องให้ด้วยนะคะ 

โดยรวมเราประทับใจกับบริการของโรงพยาบาลนะคะเลยมาแชร์ประสบการณ์​ค่ะ ไว้ให้แม่ๆที่กำลังหารพ.คลอดเก็บไว้พิจารณา​ตัดสินใจเอง
-รพ.มีบริการแจ้งเกิดให้พร้อม ได้ใบเกิดวันถัดไปจากที่ผ่าคลอดเลยค่ะแถมการ์ดhappy birthdayน้องให้ด้วย


จบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ ใครอยากทราบอะไรเพิ่มเติมก็ถามได้นะคะ ยินดีแบ่งปันข้อมูลค่ะ😆