" เรื่องของหัวใจ ต้องให้เวชธานีดูแล "
สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง แผนการเดินทางท่องเที่ยวในต่าง แดนเพื่อไปฉลองวัย 50 ของผมก็เป็นอันสลายลง เมื่อไปไหนไม่ได้ ผมก็เลยตัดสินใจ มอบของขวัญให้วันพิเศษของผมในปีที่ 50 นี้ ด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบครบวงจร ที่โรงพยาบาลเวชธานี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
โดยเริ่มต้นจากการตรวจรักษาโรคกรดไหลย้อน ที่บั่นทอนจิตใจผมอยู่เป็นเนืองๆ แต่ใครจะไปคิดว่า การมาตรวจสุขภาพในครั้งนี้ของผม แจ็คพ็อตจะแตกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ด้วยโรคหัวใจรั่ว ซึ่งแอบซ่อนอยู่ในตัวผมมาตั้งแต่เกิด แบบไม่เคยเผยอาการออกมาให้รู้ตัว
งงกันใช่ไหมครับ ว่าอยู่มาได้อย่างไรตั้ง 50 ปี โดยที่ไม่รู้เลยหรือว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ ผมเองก็ทั้งงงทั้งอึ้งแบบสตั้นท์ไปสักพักนึงครับ เพราะในชีวิต ผมไม่เคยมีอาการหน้ามืด หรือเป็นลมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็มีแต่โรคที่เกาะเกี่ยวให้รำคาญก็มีแค่โรคยอดฮิตของมนุษย์ออฟฟิศ อย่างกรดไหลย้อน และ อาการหลอดลมอักเสบในช่วงฝนเปลี่ยนฤดู หรือจะเรียกให้ดูดี ก็ภูมิแพ้อากาศ
22 กรกฎาคม 2563
เตรียมพร้อมตั้งแต่เช้า เรียก Grab จากมือถือคู่ใจ ปลายทางโรงพยาบาลเวชธานี ตั้งใจว่าอย่างไรเสียวันนี้จะต้องจัดการเรื่อง กรดไหลย้อน ให้มันจบๆไปเสียที หลังจากที่กวนจิตกวนใจมานาน แล้วค่อยสานต่อตรวจสุขภาพแบบ full option ให้ได้ภูมิใจว่าเข้าสู่วัยกลางคนแบบสุขภาพดี ไร้โรคา
หลังจากทำระเบียนประวัติ ก็ขึ้นตรวจที่ชั้น 2 กับ พญ. ศศิพิมพ์ จามิกร แพทย์อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารขณะที่คุณหมอกำลังตรวจอาการกรดไหลย้อนอยู่นั้น คุณหมอก็แจ้งให้ทราบว่า พบว่ามีเสียงฟู่ๆที่ลิ้นหัวใจ เหมือนจะเป็นอาการของโรคลิ้นหัวใจรั่ว จึงได้แนะนำพร้อมประสานให้ผมขึ้นตรวจที่ชั้น 11 ศูนย์โรคหัวใจ กับ พญ. ชาดา โชติพันธุ์วิทยากุล แพทย์อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด
หลังจากผ่านการตรวจเลือด เอ็กซ์เรย์ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ EKG และทำ Echocardiography เสร็จสรรพครบถ้วนทุกกระบวนความ ผลสรุปในวันนั้นก็พบว่า หัวใจที่เคยคิดว่าแข็งแรงดี ก็ดันมารั่วตรงลิ้นหัวใจ Mitral Valve เฮ้ยอะไรกัน ? มันเป็นกันตอนไหน ? ทำไมไม่เคยรู้ ? ทุกคำถามที่วนอยู่ในหัว แต่ก็น้อมรับคำวินิจฉัย ด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆว่า ต้องสู้ เอาน่ะเราก็อยู่กับมันมาแบบไม่รู้ตัวมาตั้ง 50 ปี ก็ถนอมรักษาตัวเองให้ดีจากนี้ไป
หลังจากที่ตั้งสติได้ ก็กลับไปใช้ชีวิตกับเพื่อนพ้องน้องพี่ ครบรอบ 50 ปีทั้งที จะปล่อยให้ผ่านไปแบบธรรมดาได้ไง เมื่อได้พบปะพูดคุยกัน และแล้วกำลังใจจากทุกๆคนก็มาแบบเต็มที่ ต้องสู้ครับงานนี้
29 กรกฎาคม 2563
มาตามนัดแพทย์เตรียมตัวเตรียมใจมาอย่างดี เป็นไงเป็นกันตั้งสติมาพร้อม น้อมรับคำวินิจฉัย จากทีมแพทย์ โดย นพ. ทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก หลังจากที่ อาจารย์หมอทวีศักดิ์ ได้ตรวจสอบผล Echo และEKG ก็ได้วินิจฉัยและอธิบายให้ฟังว่า เอ็นที่ยึดลิ้นหัวใจ ไมทรัล เกิดการชำรุดหรืออาจจะฉีกขาด เลยทำให้ลิ้นหัวใจไม่สามารถทำงานสอดคล้องกันได้ จึงส่งผลทำให้เกิดการรั่วรุนแรงระหว่างห้องที่ 3 กับห้องที่ 4 เกือบๆครึ่ง หรือ 50% เลยทีเดียว หมายความว่า ทุกครั้งที่หัวใจทำงาน จะมีเลือดไปสูบฉีดในร่างกายเพียง 2.5 ลิตร ดังนั้นหัวใจจึงต้องทำงานเพิ่มเป็นสองเท่า ทำให้เกิดอาการหัวใจโตร่วมด้วย อาจารย์หมอทวีศักดิ์ท่านจึงแนะนำให้ ผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ
อาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ท่านเป็นแพทย์หนึ่งเดียว ที่ชำนาญการซ่อมลิ้นหัวใจ และเป็นโชคของผมที่ได้เป็นผู้ป่วยภายใต้การดูแลของท่าน ทำให้ผมมีความมั่นใจเป็นที่สุดว่าผมจะได้เข้ารับการรักษาโรคหัวใจ กับทีมแพทย์ที่ดีที่สุด ภายใต้การนำทีมโดยอาจารย์หมอทวีศักดิ์ ในโรงพยาบาลที่มีศูนย์หัวใจที่ทันสมัยที่สุดในเมืองไทยด้วย
หลังจากที่ได้เข้าปรึกษากับทีมแพทย์ ก็มาถึงส่วนการประเมินราคา และกระบวนการเข้ารับการรักษาพยาบาล ซึ่งอยากจะบอกว่านอกเหนือจากทีมแพทย์และพยาบาลที่ให้การดูแลเป็นอย่างดีแล้ว เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเวชธานีทุกท่าน จะอยู่เคียงข้างคอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในขณะที่เราอยู่ในโรงพยาบาล หรือโทรศัพท์มาขอคำปรึกษา ก็จะอธิบายด้วยคำพูดที่ผ่อนคลาย ให้คนป่วยอยากตัวผมได้สบายใจ หายกังวล
11 กันยายน 2563
หลังจากที่ผมเดินเข้าเดินออกโรงพยาบาลอยู่หลายครั้งหลายหน ในช่วงเดินสิงหาตม เพื่อตรวจประวัติการรักษาโดยบริษัทประกันสุขภาพ ว่าผมไม่เคยมีปัญหากับโรคหัวใจมาก่อน จนสุดท้ายก็หาข้อยุติกับบริษัทประกันสุขภาพของผมได้ในวันนี้ โดยที่ทางบริษัทประกัน จะรับผิดชอบในวงเงินตามเงื่อนไขสัญญา
23 กันยายน 2563
เดินทางพร้อมสู่กระบวนการรักษาผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ เริ่มต้นด้วยการตรวจเลือดเตรียมความพร้อม ตรวจสภาพร่างกาย สำรองเลือดและเรียนรู้กระบวนการปฎิบัติตนหลังผ่าตัด ซึ่งจะได้พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
25 กันยายน 2563
วันนัดแอดมิทกับทางโรงพยาบาล เตรียมตัวด้วยการฉีดสีตรวจหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งผลออกมาดี ไม่มีการตีบหรืออุดตัน โล่งใจไปอีกขั้นนึง กับความพร้อมในการเข้ารับการผ่าตัด ซ่อมลิ้นหัวใจ ในวันรุ่งขึ้น
26 กันยายน 2563
วันสำคัญก็มาถึง อาจารย์หมอทวีศักดิ์ แวะมาทักทายแต่เช้า พร้อมกับทีมแพทย์ท่านอื่นๆด้วย และแล้วเวลานัดหมายก็มาถึง ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตผม ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด หัวใจตื่นตระหนกเป็นธรรมดา แต่ก็พยายามรวบรวมสมาธิและรวบรวบสติ คิดอยู่เรื่องเดียวว่า เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็จะกลับไปแข็งแรง และมีสุขภาพหัวใจที่ดี ในเวลาไม่นานเตียงของผมได้ถูกเข็นลงไปยังห้องผ่าตัด ภายในห้องมีทีมแพทย์และผู้ชำนาญการครบครัน และนั่นคือภาพสุดท้ายที่ผมจำได้ เพราะผมนับหนึ่งยังไม่ถึงสิบ ทุกสิ่งในความคิดก็ดับสนิทไป
มารู้สึกตัวอีกครั้งก็สลึมสลืออยู่ที่ห้อง ICU ในเวลาบ่ายสี่โมงเห็นจะได้ ภายใต้การดูแลอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกท่าน หลังจากที่ฟื้นมาได้สักระยะนึง คุณหมอปิยะวัชร เลิศสมบูรณ์ ก็ได้เข้ามาเยี่ยมและตรวจดูอาการ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก โดยมีทีมพยาบาลคอยช่วยค่อยเตือนให้ฝึกหายใจลึกๆ เพื่อป้องกันอาการปอดแฟ้บ และแล้วคืนแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี
27 กันยายน 2563
วันรุ่งขึ้นหลังจากการผ่าตัด ตั้งสติพร้อมรับมือกับอาการปวดระบมจากแผลผ่าตัด แต่ผิดคาดเพราะไม่ได้ระบบมากเหมือนที่คิดไว้ เปลี่ยนจากการฉีดยาแก้ปวด มาเป็นรับประทานแทน และก็เริ่มรับประทานอาหารอ่อนๆได้ด้วยตัวเอง หลังจากที่อาจารย์หมอทวีศักดิ์ แวะมาเยี่ยมตรวจอาการ ก็รับรู้ได้เลยว่า ภายในหัวใจได้รับการรักษาให้กลับมาแข็งแรงขึ้นเมื่อใจพร้อมกายก็พร้อม เหมือนจะแว่วได้ยินจากคุณหมอปิยะวัชรว่า พรุ่งนี้จะได้ขึ้นวอร์ด
28 กันยายน 2563
หลักจากได้รับการเช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาด ก็ได้เวลาตรวจความพร้อมของร่างกาย คุณหมอปิยะวัชรแวะมาแต่เช้าตรู่ ตรวจดูอย่างละเอียด พร้อมปลดสาย Drain และ สาย Feed ยาออก พันธนาการลดน้อยลง เหลือแต่สายน้ำเกลือสายออกซิเจน และสายสวนปัสสาวะ ยังคงอยู่ และพร้อมย้ายขึ้น Ward 7
หลังจากที่กล่าวลาเหล่านางฟ้าในชุดสีน้ำเงิน ผมก็ได้ย้ายขึ้นมายังห้องพักฟื้นด้านบน เริ่มมีการขยับตัวเปลี่ยนอริยาบท อาจารย์หมอทวีศักดิ์ ก็ได้แวะเวียนเข้าตรวจอาการและอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับ อาการที่ตรวจพบเจอเมื่อเปิดหัวใจขี้นมา โดยอาจารย์ได้อธิบายว่า
1. ผนังหัวใจของผมปิดไม่สนิทตั้งแต่กำเนิด จึงเป็นต้นเหตุหลักของอาการหัวใจรั่ว
2. ลิ้นหัวใจ Mitral valve ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเอ็นยึดลิ้นหัวใจชำรุด
3. แหวนที่ยึดลิ้นหัวใจ Tricuspid ฉีกขาด จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการลิ้นหัวใจรั่ว
ต้องขอบคุณอาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ที่ตัดสินใจซ่อมลิ้นหัวใจทั้งคู่พร้อมอุดรอยรั่วผนังหัวใจให้ผมในวันนั้น
29 กันยายน 2563
ตื่นเช้าเหมือนทุกวัน ทำความสะอาดร่างกาย พร้อมรับวันใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมบริหารหัวใจ และกายภาพบำบัด สายปัสสาวะ และสายออกซิเจนก็ถูกถอดออกไป เหลือสายไว้หนึ่งเส้น เพื่อใช้ในการให้ยาฆ่าเชื้อ
30 กันยายน 2563
วันนี้ฟรีจากพันธนาการทุกสิ่งอัน เริ่มขยับตัวเดินและลุกนั่งได้ เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจมากๆ เพียง 4 วันหลังการผ่าตัดก็สามารถช่วยเหลือตัวเองในระดับเบื้องต้นได้
1 ตุลาคม 2563
วันที่หัวใจได้ตื่นเต้นและเฝ้ารอคอย เพราะมีสิ่งที่ท้าทายเบื้องหน้า คือ 6 minutes walk of life โดยทีมเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัด ซึ่งคาดไม่ถึงเลยว่า ตัวเองนั้นจะทำออกมาได้ดีพอสมควร ซึ่งสามารถเดินต่อเนื่องได้ถึง 235 เมตร เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ต้องขอขอบพระคุณทีมแพทย์ ที่มพยาบาล และทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเวชธานี โดยเฉพาะอาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ที่ได้มอบชีวิตใหม่ให้ผมอีกครั้ง ด้วยหัวใจดวงเดิม เพิ่มเติมที่ความแข็งแรง
2 ตุลาคม 2563
วันที่ 6 หลังจากเข้ารับการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ ความรู้สึกเจ็บตรงบาดแผลยังคงมีบ้าง แต่ความคันที่แผลมีมากกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกการสมานของแผลผ่าตัดว่าเป็นไปได้ด้วยดี หลังจากได้รับการทำความสะอาดบาดเแผล ก็ได้เห็นว่าแผลผ่าตัดติดสนิทสวยงาม คงสภาพเหมือนเส้นขีดเล็กๆที่ลากอยู่บนกลางหน้าอก สิ่งที่เคยคิดว่าจะเป็นแผลขนาดใหญ่ มีร่องรอยการเย็บของไหม กลับตรงกันข้าม วันนี้แทบจะมองไม่ออกว่าเป็นรอยแผลผ่าตัดใหญ่
3 ตุลาคม 2563
อาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ขึ้นตรวจเยี่ยมแต่เช้า หลังจากตรวจชาร์ทและดูอาการ อาจารย์ก็แจ้งว่าหัวใจทำงานได้ดี ร่างกายก็ตอบสนองได้ดี ไม่มีโรคแทรกซ้อนใดใด พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง อะไรกันผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ 2 จุด พร้อมอุดผนังหัวใจที่รั่ว ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1 สัปดาห์ ก็สามารถออกไปใช้ชีวิตปรกติได้เพียงแต่ต้องระมัดระวังในเรื่อง การปฎิบัติตน วินัยในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ อาจารย์หมอท่านแนะนำไว้
ในความคิดของผมก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้น ผมคิดว่าต้องพักฟื้นอย่างน้อย 2 - 3 สัปดาห์ทั้งพิษบาดแผล และแผนฟื้นฟูกว่าจะกลับมาใช้ปรกติได้ ต้องขอชมเลยว่าการได้เข้ามารับการรักษา อาการลิ้นหัวใจรั่วกับทางโรงพยาบาลเวชธานีโดยมีอาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ มันเป็นสิ่งอัศจรรย์ และเหมือนเป็นโชคของผม
4 ตุลาคม 2563
หลังจากที่ทีมแพทย์ขึ้นเยี่ยม และทีมเจ้าหน้าที่มากล่าวทักทายพร้อมกับการร่ำลา เป็นภาพที่น่รัก และแสนประทับใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาแห่งความยินดีไม่ได้ เพราะที่นี่ โรงพยาบาลเวชธานี สถานพยาบาลที่ได้มอบความแข็งแรงของหัวใจ ให้ผมได้ออกไปใช้ชีวิตแบบเติมเต็มอีกครั้ง ขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์หมอทวีศักดิ์ อาจารย์หมอปิยะวัชรอาจารย์หมอชาดา อาจารย์หมอศศิพิมพ์ อาจารย์หมอฐชิภัทร และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ดูแลหัวใจของผมเป็นอย่างดีขอบพระคุณที่ช่วยให้ผมได้กลับมา reborn อีกครั้ง กับหัวใจดวงเดิม เพิ่มเติมที่ความแข็งแรง ชีวิตของผมจากนี้ไป คือกำไรแห่งชีวิตครับ " เรื่องของหัวใจ ต้องให้เวชธานีดูแล "
[CR] โรคลิ้นหัวใจ เวชธานีซ่อมได้
สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง แผนการเดินทางท่องเที่ยวในต่าง แดนเพื่อไปฉลองวัย 50 ของผมก็เป็นอันสลายลง เมื่อไปไหนไม่ได้ ผมก็เลยตัดสินใจ มอบของขวัญให้วันพิเศษของผมในปีที่ 50 นี้ ด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบครบวงจร ที่โรงพยาบาลเวชธานี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
โดยเริ่มต้นจากการตรวจรักษาโรคกรดไหลย้อน ที่บั่นทอนจิตใจผมอยู่เป็นเนืองๆ แต่ใครจะไปคิดว่า การมาตรวจสุขภาพในครั้งนี้ของผม แจ็คพ็อตจะแตกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ด้วยโรคหัวใจรั่ว ซึ่งแอบซ่อนอยู่ในตัวผมมาตั้งแต่เกิด แบบไม่เคยเผยอาการออกมาให้รู้ตัว
งงกันใช่ไหมครับ ว่าอยู่มาได้อย่างไรตั้ง 50 ปี โดยที่ไม่รู้เลยหรือว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ ผมเองก็ทั้งงงทั้งอึ้งแบบสตั้นท์ไปสักพักนึงครับ เพราะในชีวิต ผมไม่เคยมีอาการหน้ามืด หรือเป็นลมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็มีแต่โรคที่เกาะเกี่ยวให้รำคาญก็มีแค่โรคยอดฮิตของมนุษย์ออฟฟิศ อย่างกรดไหลย้อน และ อาการหลอดลมอักเสบในช่วงฝนเปลี่ยนฤดู หรือจะเรียกให้ดูดี ก็ภูมิแพ้อากาศ
22 กรกฎาคม 2563
เตรียมพร้อมตั้งแต่เช้า เรียก Grab จากมือถือคู่ใจ ปลายทางโรงพยาบาลเวชธานี ตั้งใจว่าอย่างไรเสียวันนี้จะต้องจัดการเรื่อง กรดไหลย้อน ให้มันจบๆไปเสียที หลังจากที่กวนจิตกวนใจมานาน แล้วค่อยสานต่อตรวจสุขภาพแบบ full option ให้ได้ภูมิใจว่าเข้าสู่วัยกลางคนแบบสุขภาพดี ไร้โรคา
หลังจากทำระเบียนประวัติ ก็ขึ้นตรวจที่ชั้น 2 กับ พญ. ศศิพิมพ์ จามิกร แพทย์อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารขณะที่คุณหมอกำลังตรวจอาการกรดไหลย้อนอยู่นั้น คุณหมอก็แจ้งให้ทราบว่า พบว่ามีเสียงฟู่ๆที่ลิ้นหัวใจ เหมือนจะเป็นอาการของโรคลิ้นหัวใจรั่ว จึงได้แนะนำพร้อมประสานให้ผมขึ้นตรวจที่ชั้น 11 ศูนย์โรคหัวใจ กับ พญ. ชาดา โชติพันธุ์วิทยากุล แพทย์อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด
หลังจากผ่านการตรวจเลือด เอ็กซ์เรย์ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ EKG และทำ Echocardiography เสร็จสรรพครบถ้วนทุกกระบวนความ ผลสรุปในวันนั้นก็พบว่า หัวใจที่เคยคิดว่าแข็งแรงดี ก็ดันมารั่วตรงลิ้นหัวใจ Mitral Valve เฮ้ยอะไรกัน ? มันเป็นกันตอนไหน ? ทำไมไม่เคยรู้ ? ทุกคำถามที่วนอยู่ในหัว แต่ก็น้อมรับคำวินิจฉัย ด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆว่า ต้องสู้ เอาน่ะเราก็อยู่กับมันมาแบบไม่รู้ตัวมาตั้ง 50 ปี ก็ถนอมรักษาตัวเองให้ดีจากนี้ไป
หลังจากที่ตั้งสติได้ ก็กลับไปใช้ชีวิตกับเพื่อนพ้องน้องพี่ ครบรอบ 50 ปีทั้งที จะปล่อยให้ผ่านไปแบบธรรมดาได้ไง เมื่อได้พบปะพูดคุยกัน และแล้วกำลังใจจากทุกๆคนก็มาแบบเต็มที่ ต้องสู้ครับงานนี้
29 กรกฎาคม 2563
มาตามนัดแพทย์เตรียมตัวเตรียมใจมาอย่างดี เป็นไงเป็นกันตั้งสติมาพร้อม น้อมรับคำวินิจฉัย จากทีมแพทย์ โดย นพ. ทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก หลังจากที่ อาจารย์หมอทวีศักดิ์ ได้ตรวจสอบผล Echo และEKG ก็ได้วินิจฉัยและอธิบายให้ฟังว่า เอ็นที่ยึดลิ้นหัวใจ ไมทรัล เกิดการชำรุดหรืออาจจะฉีกขาด เลยทำให้ลิ้นหัวใจไม่สามารถทำงานสอดคล้องกันได้ จึงส่งผลทำให้เกิดการรั่วรุนแรงระหว่างห้องที่ 3 กับห้องที่ 4 เกือบๆครึ่ง หรือ 50% เลยทีเดียว หมายความว่า ทุกครั้งที่หัวใจทำงาน จะมีเลือดไปสูบฉีดในร่างกายเพียง 2.5 ลิตร ดังนั้นหัวใจจึงต้องทำงานเพิ่มเป็นสองเท่า ทำให้เกิดอาการหัวใจโตร่วมด้วย อาจารย์หมอทวีศักดิ์ท่านจึงแนะนำให้ ผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ
อาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ท่านเป็นแพทย์หนึ่งเดียว ที่ชำนาญการซ่อมลิ้นหัวใจ และเป็นโชคของผมที่ได้เป็นผู้ป่วยภายใต้การดูแลของท่าน ทำให้ผมมีความมั่นใจเป็นที่สุดว่าผมจะได้เข้ารับการรักษาโรคหัวใจ กับทีมแพทย์ที่ดีที่สุด ภายใต้การนำทีมโดยอาจารย์หมอทวีศักดิ์ ในโรงพยาบาลที่มีศูนย์หัวใจที่ทันสมัยที่สุดในเมืองไทยด้วย
หลังจากที่ได้เข้าปรึกษากับทีมแพทย์ ก็มาถึงส่วนการประเมินราคา และกระบวนการเข้ารับการรักษาพยาบาล ซึ่งอยากจะบอกว่านอกเหนือจากทีมแพทย์และพยาบาลที่ให้การดูแลเป็นอย่างดีแล้ว เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเวชธานีทุกท่าน จะอยู่เคียงข้างคอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในขณะที่เราอยู่ในโรงพยาบาล หรือโทรศัพท์มาขอคำปรึกษา ก็จะอธิบายด้วยคำพูดที่ผ่อนคลาย ให้คนป่วยอยากตัวผมได้สบายใจ หายกังวล
11 กันยายน 2563
หลังจากที่ผมเดินเข้าเดินออกโรงพยาบาลอยู่หลายครั้งหลายหน ในช่วงเดินสิงหาตม เพื่อตรวจประวัติการรักษาโดยบริษัทประกันสุขภาพ ว่าผมไม่เคยมีปัญหากับโรคหัวใจมาก่อน จนสุดท้ายก็หาข้อยุติกับบริษัทประกันสุขภาพของผมได้ในวันนี้ โดยที่ทางบริษัทประกัน จะรับผิดชอบในวงเงินตามเงื่อนไขสัญญา
23 กันยายน 2563
เดินทางพร้อมสู่กระบวนการรักษาผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ เริ่มต้นด้วยการตรวจเลือดเตรียมความพร้อม ตรวจสภาพร่างกาย สำรองเลือดและเรียนรู้กระบวนการปฎิบัติตนหลังผ่าตัด ซึ่งจะได้พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
25 กันยายน 2563
วันนัดแอดมิทกับทางโรงพยาบาล เตรียมตัวด้วยการฉีดสีตรวจหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งผลออกมาดี ไม่มีการตีบหรืออุดตัน โล่งใจไปอีกขั้นนึง กับความพร้อมในการเข้ารับการผ่าตัด ซ่อมลิ้นหัวใจ ในวันรุ่งขึ้น
26 กันยายน 2563
วันสำคัญก็มาถึง อาจารย์หมอทวีศักดิ์ แวะมาทักทายแต่เช้า พร้อมกับทีมแพทย์ท่านอื่นๆด้วย และแล้วเวลานัดหมายก็มาถึง ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตผม ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด หัวใจตื่นตระหนกเป็นธรรมดา แต่ก็พยายามรวบรวมสมาธิและรวบรวบสติ คิดอยู่เรื่องเดียวว่า เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็จะกลับไปแข็งแรง และมีสุขภาพหัวใจที่ดี ในเวลาไม่นานเตียงของผมได้ถูกเข็นลงไปยังห้องผ่าตัด ภายในห้องมีทีมแพทย์และผู้ชำนาญการครบครัน และนั่นคือภาพสุดท้ายที่ผมจำได้ เพราะผมนับหนึ่งยังไม่ถึงสิบ ทุกสิ่งในความคิดก็ดับสนิทไป
มารู้สึกตัวอีกครั้งก็สลึมสลืออยู่ที่ห้อง ICU ในเวลาบ่ายสี่โมงเห็นจะได้ ภายใต้การดูแลอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกท่าน หลังจากที่ฟื้นมาได้สักระยะนึง คุณหมอปิยะวัชร เลิศสมบูรณ์ ก็ได้เข้ามาเยี่ยมและตรวจดูอาการ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก โดยมีทีมพยาบาลคอยช่วยค่อยเตือนให้ฝึกหายใจลึกๆ เพื่อป้องกันอาการปอดแฟ้บ และแล้วคืนแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี
27 กันยายน 2563
วันรุ่งขึ้นหลังจากการผ่าตัด ตั้งสติพร้อมรับมือกับอาการปวดระบมจากแผลผ่าตัด แต่ผิดคาดเพราะไม่ได้ระบบมากเหมือนที่คิดไว้ เปลี่ยนจากการฉีดยาแก้ปวด มาเป็นรับประทานแทน และก็เริ่มรับประทานอาหารอ่อนๆได้ด้วยตัวเอง หลังจากที่อาจารย์หมอทวีศักดิ์ แวะมาเยี่ยมตรวจอาการ ก็รับรู้ได้เลยว่า ภายในหัวใจได้รับการรักษาให้กลับมาแข็งแรงขึ้นเมื่อใจพร้อมกายก็พร้อม เหมือนจะแว่วได้ยินจากคุณหมอปิยะวัชรว่า พรุ่งนี้จะได้ขึ้นวอร์ด
28 กันยายน 2563
หลักจากได้รับการเช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาด ก็ได้เวลาตรวจความพร้อมของร่างกาย คุณหมอปิยะวัชรแวะมาแต่เช้าตรู่ ตรวจดูอย่างละเอียด พร้อมปลดสาย Drain และ สาย Feed ยาออก พันธนาการลดน้อยลง เหลือแต่สายน้ำเกลือสายออกซิเจน และสายสวนปัสสาวะ ยังคงอยู่ และพร้อมย้ายขึ้น Ward 7
หลังจากที่กล่าวลาเหล่านางฟ้าในชุดสีน้ำเงิน ผมก็ได้ย้ายขึ้นมายังห้องพักฟื้นด้านบน เริ่มมีการขยับตัวเปลี่ยนอริยาบท อาจารย์หมอทวีศักดิ์ ก็ได้แวะเวียนเข้าตรวจอาการและอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับ อาการที่ตรวจพบเจอเมื่อเปิดหัวใจขี้นมา โดยอาจารย์ได้อธิบายว่า
1. ผนังหัวใจของผมปิดไม่สนิทตั้งแต่กำเนิด จึงเป็นต้นเหตุหลักของอาการหัวใจรั่ว
2. ลิ้นหัวใจ Mitral valve ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเอ็นยึดลิ้นหัวใจชำรุด
3. แหวนที่ยึดลิ้นหัวใจ Tricuspid ฉีกขาด จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการลิ้นหัวใจรั่ว
ต้องขอบคุณอาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ที่ตัดสินใจซ่อมลิ้นหัวใจทั้งคู่พร้อมอุดรอยรั่วผนังหัวใจให้ผมในวันนั้น
29 กันยายน 2563
ตื่นเช้าเหมือนทุกวัน ทำความสะอาดร่างกาย พร้อมรับวันใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมบริหารหัวใจ และกายภาพบำบัด สายปัสสาวะ และสายออกซิเจนก็ถูกถอดออกไป เหลือสายไว้หนึ่งเส้น เพื่อใช้ในการให้ยาฆ่าเชื้อ
30 กันยายน 2563
วันนี้ฟรีจากพันธนาการทุกสิ่งอัน เริ่มขยับตัวเดินและลุกนั่งได้ เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจมากๆ เพียง 4 วันหลังการผ่าตัดก็สามารถช่วยเหลือตัวเองในระดับเบื้องต้นได้
1 ตุลาคม 2563
วันที่หัวใจได้ตื่นเต้นและเฝ้ารอคอย เพราะมีสิ่งที่ท้าทายเบื้องหน้า คือ 6 minutes walk of life โดยทีมเจ้าหน้าที่กายภาพบำบัด ซึ่งคาดไม่ถึงเลยว่า ตัวเองนั้นจะทำออกมาได้ดีพอสมควร ซึ่งสามารถเดินต่อเนื่องได้ถึง 235 เมตร เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ต้องขอขอบพระคุณทีมแพทย์ ที่มพยาบาล และทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเวชธานี โดยเฉพาะอาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ที่ได้มอบชีวิตใหม่ให้ผมอีกครั้ง ด้วยหัวใจดวงเดิม เพิ่มเติมที่ความแข็งแรง
2 ตุลาคม 2563
วันที่ 6 หลังจากเข้ารับการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ ความรู้สึกเจ็บตรงบาดแผลยังคงมีบ้าง แต่ความคันที่แผลมีมากกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกการสมานของแผลผ่าตัดว่าเป็นไปได้ด้วยดี หลังจากได้รับการทำความสะอาดบาดเแผล ก็ได้เห็นว่าแผลผ่าตัดติดสนิทสวยงาม คงสภาพเหมือนเส้นขีดเล็กๆที่ลากอยู่บนกลางหน้าอก สิ่งที่เคยคิดว่าจะเป็นแผลขนาดใหญ่ มีร่องรอยการเย็บของไหม กลับตรงกันข้าม วันนี้แทบจะมองไม่ออกว่าเป็นรอยแผลผ่าตัดใหญ่
3 ตุลาคม 2563
อาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ ขึ้นตรวจเยี่ยมแต่เช้า หลังจากตรวจชาร์ทและดูอาการ อาจารย์ก็แจ้งว่าหัวใจทำงานได้ดี ร่างกายก็ตอบสนองได้ดี ไม่มีโรคแทรกซ้อนใดใด พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง อะไรกันผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ 2 จุด พร้อมอุดผนังหัวใจที่รั่ว ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1 สัปดาห์ ก็สามารถออกไปใช้ชีวิตปรกติได้เพียงแต่ต้องระมัดระวังในเรื่อง การปฎิบัติตน วินัยในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ อาจารย์หมอท่านแนะนำไว้
ในความคิดของผมก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้น ผมคิดว่าต้องพักฟื้นอย่างน้อย 2 - 3 สัปดาห์ทั้งพิษบาดแผล และแผนฟื้นฟูกว่าจะกลับมาใช้ปรกติได้ ต้องขอชมเลยว่าการได้เข้ามารับการรักษา อาการลิ้นหัวใจรั่วกับทางโรงพยาบาลเวชธานีโดยมีอาจารย์หมอทวีศักดิ์ โชติวัฒน์พงษ์ มันเป็นสิ่งอัศจรรย์ และเหมือนเป็นโชคของผม
4 ตุลาคม 2563
หลังจากที่ทีมแพทย์ขึ้นเยี่ยม และทีมเจ้าหน้าที่มากล่าวทักทายพร้อมกับการร่ำลา เป็นภาพที่น่รัก และแสนประทับใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาแห่งความยินดีไม่ได้ เพราะที่นี่ โรงพยาบาลเวชธานี สถานพยาบาลที่ได้มอบความแข็งแรงของหัวใจ ให้ผมได้ออกไปใช้ชีวิตแบบเติมเต็มอีกครั้ง ขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์หมอทวีศักดิ์ อาจารย์หมอปิยะวัชรอาจารย์หมอชาดา อาจารย์หมอศศิพิมพ์ อาจารย์หมอฐชิภัทร และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ดูแลหัวใจของผมเป็นอย่างดีขอบพระคุณที่ช่วยให้ผมได้กลับมา reborn อีกครั้ง กับหัวใจดวงเดิม เพิ่มเติมที่ความแข็งแรง ชีวิตของผมจากนี้ไป คือกำไรแห่งชีวิตครับ " เรื่องของหัวใจ ต้องให้เวชธานีดูแล "
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้