เราหมดรักก่อน ...ใครผิด? เราหรือเขา

เรากกับแฟนอยู่ด้วยกันมา8ปี
อายุห่างกันมาก แฟนอายุมากกว่า 2เท่า สองปีแรก แฟนนิสัยดีมาก ไม่นอกคอก ปากหวาน เอาอกเอาใจเก่ง แต่ให้แชร์ค่าห้อง ก็ไม่ซีเรียส ก็ร่วมจ่ายได้ เช่าคอนโดเดือนละหมื่นกว่า เราก็เลยบอกแฟน ว่า เราควร ย้ายไปอยู่ห้องที่ถูกกว่านี้ได้มั๊ยเงินเดือนฉัน มาร่วมแชร์จ่าย สี่ห้าพันไม่ค่อยไหว เขาไม่โอเค เราก็ต้องจำยอม ยอมจ่ายช่วย เพราะคิดว่า คนเราอยู่กันมันต้องจ่ายทัดเที่ยมกัน .. เราทำงานร้านขายยา แฟนเป็นชาวต่างชาติ เงินเดือนเราก็ไม่ได้เยอะหรอก แต่เราเป็นประหยัด แรกๆ เงินเดือน เจ็ดพันกว่า ผ่านไปแปดปี ก็ขยับมาหมื่นกว่าสองหมื่นกว่าตามลำดับ
ถามว่าแฟนดูแลเราดีมั๊ย เราไม่รู้จริง เพราะชีวิตจูนอยู่แต่กับงาน แม้จะเจียดวันหยุดไปพักผ่อนกับแฟนบ้าง เดือนละสี่ห้าวัน (หยุดต่อเนื่องตามเกณฑ์วันหยุดที่มี)
ถามว่าแฟนให้อะไรเราบ้าง ก็ไม่มี เงินที่เราใช้ ก็เงินเราเองที่หามา ส้งทางบ้าน สร้างบ้านให้พ่อแม่ ปลดหนี้ให้พ่อแม่ ซื้อรถยนต์ให้ทางบ้าน รถมอไซด์ ก็เงินเราทั้งหมด ไม่มีเวินเขาเลยสักบาทเดียว (เพราะเขาไม่ให้)เราเลยต้องประหยัดกินประหยัด ทำงานให้เยอะ..ส่งเงินให้ทางบ้าน เขาก็ชอบบ่นว่าให้ พี่น้องคนอื่นไม่มีใครช่วยส่งเลยเหรอ  เวลาไปเดฝที่ยวด้วยกันต่างจังหวัด เราก็อยากซื้อขนมฝากเพื่อนที่ทำงาน เขาก็ด่าให้อีก ถูกตัดขาดกับเพื่อน เพราะเขาไม่ให้ไปหาเพื่อนหรือใครๆเลย ปากเขาก็บอกว่าไปหาเพื่อนบ้างซิ แต่พอเราไป กลับมาเขาก็บ่น ขออนุญาตก่อนก็บ่น ว่าให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่าเขา ...ก็เลยตัดปัญหา หยุดการติดต่อ กับเพื่อนๆสักระยะ ..เขาชอบแอบไปหาที่ทำวาน เพื่อจับผิด  เราทำงานอยู่หน้าร้าน ซึ่งก็ต้องเจอคนไข้ที่เป็นผู้ชายบ้างเป็นธรรมดา แค่เรายิ้มให้ลูกค้าเราก็มีความผิด
นั่นคือเราก็ได้แต่ทน แต่เขา กลับแอบนัด แอบคะยกับหญิงอื่น ตั้งแต่คบกันมาแล้ว จับได้คาตา เขาก็ขอโทษ ให้สัญญาไม่ทำอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม พอหลายๆครั้งเข้า เราก็เหนื่อยะเลาะ แปดปีที่อยู่ด้วยกันมา เขาไม่เคยให้เกียรติ์ เราเลยสักครั้ง แต่เขาไม่ยอมเลิก เพร่ะเจารู้ว่า ผู้หญิง ที่ไม่เคยให้เขาเปลืองเงินทองเลยคงมีแต่เราเท่านั้น
เวบาเขาป่วยไข้ ก็ยอมหยุดงาน เพื่อดูแลเขา 
แต่เราก็มีข้อเสีย คือเวลา ไม่ค่อยมีให้เขา เพราะที่ทำงานให้หยุดได้แค่เฉพาะวันหยุด หรือที่เราจองหยุดไว้เท่านั้น ก็ลาออก มาทำธุรกิจส่วนตัว กู้เงินมาลงทุน (เขาก็ไม่ช่วยสักบาท) แต่เขากลับบ่น และด่า ว่า ไม่ถึงอาทิตย์หรอกเดี๋ยวก็เจ้ง๊ง (อ้าวใฉนปากหมาเช่นนั้น) เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เราก็ยืนหยัด จนปลดหนี้เกือบเสร็จ ขยายร้านไปร้านสอง สาม สี่ ทำคนดียวจ้างลูกน้องคอยช่วย ..แต่แล้ว ทุกอย่างต้องหยุดขะงักอีก เพราะโควิด ... แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ ปิดสามร้าน เพื่อคงไว้หนึ่งร้าน และมาเพิ่มอีกร้านคือของกินเคลื่อนที่
อ้อ..ลืมบอก มีช่วงที่พ่อไม่สบายนอนโรงบาลสองเดือนกว่า เรากลับบ้านไปเฝ้าพ่อ ช่วงโควิดระบาดด้วยเขาไม่ไปด้วย เขาบอกว่า ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ (แท้แต่เงินสักบาทเขาก็ไม่มีให้) เจาบอกว่ารักษาฟรีไม่ใช่เหรอ(แต่เขาไม่รู้ว่า โรงบาลรักษาฟรีแต่ยาบางตัวเช่น ยาทาแผลกดทับ ผ้าอ้อม เราต้องจ่ายเอง ซึ่งก็แพงมาก) อาหารคนเฝ้า ที่ไม่สามารถออกนอกบริเวณได้ ต้องอยู่ประจำใกล้หมอตลอดเเวบา เลยต้องมี คนส่งอาหารส่งเสื้อผ้าไปผลัดเปลี่ยนให้ ส่งเงิน ไม่มีรถโดยสาร ก็ต้องเหมา ครั้งละพัน ทุกๆสามวัน พออธิบายเขาไป เจากลับบอกว่าแล้ว ำน้องคนอื่นๆหล่ะ ไม่ช่วยเหรอ สรุป บาทเดียวก็ไม่ได้จากเขา พอพ่ออกจากโรงบาล ดราก็กลับมาเปิดร้าน ของก็หมดอายุ เงินก็ไม่มี ขอยืมเขาลงของ กลับถูกตอกหน้ามาว่า ก็บอกแล้ว ให้เลิกทำ กลับไ ปทำร้านยาเช่นเดิม (สาเหตุที่เขาต้องการให้ไปทำร้านยาเพราะว่า เคยได้ยินเขาพูดอวดเพื่อนๆเขาว่า เขาได้เมียทำร้านยาน่ะไม่ใช่สาวบาร์) นี่ก็เลย ยอมขายแหวนวงสุดท้าย เพื่อลงของใหม่ อ้อลืมไปว่า ช่วงโควิด เลิกจ้างลูกน้องหมดเลย เพราะ ว่า ขายไม่ดี ไม่มีเงินจ้างต่อ ..พอได้ลงของ เำง ขายได้ 8วัน พ่อเสีย ก็ต้องปิดร้านอีกเดือนหนึ่ง จัดการงานศพพ่อเสร็จ ก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่ เพื่อให้ท่านทำใจได้ ตอนนี้ ทองเส้นที่เหลือหนึ่งเส้นหนึ่งบาท ตอนนอนโรงบาล ขายไปหนึ่งเส้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย  หมดเกือบแสน พองานศพ อีก ก็สองแสน มีประกันช่วย มาเจ็ดหมื่น เลี้ยงแขกมาร่วมงาน พร้อม ค่านุ่นนี่นั่น ในพิธี หมดสองแสนกว่า ทองเส้นที่สองก็ต้องจำยอมไปอีกเส้น พอโทรไปถาแฟนว่า เธอไม่คิดจะช่วยอะไรเลยเหรอ คำตอบคือ เขาช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะ ไม่ใช่ธุระอะไรของเขา เจาพูดได้แค่คำเดียวว่า เสียใจด้วยน่ะ เราก็อึก ..
แต่ที่พีคที่สุดคือตอนที่เรา กลับบ้าน สองเดือน เขาพาผู้หญิงเข้าห้อง ที่รู้เพราะดูบิลค่าเข่า น้ำเขาคิดสองคน ทั้วที่นีไม่ได้อยู่ ถามเสมียน เลยได้รู้ความจริง ตอนนั้นก็เลยขอแยกห้อง ชั่วคราว เขาขอโทษ เมื่อก่อนเขาแค่นัดเจอกันข้างนอก ค้างโรงแรมข้างนอก เราก็อภัย แต่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยไหวแล้ว เรามาอยู่ข้างนอก แต่เราก็เข้าห้องใหม่ที่เขาย้ายไปบ้าง เพราะต้องไปช่วยจัดของ ..แต่แล้วมาวันหนึ่งก็เจออีก อุปกรณ์ของผู้หญิงอื่น เขาลืมไว้
 เราก็ถามของใคร เขาไม่ตอบ เขาเลี่ยงที่จะตอบ เราก็ไม่ว่าอะไร แต่ความอดทน เริ่มหายไปแล้ว แล้ววันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ระทึก มีขโมยมาปีนห้องที่เราอยู่ ดีที่เราปิดประตูลงกรอนแน่นหนา เลยเข้าไม่ได้ เราก็เลยบอกแฟนว่าจะย้ายไปอยู่ด้วย เขาบอกว่าไปได้แค่บางวันเท่านั้น (อันนี้รูทันทีเลยว่าเขาซ่อนอีกคนอยู่เกรงสลับรางไม่ได้) แล้ววันนั้น รปภ.ถามว่ามาแค่ชั่วคืนหรือเปล่า ให้ฝากบัตรประชาชน นั่นแหละถึงรู้ว่าผู้หญิงมาไม่ซ้ำในแต่ละวัน เพราะเข้าไปเจอกิ๊บติดผมอีก เฮ้อ พอแล้ว
ที่นอนก็ที่นอนฉันซื้อ โซฟา ตู้เย็น ทีวี ทุกอย่าง ฉันหาร ซื้อร่วม  แม้แต่บัญชีเงอนฝากฉันก็หารร่วม ตอนแรกชื่อร่วม ตอนหลังเลย ให้ชื่อเขาคนเดียว เพราะ ถอนง่ายกว่า 
สรุป!!! เราโง่ดักดานมานานแสนนาน บอกเลิกมาหลายครั้งแต่เขาไม่ยอมเลิก และตามกลับทุกครั้ง เพราะเขารู้ว่าไม่มีผู้หญิงคนใหนในโลกนี้ ไม่เที่ยว ไม่บ่น ไม่ฟุ่มเฟือย ซื่อสัตย์ มั่นคง หนักแน่น และอภัยทุกครั้ง ที่เขาแสดงสำนึกผิด ก็หายโกรธแล้ว แต่ ..ครานี้ ฉันไม่ไหวแล้ว นอกจากเขาไม่ให้เกียรติ์ ดขายังเหยียดหยาม 
เวบาเห็นเพื่อนของเราคนใหนแต่งตัเซ็กซี่ ก็ทัก ไปจีบเขา เพื่อนก็บอกให้เลิกผู้ชายคนนี้ซะ แต่เราได้แต่ทน เพราะไม่เคยได้เห็นจะจะคาตา ซะที แต่หลายวันนี้เจอเต็มๆ ซ้อนรถ โอบกอด ใจเราเลยบอกว่าพอแล้ว ไม่เอาแล้ว ทนมามากแบ้ว ทนเผื่อว่าเขาสำนึกได้ แต่เปล่าเลย พอเขารู้ตัวว่าเขาทำผิดเขาก็มาง้อขอโทษ ครั้งนี้เราเมิน มองไม่เห็นซะ เขาโทรมาก็ไม่รับ ร่วมสองอาทิตย์แล้วที่ครานี้ใจแข็ง และรู้สึกเฉยๆ เขาก็พยายามโทรมาน่ะ ทุกวัน แต่ใจยอกไม่เอาแล้ว กลางคืนโทร ง้อ แต่กลางวันกลับมีคนอื่นซ้อนรถ ก็เห็นคาตาอีก แล้ว สรุปคือ ไม่จริงใจนี่หว่า เผื่อใครที่คบอยู่กับคนๆนี้ ก่อนมาคบกับเราเขาก็คบมาหลายคน ทั้งคบซ้อนทั้งเลิกแต่มีเราคนเดียวช่วงสองปีแรก แล้ว หลังจากนั้น นิสัยเดิมก็มา ..เม.ย.2499 เบอลิน สูงประมาณ170 ชอบสีดำ สีแดง (ไม่ขอเอ่ยชื่อเขาให้น่ะ) คนที่คบอยู่ย่อมรู้ ..ลูกสาวหนึ่ง อย่าร้าง(เขาโชว์ใบสำคัญอันนี้แหละ ถึงยอมคบด้วย) 
ข้อเสียเรา คือ ไม่มีเวลาไปออกเที่ยวกลางคืน ฟังเพลง เพราะเลิกงาน ก็เหนื่อยแล้ว ที่เหลืออื่นๆ ฉันว่าฉันทำได้ดีที่สุดแล้ว เรื่องที่ผู้ชายต้องการฉันก็ไม่ได้เบื่อ ตอบสนอทุกครั้งเวลาที่เขาต้องการ ฉันไม่เคยปฏิเสธเขาสักครั้ง เพราะเขาแค่ผู้ชายปกติคนหนึ่ง และฉันก็ผู้หญิงปกติธรรมดาคนหนึ่ง มีความรัก มีความต้องการ ไม่มากไปหรือไม่น้อยไป แม้ฉันจะเป็นผู้หญิงอายุ40 เติบโตมากับความยากจน หาเงินส่งตัวเองเรียนตั้งแต่ม.1 ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีข้าวกิน พ่อแม่มีแต่หนี้ แต่ฉันสามารถ ทำให้ทุกอย่างมี ด้วยหนึ่งสมอง สองมือ อดทน ประหยัด อดมื้อกินมื้อ งานหนัก งานเบา  งานก่อสร้างกรรมกร คนรับใช้ทำงานบ้าน งาน เหมาตัดอ้อย แบกอ้อย  งานเหมาเก็บผัก แล่ปลา เข็นผัก ตลาดสะพานขาว  แม่ค้า งานโรงงาน งานโรงบาล งานร้านยา ตำแหน่งดีที่สุด ผู้ช่วยเภสัชกร แค่นั้นเอง และเงินเดือนก็ถือส่าสูงที่สุดแล้ว คือผู้ช่วยเภสัช สองหมื่นขึ้นเกือบสามหมื่น ในวาระสุดท้ายก่อนลาออก ไม่เที่ยว ไม่เคยลืมตัวว่าเป็นใครมาจากใหน สู้ จนปลดหนี้ให้พ่อแม่สำเร็จ ด้วยวัย 35 ซื้อรถกระบะ ให้ ทางบ้านใช้ สร้างบ้านสองชั้นสไตร์บ้านนอกให้พ่อแม่ และข้อเสียอีกอย่างที่ทำให้เขาต้องนอกใจ อาจเป็นเพราะฉันทำทุกอย่าง เพื่อพ่อแม่ เขาอาจคิดว่าฉันเห็นแก่ตัว ฉันยอมรับข้อนี้ เพราะฉันมีพ่อแม่แค่คนเดียว ข้อเสีย ที่สุดคือฉันไม่ยอมออกไปเที่ยวกลางคืนฟังเพลงกับเขา ฉันค่ะขาไม่เป็น ฉัน ทื่อๆ ตรงๆ ชอบไม่ชอบก็บอกตรงๆ ฉันพยายามมองหาความผิดตัวเอง เวลาที่เราทำผิดเช่นทำแก้วแตก (แก้วปกตินี่แหละ )เขาด่าสารพัด แต่เวลาที่เขาทำแตกมั่ง เราก็เฉย เพราะเราคิดว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก เราเลยไม่ว่า นี่คือตัวอย่าง .
สรุปเราไม่ใช่หรือเขาไม่พอกันแน่ ..ที่เราหมดรัก เราผิดหรือเขาผิดซ้ำซาก  .. เราระบายกับใครไม่ได้ เพราะ เราเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว เพื่อนน้อย ตั้วแต่มีแฟน เราแทบไม่มีเพื่อน ..พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก โทรศัพท์ค้าง บ่อย ขออภัยด้วยค่ะ ยาวหน่อย ขอพื้นที่ระบายหน่อย เราคิดว่าเราคงมีที่ผิดนั่นแหละ เขาถึงไม่พอ และที่เราหมดรัก เราผิดมากใหมแค่นั้นเอง ที่เราอยากรู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่