JJNY : 4in1 ซีไอเอ็มบีประเมินศก.เสี่ยงหนัก/ยกฎีกา หมายจับสิ้นผล/สมชัยตรวจการบ้าน"ประชามติไพบูลย์"/คำให้การคดีนูเรมเบิร์ก

ซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินศก.ไทยเสี่ยงหนัก แม้จีดีพีติดลบน้อย
https://www.matichon.co.th/economy/news_2424032

 
ซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินศก.ไทยเสี่ยงหนัก แม้จีดีพีติดลบน้อย ตั้งเป้าเป็น ‘ธนาคารดิจิทัล’ เต็มตัว
 
นายสุธีร์ โล้วโสภณกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน เกิดผลกระทบหนักสุด หรือตกอยู่ในภาวะ Big Shock ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก ทำให้เกิดช่องว่างของการเติบโตในแต่ละธุรกิจมีไม่เท่ากัน ทั้งยังประเมินว่า ผลกระทบในครั้งนี้จะอยู่นานพอสมควร เพราะยังไม่แน่ใจว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงใด โดยประเมินว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวจะหายไปกว่า 10% ของมูลค่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โดยธนาคารได้วางแผนการดำเนินงานในปี 2564-2567 ผ่านการเน้นพัฒนาด้านดิจิทัลเป็นหลัก
 
โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำอาเซียนตามนโยบายของกลุ่มซีไอเอ็มบีทั้ง 4 ด้านที่สำคัญ คือ 
1.ธุรกิจบริหารเงิน ซึ่งปัจจุบันธนาคารซีไอเอ็มบีไทยเป็นผู้นำตลาดหุ้นกู้ตลาดรองอยู่แล้ว 
2.การปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ส่วนในก้านการปล่อยสินเชื่ออื่นๆ ธนาคารตั้งเป้าพัฒนาการให้บริการและระบบดิจิทัล เพื่อทำความเข้าใจกับความต้องการของลูกค้า 
3.การพัฒนาธนาคารดิจิทัลให้มากขึ้นในแผนงาน 1-3 ปีข้างหน้า โดยการทำธุรกรรมในปัจจุบันมีผู้ใช้งานบัญชีเดินต่อเนื่องเพิ่มเป็น 80% จากเดิมอยู่ที่ 43% 
และ 4.ในด้านการทำธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบีตั้งเป้าพัฒนาการทำธุรกิจข้ามประเทศ ผ่านการพัฒนาอาเซียนแพลตฟอร์ม
 
“ยอมรับว่าเศรษฐกิจจะติดลบหลายระดับ เพราะยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่เป็นการติดลบที่ลดลง จากเดิมคาดว่าจะติดลบ 10% แต่ทยอยฟื้นมาติดลบ 7% ถึง 8% แทน แต่การฟื้นตัวยังไม่แน่นอน เพราะจากเดิมที่คาดว่าจะฟื้นไตรมาส 3/2563 แต่ก็ยังไม่ได้ฟื้นขึ้นมามากนัก ซึ่งในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวนเช่นนี้ ประกอบกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จะกระทบยาวนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงประเมินว่าการปล่อยสินเชื่อ ชะลอตัวกว่าอัตราเงินฝาก แต่มั่นใจว่าการบริหารความมั่นคั่ง ยังเป็นโอกาสของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ซึ่งธนาคารยังคงเน้นจุดเด่นในการเป็นผู้นำสินเชื่อรถมือสองและการเป็นผู้นำหุ้นกู้ตลาดรอง ประเมินส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในปีนี้จะลดลง และมี ROE อยู่ที่ 1-5% อย่างไรก็ตาม ประเมินเมื่อผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ไปแล้ว เชื่อมั่นว่า ปีหน้าเราจะผ่านจุดนี้ไปได้ โดยธนาคารมัพอร์ตสินเชื่อคงค้างในปัจจุบัน ประมาณ 200,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อรายใหญ่ (Wholesale) 75,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% และสินเชื่อรายย่อยมากกว่า 100,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของพอร์ต” นายสุธีร์ กล่าว
 
นายสุธีร์ กล่าวว่า สถานการณ์หนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ขณะนี้ พบว่าลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ ทยอยออกจากการช่วยเหลือแล้วประมาณ 80% โดยเชื่อว่าการตั้งสำรองของบริษัทฯ ยังสามารถรองรับไว้ได้ รวมถึงยังเห็นคุณภาพสินเชื่อของรายใหญ่และรายย่อยอยู่ในระดับค่อนข้างดี ทำให้คาดว่าน่าจะฝ่าเศรษฐกิจไปต่อได้ ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนแรก 2563 ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มีรายได้ 11,504.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และมีกำไรสุทธิ 1,467.5  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากรายได้ดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ย กลยุทธ์การจับตลาดการเงินที่มีความผันผวน และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ในปัจจุบันธนาคารตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 20% YoY แต่ยังมีจุดเด่นเรื่องการเป็นผู้นำตลาดตราสารหนี้ตลาดรอง สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งพอร์ตเติบโต 25% เร็วที่สุดในตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อันดับ 2 ในตลาดรถยนต์มือสอง



'อัยการธนกฤต'ยกฎีกา หมายจับสิ้นผลทันที หลังแจ้งข้อหา สอบคำให้การ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_2424329
 
“ธนกฤต”ผอ.นิติวัชร์อัยการ ยกฎีกา วางหลักพนักงานสอบสวนอายัดตัวผู้ต้องหา ชี้แจ้งข้อหาสอบคำให้การแล้ว ถือเป็นการจับตามหมาย หมายจับสิ้นผลทันที แต่ต้องพิจารณาเป็นรายคดี ควบคุมตัวสอบสวนต่อได้เท่าที่จำเป็น เกินเวลา ต้องขอฝากขัง หากศาลเห็นไม่จำเป็นไม่อนุญาต สั่งปล่อยได้
 
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุดได้โพสต์ความเห็นข้อกฎหมายลงเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีหมายจับมีข้อความว่า เหตุที่ทำให้หมายจับสิ้นสุดลง
 
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 68 หมายจับจะสิ้นผลใน 3 กรณี คือ
1. จับกุมตัวบุคคลตามหมายจับได้
2. ความผิดอาญาตามหมายจับนั้นขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 95 หรือ มาตรา 98 เช่น อายุความสำหรับความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตาม ป.อ. มาตรา 295 มีกำหนด 10 ปี ดังนั้น เมื่อความผิดอาญาตามหมายจับได้ขาดอายุความแล้ว หมายจับย่อมสิ้นผลไปในทันที
3. ศาลที่ออกหมายจับได้เพิกถอนหมายจับ ซึ่งศาลมีอำนาจเพิกถอนหมายจับได้หลายกรณี เช่น จากเหตุที่ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัว
 
ในที่นี้จะกล่าวถึงการที่หมายจับสิ้นผลจากการที่จับกุมตัวบุคคลตามหมายจับได้ โดยเมื่อสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้แล้ว หมายจับย่อมสิ้นผลไปในทันที จะนำหมายจับฉบับเดิมมาจับบุคคลนั้นซ้ำอีกไม่ได้
 
ในทางปฏิบัติพบว่า พนักงานสอบสวนที่ต้องการได้ตัวผู้ต้องหาซึ่งถูกคุมขังอยู่ในคดีอื่น จะมีหนังสือขออายัดตัวผู้ต้องหาไปยังสถานที่ที่คุมขังผู้ต้องหาไว้ในคดีอื่นนั้น ซึ่งในกรณีของการขออายัดตัวผู้ต้องหาในคดีอื่นโดยพนักงานสอบสวนนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขออายัดตัวผู้ต้องหาไว้ในบันทึกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0004.6/9610 ลงวันที่ 16 กันยายน 2546 ว่า การขออายัดตัวผู้ต้องหาจะต้องมีหมายจับไปดำเนินการควบคู่ไปด้วย ในกรณีที่ขออายัดตัวผู้ต้องหาไม่ได้เนื่องจากไม่มีหมายจับ แล้วผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวไป ก็ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ต้องหามาพบเพื่อสอบสวนดำเนินคดีแทน
 
ในการขออายัดตัวผู้ต้องหาในคดีอื่นนี้ ศาลฎีกาได้เคยวางแนวคำวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2541 ว่า การที่พนักงานสอบสวนที่ทำเรื่องขออายัดตัวผู้ต้องหา ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้แก่ผู้ต้องหา แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหา รวมทั้งได้สอบคำให้การผู้ต้องหาไว้ด้วยแล้วนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการขออายัดตัวผู้ต้องหาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องถือว่าพนักงานสอบสวนได้จับผู้ต้องหาแล้ว หรือผู้ต้องหาถูกจับแล้วตั้งแต่ขณะนั้น ถึงแม้ผู้ต้องหาจะถูกควบคุมตัวอยู่ในคดีอื่น และพนักงานสอบสวนในคดีนี้เพิ่งได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในภายหลังก็ตาม
 
ดังนั้น ตามแนวคำพิพากษาฎีกานี้ หากพนักงานสอบสวนที่ทำเรื่องขออายัดตัวผู้ต้องหาพร้อมกับหมายจับ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาให้แก่ผู้ต้องหา แจ้งสิทธิของผู้ต้องหา รวมทั้งได้สอบคำให้การผู้ต้องหาแล้ว ย่อมถือว่าได้มีการจับตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับแล้ว ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การอายัดตัวอย่างเดียวเท่านั้น และเมื่อสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้แล้ว หมายจับนั้นย่อมสิ้นผลไปในทันที โดยไม่ต้องให้มีการเพิกถอนหมายจับอีก แต่ทั้งนี้ การที่หมายจับจะสิ้นผลไป ต้องพิจารณาแยกตามแต่ละหมายจับเป็นรายคดี ต่างกรรมต่างวาระ ไปด้วย
 
หลังจากที่หมายจับสิ้นผลแล้ว การควบคุมตัวผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาต่อไป ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 วางหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้ว่า จะควบคุมเกินกว่าความจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ได้ โดยจะควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่ได้
 
ดังนั้น หากพนักงานสอบสวนยังดำเนินการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น และการควบคุมตัวผู้ต้องหาจะเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ พนักงานสอบสวนย่อมต้องร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้ศาลใช้อำนาจและดุลพินิจตรวจสอบถึงความจำเป็นที่จะต้องขังผู้ต้องหาไว้ในระหว่างสอบสวน หากศาลเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขังผู้ต้องหานั้นต่อไปในระหว่างสอบสวน ศาลก็จะมีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปและพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อการสอบสวนอีกไม่ได้ (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326-327/2505 (ประชุมใหญ่))

https://www.facebook.com/thanakrit.vorathanatchakul/posts/3553504184745468
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่