สุขสันต์วันเกิด Su FEVER

เป็นอีกคนที่เกิดในเดือนตุลาคม และเป็นวันสุดท้ายพอดี ในวันที่ ๓๑
Su สาวเท่มาดนักกีฬาและเก่งภาษาจีนแห่งวง FEVER
ทีมงานจึงฉลองวันเกิดให้ภายในงาน FEVER 2nd Single "Underground" 2shot Event
เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สุขสันต์วันเกิดนะครับพิซู


มะลิ แซ่ว่าง Su
Facebook: @ssu.fever
Instagram: @su.feverth

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บทสัมภาษณ์จาก The Ocean.news
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

แคชเฟส
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บทสัมภาษณ์จาก Beartai
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บทสัมภาษณ์จาก Online Station
Su FEVER: อดีตนักบาสฯ ไอดอลผู้เขินอาย!

เราหมดเวลาที่ร้าน My Magic ก็พากันย้ายสัมโนครัวกลับมายังบริเวณ Co-Working ของ The Street
ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วเป็นสถานที่ซึ่งเราขอกับทางห้างไว้ตั้งแต่ทีแรก เพื่อจะสัมภาษณ์เมมเบอร์อีก ๑ ชุด (๓ คน) ที่เหลือ
ซึ่งคนแรกของชุดที่ ๒ นี้ก็คือ ซู FEVER สาวนักบาสลุคสุดแมนของเรานี่เอง
 
ในระหว่างที่คาเมร่าแมนอย่างพี่อาร์ท ซาโตชิกำลังเซ็ตกล้องอีกรอบเพื่อให้เหมาะควรกับสถานที่สัมภาษณ์แห่งใหม่
และผมเองก็กำลังง่วนอยู่กับการเซ็ตไมค์ใหม่อีกรอบ ระหว่างนั้นก็พลางนึกย้อนไปถึงตัวตนของซูในหัวเวลาที่ได้เห็นตามอีเวนต์ต่าง ๆ ของวง
นับรวมถึงในคลิปต่าง ๆ ที่นางเคยออก ก็พบว่าซูเป็นคนที่เท่จัด ๆ แถมมีภาพลักษณ์แมนสุด ๆ ซึ่งไม่ว่าน้องจะตั้งใจให้เป็นแบบนั้นหรือไม่
หากอยากจะไขความจริงให้กระจ่าง เราก็ต้องลองมานั่งคุยกับน้องกันครับ
 
ผมหันมองซูที่ดูจะพร้อมแล้ว ก่อนจะเปิดปากเอ่ยคำถามเพื่อเริ่มยกที่ ๒ กับการสัมภาษณ์เมมเบอร์ของ FEVER
 
ไม่แมนเท่าใคร 
 
คิดว่าเราเป็นคนที่คาแรคเตอร์แมนสุดในวงรึเปล่า?
ด้วยความที่เป็นคนซึ่งมีอินฟอร์เมชั่นเกี่ยวกับซุไม่มากนัก
ทำให้ผมเลือกที่จะถามเกี่ยวกับอิมเพรสชั่นแรกที่มีต่อตัวน้องออกไป
พลางนึกต่อว่าคำตอบของซูน่าจะช่วยปลดล็อคอะไรหลาย ๆ อย่างในหัวผมได้
 
"หนูว่าปายก็แมนนะ (ขำ) ใบบัวก็แมนถ้าเขาแต่งตัวแบบเท่ ๆ
แต่ก็อาจจะเพราะการแต่งตัวนี่แหละค่ะทำให้หนูดูแมนแบบโดดเด่นออกมา
แต่ก็ยังอยากบอกว่าปายกับใบบัวดูแมนกว่าอยู่ดี"
 
จากคำตอบข้างต้นซูไม่ได้ปฎิเสธในสิ่งที่เราสงสัยแต่แค่นำเสนอออกมาจากมุมมองของเธอว่าอีก ๒ คนดูจะเข้าเค้ากว่า
ดังนั้นแล้วเราจึงถามต่อว่า ด้วยภาพลักษณ์แมน ๆ แบบนี้ตัวของซูเองเคยคิดไหมว่ามันอาจจะเป็นอุปสรรคกับความเป็นไอดอลหรือไม่?
 
"ไม่ค่ะ เพราะหนูคิดว่าวงเราค่อนข้างให้อิสระ แบบว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคนอื่น สามารถเป็นตัวเองได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลยอะไรอย่างงี้"
แม้ตอนพูด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เธอจะไม่ได้ทำเสียงแบบแบบลุงไนท์ แต่เราสัมผัสได้ถึงความเด็ดขาดในคำตอบ
และย้ำเตือนกับเราถึงความหนักแน่นในสิ่งที่สื่อออกมา
ภาพจำถัดมาที่เราจำได้เกี่ยวกับซูก็คือตัวเธอเองกับลูกบาสซึ่งดูเหมือนว่าเมื่อก่อนจะเป็นไอเทมที่เธอขาดไม่ได้เลยในชีวิตประจำวัน
หากทว่าในปัจจุบันนั้น "ไม่ได้จับมาปีกว่าๆ แล้ว ตั้งแต่มาเข้าวงค่ะ" ซูตอบด้วยอาการยิ้มแห้งนิด ๆ พลางอธิบายต่อ
"คือแบบว่าการซ้อมวงมันจะเป็นช่วงเย็น ๆ แล้วกว่าคนเขาจะมาเล่นบาสฯ กันก็ตอนแบบเลิกงาน เลิกเรียน
เป็นช่วงเย็น ๆ เหมือนกัน ก็จะแบบเสียดายอยู่ค่ะที่ไม่ได้เล่น แต่ก็ยังชอบอยู่นะคะ"
 
ในเมื่อความชอบบาสเก็ตบอลยังมีอยู่ นักกีฬาที่ชอบก็ต้องมีเช่นกัน
สำหรับซูแล้วไอดอลทางด้านการกีฬาของเธอก็คือ Ricky Rubio พอยต์การ์ดของ Utah Jazz ทีมดังจาก NBA
โดยจุดที่ทำให้เธอชอบ Ricky ทั้ง ๆ ที่อาจจะไม่ใช่ผู้เล่นระดับสตาร์ก็คือความใจสู้นั่นเอง
 
"เขาเคยหายไปช่วงหนึ่งเพราะอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว ชอบความเป็นนักสู้ค่ะ
คือถ้านับจากใน NBA เขาค่อนข้างจะเป็นคนตัวเล็กนะ แต่สำหรับหนูเขาเก่งมาก ก็เลยชอบค่ะ"
 
ซูตอบโดยที่มีความปลื้มฉายผ่านแววตาเล็กน้อย เรารู้สึกได้ว่าน้องยังชอบและอยากเล่นบาสอยู่จริง ๆ
เพียงแต่ในบางสถานการณ์ชีวิตก็จำเป็นต้องเลือก และแม้จะเสียดายโอกาสเล่นบาสขนาดไหน
แต่ซูเองก็ดูจะมุ่งมั่นกับทางนี้ที่เธอเลือกแล้วไม่ต่างกัน
เรียนจีน

แต่ก่อนจะก้าวไปสู่ประเด็นของไอดอล เรายังทราบมาอีกว่าซูนั้นมีความสามารถในการใช้ภาษาจีนอยู่ไม่น้อย
แม้ว่าเธอจะถล่มตัวอยู่แทบทุกครั้งว่าไม่ได้เก่งอะไรนัก "ก็พอสื่อสารได้ค่ะ ในระดับเป็นการเป็นงาน"
ซึ่งเราเองขอไม่เห็นด้วยกับเธอในเรื่องนี้ และพอสวนกลับไปว่านี่ไม่น่าเรียกว่าเล็กน้อยนะ
เจ้าตัวก็กระแอมขำนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้กลับมาเยินยอตัวเองแต่อย่างใด
 
เราถามต่อไปอีกหน่อยว่าภาษาจีนสำคัญขนาดไหนในความคิดของซู พอได้ยินคำถามซูก็ปั้นหน้าเป็นการเป็นงานและตอบกลับมาอย่างจริงจัง
"สำคัญมาก ๆ ค่ะ คือตอนนี้หนูเริ่มกลับไปทบทวนกลับไปเรียนใหม่แล้ว แบบเรียนด้วยตัวเอง ท่องศัพท์เยอะ ๆ
เพราะไม่ว่าจะทั้งภาคธุรกิจหรือว่าจะวงการทัวร์อะไรแบบนี้ ก็มีคนจีนเข้ามาเยอะมาก อย่างไปเดินห้างก็เจอแต่คนจีนก็มีค่ะ"
 
งานนี้เรียกได้ว่าน่าจะเกินเบอร์งานอดิเรกไปเยอะ เพราะดูซูน่าจะจริงจังกับการเรียนภาษาจีนมากจริง ๆ
ยิ่งผนวกกับพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนชนิดว่าไม่น้อยแล้ว เราเองก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หากซูจะไปได้ไกลในด้านนี้ครับ
ไอดอลที่อยากจะชัดเจนในตัวเองมากขึ้น
 
จากที่พูดคุยกันมาสักพักดูซูเป็นคนที่มี Interest ที่น่าสนใจไม่เบา ทั้งบาสเก็ตบอล, ภาษาจีน หรือแม้กระทั่งไอดอล
ซึ่งหากเรามองว่าบาสเก็ตบอลคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นนักสู้, การเรียนจีนสะท้อนถึงวิสัยทัศน์
ไอดอลก็น่าจะสะท้อนไปถึงความฝันหรือความเป็นเด็กสาวของซูนั่นเอง และ มาอยู่ฟีเวอร์ได้อย่างไร? คือคำถามเปิดประเด็นจากเรา
 
"เอ่อ... ก็ออดิชั่น คือเห็นเขารับสมัครใน Facebook อ่ะค่ะ มันเด้งขึ้นมาเราก็รู้สึกว่าน่าสนใจ เลยลองส่งวิดิโอแนะนำตัวไป
แล้วก็ติดค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ติด ที่สนใจเพราะว่าตอนเด็ก ๆ ชอบร้องชอบเต้น ชอบทำกิจกรรม
การเป็นไอดอลก็เป็นอีกหนึ่งฝันที่เคยคิดถึงแต่ไม่เคยลองทำให้สุด ๆ เลยขอใช้โอกาสนี้มาลองทำมันดีกว่าค่ะ"

ในขณะเดียวกันซูก็ยืนยันว่าตั้งแต่อยู่ในวงมาสิ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือเหล่าแฟนๆ 
 
"ก่อนอื่นก็เลยก็อยากขอบคุณแฟนคลับ แล้วก็ขอบคุณทีมงาน ประทับใจหลายด้านมาก ๆ
ส่วนที่ประทับใจที่สุดน่าจะวันเดบิวต์ค่ะ แบบขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ เลยค่ะ มันตื้นตัน ไม่คิดว่าเขาจะมารอดูเราเยอะขนาดนี้"
 
เราสามารถยืนยันถึงความจริงใจในสิ่งที่ซูพูดออกมาได้ เพราะแม้ในความย้อนแสงนิด ๆ ก็ยังสังเกตได้ถึงดวงตาที่รื้นน้ำขึ้นมาเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อเราถามถึงจุดเด่นตัวเองในความคิดของเธอเอง ตัวซูกลับบอกว่าไม่มีและยังมีเรื่องต้องพัฒนาอีกมาก
 
"หนูรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่มีจุดเด่นค่ะ สำหรับตัวหนูเองนะ เราไม่รู้ว่าคนภายนอกจะมองยังไง
แต่ในมุมมองของตัวเองหนูรู้สึกว่าธรรมดามาก แต่ก็ เอ๊ะ!? หรือหนูจะเป็นคนลุยๆ รึเปล่า? ทำอะไรสบาย ๆ ไปไหนไปกัน
ส่วนที่อยากพัฒนาตัวเอง จะเป็นด้านการพูด แล้วก็ภาพลักษณ์อีกนิดหนึ่ง คืออยากให้มันชัดเจนมากขึ้น
แฟนบางคนก็มีบอกมาบ้างว่าอยากให้แต่งตัวมากขึ้น ก็จะพยายามในแบบที่ยังเป็นตัวหนูเองอยู่ค่ะ"
 
ทั้ง ๆ ที่เป็นคนซึ่งตอบคำถามอย่างมั่นใจมาตลอด แต่กับคำถามที่เกี่ยวกับจุดเด่นตัวเอง ซูกลับฉายแววแห่งความลังเลออกมา
เพราะว่าดูเหมือนปัญหาดังกล่าวจะรบกวนใจอยู่ไม่น้อย แต่อย่างไรเสียคำตอบจากปากเธอก็ยังหนักแน่นเหมือนเคย
ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่าในอนาคตซูจะแก้ไขมันได้อย่างแน่นอน
คนแมนแสนอายสายซัพ
 
ซูมีความฝันว่าอยากจะเห็นวงตัวเองได้มีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง
ซึ่งเจ้าตัวก็เข้าใจดีว่ามันอีกแสนไกลเหลือเกิน กระนั้นก็อยากจะไปให้ถึงในสักวัน
แต่กับความฝันส่วนตัว ซูขอตั้งเป้าเรียบง่ายไว้ก่อนพลางสำทับถึงเรื่องความมั่นใจตัวเองก่อนหน้า
 
"อยากเป็นคนที่มั่นใจตัวเองมากกว่านี้ ตอนนี้หนูเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
แบบจะค่อนข้างเขินง่าย ชอบอาย ไม่ค่อยสู้หน้าใคร หนูอาจจะยังไม่ค่อยชินกับเพศตรงข้ามด้วย
แต่ว่าตอนเด็ก ๆ หนูเล่นกับเพื่อนผู้ชายนะ พอโตมาค่อย ๆ ห่างกันก็เลยกลายเป็นเขิน ๆ ไป
สรุปคืออยากพัฒนาตัวเองตรงนี้ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้นในการพูดคุยค่ะ"
 
อันที่จริงเราวางแผนว่าจะจบบทสัมภาษณ์ของซูไว้ตรงจุดนี้
อีกทั้งคำตอบของคำถามเกี่ยวกับความฝันซึ่งมีบทสรุปอยู่ที่การอยากจะพัฒนาตัวเองของซูก็เป็นอะไรที่งดงามไม่หยอก
เพียงแต่การสัมภาษณ์เมมเบอร์คนก่อนหน้าซูนั้นก่อให้เกิดประเด็นใหม่สด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งเราไม่สามารถมองข้ามได้จริง ๆ
เราจัดการถามซูถึงเรื่องดังกล่าว 'มีเพื่อนเม้าต์บอกว่าซูเล่นเกมเก่งมากคอยช่วยคุมหลังให้ตลอด'
ซูออกอาการขำแรงก่อนตอบ คำถามแบบถล่มตัวตามสไตล์
 
"หนูไม่เก่งขนาดนั้น แค่รู้สึกว่าอยากเป็นคนซัพพอร์ตเฉย ๆ
แต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เล่นเกมแล้ว เน้นไปทางฟังเพลงแทน แบบว่าอยู่กับตัวเอง
จริงๆ แล้วมันจะเป็นช่วง ๆ มากกว่า คือบางช่วงก็จะติดฟังเพลงมาก บางช่วงก็ติดอ่านหนังสือ
บางช่วงก็ติดเล่นเกมอะไรแบบนี้ มาเป็นฤดูกาลเป็นซีซั่นค่ะ"
 
และเมื่อถามว่า 'แบกปายเหนื่อยไหม?' 
 
"ไม่ค่ะ คือส่วนใหญ่ปายจะชอบลุยเดี่ยวแล้วเราค่อยตามไปทีหลัง บางทีก็ตายไปเลยไม่ค่อยกลับมาหาทีมเท่าไหร่
แต่เราก็อยากให้เขาทำตามใจ อยากไปไหนหรือไปยิงใครก็ไปเหอะ เดี๋ยวเราค่อยตามไปเก็บงานอะไรงี้"
 
ไม่มีอะไรจะกล่าวนอกจากสมเป็นพิซูคนแบกทีมจิง ๆ
ทั้งนี้หากตัดเรื่องเกมออกไปก็จะเห็นได้ว่าซูดูจะเป็นคนที่มีสติและใจเย็น หัวร้อนยาก เป็นที่พึ่งให้ทีมเมทได้อย่างดี
ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมซูถึงได้เท่ขนาดนี้ บางทีคาแรคเตอร์สาวเท่อาจไม่ต้องพยายามทำอะไรก็ออกมาเองจากภายใน
 
แต่เท่แล้วใช่ว่าต้องแข็งกระด้าง
เพราะจากที่พูดคุยกันวันนี้ก็อยากบอกว่าจริง ๆ แล้วภายในซู เป็นเด็กสาวที่เปี่ยมความละมุนไม่แพ้สตรีรายใดเช่นกัน
ลองทำความรู้จักเพิ่มเติมอีกสักนิด คุณอาจจะติดกับเสน่ห์ของ ซู FEVER คนนี้ก็เป็นได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่