สมาชิกคนที่สองของ FEVER ที่เกิดในเดือนธันวาคม
Baibua เกิดวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๒
เกือบจะเป็นน้องเล็กสุดในวงถัดจาก Baimon กับ Froy
ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นกันเถอะครับ
ศุภัชฌา โลจนะรุ่งสิริ Baibua
Facebook:
@baibua.fever
Instagram:
@baibua.feverth
บทสัมภาษณ์จาก The Ocean.news
แคชเฟส
บทสัมภาษณ์จาก Beartai
บทสัมภาษณ์จาก Online Station
ใบบัว Fever: มือตวัด เท้าขยับ กับไอดอลสาวผู้จริงจังกับศิลปะ!
เด็กอาร์ท
เราเริ่มซีรีส์การพูดคุยกับน้อง ๆ ไอดอลวง Fever ที่ถือว่ามาแรงไม่เบากันด้วยน้อง “ใบบัว” Baibua Fever
เมมเบอร์ผู้ที่หากเราสังเกตไม่ดีหรือหากยังไม่ได้รู้จักมักจี่มากนักก็อาจสับสนชื่อของเธอกับเมมเบอร์อีก ๒ คนที่เหลือ
ซึ่งก็คือ “ใบเฟิร์น” และ “ใบหม่อน” ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเราถามไปว่าช่วงแรก ๆ แฟน ๆ สับสนเรื่องชื่อหรือเรียกเธอผิดบ้างหรือไม่
ใบบัวกลับตอบมาให้เราได้ประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่นะคะ ปกติจะสับสนพี่บอส พี่ป๊อป หรือ พี่บีม พี่บีมบีม มากกว่า”
เธอตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ซึ่งเรามักจะเห็นเสมอยามได้เจอตามงานต่าง ๆ
เป็นความน่าสนใจในตัวซึ่งเราเองเวลาส่องดูในช่องทาง SNS ของเธอก็จะพบความเฟียสความแฟชั่นในรูปที่ลง
ทำให้เราต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อพบว่าน้องเรียนด้านศิลปะอยู่
“หนูเป็นคนที่ชอบจัดคอมโพสต์ในภาพ ชอบทำงานในแนว ๆ ถ่ายภาพด้วย
สนใจในด้านแฟชั่นเพราะได้รับอิทธิพลมาจากพี่สาวที่ชอบดู Victoria Secret ค่ะ”
ศิลปินไทย
ใบบัวมีศิลปินในดวงใจอยู่ไม่น้อย แต่ ๑ ในคนที่เธอศรัทธาสุด ๆ ของก็คือ “เทพอัส” เจ้าของเพจ Asuka111 art
ศิลปินนักวาดชื่อดังชาวไทยที่มีผลงานการวาดแนว ๆ Digital Painting ออกมาให้ได้ติดตามกันอยู่บ่อยๆ
“ชอบพี่อัสค่ะ ชอบลายเส้นด้วยค่ะ ลายเส้นพี่อัสสวยมาก
แล้วเขาก็เป็นคนที่ทำ CG ในไทยมานานแล้วด้วยค่ะ ทำมาเป็นสิบ ๆ ปี
เราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าหากเป็นเรา เราจะอยู่ได้นานขนาดนี้ไหม
เขาแสดงออกถึงความพยายามมาก ๆ ตั้งแต่ลายเส้นแรก ๆ จนถึงปัจจุบัน”
เราสัมผัสได้ถึงความปลื้มปริ่มยามที่น้องกำลังพูดถึงไอดอลของเธอ
แต่ก็ได้แปลกใจอีกครั้งเมื่อรายชื่อที่พูดมาเริ่มลามลึกไปยังศิลปินไทยในสายมังงะที่อาจไม่ถูกพูดถึงในวงกว้างมากนัก
“แล้วก็จริง ๆ หนูชอบ เขาเรียกว่าอะไรนะ? การ์ตูนไทยน่ะค่ะ อ๋อ การ์ตูนไทยสตูดิโอ
คือ หนูมีทั้ง Horror Hours, Love Hours, Error Hours แต่จริง ๆ พี่ชายเป็นคนสะสมแล้วเราก็มาอ่าน ๆ
ก็ชอบหลาย ๆ คนเลยค่ะ พี่ Becassine, พี่เกษม อภิชนตระกูล หูย! หนูชอบลายเส้นพี่เขามากเลยอ่า~ สวยงาม”
ใบบัวอธิบายด้วยอารามเสียอาการเล็กน้อย ซึ่งขอพูดตรง ๆ ว่าค่อนข้างเข้าใจ เพราะส่วนตัวก็ชมชอบงานของคุณเกษมไม่ต่างกัน
ศิลปะกับความฝัน
หลังพูดคุยกันมาสักพัก เรารู้สึกว่าในบุคคลิกที่ดูจะมีความเป็นหญิงสาวเสียมากกว่าเด็กสาวของใบบัว
ตัวตนของเธอก็ยังคงมีความเป็นเด็กวัยฝันยามเมื่อพลันได้พูดถึงบุคคลและสิ่งที่ชอบ
และดูเหมือนเธอจะไม่เคยลืมมันทั้งยังอยากจะแบ่งปันสู่เด็ก ๆ รุ่นถัดไป
“หนูอยากเป็นอนิเมเตอร์ อยากทำการ์ตูนให้เด็กดู เหมือนพวกดิสนีย์
แล้วก็ชอบ Marvel ด้วย ชอบ Marvel มากค่ะ หนูรู้สึกว่ามันเป็นการ Inspired เด็ก ๆ น่ะค่ะ
อย่างตอนเด็ก ๆ หนูดูการ์ตูน หนูก็เชื่อว่านางเงือกมีจริง ยูนิคอร์นมีจริง
คือมันเป็นช่วงเวลาเดียวของชีวิตที่จะสามารถเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้ได้
เราไม่ควรพลาดที่จะมีชีวิตวัยเด็กค่ะ”
แพชชั่นที่มีต่อสิ่งที่พูดของใบบัวนั้นแผ่แรงออกมาจนเรารู้สึกได้ สัมผัสได้ว่าตัวของเธอนั้นมีไฟในงานด้านนี้จริง ๆ
ทว่านั่นก็ยังผลให้เราสงสัยเพิ่มเติมขึ้นอีกว่าเธอมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร มาเป็นไอดอลได้อย่างไร
“จริง ๆ แล้วแต่ก่อนไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัว
แบบการได้เห็นตัวเองในทีวีดูจะเป็นอะไรที่เกินเอื้อมเอามาก ๆ
จนกระทั่งตอนนั้นอยู่ที่เดนมาร์คก็มีเพื่อนหนูคนหนึ่งเป็นคนญี่ปุ่น
บอกว่า BNK48 เกิดขึ้นในไทยแล้ว ลองไปออดิชั่นดูไหม?
แต่ว่าตอนรุ่นแรกหนูไม่ได้ส่งใบสมัครไปเพราะหนูอ้วน (ขำ)
เพราะตอนกลับมาจากเดนมาร์คดันคิดถึงอาหารไทยมากเกินไปหน่อยขึ้นมา ๒๐ กว่ากิโลฯ แหนะ
มาส่งตอนรุ่น ๒ แล้วก็ผ่านรอบแรก เลยมาคิดว่า เออ! มันอาจจะเป็นทางของเราก็ลองดูค่ะ
ส่วนเข้ามาอยู่ Fever ได้ยังไงนั้น ก็คือตอนไม่ติด BNK48 รุ่น ๒ แล้วไปออดิชั่นผ่านกับอีกที่หนึ่ง
แต่ตอนวันเซ็นต์สัญญาเป็นวันเดียวกับที่โรงเรียนหนูเปิด เลยส่งไลน์ไปถามเขาว่าไปไม่ได้วันนี้
แต่ทางนู้นก็ตอบกลับมาว่าถ้าไม่มาก็คือไม่ผ่านนะ ก็เลยชวดไป จนเหมือนจะยอมแพ้แล้ว
กับ Fever ถ้าไม่ติดก็ได้พูดไว้ในวิดิโอสัมภาษณ์ว่าคงไม่ใช่ทางของเรา
คือของ Fever เขาจะให้เราส่งคลิปวิดิโอไปก่อน แล้วค่อยมาออดิชั่นแบบเห็นต่อหน้าในรอบ ๒ รอบ ๓ แล้วหนูก็ติดค่ะ”
จากการสัมภาษณ์มา ๒ ใน ๓ ส่วนเราคิดว่าได้เห็นใบบัวในมุมที่ลึกขึ้นไม่มากก็น้อย
อย่างน้อยที่สุดคือเธอเป็นคนที่ตอบคำถามได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ ไม่มีเกร็ง และมั่นใจในสิ่งที่พูดออกไป
เราจึงถามต่อไปว่าจุดเด่นของตนในความคิดคืออะไรแต่กลับเป็นว่าเราเซอร์ไพรส์ในคำตอบของเธออีกหน
“หนูยังไม่ค่อยแน่ใจในคาแรคเตอร์ตัวเองเท่าไหร่ หลาย ๆ คนก็บอกอยู่
แต่ก็จะพยายามเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุดค่ะ ก็ยังคงต้องค้นหาต่อไป”
ในความมั่นใจที่เราได้เห็นจากบุคลิกก็ยังมีความขัดแย้ง และไม่มั่นใจในความตัวเองแทรกแซงเข้ามาบ้าง
แต่เราก็มั่นใจว่าน้องจะผ่านมันไปในไม่ช้า ความซับซ้อนในความรู้สึกนี้ ช่างสมกับเป็นเด็กศิลปะเสียจริง
ไอดอลที่ยังคงไล่ตามฝัน
หลาย ๆ คนมักพูดว่าการได้เป็นไอดอลนั้นคือการทำฝันให้เป็นจริงแล้ว แต่สำหรับใบบัวมันอาจถูกแค่ครึ่งเดียว
เวลาที่พูดถึงศิลปะเราจะสัมผัสได้ถึงรังสีความจริงจังจากเธอเสมอ แต่แน่นอนว่ามันไม่ง่าย
เราสงสัยในมุมมองของเธอว่าการเป็นคนวาด CG กับการเป็นไอดอลต่างหรือเหมือนกันอย่างไร
“หนูว่ามันก็ต่างกันนะคะ ก็คือในการเป็นไอดอลตอนแสดงผลงาน เราเป็นคนแสดง
แต่ว่าในส่วนของการวาด CG เราใช้สิ่งที่เราวาดขึ้นมาในการทำหน้าที่แทน ซึ่งหนูก็ชอบทั้ง ๒ อย่างนะ
คือหนูชอบสร้างออริฯ ขึ้นมา เช่นว่าชอบจินตนาการว่าในจักรวาล Marvel เราจะเป็นใคร อะไรแบบนี้ค่ะ”
อีกครั้งที่พอพูดถึงศิลปะแล้วเราได้เห็นการแสดงอารมณ์ที่เปล่งประกาย
เลยอยากรู้ว่าถ้าหากให้น้องวิพากย์ MV ของวงตนเองนั้น ใบบัวจะมีความคิดเห็นอย่างไรในแง่ความเป็นเด็กศิลปะ
ซึ่งก่อนเธอจะตอบอาการขำก็ออกมาก่อนอย่างช่วยไม่ได้ เพราะอย่างที่คาด ว่าสำหรับตัวเธอเองนั้นไม่ได้ชอบมันทั้งหมด
“จริง ๆ แล้วหนูว่า MV ตัวแรกมันออกเขียวไปนิดหนึ่งน่ะค่ะ หนูอยากให้มันฟ้ากว่านี้แต่เขาอาจจะชอบสีเขียว
คือหน้าหนูเขียวมาเลยอ่ะ หนูแบบ อู้ว หน้าหนูเขียวจัง~
ส่วน MV ๒ หนูชอบมากเลยค่ะ ชอบในความแอ๊บแสตร็คของมัน มุมกล้องที่ถ่ายก็ชอบค่ะ
ชอบความบิดเบี้ยวอ่ะ แบบว่า… ไม่รู้อ่ะค่ะ พูดแล้วขนลุก หนูฟังวันนี้หนูยังขนลุกอยู่เลยค่ะ”
แต่หากถามถึงเพลงที่ชอบจริง ๆ ของวง ใบบัวกลับเลือกเพลงใหม่ที่สุด
“ชอบเพลง Password ค่ะ ร้องสนุก หนูรู้สึกว่าพอมันสนุกแล้วยิ้มได้ค่ะ ๒ เพลงแรกไม่ค่อยจะได้ยิ้มสักเท่าไหร่ (ขำ)
แล้วก็เป็นเพลงที่หนูรู้สึกว่าเรา Interact กับผู้ชมได้ค่ะ แบบว่าทำให้เวทีสดใสขึ้นมาอะไรแบบนี้”
เรารู้สึกว่าใบบัวมีความน่าสนใจ น่าพิศวงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวจากการได้พูดคุยกับเธอให้ลึกขึ้น
รับรู้ได้ว่าเธอว่ามีตั้งใจกับการเป็นไอดอล แต่ก็มีแพสชั่นแรงกล้าในการทำงานศิลปะที่เธอรักเช่นกัน
และพลันเมื่อย้อนกลับไปดูคลิปแนะนำตัวของเธอใน Channel ของ Fever บน YouTube
เธอเคยบอกว่าอยากทำทั้ง ๒ ความฝันให้สำเร็จให้ได้ เราถามย้ำใบบัวอีกครั้งว่าปัจจุบันยังคงมั่นใจในสิ่งที่เคยลั่นวาจาไว้ไหม
“๑๐๐ เปอร์เซ็นต์นะคะ เพราะว่าคนเราไม่ได้มีความสามารถแค่ด้านเดียว คนเราสามารถทำหลาย ๆ อย่างได้ค่ะ”
ซึ่งเป็นครั้งแรกของการสัมภาษณ์… ที่เราไม่แปลกใจในคำตอบของเธอเลยแม้แต่น้อย
สุขสันต์วันเกิด Baibua FEVER
Baibua เกิดวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๒
เกือบจะเป็นน้องเล็กสุดในวงถัดจาก Baimon กับ Froy
ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นกันเถอะครับ
Instagram: @baibua.feverth
เราเริ่มซีรีส์การพูดคุยกับน้อง ๆ ไอดอลวง Fever ที่ถือว่ามาแรงไม่เบากันด้วยน้อง “ใบบัว” Baibua Fever
เมมเบอร์ผู้ที่หากเราสังเกตไม่ดีหรือหากยังไม่ได้รู้จักมักจี่มากนักก็อาจสับสนชื่อของเธอกับเมมเบอร์อีก ๒ คนที่เหลือ
ซึ่งก็คือ “ใบเฟิร์น” และ “ใบหม่อน” ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเราถามไปว่าช่วงแรก ๆ แฟน ๆ สับสนเรื่องชื่อหรือเรียกเธอผิดบ้างหรือไม่
ใบบัวกลับตอบมาให้เราได้ประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่นะคะ ปกติจะสับสนพี่บอส พี่ป๊อป หรือ พี่บีม พี่บีมบีม มากกว่า”
เธอตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ซึ่งเรามักจะเห็นเสมอยามได้เจอตามงานต่าง ๆ
เป็นความน่าสนใจในตัวซึ่งเราเองเวลาส่องดูในช่องทาง SNS ของเธอก็จะพบความเฟียสความแฟชั่นในรูปที่ลง
ทำให้เราต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อพบว่าน้องเรียนด้านศิลปะอยู่
“หนูเป็นคนที่ชอบจัดคอมโพสต์ในภาพ ชอบทำงานในแนว ๆ ถ่ายภาพด้วย
สนใจในด้านแฟชั่นเพราะได้รับอิทธิพลมาจากพี่สาวที่ชอบดู Victoria Secret ค่ะ”
ศิลปินไทย
ใบบัวมีศิลปินในดวงใจอยู่ไม่น้อย แต่ ๑ ในคนที่เธอศรัทธาสุด ๆ ของก็คือ “เทพอัส” เจ้าของเพจ Asuka111 art
ศิลปินนักวาดชื่อดังชาวไทยที่มีผลงานการวาดแนว ๆ Digital Painting ออกมาให้ได้ติดตามกันอยู่บ่อยๆ
“ชอบพี่อัสค่ะ ชอบลายเส้นด้วยค่ะ ลายเส้นพี่อัสสวยมาก
แล้วเขาก็เป็นคนที่ทำ CG ในไทยมานานแล้วด้วยค่ะ ทำมาเป็นสิบ ๆ ปี
เราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าหากเป็นเรา เราจะอยู่ได้นานขนาดนี้ไหม
เขาแสดงออกถึงความพยายามมาก ๆ ตั้งแต่ลายเส้นแรก ๆ จนถึงปัจจุบัน”
เราสัมผัสได้ถึงความปลื้มปริ่มยามที่น้องกำลังพูดถึงไอดอลของเธอ
แต่ก็ได้แปลกใจอีกครั้งเมื่อรายชื่อที่พูดมาเริ่มลามลึกไปยังศิลปินไทยในสายมังงะที่อาจไม่ถูกพูดถึงในวงกว้างมากนัก
“แล้วก็จริง ๆ หนูชอบ เขาเรียกว่าอะไรนะ? การ์ตูนไทยน่ะค่ะ อ๋อ การ์ตูนไทยสตูดิโอ
คือ หนูมีทั้ง Horror Hours, Love Hours, Error Hours แต่จริง ๆ พี่ชายเป็นคนสะสมแล้วเราก็มาอ่าน ๆ
ก็ชอบหลาย ๆ คนเลยค่ะ พี่ Becassine, พี่เกษม อภิชนตระกูล หูย! หนูชอบลายเส้นพี่เขามากเลยอ่า~ สวยงาม”
ใบบัวอธิบายด้วยอารามเสียอาการเล็กน้อย ซึ่งขอพูดตรง ๆ ว่าค่อนข้างเข้าใจ เพราะส่วนตัวก็ชมชอบงานของคุณเกษมไม่ต่างกัน
ศิลปะกับความฝัน
หลังพูดคุยกันมาสักพัก เรารู้สึกว่าในบุคคลิกที่ดูจะมีความเป็นหญิงสาวเสียมากกว่าเด็กสาวของใบบัว
ตัวตนของเธอก็ยังคงมีความเป็นเด็กวัยฝันยามเมื่อพลันได้พูดถึงบุคคลและสิ่งที่ชอบ
และดูเหมือนเธอจะไม่เคยลืมมันทั้งยังอยากจะแบ่งปันสู่เด็ก ๆ รุ่นถัดไป
“หนูอยากเป็นอนิเมเตอร์ อยากทำการ์ตูนให้เด็กดู เหมือนพวกดิสนีย์
แล้วก็ชอบ Marvel ด้วย ชอบ Marvel มากค่ะ หนูรู้สึกว่ามันเป็นการ Inspired เด็ก ๆ น่ะค่ะ
อย่างตอนเด็ก ๆ หนูดูการ์ตูน หนูก็เชื่อว่านางเงือกมีจริง ยูนิคอร์นมีจริง
คือมันเป็นช่วงเวลาเดียวของชีวิตที่จะสามารถเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้ได้
เราไม่ควรพลาดที่จะมีชีวิตวัยเด็กค่ะ”
แพชชั่นที่มีต่อสิ่งที่พูดของใบบัวนั้นแผ่แรงออกมาจนเรารู้สึกได้ สัมผัสได้ว่าตัวของเธอนั้นมีไฟในงานด้านนี้จริง ๆ
ทว่านั่นก็ยังผลให้เราสงสัยเพิ่มเติมขึ้นอีกว่าเธอมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร มาเป็นไอดอลได้อย่างไร
“จริง ๆ แล้วแต่ก่อนไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัว
แบบการได้เห็นตัวเองในทีวีดูจะเป็นอะไรที่เกินเอื้อมเอามาก ๆ
จนกระทั่งตอนนั้นอยู่ที่เดนมาร์คก็มีเพื่อนหนูคนหนึ่งเป็นคนญี่ปุ่น
บอกว่า BNK48 เกิดขึ้นในไทยแล้ว ลองไปออดิชั่นดูไหม?
แต่ว่าตอนรุ่นแรกหนูไม่ได้ส่งใบสมัครไปเพราะหนูอ้วน (ขำ)
เพราะตอนกลับมาจากเดนมาร์คดันคิดถึงอาหารไทยมากเกินไปหน่อยขึ้นมา ๒๐ กว่ากิโลฯ แหนะ
มาส่งตอนรุ่น ๒ แล้วก็ผ่านรอบแรก เลยมาคิดว่า เออ! มันอาจจะเป็นทางของเราก็ลองดูค่ะ
ส่วนเข้ามาอยู่ Fever ได้ยังไงนั้น ก็คือตอนไม่ติด BNK48 รุ่น ๒ แล้วไปออดิชั่นผ่านกับอีกที่หนึ่ง
แต่ตอนวันเซ็นต์สัญญาเป็นวันเดียวกับที่โรงเรียนหนูเปิด เลยส่งไลน์ไปถามเขาว่าไปไม่ได้วันนี้
แต่ทางนู้นก็ตอบกลับมาว่าถ้าไม่มาก็คือไม่ผ่านนะ ก็เลยชวดไป จนเหมือนจะยอมแพ้แล้ว
กับ Fever ถ้าไม่ติดก็ได้พูดไว้ในวิดิโอสัมภาษณ์ว่าคงไม่ใช่ทางของเรา
คือของ Fever เขาจะให้เราส่งคลิปวิดิโอไปก่อน แล้วค่อยมาออดิชั่นแบบเห็นต่อหน้าในรอบ ๒ รอบ ๓ แล้วหนูก็ติดค่ะ”
จากการสัมภาษณ์มา ๒ ใน ๓ ส่วนเราคิดว่าได้เห็นใบบัวในมุมที่ลึกขึ้นไม่มากก็น้อย
อย่างน้อยที่สุดคือเธอเป็นคนที่ตอบคำถามได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ ไม่มีเกร็ง และมั่นใจในสิ่งที่พูดออกไป
เราจึงถามต่อไปว่าจุดเด่นของตนในความคิดคืออะไรแต่กลับเป็นว่าเราเซอร์ไพรส์ในคำตอบของเธออีกหน
“หนูยังไม่ค่อยแน่ใจในคาแรคเตอร์ตัวเองเท่าไหร่ หลาย ๆ คนก็บอกอยู่
แต่ก็จะพยายามเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุดค่ะ ก็ยังคงต้องค้นหาต่อไป”
ในความมั่นใจที่เราได้เห็นจากบุคลิกก็ยังมีความขัดแย้ง และไม่มั่นใจในความตัวเองแทรกแซงเข้ามาบ้าง
แต่เราก็มั่นใจว่าน้องจะผ่านมันไปในไม่ช้า ความซับซ้อนในความรู้สึกนี้ ช่างสมกับเป็นเด็กศิลปะเสียจริง
ไอดอลที่ยังคงไล่ตามฝัน
หลาย ๆ คนมักพูดว่าการได้เป็นไอดอลนั้นคือการทำฝันให้เป็นจริงแล้ว แต่สำหรับใบบัวมันอาจถูกแค่ครึ่งเดียว
เวลาที่พูดถึงศิลปะเราจะสัมผัสได้ถึงรังสีความจริงจังจากเธอเสมอ แต่แน่นอนว่ามันไม่ง่าย
เราสงสัยในมุมมองของเธอว่าการเป็นคนวาด CG กับการเป็นไอดอลต่างหรือเหมือนกันอย่างไร
“หนูว่ามันก็ต่างกันนะคะ ก็คือในการเป็นไอดอลตอนแสดงผลงาน เราเป็นคนแสดง
แต่ว่าในส่วนของการวาด CG เราใช้สิ่งที่เราวาดขึ้นมาในการทำหน้าที่แทน ซึ่งหนูก็ชอบทั้ง ๒ อย่างนะ
คือหนูชอบสร้างออริฯ ขึ้นมา เช่นว่าชอบจินตนาการว่าในจักรวาล Marvel เราจะเป็นใคร อะไรแบบนี้ค่ะ”
อีกครั้งที่พอพูดถึงศิลปะแล้วเราได้เห็นการแสดงอารมณ์ที่เปล่งประกาย
เลยอยากรู้ว่าถ้าหากให้น้องวิพากย์ MV ของวงตนเองนั้น ใบบัวจะมีความคิดเห็นอย่างไรในแง่ความเป็นเด็กศิลปะ
ซึ่งก่อนเธอจะตอบอาการขำก็ออกมาก่อนอย่างช่วยไม่ได้ เพราะอย่างที่คาด ว่าสำหรับตัวเธอเองนั้นไม่ได้ชอบมันทั้งหมด
“จริง ๆ แล้วหนูว่า MV ตัวแรกมันออกเขียวไปนิดหนึ่งน่ะค่ะ หนูอยากให้มันฟ้ากว่านี้แต่เขาอาจจะชอบสีเขียว
คือหน้าหนูเขียวมาเลยอ่ะ หนูแบบ อู้ว หน้าหนูเขียวจัง~
ส่วน MV ๒ หนูชอบมากเลยค่ะ ชอบในความแอ๊บแสตร็คของมัน มุมกล้องที่ถ่ายก็ชอบค่ะ
ชอบความบิดเบี้ยวอ่ะ แบบว่า… ไม่รู้อ่ะค่ะ พูดแล้วขนลุก หนูฟังวันนี้หนูยังขนลุกอยู่เลยค่ะ”
แต่หากถามถึงเพลงที่ชอบจริง ๆ ของวง ใบบัวกลับเลือกเพลงใหม่ที่สุด
“ชอบเพลง Password ค่ะ ร้องสนุก หนูรู้สึกว่าพอมันสนุกแล้วยิ้มได้ค่ะ ๒ เพลงแรกไม่ค่อยจะได้ยิ้มสักเท่าไหร่ (ขำ)
แล้วก็เป็นเพลงที่หนูรู้สึกว่าเรา Interact กับผู้ชมได้ค่ะ แบบว่าทำให้เวทีสดใสขึ้นมาอะไรแบบนี้”
รับรู้ได้ว่าเธอว่ามีตั้งใจกับการเป็นไอดอล แต่ก็มีแพสชั่นแรงกล้าในการทำงานศิลปะที่เธอรักเช่นกัน
และพลันเมื่อย้อนกลับไปดูคลิปแนะนำตัวของเธอใน Channel ของ Fever บน YouTube
เธอเคยบอกว่าอยากทำทั้ง ๒ ความฝันให้สำเร็จให้ได้ เราถามย้ำใบบัวอีกครั้งว่าปัจจุบันยังคงมั่นใจในสิ่งที่เคยลั่นวาจาไว้ไหม
“๑๐๐ เปอร์เซ็นต์นะคะ เพราะว่าคนเราไม่ได้มีความสามารถแค่ด้านเดียว คนเราสามารถทำหลาย ๆ อย่างได้ค่ะ”
ซึ่งเป็นครั้งแรกของการสัมภาษณ์… ที่เราไม่แปลกใจในคำตอบของเธอเลยแม้แต่น้อย