จับได้ว่าแฟนทานยา Prep และเขาสารภาพว่ามีเชื้อ HIV (เอาไงต่อดีครับ)

กระทู้คำถาม
ผมเป็นเกย์ครับ เพิ่งคบกับแฟนได้ 2 เดือน
เรื่องเกิดความแตกจากที่ว่า ตอนกลางคืนผมปวดหัว จะหายาดมเพื่อดมบรรเทา ค้นไปค้นมาไปค้นที่กระเป๋าแฟน เจอยาเม็ดสีชมพูใส่ในตลับ 2 ตลับ ตอนนั้นไม่คิดเลยเลยตะโกนถามว่า ยาอะไรอะเม็ดสีชมพู แล้วก็ไม่มีเสียงตอบรับ ผมก็ไม่อะไรจบสนทนาไป เอะใจ!!! เลยลองเสิร์จดู ยาสีชมพูมีคำว่า TEE สรุปคือเป็นยา prep คืนนั้นนอนไม่หลับ และไม่ได้ถามต่ออะไร
เช้ามาไปทำงาน แฟนไลน์ถามว่า "เป็นอะไรรึป่าว" เราเลยตอบไปว่า "มีอะไรจะบอกไหม?" เขาจึงตอบกลับมาว่า "เค้าเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ HIV นั้นแหละ" ตอนนั้นนั่งประชุมอยู่ หน้าผมซีดเลย พี่ที่ทำงานทักทันที วินาทีที่อ่านจบเหมือนโลกหยุดหมุน
วันนั้นผมเลยบอกให้เขาลางานครึ่งวัน เพื่อมาเคลียร์กันว่าจะเอาไงต่อ....
 
ผมถามทุกอย่างว่าเป็นมานานยัง เขาบอกเป็นตั้งแต่ปี 60 และตอนนี้เขามีสถานะ U=U ค่า CD4 600 ค่า VL น้อยกว่า 40 
เขาบอกว่าตั้งใจจะบอกเรารอคบกัน 3-4 เดือนก่อน 
 
ประเด็นมันติดตรงที่ว่า เขาสดกับผม ตั้งแต่เดือนแรก (ต้นเดือนกันยา ) และครั้งที่สอง (กลางเดือนตุลา) 
หลังจากที่คุยกันจบผมจึงบอกให้เขาพาเราไปตรวจเลือด รพ. เอกชนทันที เพราะครั้งแรกถึงวันนี้ก็ 2 เดือนพอดี 
 
ผมมืดแปดด้าน เพราะอนาคตกำลังไปได้สวย ผมจึงให้ทางเลือกกับเขา 2 ทางคือ
1. ถ้าผมตรวจเจอ HIV เขาต้องรับผิดชอบอยู่ดูแลผมไปตลอด
2. ถ้าผมตรวจไม่เจอในวันนี้ ก็ยังต้องอยู่กับผมอีก 3 เดือนเพื่อรอตรวจอีกครั้ง หลังจากนั้นถ้าไม่เจอจริงๆ เราขอแยกทางกัน
 
*** และผลตรวจออกมา ผลเลือดปกติทุกอย่าง***

ตอนนี้ผมยังให้เขาต้องอยู่กับผมอีก 3 เดือนตามข้อตกลงกัน เพระาหมอบอกว่า สิ้นเดือนมกราคมให้มาตรวจอีกครั้ง 
ตอนนี้ผมทั้งสงสารเขา และยังสงสารตัวเอง ที่จะต้องทรมานใจ ทุกข์ไปอีก 3 เดือน เพราะทุกอย่างที่เราคุยกันมันคุยถึงอนาคตไปไกลแล้ว และก็รู้ว่าตัวเองรักเขาด้วย แต่สิ่งที่เกลียดที่สุดคือ ทำไมเขาไม่ยอมบอกเราตั้งแต่แรก ถ้าบอกแต่แรกอย่างน้อยเราจะได้ตัดสินใจตั้งแต่ตอนนั้นเลย
 
ตอนนี้ผมทั้งรัก ทั้งแค้น ใครมีประสบการณ์แบบนี้แนะนำด้วยครับ
เพราะตอนนี้ผมภาวะนาอย่างเดียว เดือนมกราคมขอให้ผลเลือดผมปกติ (ถ้าปกติ ไม่แน่ผมอาจทิ้งเขาไปไม่ลงก็ได้)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่