กระทู้ก่อนครับ
http://ppantip.com/topic/34848838
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สวัสดีครับทุกท่าน
กระทู้นี้ ผมจะขอเล่าประสบการณ์ การรับประทานยา PrEP นะครับ
PrEP (เพร็พ) คืออะไร ?
ง่ายๆเลยครับ PrEP คือยาต้านไวรัส
สำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัส HIV ที่ต้องรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HIV ซึ่งเหมาะกับคู่รักที่ผลเลือดต่าง อย่างคู่ของผมครับ
หลายเดือนก่อนหน้านี้ ผมหาข้อมูล ยา PrEP จากหลายที่มากครับ จนมาเจอโครงการรับ PrEP ฟรี ของ Adamslove จึงได้ติดต่อลงทะเบียน เพื่อเข้าโครงการ
"เราจะไปรับ PrEP ที่กรุงเทพฯนะ" ผมบอกเขาถึงรายละเอียดต่างๆ
"เริ่มกลัวแล้วเหรอ" เขาถามกลับ
"ไม่ได้กลัวซะหน่อย แต่ป้องกันไว้ เพื่อจะได้ดูแลคุณไปนานๆไง"
"หราาาาาาาาาาาา" ลากเสียงยาวมากกกกกกกก
เขาจึงขอไปเป็นเพื่อนด้วย
จากนั้นเราก็หาเวลาว่างวันหยุดที่ตรงกัน และ Confirm กับศูนย์ฯ
พอถึงวันนัด เราเดินทางกันตั้งแต่เช้าครับ
มาถึงศูนย์ก็ลงทะเบียน ทำประวัติ กรอกแบบฟอร์มโน่นนี่นั่น
อ่อ ลืมบอกไปครับ ว่าก่อนหน้าที่จะไปศูนย์สักอาทิตย์นึง หมอประจำที่รักษา Hepatitis B ได้เจาะเลือดตรวจหา HIV
ผลออกมาเป็น Negative ครับ
ผมได้เอาผลตรวจมาให้ศูนย์ดูด้วย แต่ทางศูนย์ก็ให้เจาะเลือดใหม่
ก่อนเจาะเลือด ได้เข้าห้องพูดคุยกับ จนท. ก่อนครับ จนท.เค้าก็จะอธิบาย และทำความเข้าใจเกี่ยวกับ HIV โดยปกติแล้วทุก Case ก็จะผ่านไปแบบชิวๆ
แต่ Case ผม ไม่ชิวครับ เพราะผมแจ้งว่าผมมีเชื้อ Hepatitis B และรับประทานยา Tenofovir มา 3 ปี แล้ว
คุยอยู่ในห้องกับ จนท. 3-4 คนได้ จึงสรุปได้ว่า
1. เจาะเลือดตรวจที่นี่ เพื่อดูผล HIV (ทราบผลเลย)
2. ส่งผลเลือดไปตรวจ Hepatitis B (ทราบผลอาทิตย์หน้า)
3. ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส (ทราบผลเลย)
4. กลับบ้านไปพบหมอประจำตัว และขอคำปรึกษาว่า กินยา PrEP อย่างเดียวได้หรือไม่
** ยา PrEP ประกอบด้วยตัวยา 2 ตัวคือ Tenofovir + Emtricitabine **
ที่ต้องกลับไปปรึกษา อ.หมอ เพราะ PrEP มีตัวยา Tenofovir ถ้ารับและกินทั้งสองที่ จะเป็นการเพิ่มปริมาณยามากเกินไป
สรุปผลตรวจของศูนย์
HIV = Negative
ซิฟิลิส = ไม่พบ
และแล้วก็กลับบ้านโดยไม่ได้ยา PrEP มากิน (T________T)
กลับมาปรึกษา อ.หมอ ๆ บอกว่าสามารถใช้ PrEP ได้ ถ้าจะรับยาทางนั้น หมอจะไม่จ่ายยาทางนี้ให้ แต่ต้องมาให้หมอตรวจทุกเดือนเหมือนเดิม
จากนั้นก็กลับมาที่ศูนย์เพื่อมารับ PrEP โดยแฟนผมก็ตามมาด้วยอีก (ผมไม่อยากให้เขาลางาน)
ผลเลือด Hepatitis B ยังไม่ออก แต่ จนท.ก็ให้ยา PrEP มา โดยเริ่มกินวันต่อมาเลยครับ
เริ่มกิน PrEP วันแรก ผลข้างเคียงของยา ก็เริ่มแสดงอาการเลยครับ
ทั้งเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หนาวสั่น เหมือนจะเป็นไข้ ปวดเนื้อปวดตัว
จึงปรึกษาแฟนว่า ตอนเขาเปลี่ยนสูตรยา มีอาการข้างเคียงของยาบ้างไหม
เขาก็บอกว่ามีนะ ให้ทนดูสักอาทิตย์นึง
ผมจึงทนกินยา PrEP ไปต่ออีกอาทิตย์
สุดท้ายผมทนผลข้างเคียงของยาไม่ไหวครับ ทั้งสัปดาห์ แทบไม่ได้ทำงาน ไม่นอนห้องพยาบาล ก็นอนซมอยู่บ้าน
จึงไปหา อ.หมอ แกเลยให้หยุดกิน PrEP และจ่ายยา Tenofovir อย่างเดียวให้เหมือนเดิม
นี่ละครับ คือประสบการณ์ของการกินยา PrEP ของผม
ผมไม่มั่นใจว่าตัวยา Emtricitabine ไม่เหมาะที่จะใช้กับคนที่เป็น Hepatitis B หรือเปล่านะครับ (อยากได้ความรู้เพิ่มเติม)
หลังจากนั้น ศูนย์ก็โทรมาสอบถามเนื่องจากไม่เห็นไปรับยา PrEP ผมจึงได้เล่ารายละเอียดข้างต้นให้ทราบ
ปัจจุบัน ผมกินยา Tenofovir + ใช้ถุงยางอนมัยทุกครั้งที่มี SEX + ปากมีแผลจะไม่จูบ ซึ่งปกติเขาจะไม่ยอมให้สอดลิ้นอยู่แล้วครับ ^__^
Update ชีวิตของผมกับแฟนสักนิดนะครับ
ผมกับเขาซื้อบ้านใหม่ด้วยกันครับ 1 หลัง เป็นบ้านเล็กๆ อยู่กันสองคน กับ สุนัขอีก 1 ตัว
กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของเขาครับ ให้เขาผ่อนเอง 555+ ผมมีหน้าที่จ่ายค่าเช่า คือ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต
กว่าจะได้บ้านก็ยากเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ เพราะจะกู้ร่วมก็ไม่มีธนาคารไหนปล่อยกู้
แต่โชคดีที่เจ้าของโครงการเดินเรื่องยื่นกู้คนเดียวผ่าน ธอส. กู้ได้ 100% มีเงินเหลือพอจะตกแต่งบ้านอีกหน่อย
พูดถึงเรื่องตกแต่งบ้าน เขาอยากไป IKEA มากกกกกกกกกกกก
ก็พาเขาไปล่ะครับ เดินอยู่ตั้งแต่ห้างเปิด จนห้างปิด ผมต้องมาวนรถจอดใหม่ (จอดฟรี 8 ชั่วโมงแรก)
ได้ชั้นวางของกับของแต่งบ้านอีกนิดหน่อยครับ สู้ค่าขนส่งไม่ไหว 555+
มาจบที่ INDEX Livingmall แถวบ้านนี่ละครับ
ผมกับเขาต่างคนต่างคอยเตือนให้กินยา ผมไม่เท่าไหร่กินยาแค่วันละครั้ง แต่ของเขานี่วันละสองครั้ง
มีวันนึงผมเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน แล้วเขาลืมหยิบยาที่ต้องกินมาด้วย
ผมนอนในห้องฉุกเฉิน ยอมรับครับ ไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ห่วงเขาจะกินยาเลทมากกว่า
วันนั้นเขากินยาเลทไปครึ่งชั่วโมงจริงๆ
สุดท้ายครับ ผมดีใจที่เห็นเขามีความสุข อยากให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนคนปกติทั่วไป แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ
[EP2] เมื่อผมรู้ว่าแฟนผมมีเชื้อ HIV และรับยาต้านไวรัสอยู่
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สวัสดีครับทุกท่าน
กระทู้นี้ ผมจะขอเล่าประสบการณ์ การรับประทานยา PrEP นะครับ
PrEP (เพร็พ) คืออะไร ?
ง่ายๆเลยครับ PrEP คือยาต้านไวรัส สำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัส HIV ที่ต้องรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HIV ซึ่งเหมาะกับคู่รักที่ผลเลือดต่าง อย่างคู่ของผมครับ
หลายเดือนก่อนหน้านี้ ผมหาข้อมูล ยา PrEP จากหลายที่มากครับ จนมาเจอโครงการรับ PrEP ฟรี ของ Adamslove จึงได้ติดต่อลงทะเบียน เพื่อเข้าโครงการ
"เราจะไปรับ PrEP ที่กรุงเทพฯนะ" ผมบอกเขาถึงรายละเอียดต่างๆ
"เริ่มกลัวแล้วเหรอ" เขาถามกลับ
"ไม่ได้กลัวซะหน่อย แต่ป้องกันไว้ เพื่อจะได้ดูแลคุณไปนานๆไง"
"หราาาาาาาาาาาา" ลากเสียงยาวมากกกกกกกก
เขาจึงขอไปเป็นเพื่อนด้วย
จากนั้นเราก็หาเวลาว่างวันหยุดที่ตรงกัน และ Confirm กับศูนย์ฯ
พอถึงวันนัด เราเดินทางกันตั้งแต่เช้าครับ
มาถึงศูนย์ก็ลงทะเบียน ทำประวัติ กรอกแบบฟอร์มโน่นนี่นั่น
อ่อ ลืมบอกไปครับ ว่าก่อนหน้าที่จะไปศูนย์สักอาทิตย์นึง หมอประจำที่รักษา Hepatitis B ได้เจาะเลือดตรวจหา HIV
ผลออกมาเป็น Negative ครับ
ผมได้เอาผลตรวจมาให้ศูนย์ดูด้วย แต่ทางศูนย์ก็ให้เจาะเลือดใหม่
ก่อนเจาะเลือด ได้เข้าห้องพูดคุยกับ จนท. ก่อนครับ จนท.เค้าก็จะอธิบาย และทำความเข้าใจเกี่ยวกับ HIV โดยปกติแล้วทุก Case ก็จะผ่านไปแบบชิวๆ
แต่ Case ผม ไม่ชิวครับ เพราะผมแจ้งว่าผมมีเชื้อ Hepatitis B และรับประทานยา Tenofovir มา 3 ปี แล้ว
คุยอยู่ในห้องกับ จนท. 3-4 คนได้ จึงสรุปได้ว่า
1. เจาะเลือดตรวจที่นี่ เพื่อดูผล HIV (ทราบผลเลย)
2. ส่งผลเลือดไปตรวจ Hepatitis B (ทราบผลอาทิตย์หน้า)
3. ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส (ทราบผลเลย)
4. กลับบ้านไปพบหมอประจำตัว และขอคำปรึกษาว่า กินยา PrEP อย่างเดียวได้หรือไม่
** ยา PrEP ประกอบด้วยตัวยา 2 ตัวคือ Tenofovir + Emtricitabine **
ที่ต้องกลับไปปรึกษา อ.หมอ เพราะ PrEP มีตัวยา Tenofovir ถ้ารับและกินทั้งสองที่ จะเป็นการเพิ่มปริมาณยามากเกินไป
สรุปผลตรวจของศูนย์
HIV = Negative
ซิฟิลิส = ไม่พบ
และแล้วก็กลับบ้านโดยไม่ได้ยา PrEP มากิน (T________T)
กลับมาปรึกษา อ.หมอ ๆ บอกว่าสามารถใช้ PrEP ได้ ถ้าจะรับยาทางนั้น หมอจะไม่จ่ายยาทางนี้ให้ แต่ต้องมาให้หมอตรวจทุกเดือนเหมือนเดิม
จากนั้นก็กลับมาที่ศูนย์เพื่อมารับ PrEP โดยแฟนผมก็ตามมาด้วยอีก (ผมไม่อยากให้เขาลางาน)
ผลเลือด Hepatitis B ยังไม่ออก แต่ จนท.ก็ให้ยา PrEP มา โดยเริ่มกินวันต่อมาเลยครับ
เริ่มกิน PrEP วันแรก ผลข้างเคียงของยา ก็เริ่มแสดงอาการเลยครับ
ทั้งเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หนาวสั่น เหมือนจะเป็นไข้ ปวดเนื้อปวดตัว
จึงปรึกษาแฟนว่า ตอนเขาเปลี่ยนสูตรยา มีอาการข้างเคียงของยาบ้างไหม
เขาก็บอกว่ามีนะ ให้ทนดูสักอาทิตย์นึง
ผมจึงทนกินยา PrEP ไปต่ออีกอาทิตย์
สุดท้ายผมทนผลข้างเคียงของยาไม่ไหวครับ ทั้งสัปดาห์ แทบไม่ได้ทำงาน ไม่นอนห้องพยาบาล ก็นอนซมอยู่บ้าน
จึงไปหา อ.หมอ แกเลยให้หยุดกิน PrEP และจ่ายยา Tenofovir อย่างเดียวให้เหมือนเดิม
นี่ละครับ คือประสบการณ์ของการกินยา PrEP ของผม
ผมไม่มั่นใจว่าตัวยา Emtricitabine ไม่เหมาะที่จะใช้กับคนที่เป็น Hepatitis B หรือเปล่านะครับ (อยากได้ความรู้เพิ่มเติม)
หลังจากนั้น ศูนย์ก็โทรมาสอบถามเนื่องจากไม่เห็นไปรับยา PrEP ผมจึงได้เล่ารายละเอียดข้างต้นให้ทราบ
ปัจจุบัน ผมกินยา Tenofovir + ใช้ถุงยางอนมัยทุกครั้งที่มี SEX + ปากมีแผลจะไม่จูบ ซึ่งปกติเขาจะไม่ยอมให้สอดลิ้นอยู่แล้วครับ ^__^
Update ชีวิตของผมกับแฟนสักนิดนะครับ
ผมกับเขาซื้อบ้านใหม่ด้วยกันครับ 1 หลัง เป็นบ้านเล็กๆ อยู่กันสองคน กับ สุนัขอีก 1 ตัว
กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของเขาครับ ให้เขาผ่อนเอง 555+ ผมมีหน้าที่จ่ายค่าเช่า คือ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต
กว่าจะได้บ้านก็ยากเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ เพราะจะกู้ร่วมก็ไม่มีธนาคารไหนปล่อยกู้
แต่โชคดีที่เจ้าของโครงการเดินเรื่องยื่นกู้คนเดียวผ่าน ธอส. กู้ได้ 100% มีเงินเหลือพอจะตกแต่งบ้านอีกหน่อย
พูดถึงเรื่องตกแต่งบ้าน เขาอยากไป IKEA มากกกกกกกกกกกก
ก็พาเขาไปล่ะครับ เดินอยู่ตั้งแต่ห้างเปิด จนห้างปิด ผมต้องมาวนรถจอดใหม่ (จอดฟรี 8 ชั่วโมงแรก)
ได้ชั้นวางของกับของแต่งบ้านอีกนิดหน่อยครับ สู้ค่าขนส่งไม่ไหว 555+
มาจบที่ INDEX Livingmall แถวบ้านนี่ละครับ
ผมกับเขาต่างคนต่างคอยเตือนให้กินยา ผมไม่เท่าไหร่กินยาแค่วันละครั้ง แต่ของเขานี่วันละสองครั้ง
มีวันนึงผมเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน แล้วเขาลืมหยิบยาที่ต้องกินมาด้วย
ผมนอนในห้องฉุกเฉิน ยอมรับครับ ไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ห่วงเขาจะกินยาเลทมากกว่า
วันนั้นเขากินยาเลทไปครึ่งชั่วโมงจริงๆ
สุดท้ายครับ ผมดีใจที่เห็นเขามีความสุข อยากให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนคนปกติทั่วไป แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ