@_@
ย้อนไทม์ไลน์ คดีส.ส.ถือหุ้นสื่อ ที่แท้ 'ธัญญ์วาริน' เซ่นพวกเดียวกัน!
29 ต.ค.63 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า .....เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน ในขณะสมัครรับเลือกตั้ง จึงขาดคุณสมบัติและขาดสมาชิกภาพ ส.ส. ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562
.....หลังจากนั้น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้นำรายชื่อ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลจำนวนหนึ่งเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าขาดสมาชิกภาพ ส.ส. เพราะถือหุ้นสื่อมวลชน
.....ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จึงดำเนินการนำรายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านจำนวนใกล้เคียงกันเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าขาดสมาชิกภาพ ส.ส. เพราะถือหุ้นสื่อมวลชน เช่นเดียวกัน
.....เมื่อวานวันที่ 28 ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถือหุ้น บริษัท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด และ บริษัท เฮด อัพ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน จึงต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นายธัญญ์วารินจึงขาดสมาชิกภาพ ส.ส.
.....ส่วน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน นอกจากนี้ ฟังไม่ได้ว่าถือหุ้นในนิติบุคคลที่ประกอบกิจการสื่อมวลชน จึงให้ยกคำร้อง
.....เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ไปเล่นงาน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลก่อน จึงถูก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเล่นงานกลับเป็นเอาคืนบ้าง
.....ถ้า ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ไม่ไปเล่นงาน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลก่อน ก็คงไม่ถูก ส.ส. พรรคพลังประชารัฐเล่นงานกลับอันเป็นเหตุนายธัญญ์วารินถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ขาดสมาชิกภาพ ส.ส.
.....ดังนั้นผู้ที่ทำให้นายธัญญ์วารินต้องพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ก็คือเพื่อนของนายธัญญ์วาริน ที่อยู่ในพรรคเดียวกันนั่นเอง หาใช่ใครอื่นไม่
.....เพื่อนเราเผาเรือน ?
https://www.thaipost.net/main/detail/82160
@_@
ทีมสู้คดีหุ้นสื่อพปชร.ยกคำวินิจฉัยศาลเป็นมาตรฐาน
ทีมสู้คดีหุ้นสื่อ พปชร. ยกคำวินิจฉัยศาลเป็นมาตรฐาน ชี้ลักษณะต้องห้าม ม.98(3) ต้องมีข้อเท็จจริงว่าทำสื่อจริง
"สิระ"ซัดผู้ร้องควรดูข้อมูลให้ดี
นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมต่อสู้คดีหุ้นสื่อของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลอ่านคำวินิจฉัยว่า ศาลได้ดูเอกสารละเอียดมาก ทั้งหนังสือแสดงรายการประกอบธุรกิจ (สสช.1) แบบนำส่งงบการเงิน (สบช.3) และเอกสารที่เรานำเสนอทุกขั้นตอน ซึ่งก็ถือเป็นมาตรฐานว่าไม่มีการทำสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อมวลชนทั้งหมด แม้คนที่วิตกกังวลอย่าง น.ส.ภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ศาลก็ยืนยันว่าไม่มีการทำสื่อ ดังนั้นศาลจึงยกคำร้องทั้งหมดทุกคน ทั้งนี้ก็ต้องถือว่าเป็นมาตรฐาน เพราะศาลได้ดูเอกสารทางราชการเป็นหลัก ทั้งการเสียภาษี เอกสารจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งศาลเอาประเด็นนี้เป็นหลัก ว่าคนที่จะมีคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 98(3) นั้นจะต้องทำสื่อจริงๆ ไม่ใช่มีการร้องว่ามีการจดทะเบียนบริษัทว่าทำสิ่งพิมพ์ แต่ศาลหยิบยกประเด็นข้อเท็จจริงว่าต้องไม่มีการทำธุรกิจสื่อ
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอบพระคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ความยุติธรรม ส่วนตนแค่ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างบ้านทรงไทย ไม่มีธุรกิจสื่อ จึงอยากให้ผู้ร้องดูข้อมูลดี ๆ ว่าผู้ถูกร้องได้ประกอบธุรกิจสื่อหรือไม่ เพราะตนถือว่าเกิดความเสียหายและมีค่าใช้จ่ายในการทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนตั้งใจมาเป็นตัวแทนประชาชน ทำหน้าที่ผู้แทน ไม่มีเจตนาทำอะไรที่ไม่ดี
https://www.innnews.co.th/politics/news_807264/
@_@
เรื่องมันเป็นเช่นนี้เองค่ะ
ทำตัวเองแท้ๆ ไม่ฟ้องเขาก่อน เขาก็ไม่ฟ้องกลับ
ทำไมพรรคนี้ชอบสะดุดล้มเอง โดยไม่มีใครทำ
แล้วร้องโวยวายว่าถูกแกล้ง
🔶️เข้าสุภาษิตไหนกันคะ..เพื่อนเราเผาเรือนหรือหาเหาใส่หัวเอง..คดีส.ส.เซ่นหุ้นสื่อที่แท้อดีตพรรคอนค.ทำพวกเดียวกันเอง
29 ต.ค.63 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า .....เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน ในขณะสมัครรับเลือกตั้ง จึงขาดคุณสมบัติและขาดสมาชิกภาพ ส.ส. ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562
.....หลังจากนั้น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้นำรายชื่อ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลจำนวนหนึ่งเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าขาดสมาชิกภาพ ส.ส. เพราะถือหุ้นสื่อมวลชน
.....ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จึงดำเนินการนำรายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านจำนวนใกล้เคียงกันเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าขาดสมาชิกภาพ ส.ส. เพราะถือหุ้นสื่อมวลชน เช่นเดียวกัน
.....เมื่อวานวันที่ 28 ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถือหุ้น บริษัท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด และ บริษัท เฮด อัพ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน จึงต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นายธัญญ์วารินจึงขาดสมาชิกภาพ ส.ส.
.....ส่วน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน นอกจากนี้ ฟังไม่ได้ว่าถือหุ้นในนิติบุคคลที่ประกอบกิจการสื่อมวลชน จึงให้ยกคำร้อง
.....เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ไปเล่นงาน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลก่อน จึงถูก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเล่นงานกลับเป็นเอาคืนบ้าง
.....ถ้า ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ไม่ไปเล่นงาน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลก่อน ก็คงไม่ถูก ส.ส. พรรคพลังประชารัฐเล่นงานกลับอันเป็นเหตุนายธัญญ์วารินถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ขาดสมาชิกภาพ ส.ส.
.....ดังนั้นผู้ที่ทำให้นายธัญญ์วารินต้องพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ก็คือเพื่อนของนายธัญญ์วาริน ที่อยู่ในพรรคเดียวกันนั่นเอง หาใช่ใครอื่นไม่
.....เพื่อนเราเผาเรือน ?
https://www.thaipost.net/main/detail/82160
@_@ทีมสู้คดีหุ้นสื่อพปชร.ยกคำวินิจฉัยศาลเป็นมาตรฐาน
ทีมสู้คดีหุ้นสื่อ พปชร. ยกคำวินิจฉัยศาลเป็นมาตรฐาน ชี้ลักษณะต้องห้าม ม.98(3) ต้องมีข้อเท็จจริงว่าทำสื่อจริง
"สิระ"ซัดผู้ร้องควรดูข้อมูลให้ดี
นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมต่อสู้คดีหุ้นสื่อของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลอ่านคำวินิจฉัยว่า ศาลได้ดูเอกสารละเอียดมาก ทั้งหนังสือแสดงรายการประกอบธุรกิจ (สสช.1) แบบนำส่งงบการเงิน (สบช.3) และเอกสารที่เรานำเสนอทุกขั้นตอน ซึ่งก็ถือเป็นมาตรฐานว่าไม่มีการทำสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อมวลชนทั้งหมด แม้คนที่วิตกกังวลอย่าง น.ส.ภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ศาลก็ยืนยันว่าไม่มีการทำสื่อ ดังนั้นศาลจึงยกคำร้องทั้งหมดทุกคน ทั้งนี้ก็ต้องถือว่าเป็นมาตรฐาน เพราะศาลได้ดูเอกสารทางราชการเป็นหลัก ทั้งการเสียภาษี เอกสารจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งศาลเอาประเด็นนี้เป็นหลัก ว่าคนที่จะมีคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 98(3) นั้นจะต้องทำสื่อจริงๆ ไม่ใช่มีการร้องว่ามีการจดทะเบียนบริษัทว่าทำสิ่งพิมพ์ แต่ศาลหยิบยกประเด็นข้อเท็จจริงว่าต้องไม่มีการทำธุรกิจสื่อ
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอบพระคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ความยุติธรรม ส่วนตนแค่ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างบ้านทรงไทย ไม่มีธุรกิจสื่อ จึงอยากให้ผู้ร้องดูข้อมูลดี ๆ ว่าผู้ถูกร้องได้ประกอบธุรกิจสื่อหรือไม่ เพราะตนถือว่าเกิดความเสียหายและมีค่าใช้จ่ายในการทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนตั้งใจมาเป็นตัวแทนประชาชน ทำหน้าที่ผู้แทน ไม่มีเจตนาทำอะไรที่ไม่ดี
https://www.innnews.co.th/politics/news_807264/
@_@เรื่องมันเป็นเช่นนี้เองค่ะ
ทำตัวเองแท้ๆ ไม่ฟ้องเขาก่อน เขาก็ไม่ฟ้องกลับ
ทำไมพรรคนี้ชอบสะดุดล้มเอง โดยไม่มีใครทำ
แล้วร้องโวยวายว่าถูกแกล้ง