ขอปรึกษาหน่อยค่ะ พอดีว่าเมื่อวานนี้ เรามีต้องไปงานเลี้ยงวันเกิด+เลี้ยงส่งคนในแผนกที่ลาออกค่ะ
แต่เราติดต้องไปงานศพกระทันหัน จึงไม่ได้ไป แต่ที่ทำงานบอกว่า คนที่ไป หรือ ไม่ไปจ่ายก็คือให้จ่ายเท่ากัน ส่วนตัวเราเองคิดว่าไม่จริงจังค่ะ เพราะเราทำการวงการนี้ น่าจะเห็นว่าอันไหนสำคัญมากกว่าค่ะ จากนั้นเราจึงเลือกไปงานศพ เนื่องจากเราเพิ่งรู้หลังจากเพื่อนเสียได้หลายวัน รวมทั้งใกล้วันเผา และมีการสวดศพไปหลายคืนแล้วค่ะ แต่ก่อนเราจะไป
เพือนร่วมงานกลับบอกว่าให้เราเลื่อนการไปงานศพ และให้ไปงานเลี้ยงก่อน
และเพื่อนร่วมงานที่เป็นรุ่นน้องอีกคน
ถามเราว่าเพราะไม่อยากไปงานเลี้ยง เลยโกหกว่าตะไปงานศพหรือเปล่า รู้สึกแย่กับคำพูดเพื่อนร่วมงาน ไม่คิดว่าวิชาชีพที่ทำงานกับผู้ป่วย
วิชาชีพที่ต้องคอยดูแลป่วยอยู่ตลอดเวลา
จะคิดว่าความตายเป็นเรื่องที่ต้องนำไปโกหก
จากนั้นวันนี้มาทำงานปกติ
แต่มีเพื่อนร่วมงานมาบอกว่า
ตั้งแต่เดินมาทำงานนาทีแรก ว่าจ่ายเงินค่าไปกินงานเลี้ยงเมื่อวานด้วยนะ 690บาทต่อคน
ป.ล. 1
การไปงานเลี้ยงที่แผนก เป็นการบังคับไปค่ะ
เหมือนธรรมเนียมที่ทำงานน่ะค่ะ แต่เกิดขึ้นไม่นาน
รวมถึงเรากับที่ทำงานไม่สนิทกันเดิมอยู่แล้วค่ะ
ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันเลย
ยกเว้นงานวันเกิด ซึ่งรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องไป
เช่นงานวันเกิด เลือกที่เจ้าของวันเกิดอยากทาน
แต่พอวันเกิดเรา เลือกกันเรียบร้อย แบบไม่มีการพูดคุยกับเราก่อนค่ะ แล้วเลือกไปทานบุฟเฟ่ 199บาท พอเป็นคนอื่นเลือก มักเลือกในราคาที่ค่อนข้างสูง เช่น วันเกิดเพื่อนร่วมงานคนนึง อยากทานไก่เกาหลี สั่งมากินในแผนก ในความเข้าใจเรา ด้วยความแยกกันสั้งเป็นเซ็ท ก็น่าจะจ่ายเท่าที่สั่ง กลายเป็นทุกคนสั่งแพงๆ และบางคนมีสั่งและเอากลับบ้านค่ะ ตอนนั้นเรากินไก่ไป 2 ชิ้นเล็ก และ มีหารค่าต็อกบกกีกับอีกคนค่ะ เราต้องจ่ายไปทั้งหมด 300กว่าบาท เลยรู้สึกไม่คุ้ม และไม่ได้มีกำลังจ่าย
- แต่เรารู้สึกไม่ดีตรงที่ พอไปงานศพกลับมา เราก็กำลังรู้สึกแย่และเสียใจต่อจากการไปของเพื่อนอยู่ค่ะ
ถ้าคนทั่วไป อาจมีถามไถ่ค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ที่เราเจอคือ เราเดินมาทำงาน พูดถึงเรืองเงินเลยค่ะ ทั้งที่รู้กันทุกคนว่า เราต้องไปงานเพื่อนเรา
-มันเหมือนกฎแผนกที่คนตั้งขึ้นมาเฉยๆและมีคนทำงานร่วมกันมี10 คน มีแต่ต้องกินเลี้ยงที่ต้องไป
-ทุกคนไปกินในร้านอาหาร + คาราโอเกะ กันน่ะค่ะ
-มีของขวัญให้แยกก่อนลาออกอีกค่ะ ที่เราต้องออกเงินส่วนนั้นอยู่แล้ว
ทำไงดีคะ เราไปงานศพเพื่อน แต่กลับต้องจ่าย 690บาท เป็นค่างานเลี้ยงที่ไม่ไปแทน
แต่เราติดต้องไปงานศพกระทันหัน จึงไม่ได้ไป แต่ที่ทำงานบอกว่า คนที่ไป หรือ ไม่ไปจ่ายก็คือให้จ่ายเท่ากัน ส่วนตัวเราเองคิดว่าไม่จริงจังค่ะ เพราะเราทำการวงการนี้ น่าจะเห็นว่าอันไหนสำคัญมากกว่าค่ะ จากนั้นเราจึงเลือกไปงานศพ เนื่องจากเราเพิ่งรู้หลังจากเพื่อนเสียได้หลายวัน รวมทั้งใกล้วันเผา และมีการสวดศพไปหลายคืนแล้วค่ะ แต่ก่อนเราจะไป
เพือนร่วมงานกลับบอกว่าให้เราเลื่อนการไปงานศพ และให้ไปงานเลี้ยงก่อน
และเพื่อนร่วมงานที่เป็นรุ่นน้องอีกคน
ถามเราว่าเพราะไม่อยากไปงานเลี้ยง เลยโกหกว่าตะไปงานศพหรือเปล่า รู้สึกแย่กับคำพูดเพื่อนร่วมงาน ไม่คิดว่าวิชาชีพที่ทำงานกับผู้ป่วย
วิชาชีพที่ต้องคอยดูแลป่วยอยู่ตลอดเวลา
จะคิดว่าความตายเป็นเรื่องที่ต้องนำไปโกหก
จากนั้นวันนี้มาทำงานปกติ
แต่มีเพื่อนร่วมงานมาบอกว่า
ตั้งแต่เดินมาทำงานนาทีแรก ว่าจ่ายเงินค่าไปกินงานเลี้ยงเมื่อวานด้วยนะ 690บาทต่อคน
ป.ล. 1
การไปงานเลี้ยงที่แผนก เป็นการบังคับไปค่ะ
เหมือนธรรมเนียมที่ทำงานน่ะค่ะ แต่เกิดขึ้นไม่นาน
รวมถึงเรากับที่ทำงานไม่สนิทกันเดิมอยู่แล้วค่ะ
ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันเลย
ยกเว้นงานวันเกิด ซึ่งรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องไป
เช่นงานวันเกิด เลือกที่เจ้าของวันเกิดอยากทาน
แต่พอวันเกิดเรา เลือกกันเรียบร้อย แบบไม่มีการพูดคุยกับเราก่อนค่ะ แล้วเลือกไปทานบุฟเฟ่ 199บาท พอเป็นคนอื่นเลือก มักเลือกในราคาที่ค่อนข้างสูง เช่น วันเกิดเพื่อนร่วมงานคนนึง อยากทานไก่เกาหลี สั่งมากินในแผนก ในความเข้าใจเรา ด้วยความแยกกันสั้งเป็นเซ็ท ก็น่าจะจ่ายเท่าที่สั่ง กลายเป็นทุกคนสั่งแพงๆ และบางคนมีสั่งและเอากลับบ้านค่ะ ตอนนั้นเรากินไก่ไป 2 ชิ้นเล็ก และ มีหารค่าต็อกบกกีกับอีกคนค่ะ เราต้องจ่ายไปทั้งหมด 300กว่าบาท เลยรู้สึกไม่คุ้ม และไม่ได้มีกำลังจ่าย
- แต่เรารู้สึกไม่ดีตรงที่ พอไปงานศพกลับมา เราก็กำลังรู้สึกแย่และเสียใจต่อจากการไปของเพื่อนอยู่ค่ะ
ถ้าคนทั่วไป อาจมีถามไถ่ค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ที่เราเจอคือ เราเดินมาทำงาน พูดถึงเรืองเงินเลยค่ะ ทั้งที่รู้กันทุกคนว่า เราต้องไปงานเพื่อนเรา
-มันเหมือนกฎแผนกที่คนตั้งขึ้นมาเฉยๆและมีคนทำงานร่วมกันมี10 คน มีแต่ต้องกินเลี้ยงที่ต้องไป
-ทุกคนไปกินในร้านอาหาร + คาราโอเกะ กันน่ะค่ะ
-มีของขวัญให้แยกก่อนลาออกอีกค่ะ ที่เราต้องออกเงินส่วนนั้นอยู่แล้ว