ขอสอบถามกับบริษัท Kerry Express Thailand ในฐานะผู้ใช้บริการ กรณีส่งของสำเร็จจบขั้นตอนการส่งพัสดุ แต่ผู้รับแจ้งว่า ไม่ได้รับ อ่านให้จบนะครับจะได้เข้าใจ
ผมขอใช้การเรียกชื่อแทนดังนี้ครับ
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) คือ นายวชิระ
(ผู้ส่ง) คือ บริษัท Kerry Express
(ผู้รับ) คือ นาย P (นามสมุติ)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีดังนี้ครับ เนื่องด้วย (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้ตั้งประมูลพระเครื่องใน www.g-pra.com จำนาน 4 องค์ เป็นพระปรกใบมะขามหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน และ (ผู้รับ) ได้เข้ามาตกลงซื้อขายในข้อความในจำนวนเงินองค์ละ 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 16,000 บาท รายละเอียดสินค้าในส่วนของลิ้งค์ขออนุญาตไม่ลงให้ดูนะครับ หลังจากที่ได้มีการตกลงซื้อขายในวันที่ 08/09/63 เวลา 07:54 น. (ผู้รับ) ได้โอนเงินมาให้เป็นจำนวนเงิน 16,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้
จากนั้นวันที่ 09/09/63 เวลา 10:10 น. (ผู้ว่าจ้างส่งของ) จึงได้ดำเนินการแพ็คของนำส่งสินค้าทั้งหมด โดยได้ว่าจ้าง บริษัท Kerry Express สาขาบางน้ำเปรี่ยว เพื่อนำส่งพัสดุที่บรรจุสินค้าไว้ไปส่งให้ นาย P ตามที่อยู่ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้กับทาง www.g-pra.com และได้รับหมายเลขพัสดุ เพื่อสำหรับติดตามพัสดุ เลขพัสดุสินค้าคือ RBNP000090853 (ตอนที่ผมแคปหน้าจอไว้เป็นหลักฐานคือวันที่ (ผู้รับ) โทรมาแจ้งผมว่ายังไม่ได้รับของ วันที่แคปหน้าจอ 27/09/63 )
หลังจากนั้นบริษัท Kerry Express ได้นำพัสดุเข้าระบบและได้ดำเนินการส่งของดังนี้
ผู้ส่งมาส่งพัสดุ / บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา วันที่ 09 ก.ย. 63 เวลา 10:10 น.
เคอรี่เข้ารับพัสดุแล้ว / บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา วันที่ 09 ก.ย. 63 เวลา 15:17 น.
พัสดุอยู่ระหว่างขนส่ง / หมื่นไวย นครราชสีมา วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 07:52 น.
พัสดุถึงสาขาปลายทาง เตรียมจัดส่ง / ปรุใหญ่ ชัยภูมิ วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 10:24 น.
พนักงานกำลังจัดส่งพัสดุ / ปรุใหญ่ ชัยภูมิ วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 10:35 น.
เคอรี่จัดส่งพัสดุของคุณเรียบร้อยแล้ว / ปรุใหญ่ ชัยภูมิ วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 13:02 น.
หลังจากนั้นวันที่ 27/09/63 เวลา 11:05 น. (ผู้รับ) ได้โทรเข้ามาสอบถามว่าได้มีการจัดส่งสินค้าแล้วหรือยัง ซึ่งผม (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้แจ้งไปว่าได้ดำเนินการจัดส่งสินค้าแล้วและจบขั้นตอนการส่ง มีผู้รับสินค้าแล้วตั้งแต่วันที่ 10/09/63 แต่ทาง (ผู้รับ) ยืนยันกับผมว่ายังไม่ได้รับสินค้า และมีพัสดุอีกหนึ่งชิ้นที่ไม่ได้รับเช่นกัน ซึ่งผมจะไม่ขอกล่าวถึงพัสดุที่ไม่ใช่ของผม
หลังจากนั้นผม (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้โทรติดต่อสอบถามกับทาง บริษัท Kerry Express ที่ โทร. 1217 เพื่อสอบถามสถานะการส่งของ ซึ่งได้รับคำตอบว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งเรียบร้อยแล้ว และได้มีการโทรหา (ผู้รับ) จำนวนการโทร 2 ครั้งติดต่อกัน ช่วงเวลาการโทร เวลา 11:03 น.โทรครั้งที่ 1 ไม่รับสาย รอสายเป็นเวลา 23 วินาที โทรครั้งที่ 2 มีการรับสายและมีการพูดคุยกันเป็นเวลา 18 วินาที ((ผู้ว่าจ้างส่งของ) ไม่ทราบรายละเอียดการคุยกันระหว่าง (ผู้ส่ง) และ (ผู้รับ)) หลังจากนั้นแฟนผมก็ได้โทรสอบถามเช่นเดียวกันอีกครั้ง โดยผมได้ให้เลขพัสดุที่ทำการจัดส่งไปโทรสอบถาม ซึ่งก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกันคือ สินค้าได้ถูกส่งและมีผู้รับเรียบร้อยแล้ว
หลังจาก (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้สอบถามข้อมูลกับ บริษัท Kerry Express ที่ โทร. 1217 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้โทรติดต่อกลับไปยัง (ผู้รับ) วันที่ 27/09/63 เวลา 11:17 น. เพื่อแจ้งรายละเอียดที่ (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้สอบถามข้อมูลกับ บริษัท Kerry Express ที่ โทร. 1217 แต่ (ผู้รับ) ยืนยันว่าไม่ได้รับพัสดุและไม่มีพัสดุมาส่งอย่างแน่นอน และไม่รู้จักหรือไม่มีคนที่ชื่อ ต๋อย ภายในบ้านตามลายเซ็นต์ที่ขึ้นบนระบบออนไลน์ของทางบริษัท Kerry Express (ผู้ว่าจ้างส่งของ) และ (ผู้รับ) จึงพูดคุยสอบถามรายละเอียดเท่าที่มีข้อมูลกัน เพื่อที่จะช่วยกันติดตามหาพัสดุ และได้มีการวางสายสิ้นสุดการติดต่อ
หลังจากนั้น วันที่ 14/10/63 เวลา 14:40 น. ทาง บริษัท Kerry Express ได้ใช้เบอร์ 1217 เพื่อติดต่อกลับมาหา (ผู้ว่าจ้างส่งของ) และได้แจ้งว่าสินค้าสูญหาย และต้องการให้ผมเป็นผู้ส่งเอกสารเพื่อเคลมสินค้าแทน (ผู้รับ) ซึ่งผมรู้สึกตกใจและรู้สึกถึงความผิดปกติในครั้งนี้ และสอบถามว่า ไหนคุณแจ้งว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ (ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ) ซึ่งทาง บริษัท Kerry Express ไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และผมได้แจ้งกับทาง บริษัท Kerry Express ตามรายละเอียดและหลักฐานทั้งหมดที่ผมมีว่าไทม์ไลน์เป็นอย่างไร การส่งถึงปลายทางเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ดีๆ คุณมาบอกว่าของได้สูญหายได้อย่างไร?
ทาง บริษัท Kerry Express ได้แต่พูดคำว่า (ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ) และได้บอกให้ผมส่งเรื่องเคลมสินค้า โดยได้ส่ง E-mail เข้ามาหาผมพร้อมแบบฟอร์มการขอเคลมสินค้า ผมจึงตัดสินใจดำเนินการตามขั้นตอนที่ทาง บริษัท Kerry Express แจ้งมาเพื่อเคลมสินค้า ด้วยมีเจตนาเพื่อให้ (ผู้รับ) ได้เงินคืน จำนวน 16,000 บาท ตามที่ได้ชำระค่าสินค้ามา โดยผมจะเป็นผู้รับเงินจากทาง บริษัท Kerry Express และจะดำเนินการโอนเงินคืนในทันที ซึ่งผม (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้ส่งเอกสารไปดังนี้
1. เอกสารการเคลมแบบฟอร์ม บริษัท Kerry Express
2. สำเนาบัตรประชาชน
3. หลักฐานเลขพัสดุที่ผมเซฟภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการส่งสินค้า
4. หลักฐานการพูดคุยและตกลงรวมถึงผู้รับแจ้งโอนเงินและผู้ส่งแจ้งเลขพัสดุ
5. หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีจำนวน 1,6000 บาท
6. ภาพสินค้าและลิ้งค์แนบจาก www.g-pra.com
7. สมุดบัญชีธนาคาร
และทาง บริษัท Kerry Express ได้แจ้งว่าเมื่อได้รับเอกสารหลักฐานการเคลมครบถ้วนจะติดต่อกลับไป
หลังจากที่ได้มีการส่งเอกสารการเคลมสินค้ากับทาง บริษัท Kerry Express เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้รับการติดต่อกลับมาทางโทรศัพท์ฝ่ายเคลมสินค้า เบอร์ 065 502 XXXX ในวันที่ 20/10/63 เวลา 09:44 น. และได้รับการแจ้งรายละเอียดดังนี้
ฝ่ายเคลมสินค้า : ลูกค้าได้รับการอนุมัติการเคลมสินค้าเต็มวงเงินเรียบร้อยแล้วค่ะ
เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : (ผมตกใจและรู้สึกโมโหมาก)
ผมทำเรื่องเคลมสินค้าเป็นเงิน 16,000 บาท ซึ่งคือมูลค่าของสินค้าของผม คุณจะมาคืนเงินให้เท่านี้ได้ยังงัย เพราะผมไม่ได้เป็นคนผิด
ฝ่ายเคลมสินค้า : คุณลูกค้าได้เซ็นต์รับทราบเงื่อนไข
ในการจัดส่งไปแล้ว ตั้งแต่ขั้นตอนการนำพัสดุเข้าระบบ
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : ถ้าของมันหายตั้งแต่อยู่ในขั้นตอนจัดส่ง ผมจะยอมรับเงินจำนวน 2,000 นี้ แต่เหตุที่เกิดขึ้นคนละประเด็นกัน สินค้าถูกส่งจนจบขั้นตอน ไปแล้ว ระบบออนไลน์ก็ขึ้นว่าจัดส่งสำเร็จ รวมถึง Call Center ของคุณก็ยืนยันว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งและมีผู้รับแล้ว อยู่ดีๆ คุณมาแจ้งว่า ของหายได้อย่างไร
ฝ่ายเคลมสินค้า : ลูกค้าให้หยุดการเคลมก่อนใช่ไหมค่ะ
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : หยุดไปเลย ผมไม่ยอมรับเงินจำนวนเท่านี้ มูลค่าของที่คุณแจ้งว่าหายมันมากกว่านั้น คุณไปถามผู้รับเขาเองเถอะว่า เขาจะยอมมั้ย
แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ยอม
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : คุณไปสอบพนักงานของคุณเองเถอะ อันนี้มันคนละประเด็นกัน ของไม่ได้หายในขั้นตอนของการจัดส่ง แต่พัสดุมันถูกส่งจนจบ
กระบวนการว่าจัดส่งสำเร็จแล้วแล้วอยู่ดีๆ คุณมาแจ้งผมว่าพัสดุหายได้งัย
ฝ่ายเคลมสินค้า : ทางเราจะขอติดต่อกลับไปอีกทีค่ะ
หลังจากจบการสนทนา ได้มีเบอร์ 065 507 XXXX ติดต่อเข้ามา ซึ่งปลายสายแจ้งว่าเป็นพนักงานที่ส่งพัสดุในวันนั้น และเล่าให้ผมฟังว่าทำอย่างไรบ้างในตอนส่ง
ซึ่งผมบอกไปว่าผมไปเช็ควิธีการทำงานของพวกคุณมาแล้วว่าก่อนจะส่งต้องโทรแจ้งยังงัยบ้างอันนั้นผมทราบ และเขายังยืนยันอีกว่าได้ส่งของแล้วแล้วได้มีการวางสายไป
***รายละเอียดในการคุยกันระหว่าง (ผู้ว่าจ้างส่งของ) กับ บริษัท Kerry Express เป็น การสนทนากันบางส่วน ซึ่งผมไม่สามารถจำได้ทั้งหมด แต่ผมจำคำพูดหลักๆได้ประมานนี้ อย่างที่พิมพ์ไว้
ตามที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดผมได้พยายามไล่เรียงไทม์ไลน์ทั้งหมดให้ครบถ้วนที่สุด
ซึ่งข้อความทั้งหมดที่ผมได้พิมพ์มาผมไม่ได้มีเจตนากล่าวหาหรือเจาะจงผู้ใดผู้หนึ่ง ว่าเป็นผู้กระทำความผิด เพราะผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดในการจัดส่งพัสดุ แต่ผมต้องการปกป้องสิทธิ์ของตนเองในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง
ผมจึงมีคำถามกับ Kerry Express Thailand เป็นข้อๆ ดังนี้
1. บริษัท Kerry Express ใช้หลักธรรมมาภิบาลในการดำเนินงานต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยหรือไม่?
2. บริษัท Kerry Express ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่?
(ผมมองว่าพนักงานเคลมสินค้ายังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง เพราะถ้ามีข้อมูลในมือแล้วคงไม่ พูดถึงเรื่องการเซ็นต์ตอนส่งสินค้าเข้าระบบ เพราะมันคนละประเด็นกับเหตุที่เกิดขึ้น และคงไม่ต้องให้พนักงานผู้ส่งสินค้าโทรมาหาผมเอง)
3. บริษัท Kerry Express นำเงื่อนไขการประกันในการจัดส่งพัสดุมาอ้าง ทั้งๆที่ เหตุที่เกิดขึ้นไม่ตรงประเด็น เนื่องด้วยพัสดุได้ถูกจัดส่งสำเร็จแล้ว ด้วยเหตุใด?
4. บริษัท Kerry Express ได้ดำเนินการส่งพัสดุถึงมือลูกค้าจริงหรือไม่ ถ้าจริง ทำไมต้องให้ผู้ส่งเป็นผู้เคลมสินค้าแทนผู้รับ ทั้งๆที่พัสดุขึ้นข้อมูลแจ้งว่าส่งสำเร็จแล้ว และใช้วิธีการแจ้งกับผู้ส่งว่าพัสดุสูญหายภายหลัง
5. ข้อมูลการนำส่งสินค้าของทาง บริษัท Kerry Express ยังสามารถเชื่อถือได้อยู่หรือไม่ เป็นข้อมูลจริงหรือข้อมูลเท็จ?
ขอสอบถามกับบริษัท Kerry Express Thailand ในฐานะผู้ใช้บริการ
ผมขอใช้การเรียกชื่อแทนดังนี้ครับ
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) คือ นายวชิระ
(ผู้ส่ง) คือ บริษัท Kerry Express
(ผู้รับ) คือ นาย P (นามสมุติ)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีดังนี้ครับ เนื่องด้วย (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้ตั้งประมูลพระเครื่องใน www.g-pra.com จำนาน 4 องค์ เป็นพระปรกใบมะขามหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน และ (ผู้รับ) ได้เข้ามาตกลงซื้อขายในข้อความในจำนวนเงินองค์ละ 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 16,000 บาท รายละเอียดสินค้าในส่วนของลิ้งค์ขออนุญาตไม่ลงให้ดูนะครับ หลังจากที่ได้มีการตกลงซื้อขายในวันที่ 08/09/63 เวลา 07:54 น. (ผู้รับ) ได้โอนเงินมาให้เป็นจำนวนเงิน 16,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้
จากนั้นวันที่ 09/09/63 เวลา 10:10 น. (ผู้ว่าจ้างส่งของ) จึงได้ดำเนินการแพ็คของนำส่งสินค้าทั้งหมด โดยได้ว่าจ้าง บริษัท Kerry Express สาขาบางน้ำเปรี่ยว เพื่อนำส่งพัสดุที่บรรจุสินค้าไว้ไปส่งให้ นาย P ตามที่อยู่ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้กับทาง www.g-pra.com และได้รับหมายเลขพัสดุ เพื่อสำหรับติดตามพัสดุ เลขพัสดุสินค้าคือ RBNP000090853 (ตอนที่ผมแคปหน้าจอไว้เป็นหลักฐานคือวันที่ (ผู้รับ) โทรมาแจ้งผมว่ายังไม่ได้รับของ วันที่แคปหน้าจอ 27/09/63 )
หลังจากนั้นบริษัท Kerry Express ได้นำพัสดุเข้าระบบและได้ดำเนินการส่งของดังนี้
ผู้ส่งมาส่งพัสดุ / บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา วันที่ 09 ก.ย. 63 เวลา 10:10 น.
เคอรี่เข้ารับพัสดุแล้ว / บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา วันที่ 09 ก.ย. 63 เวลา 15:17 น.
พัสดุอยู่ระหว่างขนส่ง / หมื่นไวย นครราชสีมา วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 07:52 น.
พัสดุถึงสาขาปลายทาง เตรียมจัดส่ง / ปรุใหญ่ ชัยภูมิ วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 10:24 น.
พนักงานกำลังจัดส่งพัสดุ / ปรุใหญ่ ชัยภูมิ วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 10:35 น.
เคอรี่จัดส่งพัสดุของคุณเรียบร้อยแล้ว / ปรุใหญ่ ชัยภูมิ วันที่ 10 ก.ย. 63 เวลา 13:02 น.
หลังจากนั้นวันที่ 27/09/63 เวลา 11:05 น. (ผู้รับ) ได้โทรเข้ามาสอบถามว่าได้มีการจัดส่งสินค้าแล้วหรือยัง ซึ่งผม (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้แจ้งไปว่าได้ดำเนินการจัดส่งสินค้าแล้วและจบขั้นตอนการส่ง มีผู้รับสินค้าแล้วตั้งแต่วันที่ 10/09/63 แต่ทาง (ผู้รับ) ยืนยันกับผมว่ายังไม่ได้รับสินค้า และมีพัสดุอีกหนึ่งชิ้นที่ไม่ได้รับเช่นกัน ซึ่งผมจะไม่ขอกล่าวถึงพัสดุที่ไม่ใช่ของผม
หลังจากนั้นผม (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้โทรติดต่อสอบถามกับทาง บริษัท Kerry Express ที่ โทร. 1217 เพื่อสอบถามสถานะการส่งของ ซึ่งได้รับคำตอบว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งเรียบร้อยแล้ว และได้มีการโทรหา (ผู้รับ) จำนวนการโทร 2 ครั้งติดต่อกัน ช่วงเวลาการโทร เวลา 11:03 น.โทรครั้งที่ 1 ไม่รับสาย รอสายเป็นเวลา 23 วินาที โทรครั้งที่ 2 มีการรับสายและมีการพูดคุยกันเป็นเวลา 18 วินาที ((ผู้ว่าจ้างส่งของ) ไม่ทราบรายละเอียดการคุยกันระหว่าง (ผู้ส่ง) และ (ผู้รับ)) หลังจากนั้นแฟนผมก็ได้โทรสอบถามเช่นเดียวกันอีกครั้ง โดยผมได้ให้เลขพัสดุที่ทำการจัดส่งไปโทรสอบถาม ซึ่งก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกันคือ สินค้าได้ถูกส่งและมีผู้รับเรียบร้อยแล้ว
หลังจาก (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้สอบถามข้อมูลกับ บริษัท Kerry Express ที่ โทร. 1217 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้โทรติดต่อกลับไปยัง (ผู้รับ) วันที่ 27/09/63 เวลา 11:17 น. เพื่อแจ้งรายละเอียดที่ (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้สอบถามข้อมูลกับ บริษัท Kerry Express ที่ โทร. 1217 แต่ (ผู้รับ) ยืนยันว่าไม่ได้รับพัสดุและไม่มีพัสดุมาส่งอย่างแน่นอน และไม่รู้จักหรือไม่มีคนที่ชื่อ ต๋อย ภายในบ้านตามลายเซ็นต์ที่ขึ้นบนระบบออนไลน์ของทางบริษัท Kerry Express (ผู้ว่าจ้างส่งของ) และ (ผู้รับ) จึงพูดคุยสอบถามรายละเอียดเท่าที่มีข้อมูลกัน เพื่อที่จะช่วยกันติดตามหาพัสดุ และได้มีการวางสายสิ้นสุดการติดต่อ
หลังจากนั้น วันที่ 14/10/63 เวลา 14:40 น. ทาง บริษัท Kerry Express ได้ใช้เบอร์ 1217 เพื่อติดต่อกลับมาหา (ผู้ว่าจ้างส่งของ) และได้แจ้งว่าสินค้าสูญหาย และต้องการให้ผมเป็นผู้ส่งเอกสารเพื่อเคลมสินค้าแทน (ผู้รับ) ซึ่งผมรู้สึกตกใจและรู้สึกถึงความผิดปกติในครั้งนี้ และสอบถามว่า ไหนคุณแจ้งว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ (ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ) ซึ่งทาง บริษัท Kerry Express ไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และผมได้แจ้งกับทาง บริษัท Kerry Express ตามรายละเอียดและหลักฐานทั้งหมดที่ผมมีว่าไทม์ไลน์เป็นอย่างไร การส่งถึงปลายทางเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ดีๆ คุณมาบอกว่าของได้สูญหายได้อย่างไร?
ทาง บริษัท Kerry Express ได้แต่พูดคำว่า (ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ) และได้บอกให้ผมส่งเรื่องเคลมสินค้า โดยได้ส่ง E-mail เข้ามาหาผมพร้อมแบบฟอร์มการขอเคลมสินค้า ผมจึงตัดสินใจดำเนินการตามขั้นตอนที่ทาง บริษัท Kerry Express แจ้งมาเพื่อเคลมสินค้า ด้วยมีเจตนาเพื่อให้ (ผู้รับ) ได้เงินคืน จำนวน 16,000 บาท ตามที่ได้ชำระค่าสินค้ามา โดยผมจะเป็นผู้รับเงินจากทาง บริษัท Kerry Express และจะดำเนินการโอนเงินคืนในทันที ซึ่งผม (ผู้ว่าจ้างส่งของ) ได้ส่งเอกสารไปดังนี้
1. เอกสารการเคลมแบบฟอร์ม บริษัท Kerry Express
2. สำเนาบัตรประชาชน
3. หลักฐานเลขพัสดุที่ผมเซฟภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการส่งสินค้า
4. หลักฐานการพูดคุยและตกลงรวมถึงผู้รับแจ้งโอนเงินและผู้ส่งแจ้งเลขพัสดุ
5. หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีจำนวน 1,6000 บาท
6. ภาพสินค้าและลิ้งค์แนบจาก www.g-pra.com
7. สมุดบัญชีธนาคาร
และทาง บริษัท Kerry Express ได้แจ้งว่าเมื่อได้รับเอกสารหลักฐานการเคลมครบถ้วนจะติดต่อกลับไป
หลังจากที่ได้มีการส่งเอกสารการเคลมสินค้ากับทาง บริษัท Kerry Express เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้รับการติดต่อกลับมาทางโทรศัพท์ฝ่ายเคลมสินค้า เบอร์ 065 502 XXXX ในวันที่ 20/10/63 เวลา 09:44 น. และได้รับการแจ้งรายละเอียดดังนี้
ฝ่ายเคลมสินค้า : ลูกค้าได้รับการอนุมัติการเคลมสินค้าเต็มวงเงินเรียบร้อยแล้วค่ะ
เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : (ผมตกใจและรู้สึกโมโหมาก)
ผมทำเรื่องเคลมสินค้าเป็นเงิน 16,000 บาท ซึ่งคือมูลค่าของสินค้าของผม คุณจะมาคืนเงินให้เท่านี้ได้ยังงัย เพราะผมไม่ได้เป็นคนผิด
ฝ่ายเคลมสินค้า : คุณลูกค้าได้เซ็นต์รับทราบเงื่อนไข
ในการจัดส่งไปแล้ว ตั้งแต่ขั้นตอนการนำพัสดุเข้าระบบ
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : ถ้าของมันหายตั้งแต่อยู่ในขั้นตอนจัดส่ง ผมจะยอมรับเงินจำนวน 2,000 นี้ แต่เหตุที่เกิดขึ้นคนละประเด็นกัน สินค้าถูกส่งจนจบขั้นตอน ไปแล้ว ระบบออนไลน์ก็ขึ้นว่าจัดส่งสำเร็จ รวมถึง Call Center ของคุณก็ยืนยันว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งและมีผู้รับแล้ว อยู่ดีๆ คุณมาแจ้งว่า ของหายได้อย่างไร
ฝ่ายเคลมสินค้า : ลูกค้าให้หยุดการเคลมก่อนใช่ไหมค่ะ
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : หยุดไปเลย ผมไม่ยอมรับเงินจำนวนเท่านี้ มูลค่าของที่คุณแจ้งว่าหายมันมากกว่านั้น คุณไปถามผู้รับเขาเองเถอะว่า เขาจะยอมมั้ย
แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ยอม
(ผู้ว่าจ้างส่งของ) : คุณไปสอบพนักงานของคุณเองเถอะ อันนี้มันคนละประเด็นกัน ของไม่ได้หายในขั้นตอนของการจัดส่ง แต่พัสดุมันถูกส่งจนจบ
กระบวนการว่าจัดส่งสำเร็จแล้วแล้วอยู่ดีๆ คุณมาแจ้งผมว่าพัสดุหายได้งัย
ฝ่ายเคลมสินค้า : ทางเราจะขอติดต่อกลับไปอีกทีค่ะ
หลังจากจบการสนทนา ได้มีเบอร์ 065 507 XXXX ติดต่อเข้ามา ซึ่งปลายสายแจ้งว่าเป็นพนักงานที่ส่งพัสดุในวันนั้น และเล่าให้ผมฟังว่าทำอย่างไรบ้างในตอนส่ง
ซึ่งผมบอกไปว่าผมไปเช็ควิธีการทำงานของพวกคุณมาแล้วว่าก่อนจะส่งต้องโทรแจ้งยังงัยบ้างอันนั้นผมทราบ และเขายังยืนยันอีกว่าได้ส่งของแล้วแล้วได้มีการวางสายไป
***รายละเอียดในการคุยกันระหว่าง (ผู้ว่าจ้างส่งของ) กับ บริษัท Kerry Express เป็น การสนทนากันบางส่วน ซึ่งผมไม่สามารถจำได้ทั้งหมด แต่ผมจำคำพูดหลักๆได้ประมานนี้ อย่างที่พิมพ์ไว้
ตามที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดผมได้พยายามไล่เรียงไทม์ไลน์ทั้งหมดให้ครบถ้วนที่สุด
ซึ่งข้อความทั้งหมดที่ผมได้พิมพ์มาผมไม่ได้มีเจตนากล่าวหาหรือเจาะจงผู้ใดผู้หนึ่ง ว่าเป็นผู้กระทำความผิด เพราะผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดในการจัดส่งพัสดุ แต่ผมต้องการปกป้องสิทธิ์ของตนเองในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง
ผมจึงมีคำถามกับ Kerry Express Thailand เป็นข้อๆ ดังนี้
1. บริษัท Kerry Express ใช้หลักธรรมมาภิบาลในการดำเนินงานต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยหรือไม่?
2. บริษัท Kerry Express ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่?
(ผมมองว่าพนักงานเคลมสินค้ายังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง เพราะถ้ามีข้อมูลในมือแล้วคงไม่ พูดถึงเรื่องการเซ็นต์ตอนส่งสินค้าเข้าระบบ เพราะมันคนละประเด็นกับเหตุที่เกิดขึ้น และคงไม่ต้องให้พนักงานผู้ส่งสินค้าโทรมาหาผมเอง)
3. บริษัท Kerry Express นำเงื่อนไขการประกันในการจัดส่งพัสดุมาอ้าง ทั้งๆที่ เหตุที่เกิดขึ้นไม่ตรงประเด็น เนื่องด้วยพัสดุได้ถูกจัดส่งสำเร็จแล้ว ด้วยเหตุใด?
4. บริษัท Kerry Express ได้ดำเนินการส่งพัสดุถึงมือลูกค้าจริงหรือไม่ ถ้าจริง ทำไมต้องให้ผู้ส่งเป็นผู้เคลมสินค้าแทนผู้รับ ทั้งๆที่พัสดุขึ้นข้อมูลแจ้งว่าส่งสำเร็จแล้ว และใช้วิธีการแจ้งกับผู้ส่งว่าพัสดุสูญหายภายหลัง
5. ข้อมูลการนำส่งสินค้าของทาง บริษัท Kerry Express ยังสามารถเชื่อถือได้อยู่หรือไม่ เป็นข้อมูลจริงหรือข้อมูลเท็จ?