เจ้าของกระทู้อยากแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่คิดจะซื้อประกันสุขภาพของเอ็ทน่าค่ะ
เราได้ซื้อประกันสุขภาพแผนโอปอล(เหมาจ่าย)ในวงเงิน750,000/ปี ตั้งแต่ปี2018
ครั้งแรกได้มีการเคลมประกัน เดือนส.ค ปี2020 ป่วยด้วยโรคกะเพาะ แอดมิด1คืนที่ รพ.สมิติเวช ค่าใช้จ่ายประมาณ2หมื่นกว่าบาท
เราได้แจ้งกับรพ.ว่าจะใช้ประกันทั้ง2ที่ คือประกันกลุ่มของเมืองไทย และประกันส่วนบุคคลของเอ็ทน่า
ซึ่งทางรพ.ได้แจ้งว่า ทางเมืองไทยอนุมัติเงินเรียบร้อย แต่มีส่วนเกินค่าหมอ300บาท ที่ได้ส่งเรื่องให้ทางเอ็ทน่าไปแล้วแต่ทางเอ็ทน่าปฏิเสธที่จะจ่ายในตอนนั้นและให้ทางเราสำรองจ่ายไปก่อน เนื่องจากจะขอเช็คประวัติย้อนหลังใช้เวลาประมาณ30-90วัน โดยประมาณ
และให้ทางเราส่งเอกสารยินยอมที่จะให้ทางบริษัทเอทน่าตรวจสอบ
ในตอนนั้นตัวเราเองเริ่มไม่โอเคเท่าไหร่จึงได้สอบถามทางเอ็ทน่าไปว่า
วงเงินแค่300บาท ต้องให้เราสำรองจ่ายด้วยหรอและทำไมขั้นตอนการตรวจสอบของบริษัทคุณถึงนานกว่าบริษัทอื่นๆ
แต่ทางเอ็ทน่าก็ยืนยันว่าเป็นขั้นตอนของบริษัท เราจึงได้เซ็นต์เอกสารยินยอมส่งไป
สรุปเกือบ2เดือน ทางเอ็ทน่าได้มีการอนุมัติจ่าย300บาท และได้แก้ไขสัญญา คือขอยกเว้นค่ารักษาเกี่ยวกับการผ่าตัดรักษาถุงน้ำต่างๆในทรวงอก
คาดว่าน่าจะเจอประวัติที่เราเคยเสริมหน้าอกเมื่อ10ปีที่ผ่านมา
ครั้งที่2 ในเดือนตุลาคม 2020 เราได้มีอาการตาอักเสบทั้ง2ข้าง มีหนองออกตลอดเวลา น้ำตาไหล จึงได้เข้าไปตรวจ
ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเกิดจากท่อน้ำตาตันทั้ง2ข้าง โดยมีการใช้ท่อฉีดน้ำเกลือไปที่ท่อน้ำตาทั้ง2ข้าง ผลสรุปคือตันทั้ง2ข้าง และต้องผ่าตัด
ซึ่งเราได้ให้ทางรพ.ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นยอด250,000บาท ในการผ่าตัดส่องกล้อง และให้ส่งเรื่องpre approve ไปที่เอ็ทน่าในวันที่19ต.ค
วันถัดมาเราได้โทรถามทางเอ็ทน่าว่าจะใช้เวลาตรวจสอบกี่วันถึงจะแจ้งผล ซึ่งทางเอ็ทน่าตอบว่าภายใน24ชม.
หลังจากนั้นเราได้มีการสอบถามเรื่อยๆแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดซักที ทั้งที่เราได้มีการตำหนิไปว่าคุณได้ทำการตรวจสอบประวัติการรักษาในรพ.ต่างๆไปแล้ว ในการเคลมครั้งแรก และมีการแก้ไขสัญญาคือยกเว้นการรักษาเนื้องอกหรือถุงน้ำที่ทรวงอกอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนการผ่าตัดท่อน้ำตาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการยกเว้น ไม่ทราบว่าช้าขั้นตอนไหนอีก
ซึ่งทางเอ็ทน่าก็ได้อ้างว่ายังรอเอกสารเพิ่มเติมจากทางรพ.สมิติเวชอยู่ เกี่ยวกับการรักษาท่อน้ำตา
เราจึงได้โทรกลับไปสอบถามทางรพ.อีกครั้ง แต่รพ.แจ้งว่าได้มีการส่งเอกสารให้ทางบริษัทไปหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่21ต.ค และทางเอ็ทน่าก็แจ้งว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแต่ได้บอกกับทางรพ.ว่า ไม่แน่ใจว่า จะใช้เวลากี่วันในการอนุมัติเพราะยอดเงินสูงและอาจจะขอเอกสารเพิ่มอีก.
แบบนี้หมายความว่ายังไงคะ เราได้ทำแผนสุขภาพแบบเหมาจ่ายในวงเงิน750,000บาท/ปี
แต่กลับมาอ้างเรื่องค่ารักษาวงเงินสูง ต้องพิจารณาไม่สามารถตอบได้ว่ากี่วัน ถ้าการเคลมหรือการรักษาแต่ละครั้งจะยุ่งยากและอนุมัติยากขนาดนี้
ทั้งที่ทางเอ็ทน่าแจ้งเองว่า ถ้ามีการตรวจสอบประวัติในการรักษาครั้งแรกแล้ว หลังจากนั้นไม่ต้องสำรองจ่าย หรือถ้าส่งเรื่องพรีแอพพรูพ สามารถแจ้งผลภายใน24ชม.
จนถึงวันนี้เรายังไม่ได้รับผลหรือความคืบหน้าใดๆจากทางเอ็ทน่าเลยค่ะ
จากประสบการณ์ครั้งนี้จึงขอมาแชร์กับเพื่อนๆในกระทู้ ว่ามีใครมีปัญหาแบบเดียวกันอีกไหมคะ
คิดดีๆ!!!ก่อนที่จะทำประกันAetna(เอ็ทน่า)
เราได้ซื้อประกันสุขภาพแผนโอปอล(เหมาจ่าย)ในวงเงิน750,000/ปี ตั้งแต่ปี2018
ครั้งแรกได้มีการเคลมประกัน เดือนส.ค ปี2020 ป่วยด้วยโรคกะเพาะ แอดมิด1คืนที่ รพ.สมิติเวช ค่าใช้จ่ายประมาณ2หมื่นกว่าบาท
เราได้แจ้งกับรพ.ว่าจะใช้ประกันทั้ง2ที่ คือประกันกลุ่มของเมืองไทย และประกันส่วนบุคคลของเอ็ทน่า
ซึ่งทางรพ.ได้แจ้งว่า ทางเมืองไทยอนุมัติเงินเรียบร้อย แต่มีส่วนเกินค่าหมอ300บาท ที่ได้ส่งเรื่องให้ทางเอ็ทน่าไปแล้วแต่ทางเอ็ทน่าปฏิเสธที่จะจ่ายในตอนนั้นและให้ทางเราสำรองจ่ายไปก่อน เนื่องจากจะขอเช็คประวัติย้อนหลังใช้เวลาประมาณ30-90วัน โดยประมาณ
และให้ทางเราส่งเอกสารยินยอมที่จะให้ทางบริษัทเอทน่าตรวจสอบ
ในตอนนั้นตัวเราเองเริ่มไม่โอเคเท่าไหร่จึงได้สอบถามทางเอ็ทน่าไปว่า
วงเงินแค่300บาท ต้องให้เราสำรองจ่ายด้วยหรอและทำไมขั้นตอนการตรวจสอบของบริษัทคุณถึงนานกว่าบริษัทอื่นๆ
แต่ทางเอ็ทน่าก็ยืนยันว่าเป็นขั้นตอนของบริษัท เราจึงได้เซ็นต์เอกสารยินยอมส่งไป
สรุปเกือบ2เดือน ทางเอ็ทน่าได้มีการอนุมัติจ่าย300บาท และได้แก้ไขสัญญา คือขอยกเว้นค่ารักษาเกี่ยวกับการผ่าตัดรักษาถุงน้ำต่างๆในทรวงอก
คาดว่าน่าจะเจอประวัติที่เราเคยเสริมหน้าอกเมื่อ10ปีที่ผ่านมา
ครั้งที่2 ในเดือนตุลาคม 2020 เราได้มีอาการตาอักเสบทั้ง2ข้าง มีหนองออกตลอดเวลา น้ำตาไหล จึงได้เข้าไปตรวจ
ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเกิดจากท่อน้ำตาตันทั้ง2ข้าง โดยมีการใช้ท่อฉีดน้ำเกลือไปที่ท่อน้ำตาทั้ง2ข้าง ผลสรุปคือตันทั้ง2ข้าง และต้องผ่าตัด
ซึ่งเราได้ให้ทางรพ.ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นยอด250,000บาท ในการผ่าตัดส่องกล้อง และให้ส่งเรื่องpre approve ไปที่เอ็ทน่าในวันที่19ต.ค
วันถัดมาเราได้โทรถามทางเอ็ทน่าว่าจะใช้เวลาตรวจสอบกี่วันถึงจะแจ้งผล ซึ่งทางเอ็ทน่าตอบว่าภายใน24ชม.
หลังจากนั้นเราได้มีการสอบถามเรื่อยๆแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดซักที ทั้งที่เราได้มีการตำหนิไปว่าคุณได้ทำการตรวจสอบประวัติการรักษาในรพ.ต่างๆไปแล้ว ในการเคลมครั้งแรก และมีการแก้ไขสัญญาคือยกเว้นการรักษาเนื้องอกหรือถุงน้ำที่ทรวงอกอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนการผ่าตัดท่อน้ำตาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการยกเว้น ไม่ทราบว่าช้าขั้นตอนไหนอีก
ซึ่งทางเอ็ทน่าก็ได้อ้างว่ายังรอเอกสารเพิ่มเติมจากทางรพ.สมิติเวชอยู่ เกี่ยวกับการรักษาท่อน้ำตา
เราจึงได้โทรกลับไปสอบถามทางรพ.อีกครั้ง แต่รพ.แจ้งว่าได้มีการส่งเอกสารให้ทางบริษัทไปหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่21ต.ค และทางเอ็ทน่าก็แจ้งว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแต่ได้บอกกับทางรพ.ว่า ไม่แน่ใจว่า จะใช้เวลากี่วันในการอนุมัติเพราะยอดเงินสูงและอาจจะขอเอกสารเพิ่มอีก.
แบบนี้หมายความว่ายังไงคะ เราได้ทำแผนสุขภาพแบบเหมาจ่ายในวงเงิน750,000บาท/ปี
แต่กลับมาอ้างเรื่องค่ารักษาวงเงินสูง ต้องพิจารณาไม่สามารถตอบได้ว่ากี่วัน ถ้าการเคลมหรือการรักษาแต่ละครั้งจะยุ่งยากและอนุมัติยากขนาดนี้
ทั้งที่ทางเอ็ทน่าแจ้งเองว่า ถ้ามีการตรวจสอบประวัติในการรักษาครั้งแรกแล้ว หลังจากนั้นไม่ต้องสำรองจ่าย หรือถ้าส่งเรื่องพรีแอพพรูพ สามารถแจ้งผลภายใน24ชม.
จนถึงวันนี้เรายังไม่ได้รับผลหรือความคืบหน้าใดๆจากทางเอ็ทน่าเลยค่ะ
จากประสบการณ์ครั้งนี้จึงขอมาแชร์กับเพื่อนๆในกระทู้ ว่ามีใครมีปัญหาแบบเดียวกันอีกไหมคะ