.
.
ลามะที่ถูกบูชายัญประดับด้วยต่างหู
และสร้อยคอหลากสี (© L.M. Valdez)
.
นักโบราณคดีพบซากลามะ 5 ตัวในเปรู
ที่ถูกสังเวยให้กับเทพเจ้าอินคา Inka เมื่อ 500 ปีก่อน
ซากลามะยังคงประดับประดาด้วยเชือกหลากสี พร้อมกับด้ายแดง
และยังมีขนนกเขตร้อนทางซีกโลกภาคใต้
มัดติดกับกิ่งไม้วางไว้พร้อมกับซากลามะ
โดยชาวอินคาตกแต่งพวกมันก่อนปลิดวิญญาณ
ซึ่งน่าจะเป็นการฝังลามะเหล่านี้ทั้งเป็น
การค้นพบเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่หายากมาก
แม้ว่านักโบราณคดีจะขุดค้นพบซากศพชาวบ้านของอาณาจักรอินคา
ตามชายฝั่งแปซิฟิกของทวีปอเมริกาใต้มานานกว่าศตวรรษแล้ว
"
ยังไม่มีใครเคยพบเห็น อะไรเช่นนี้มาก่อนเลย "
นักวิจัย Lidio Valdez ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชามานุษยวิทยาและโบราณคดี
ที่ University of Calgary ใน Canada ให้สัมภาษณ์กับ Live Science
Lidio Valdez กับเพื่อนร่วมงานนักโบราณคดี
ขุดค้นหลุมโบราณคดีพบซากลามะ (
Lama glama)
ที่
Tambo Viejo แหล่งโบราณคดีบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเปรูในปี 2018
โดยพบว่าซากลามะถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินในอาคาร 2 หลัง
ซึ่งในบริเวณนี้ยังมีอาคารอีกหลายหลังที่ล้อมรอบ
ลานกว้าง(พื้นที่สาธารณะ)ในเมืองทั้ง 2 แห่ง
.
.
Lidio Valdez ระบุว่า
ลามะสีน้ำตาลมี 1 ตัว ส่วนสีขาวมี 3 ตัว
ถูกฝังไว้ใต้พื้นดินด้วยกันในอาคารเดียว
และยังพบลามะสีน้ำตาลเพียงตัวเดียว
ที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินในอาคารอีกหลัง
ในพื้นที่แห่งแรก ดูเหมือนว่าน่าจะมีซากลามะมากกว่านี้
แต่พวกนักล่าของเก่าได้ขุดคุ้ยหาสมบัติไปก่อนหน้านี้แล้ว
ซากลามะจะถูกฝังให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
นั่นอาจจะเป็นเพราะ ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก
คือ เทพเจ้าองค์สำคัญของชนเผ่าอินคา
การบูชายัญลามะพวกนี้ เพื่อสักการะเทพเจ้าชาวอินคา
และเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่ประสบความสำเร็จ
การเลี้ยงดูฝูงสัตว์ที่แข็งแรงและมีลูกดก
ตลอดจนการมีชัยชนะในสงครามระหว่างดินแดน/ชนเผ่า
วัฒนธรรมท้องถิ่นเดิมของอาณาจักรอินคา
นิยมบูชายัญคนหรือสัตว์ พร้อมกับการมีงานเลี้ยงที่ใหญ่โต
ลามะแรกรุ่นวัยเจริญพันธุ์จะได้รับการตบแต่งอย่างหรูหรา
พู่เชือกยาวย้อมสีแดงเหลืองเขียวและม่วง จะผูกติดไว้ที่ใบหูของลามะ
สายเชือกเหล่านี้ทำจากเส้นขนลามะนำมาทักทอ
Camelid fiber
การผูกพู่เชือกติดไว้ที่ใบหู เพื่อเฉลิมฉลองในวาระโอกาส นั้น ๆ
โดยรอบคอลามะยังสวมสร้อยคอหลากสีไว้รอบคอ
การประดับประดาเช่นนี้ บ่งบอกว่าเครื่องบูชานั้นพิเศษมาก
อนึ่ง มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุว่า
ลามะสีน้ำตาลถูกสังเวยให้กับ
Viracocha
(เทพสูงสุดผู้สร้างโลกและจักรวาล)
ส่วนลามะสีขาวบวงสรวงให้ดวงอาทิตย์เทพเจ้าหลักของอินคา
.
.
มีการเจิมสีแดงที่หัวของลามะบางตัว
นักวิจัยได้เขียนไว้ในการศึกษาว่า
ลามะสีขาวมีการเจิมสีแดง 3 จุดด้านบนของหัว
และมีด้ายสีแดงพาดลงมาจากดวงตาแต่ละข้างไปยังจมูก
ยิ่งไปกว่านั้นลามะสีขาวตัวหนึ่งถูกฝังพร้อมกับหนูตะเภา (
Cavia porcellus)
และลามะสีขาวทั้ง 3 ตัวถูกฝังพร้อมกับ
ด้วยขนนกเขตร้อนที่ผูกติดกับกิ่งไม้ยาว 4 นิ้ว (10 เซนติเมตร)
ลามะสีขาวทั้ง 3 ตัวยังถูกฝังไว้ใกล้ ๆ
กับหลุมที่เต็มไปด้วยซังข้าวโพด ถั่วลิมา หนูตะเภา รวมทั้งห่อขี้เถ้า (ปูนขาว)
ที่เกี่ยวข้องกับการเคี้ยวใบโก๊ะก่า(โคคา)
ซึ่งเป็นใบไม้ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอิ้งก่า(อินคา)
และยังเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำโคเคนอีกด้วย
(คุณจันทรำไพเคยเขียนในต่วยตูนว่า
ใบโก๊ะก่าจะมีการใส่ถุงผ้ามอบให้เป็นของขวัญ
สำหรับผู้มาเยี่ยมเยือน ถือว่าเป็นเกียรติ/ของนำโชค
แบบเอาไปกินก็ได้ เก็บก็ได้ ดมก็ดี มีประโยชน์
นิยมกันในหลายประเทศแถวละตินอเมริกา)
.
.
หลังจากตกแต่งลามะให้พร้อมสำหรับบูชายัญแล้ว
จะมีการมัดขาของพวกลามะให้งอลงอยู่ใต้ลำตัว
โดยมัดด้วยเชือกยาวซึ่งทำจากเส้นขนลามะ Camelid fibers
นักโบราณคดีไม่พบรอยตัดใด ๆ บนลำคอลามะ
หรือกระบังลมของลามะถูกแทงด้วยของมีคม
จึงเป็นไปได้ว่าพวกมันถูกฝังทั้งเป็น
"ถ้า [แนวคิดนี้] ถูกต้อง การลงมือปฏิบัติแบบนี้
จะเป็นเรื่องคู่ขนานกับหลักฐานสำคัญ
กับการบูชายัญด้วยชีวิตของมนุษย์ "
นักวิจัยเขียนไว้ในการศึกษา
ภายในหลุมขุดค้นโบราณคดีชาวอินคาในที่อื่น ๆ
นักโบราณคดีมักจะพบว่า มีการบูชายัญคนและหนูตะเภา
แต่การค้นพบครั้งใหม่นี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ดีที่สุดที่ควรได้รับการอนุรักษ์ไว้
Susan deFrance ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา
University of Florida (ไม่ได้ร่วมในการขุดค้นครั้งนี้)
" สิ่งที่ค้นพบจากการบูชายัญอย่างอื่นนั้นไม่เหมือนกับครั้งนี้
เพราะครั้งนี้สมบูรณ์กว่าและสวยงามกว่ามาก
จนสามารถบอกสีผิวหนังสัตว์ และวัสดุทั้งหมดได้
ดังนั้น เป็นเรื่องที่หายากมากพอสมควรเลยทีเดียว "
เธอให้สัมภาษณ์กับ Live Science
.
.
บวงสรวงและงานเลี้ยง
นักโบราณคดีพบเตาเผาดินขนาดใหญ่
ในอาคารอีกหลังหนึ่งใกล้กับการบูชายัญลามะ
การค้นพบครั้งนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่า
มีการเฉลิมฉลองตามพิธีกรรม
และจะสิ้นสุดลงด้วยการแบ่งปันอาหาร
ในรูปแบบของงานเลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่
บางทีการบูชายัญสัตว์นี้มีจุดประสงค์ที่ใหญ่กว่า
เพราะอาจจะช่วยรักษาอำนาจของอินคาเหนืออาณาจักร
แต่จากตัวอย่าง 9 ชิ้น ที่ตรวจสอบด้วย
Radiocarbon Dating
ได้บ่งชี้ว่าลามะพวกนี้ถูกสังเวยในราว 1,500 ปี
หรือใกล้สิ้นสุดการยึดครองของอาณาจักรอินคาในพื้นที่ Tambo Viejo
ไม่กี่ 10 ปีก่อน ที่จักรวรรดิอินคาได้รวมชายฝั่งเปรูทางตอนใต้
ผนวกเข้าไว้ในดินแดนของตนเองอย่างสันติ
จากนั้นชาวอินคาได้สร้างศูนย์การปกครองที่ Tambo Viejo
ตามเอกสารของสเปนตั้งแต่สมัยโคลัมบัสยึดละตินอเมริกา ระบุว่า
ชาว Inka ไม่เพียงแต่ไปที่ Tambo Viejo
เพื่อทำการบูชายัญสัตว์ แต่การเสียสละครั้งนี้
เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่มาก
เพราะรวมถึงการแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มมึนเมาเป็นวาระพิเศษ
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐทั้งหมด
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว การแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มมึนเมา ใบโคคา เหล้าชิชา
(เหล้าชิชาปกติจะสงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น)
ชาวบ้านและพวกทาสไม่มีสิทธิ์ดื่มในชีวิตประจำวัน
เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่ช่วยให้ชาว Inka
สามารถประสานพันธมิตรทางการเมือง
ที่ยั่งยืนและความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
กับชนชาติที่เพิ่งถูกพิชิต(เป็นเมืองขึ้น) ได้
(แบบมอมเมาให้ลืมความทุกข์ยากลำบาก)
ลามะไม่ได้เป็นเครื่องสังเวย/บูชายัญที่สำคัญเพียงอย่างเดียว
ที่ Tambo Viejo มีผลการวิจัยก่อนหน้านี้ของ Valdez
เปิดเผยว่า มีการค้นพบหนูตะเภาที่ถูกบูชายัญหลายสิบตัว
ที่ประดับประดาด้วยต่างหูและสร้อยคอหลากสี
ตามผลการศึกษาในปี 2019
ใน International urnal of Osteoarchaeology
ชาวสเปนยุคแรก ๆ ในอเมริกาใต้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
ชนเผ่าอินคาบูชายัญลามะเหล่านี้เป็นร้อย ๆ ตัว
แต่นี่เป็นหลักฐานโดยตรงชิ้นแรกที่แสดงว่า
เหตุการณฺ์ดังกล่าวนี้เคยเกิดขึ้นจริง
ผลการศึกษาครั้งนี้มีการเผยแพร่ทางออนไลน์
เมื่อวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.2020) ในวารสาร Antiquity
Inka llama offerings from Tambo Viejo, Acari Valley, Peru
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3mcszsy
https://bit.ly/31AQiLc
.
.
ภาพ 1-7 (© L.M. Valdez; Antiquity Publications Ltd. )
.
1.
.
นักโบราณคดีพบลามะที่ตายซากตามธรรมชาติ
ที่เมือง Tambo Viejo ของอินคา
.
2.
.
ชนเผ่าอินคาจะมัดแขนขาของลามะด้วยเชือก ก่อนที่จะฝังมันทั้งเป็น
.
3.
.
ด้ายที่มีสีสันเหล่านี้ผูกติดกับใบหูของลามะสีขาวตัวหนึ่ง
.
4.
.
ชนเผ่าอินคามัดขนนกเขตร้อน
กับกิ่งไม้และฝังไว้พร้อมกับลามะสีขาว
.
5.
.
หัวกะโหลกของลามะวัยเจริญพันธุ์สีน้ำตาล
.
6.
.
โครงกระดูกช่วงปากของลามะสีน้ำตาล
.
7.
.
โครงกระดูกช่วงปากของลามะสีขาว
.
8.
.
พื้นที่สีเขียวคือ อาณาจักรอินคา ในยุคโบราณ
.
9.
.
Tambo Viejo สถานที่พบซากลามะ
ใกล้กับหลุมขุดค้นโบราณคดีอื่น
© M A Liza ; Antiquity Publications Ltd
.
10.
.
แผนทึ่ Tambo Viejo แสดงอาคารล้อมรอบ
ลานกว้างสาธารณะ 2 แห่ง
© Benjamin Guerrero ; Antiquity Publications Ltd
.
11.
.
แผนที่สังเขปจุดที่ฝังลามะทั้ง 4 ตัว
© M A Liza ; Antiquity Publications Ltd
.
12.
.
หลังจากชาวอินคาได้รวม Acari Valley
เข้ากับอาณาจักรอินคาแล้ว
จึงได้จัดตั้งศูนย์การปกครองแห่งใหม่ที่นึ่
การขุดค้นในพื้นที่ได้เผยให้เห็นร่องรอย
ของพิธีกรรมที่น่าทึ่งของชาวอินคา
.
13.
.
กำแพงที่ Tambo Viejo ส่วนล่างสร้างด้วยหินกรวดและปูนโคลน
โดยมี
Adobes แผ่นอิฐ/ก้อนหินในยุคโบราณ
วางอยู่ด้านบน ให้สังเกตกอง Adobes
ที่ร่วงหล่นอยู่หน้ากำแพงหินกรวด
.
14.
.
ด้ายสีถักทออย่างสวยงาม/เรียบร้อย
เป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับว่า มีไว้ทำไม
ภายในหม้อที่ยังคงถูกปิดผนึกไว้
ตอนที่นักโบราณคดีพบ
.
15.
.
ที่นี่ ค้นพบหนูตะเภาที่ถูกบูชายัญหลายตัว
บางตัวถูกวางทิ้งลงบนพื้นดินโดยตรง
ในระหว่างพิธีกรรมเฉลิมฉลองชาวอินคา
ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกมันตายอย่างผิดธรรมชาติ
สภาพพื้นที่แห้งแล้งทึ่นึ่ ทำให้เก็บรักษาซากดังกล่าวไว้ได้
เรื่องราวที่พิเศษและเปิดเผยว่า
สัตว์ฟันแทะแสนอาภัพสวมเครื่องประดับที่มีสีสัน
.
16.
.
หุ่นปั้นผู้หญิงที่ Tambo Viejo ถูกค้นพบในสภาพคว่ำหน้าลง
ข้างฐานของกำแพงพร้อมกับซังข้าวโพด
การบูชายัญลามะที่เปรู
.
ลามะที่ถูกบูชายัญประดับด้วยต่างหู
และสร้อยคอหลากสี (© L.M. Valdez)
.
นักโบราณคดีพบซากลามะ 5 ตัวในเปรู
ที่ถูกสังเวยให้กับเทพเจ้าอินคา Inka เมื่อ 500 ปีก่อน
ซากลามะยังคงประดับประดาด้วยเชือกหลากสี พร้อมกับด้ายแดง
และยังมีขนนกเขตร้อนทางซีกโลกภาคใต้
มัดติดกับกิ่งไม้วางไว้พร้อมกับซากลามะ
โดยชาวอินคาตกแต่งพวกมันก่อนปลิดวิญญาณ
ซึ่งน่าจะเป็นการฝังลามะเหล่านี้ทั้งเป็น
การค้นพบเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่หายากมาก
แม้ว่านักโบราณคดีจะขุดค้นพบซากศพชาวบ้านของอาณาจักรอินคา
ตามชายฝั่งแปซิฟิกของทวีปอเมริกาใต้มานานกว่าศตวรรษแล้ว
" ยังไม่มีใครเคยพบเห็น อะไรเช่นนี้มาก่อนเลย "
นักวิจัย Lidio Valdez ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชามานุษยวิทยาและโบราณคดี
ที่ University of Calgary ใน Canada ให้สัมภาษณ์กับ Live Science
Lidio Valdez กับเพื่อนร่วมงานนักโบราณคดี
ขุดค้นหลุมโบราณคดีพบซากลามะ (Lama glama)
ที่ Tambo Viejo แหล่งโบราณคดีบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเปรูในปี 2018
โดยพบว่าซากลามะถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินในอาคาร 2 หลัง
ซึ่งในบริเวณนี้ยังมีอาคารอีกหลายหลังที่ล้อมรอบ
ลานกว้าง(พื้นที่สาธารณะ)ในเมืองทั้ง 2 แห่ง
.
Lidio Valdez ระบุว่า
ลามะสีน้ำตาลมี 1 ตัว ส่วนสีขาวมี 3 ตัว
ถูกฝังไว้ใต้พื้นดินด้วยกันในอาคารเดียว
และยังพบลามะสีน้ำตาลเพียงตัวเดียว
ที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินในอาคารอีกหลัง
ในพื้นที่แห่งแรก ดูเหมือนว่าน่าจะมีซากลามะมากกว่านี้
แต่พวกนักล่าของเก่าได้ขุดคุ้ยหาสมบัติไปก่อนหน้านี้แล้ว
ซากลามะจะถูกฝังให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
นั่นอาจจะเป็นเพราะ ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก
คือ เทพเจ้าองค์สำคัญของชนเผ่าอินคา
การบูชายัญลามะพวกนี้ เพื่อสักการะเทพเจ้าชาวอินคา
และเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่ประสบความสำเร็จ
การเลี้ยงดูฝูงสัตว์ที่แข็งแรงและมีลูกดก
ตลอดจนการมีชัยชนะในสงครามระหว่างดินแดน/ชนเผ่า
วัฒนธรรมท้องถิ่นเดิมของอาณาจักรอินคา
นิยมบูชายัญคนหรือสัตว์ พร้อมกับการมีงานเลี้ยงที่ใหญ่โต
ลามะแรกรุ่นวัยเจริญพันธุ์จะได้รับการตบแต่งอย่างหรูหรา
พู่เชือกยาวย้อมสีแดงเหลืองเขียวและม่วง จะผูกติดไว้ที่ใบหูของลามะ
สายเชือกเหล่านี้ทำจากเส้นขนลามะนำมาทักทอ Camelid fiber
การผูกพู่เชือกติดไว้ที่ใบหู เพื่อเฉลิมฉลองในวาระโอกาส นั้น ๆ
โดยรอบคอลามะยังสวมสร้อยคอหลากสีไว้รอบคอ
การประดับประดาเช่นนี้ บ่งบอกว่าเครื่องบูชานั้นพิเศษมาก
อนึ่ง มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุว่า
ลามะสีน้ำตาลถูกสังเวยให้กับ Viracocha
(เทพสูงสุดผู้สร้างโลกและจักรวาล)
ส่วนลามะสีขาวบวงสรวงให้ดวงอาทิตย์เทพเจ้าหลักของอินคา
.
มีการเจิมสีแดงที่หัวของลามะบางตัว
นักวิจัยได้เขียนไว้ในการศึกษาว่า
ลามะสีขาวมีการเจิมสีแดง 3 จุดด้านบนของหัว
และมีด้ายสีแดงพาดลงมาจากดวงตาแต่ละข้างไปยังจมูก
ยิ่งไปกว่านั้นลามะสีขาวตัวหนึ่งถูกฝังพร้อมกับหนูตะเภา (Cavia porcellus)
และลามะสีขาวทั้ง 3 ตัวถูกฝังพร้อมกับ
ด้วยขนนกเขตร้อนที่ผูกติดกับกิ่งไม้ยาว 4 นิ้ว (10 เซนติเมตร)
ลามะสีขาวทั้ง 3 ตัวยังถูกฝังไว้ใกล้ ๆ
กับหลุมที่เต็มไปด้วยซังข้าวโพด ถั่วลิมา หนูตะเภา รวมทั้งห่อขี้เถ้า (ปูนขาว)
ที่เกี่ยวข้องกับการเคี้ยวใบโก๊ะก่า(โคคา)
ซึ่งเป็นใบไม้ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอิ้งก่า(อินคา)
และยังเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำโคเคนอีกด้วย
(คุณจันทรำไพเคยเขียนในต่วยตูนว่า
ใบโก๊ะก่าจะมีการใส่ถุงผ้ามอบให้เป็นของขวัญ
สำหรับผู้มาเยี่ยมเยือน ถือว่าเป็นเกียรติ/ของนำโชค
แบบเอาไปกินก็ได้ เก็บก็ได้ ดมก็ดี มีประโยชน์
นิยมกันในหลายประเทศแถวละตินอเมริกา)
.
หลังจากตกแต่งลามะให้พร้อมสำหรับบูชายัญแล้ว
จะมีการมัดขาของพวกลามะให้งอลงอยู่ใต้ลำตัว
โดยมัดด้วยเชือกยาวซึ่งทำจากเส้นขนลามะ Camelid fibers
นักโบราณคดีไม่พบรอยตัดใด ๆ บนลำคอลามะ
หรือกระบังลมของลามะถูกแทงด้วยของมีคม
จึงเป็นไปได้ว่าพวกมันถูกฝังทั้งเป็น
"ถ้า [แนวคิดนี้] ถูกต้อง การลงมือปฏิบัติแบบนี้
จะเป็นเรื่องคู่ขนานกับหลักฐานสำคัญ
กับการบูชายัญด้วยชีวิตของมนุษย์ "
นักวิจัยเขียนไว้ในการศึกษา
ภายในหลุมขุดค้นโบราณคดีชาวอินคาในที่อื่น ๆ
นักโบราณคดีมักจะพบว่า มีการบูชายัญคนและหนูตะเภา
แต่การค้นพบครั้งใหม่นี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ดีที่สุดที่ควรได้รับการอนุรักษ์ไว้
Susan deFrance ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา
University of Florida (ไม่ได้ร่วมในการขุดค้นครั้งนี้)
" สิ่งที่ค้นพบจากการบูชายัญอย่างอื่นนั้นไม่เหมือนกับครั้งนี้
เพราะครั้งนี้สมบูรณ์กว่าและสวยงามกว่ามาก
จนสามารถบอกสีผิวหนังสัตว์ และวัสดุทั้งหมดได้
ดังนั้น เป็นเรื่องที่หายากมากพอสมควรเลยทีเดียว "
เธอให้สัมภาษณ์กับ Live Science
.
.
บวงสรวงและงานเลี้ยง
นักโบราณคดีพบเตาเผาดินขนาดใหญ่
ในอาคารอีกหลังหนึ่งใกล้กับการบูชายัญลามะ
การค้นพบครั้งนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่า
มีการเฉลิมฉลองตามพิธีกรรม
และจะสิ้นสุดลงด้วยการแบ่งปันอาหาร
ในรูปแบบของงานเลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่
บางทีการบูชายัญสัตว์นี้มีจุดประสงค์ที่ใหญ่กว่า
เพราะอาจจะช่วยรักษาอำนาจของอินคาเหนืออาณาจักร
แต่จากตัวอย่าง 9 ชิ้น ที่ตรวจสอบด้วย Radiocarbon Dating
ได้บ่งชี้ว่าลามะพวกนี้ถูกสังเวยในราว 1,500 ปี
หรือใกล้สิ้นสุดการยึดครองของอาณาจักรอินคาในพื้นที่ Tambo Viejo
ไม่กี่ 10 ปีก่อน ที่จักรวรรดิอินคาได้รวมชายฝั่งเปรูทางตอนใต้
ผนวกเข้าไว้ในดินแดนของตนเองอย่างสันติ
จากนั้นชาวอินคาได้สร้างศูนย์การปกครองที่ Tambo Viejo
ตามเอกสารของสเปนตั้งแต่สมัยโคลัมบัสยึดละตินอเมริกา ระบุว่า
ชาว Inka ไม่เพียงแต่ไปที่ Tambo Viejo
เพื่อทำการบูชายัญสัตว์ แต่การเสียสละครั้งนี้
เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่มาก
เพราะรวมถึงการแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มมึนเมาเป็นวาระพิเศษ
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐทั้งหมด
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว การแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มมึนเมา ใบโคคา เหล้าชิชา
(เหล้าชิชาปกติจะสงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น)
ชาวบ้านและพวกทาสไม่มีสิทธิ์ดื่มในชีวิตประจำวัน
เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่ช่วยให้ชาว Inka
สามารถประสานพันธมิตรทางการเมือง
ที่ยั่งยืนและความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
กับชนชาติที่เพิ่งถูกพิชิต(เป็นเมืองขึ้น) ได้
(แบบมอมเมาให้ลืมความทุกข์ยากลำบาก)
ลามะไม่ได้เป็นเครื่องสังเวย/บูชายัญที่สำคัญเพียงอย่างเดียว
ที่ Tambo Viejo มีผลการวิจัยก่อนหน้านี้ของ Valdez
เปิดเผยว่า มีการค้นพบหนูตะเภาที่ถูกบูชายัญหลายสิบตัว
ที่ประดับประดาด้วยต่างหูและสร้อยคอหลากสี
ตามผลการศึกษาในปี 2019
ใน International urnal of Osteoarchaeology
ชาวสเปนยุคแรก ๆ ในอเมริกาใต้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
ชนเผ่าอินคาบูชายัญลามะเหล่านี้เป็นร้อย ๆ ตัว
แต่นี่เป็นหลักฐานโดยตรงชิ้นแรกที่แสดงว่า
เหตุการณฺ์ดังกล่าวนี้เคยเกิดขึ้นจริง
ผลการศึกษาครั้งนี้มีการเผยแพร่ทางออนไลน์
เมื่อวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.2020) ในวารสาร Antiquity
Inka llama offerings from Tambo Viejo, Acari Valley, Peru
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3mcszsy
https://bit.ly/31AQiLc
.
ภาพ 1-7 (© L.M. Valdez; Antiquity Publications Ltd. )
.
1.
.
นักโบราณคดีพบลามะที่ตายซากตามธรรมชาติ
ที่เมือง Tambo Viejo ของอินคา
.
2.
.
ชนเผ่าอินคาจะมัดแขนขาของลามะด้วยเชือก ก่อนที่จะฝังมันทั้งเป็น
.
3.
.
ด้ายที่มีสีสันเหล่านี้ผูกติดกับใบหูของลามะสีขาวตัวหนึ่ง
.
4.
.
ชนเผ่าอินคามัดขนนกเขตร้อน
กับกิ่งไม้และฝังไว้พร้อมกับลามะสีขาว
.
5.
.
หัวกะโหลกของลามะวัยเจริญพันธุ์สีน้ำตาล
.
6.
.
โครงกระดูกช่วงปากของลามะสีน้ำตาล
.
7.
.
โครงกระดูกช่วงปากของลามะสีขาว
.
8.
.
พื้นที่สีเขียวคือ อาณาจักรอินคา ในยุคโบราณ
.
9.
.
Tambo Viejo สถานที่พบซากลามะ
ใกล้กับหลุมขุดค้นโบราณคดีอื่น
© M A Liza ; Antiquity Publications Ltd
.
10.
.
แผนทึ่ Tambo Viejo แสดงอาคารล้อมรอบ
ลานกว้างสาธารณะ 2 แห่ง
© Benjamin Guerrero ; Antiquity Publications Ltd
.
11.
.
แผนที่สังเขปจุดที่ฝังลามะทั้ง 4 ตัว
© M A Liza ; Antiquity Publications Ltd
.
12.
.
หลังจากชาวอินคาได้รวม Acari Valley
เข้ากับอาณาจักรอินคาแล้ว
จึงได้จัดตั้งศูนย์การปกครองแห่งใหม่ที่นึ่
การขุดค้นในพื้นที่ได้เผยให้เห็นร่องรอย
ของพิธีกรรมที่น่าทึ่งของชาวอินคา
.
13.
.
กำแพงที่ Tambo Viejo ส่วนล่างสร้างด้วยหินกรวดและปูนโคลน
โดยมี Adobes แผ่นอิฐ/ก้อนหินในยุคโบราณ
วางอยู่ด้านบน ให้สังเกตกอง Adobes
ที่ร่วงหล่นอยู่หน้ากำแพงหินกรวด
.
14.
.
ด้ายสีถักทออย่างสวยงาม/เรียบร้อย
เป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับว่า มีไว้ทำไม
ภายในหม้อที่ยังคงถูกปิดผนึกไว้
ตอนที่นักโบราณคดีพบ
.
15.
.
ที่นี่ ค้นพบหนูตะเภาที่ถูกบูชายัญหลายตัว
บางตัวถูกวางทิ้งลงบนพื้นดินโดยตรง
ในระหว่างพิธีกรรมเฉลิมฉลองชาวอินคา
ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกมันตายอย่างผิดธรรมชาติ
สภาพพื้นที่แห้งแล้งทึ่นึ่ ทำให้เก็บรักษาซากดังกล่าวไว้ได้
เรื่องราวที่พิเศษและเปิดเผยว่า
สัตว์ฟันแทะแสนอาภัพสวมเครื่องประดับที่มีสีสัน
.
16.
.
หุ่นปั้นผู้หญิงที่ Tambo Viejo ถูกค้นพบในสภาพคว่ำหน้าลง
ข้างฐานของกำแพงพร้อมกับซังข้าวโพด