เตือนภัยสังคม เงินหายไม่ได้คืน : ร้านรองเท้าชื่อดังกลางห้าง CW ไม่มีกล้องวงจร เงินหมื่นหาย คนร้ายลอยนวล

สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเมื่อหลายวันก่อน
.
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.ย.63 เวลาประมาณ 20:15 ผมทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายขณะที่เดินห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ส่วนตัวมั่นใจว่าหล่นบริเวณร้านขายรองเท้าบาจา ชั้นสองใกล้อิเซตัน คาดว่าหล่นจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นตอนนั่งลองรองเท้า ในกระเป๋าเงินมีเงินสดหมื่นกว่าบาท มีบัตรประชาชน บัตรเครดิต คีย์การ์ดคอนโด และบัตรสมาชิกต่างๆ ...อ๋อ ที่ซื้อรองเท้าหนังเพื่อเตรียมใส่รับปริญญาครับ เงินที่พกไว้เยอะๆ ส่วนนึงจะเอาไปซื้อชุดครุยและส่วนนึงจะเข้าบัญชีไว้ใช้จ่ายช่วงรับปริญญา
.
รู้ตัวว่าหายตอนเดินออกจากห้างมาได้ซักระยะ (ประมาณ 5 นาทีหลังออกจากบาจา) ตอนที่รู้ตัว สติแตก วิ่งไปที่รถก่อนเลย (รถจอดไว้ในบิ๊กซี ราชดำริ) ทั้งๆ ที่ควรจะวิ่งกลับไปร้านก่อน แต่ด้วยความสติหลุด ตอนนั้นภาวนาให้หล่นอยู่ในรถ เพราะกางเกงกีฬาตัวที่ใส่วันนั้นกระเป๋ากางเกงตื้น มือถือชอบร่วงไปข้างเบาะตอนขึ้นรถ พอไปถึงรถ พลิกเบาะ รื้อพรม ส่องหาทุกซอก ก็ไม่มี จึงรีบหาเบอร์ใน google ติดต่อกลับไปที่บาจาสาขา CW พนักที่รับสายแรกช่วยหา แต่ไม่เจอ ตอนนั้นใจเสียแล้ว แต่ก็ยังภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้หาเจอ
.
ข้ามกลับมาที่ร้านบาจา CW เพื่อขอดูกล้องวงจรในร้าน ครั้งแรกร้านแจ้งว่าเป็นกล้องนับจำนวนคน เห็นแต่บริเวณศรีษะของลูกค้าที่เดินเข้าออกในระยะ 1.5 เมตร ต้องให้ทางบริษัทกล้องเปิดดูให้ (ต่อมาพนักงานแจ้งว่าเป็นเซ็นเซอร์นับคน ต่อมาอีกแจ้งว่าเป็นกล้องนับคน พนักงานแต่ละส่วนให้ข้อมูลไม่ตรงกัน สลับไปมา แต่สุดท้ายต้นสังกัดบอกไม่ใช่กล้อง ดูไม่ได้) ผมจึงไปที่ Customer service ของห้างเพื่อถามหาเผื่อมีใครเก็บได้มาฝากไว้ แต่ก็ไม่มี จึงไปแจ้งความที่สน.ปทุมวันตามคำแนะนำ และคืนนั้นก็เอาใบแจ้งความมาขอดูกล้องที่ห้องระบบชั้นใต้ดินของห้าง จากภาพผมมั่นใจว่าหล่นในร้านแน่นอน เพราะก่อนเข้าร้านกระเป๋ากางเกงยังตุงเป็นรอยสี่เหลี่ยมชัด แต่พอออกจากร้านสังเกตุได้ว่ากระเป๋าสตางค์หายไป เหลือแต่กุญแจรถ กางเกงเป็นรอยทำมุมแหลมๆ ต่างกันจากตอนแรก คืนนั้นกลับไปนอนไม่หลับทั้งคืน เสียใจ กังวลใจ โทษตัวเองที่ประมาท รู้สึกผิดต่อแม่ที่ผมทำเงินหายจำนวนมากขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้บอกคนในครอบครัว
.
วันรุ่งขึ้นหลังซ้อมรับปริญญาจบ ผมได้ไปขอดูกล้องอย่างละเอียดอีกครั้ง คราวนี้เอาเพื่อนไปช่วยดูด้วย ไล่ดูกล้องหลายตัวและยิ่งมั่นใจกว่าเดิมว่าน่าจะหล่นในร้านบาจาแน่ เพื่อนก็ว่าใช่ อ๋อ...ลืมเล่าว่าวันเกิดเหตุผมเดินใน CW ประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ได้ไปแวะนั่งที่ไหนเลย ยกเว้นแค่ตอนนั่งลองรองเท้าก่อนออกจากห้าง ใช้เวลาในร้านประมาณ 2-3 นาที ในขณะนั้นมีพนักงานซึ่งเป็นผู้จัดการสาขา 1 คน ลูกค้าฝรั่งและผู้หญิงไทยที่มาด้วยกันรวม 2 คน
.
วันนั้นผมแจ้งเรื่องไปในเพจบาจา ซึ่งทางเพจตอบกลับมาในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันทำงาน ทางบริษัทยืนยันว่าในร้านไม่มีกล้องวงจร ผมถามซ้ำอีกรอบ ทางเพจจึงขอเบอร์ติดต่อกลับ มีเจ้าหน้าที่โทรมาสอบถาม และแจ้งวันนัดหมายเพื่อเข้าตรวจสอบกล้องพร้อมกันในวันพุธ โดยมีผู้จัดการร้าน 3 สาขา มาร่วมดูภาพจากกล้องวงจร
.
วันพุธ ซึ่งเป็นวันนัดดูกล้อง ผจก.เขตโทรมาหาผม น้ำเสียงของผจก.เขตท่านนี้ทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร ผมถามหากล้องวงจรปิด ซึ่งผมมองว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ร้านในห้างใหญ่ควรมี เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ตัวเองและลูกค้า ผจก.เขต ตอบกลับมาว่า "ไม่มีกล้องวงจร บาจามีสองร้อยกว่าสาขา ถ้าจะให้ติดกล้องทุกสาขาคงเป็นไปไม่ได้ นี่คือนโยบายของบริษัท"
.
.
.
****อ่านมาตั้งนาน จุดพีคจะอยู่ต่อจากนี้ครับ ****
ในบรรดาผู้จัดการสาขา 3 คนที่มาดูกล้อง หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงมีอายุ ต่อไปจะขอเรียกว่าคุณป้า
.
- คุณป้า เป็นผู้จัดการสาขา MBK มาในฐานะพยานสังเกตุการณ์ แต่แลดูเป็นโต้โผฝ่ายบาจา พบกันครั้งแรก หน้าตาคุณป้าไม่เป็นมิตรเลยทำให้รู้สึกว่าไม่เต็มใจมาเท่าไหร่
.
- แวบแรกที่เจอกันคือหน้าร้านบาจา เดินสำรวจในร้าน ป้าบอกกล้องนี่ใช้นับคนเข้า-ออก จะมองเห็นได้ในระยะ 1.5 เมตร ต้องขอดูจากทางบริษัทใหญ่ (ก่อนหน้าบอกเป็นแค่เซนเซอร์ ไม่ใช่กล้อง และล่าสุดบ.บาจาบอกดูไม่ได้ ไม่ใช่กล้อง ไม่รับผิดชอบต่อคำพูดของพนักงานที่วกวนใดๆ )
.
- ลงไปที่ห้องดูภาพจากกล้องของ CW ที่อยู่ชั้นใต้ดิน คุณป้าขอดูภาพตั้งแต่ตอนเดินเข้าห้างยันเดินออกจากห้าง ไล่ตามดูกล้องทุกตัว ซึ่งในตอนแรกป้าบอกเหมือนจะไม่มีกระเป๋าสตางค์ในกางเกงตั้งแต่ตอนเข้า แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่ามี เพราะดูหลายกล้อง และภาพชัดมากว่ามีแน่ เป็นรอยนูนเหลี่ยมๆ เลย
.
- ไล่ไปจนตอนออกจากร้าน-จนเดินออกจากห้าง กระเป๋าสตางค์หายไปแล้ว แต่ป้าบาจาก็ยังบอกว่าเหมือนยังอยู่ มันยังตุงๆ อยู่ (ในความเป็นจริงคือกุญแจรถ ซึ่งลักษณะความตุงมันต่างกัน เหลี่ยมต่างกันชัดเจน) ป้าเลยสรุปว่า ไม่อาจพูดได้ 100% ว่าหล่นในบาจา พร้อมส่งเรื่องขึ้นไปว่าเราไม่ได้ทำหล่นในร้าน เรามองว่าป้าต้องการปัดความรับผิดชอบ ป้าพยายามโบ้ยว่าเราทำหายที่อื่นหลายรอบมาก คือป้ามีสิทธิ์จะสันนิษฐาน แต่ในมุมผม ผมมั่นใจว่าหล่นในร้านบาจาแน่นอน เพราะมันมีโอกาสหล่นได้คือตอนนั่ง และผมนั่งแค่ในบาจาที่เดียว 
.
- *** จุดพีคอยู่นี่ หลังจากดูกล้องจบ ป้าหันมา'สอน' ต่อหน้าทุกคนในห้อง บอก "เนี่ย พี่พูดในฐานะที่ี่พี่แก่ เงินหมื่นกว่าบาท กับการที่น้องมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น น้องก็คิดว่ามันเป็นเวรเป็นกรรมของน้องละกัน เงินแค่หมื่นกว่าบาท น้องทำให้พี่เป็นทุกข์ น้องบาปนะ อย่างพวกพี่ๆ เนี่ยต้องทิ้งร้านมาเลย เจ้าหน้าที่ห้องวงจรปิดอีกกี่คน ต้องมาเดือดร้อน พี่ก็มีงานต้องทำ..." ป้าบาจาพูดสอนประมาณนี้ #ขอบคุณนะครับที่กล้าสอนผม
.
- **** ก่อนแยกย้าย ผมได้พูดทำความเข้าใจกับทุกคน ว่าที่มาในวันนี้ ไม่ได้หวังว่าจะได้กระเป๋าคืน แต่มาเรียกร้องหาความเป็นธรรม หาความชัดเจนให้กับตัวเอง มาถามหาความปลอดภัยในฐานะลูกค้าผู้เอาเงินมาให้ท่าน ผมขอโทษทุกคนที่ทำให้เสียเวลาและทำให้เดือดร้อน ขออโหสิกรรมถ้าทำให้ใครไม่สบายใจ ป้าคนเดิมเค้าได้ยินแหละ...จังหวะที่ผมยกมือไหว้ขออโหสิกรรม ป้าหันหน้าไปพูดอะไรบางอย่างกับเจ้าหน้าที่ CW 
.
- วันนี้ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัทบาจา โทรมาเพราะผมไปตามเรื่องในเพจ บอกภาพจากกล้องไม่ชัด 100% ว่าหล่นในร้าน อ้างว่าการไม่มีกล้องวงจรปิดไม่ผิดกฎหมาย ไล่ลูกค้าให้ไปอ่านกฏหมาย พูดจาน้ำเสียงแย่มากๆ  ต้องการเอาชนะ ไม่ฟังให้ผมพูดจบก่อนก็พูดแทรกๆ สร้างความกดดัน แถมยังบอกให้ไปฟ้องศาล เอาหมายศาลมาขอภาพกล้องวงจรของ CW มายื่นที่บริษัท ผมถามหาเรื่องสวัสดิภาพ-ความปลอดภัยของลูกค้า ในกรณีที่เกิดเหตุร้ายในร้าน : บริษัทไม่มีให้ เพราะไม่จำเป็น พร้อมยืนยันมั่นใจ"100%" ว่าพนักงานไม่ได้เอาไปแน่นอน เพราะอบรมมาดี คัดคนมาดี เป็นเรื่องขององค์กร คนนอกไม่เข้าใจหลอก ... อ้าว เค
.
- พอเราพูดถึงประเด็นกล้องวงจร ว่าถ้าร้านมีกล้องมันจะเป็นหลักฐานชี้ชัดได้เลยว่าเราทำเงินตกในร้านจริงหรือไม่ ผจก.บอก งั้นขอถามกลับ แล้วอะไรบอกผมได้ว่ามีเงิน 10000 บาทในกระเป๋าลูกค้าจริงๆ มีอะไรมายืนยันครับ มีมั้ยครับ ตอบ ตอบครับ... 🌚 นั่นไงไม่มีหลักฐาน ก็เหมือนกับการที่ร้านเราไม่มีกล้องวงจรให้คุณ...... โอ้โห !! 
.
- แต่ละครั้งที่เจ้าหน้าที่ส่วนกลางบาจาโทรมา ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยสักครั้ง สร้างความกดดัน ใช้คำพูดคำจากวนๆ น้ำเสียงไม่เป็นมิตร ผลักความรับผิดชอบ ให้ความรู้สึกว่าเราไปรีดขอเงินเค้า
.
- ส่วนเพจบาจาจากที่ตอนแรกตอบแชทดีดี ตอนนี้ตอบแค่ค่ะ ค่ะ ค่ะ ค่ะ..... เค้าคงคุยกันข้างในแหละมั้ง
.
🔺เซ็นทรัลเวิลด์
-เจ้าหน้าที่ในห้องกล้องวงจรปิด เปิดภาพให้ดูสองสามรอบ ขอบคุณมากครับ ซึ้งใจจริงๆ ที่ทุกคนเข้าใจ และไม่มองข้ามปัญหาของลูกค้า

- แผนกบริการลูกค้าช่วยเหลือประสานงานดี มีการติดตามเรื่องหลังเกิดเหตุ 
.
🔺บิ๊กซี ราชประสงค์ (จอดรถไว้นี่)
-ถึงภาพในกล้องจะไม่ชัดเท่า CW แต่ก็เต็มใจช่วยเหลือเต็มที่ โดยไม่ต้องรอใบแจ้งความ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกคน ที่ช่วยกันโพสต์-ช่วยกันแชร์ ทั้งใน Facebook IG และTwitter  น้ำใจนี้ผมจะไม่ลืมเลย ❤️❤️ ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ
ต่อไปนี้ผมคงจะไม่ตามจิกเรื่องเงินที่หาย ให้รกสมอง บั่นทอนสุขภาพจิตอีกแล้ว เพราะรู้ว่าตามไป ก็โดนปัดความรับผิดชอบ โดนพูดจาแย่ๆ ใส่ สภาพจิตใจตกต่ำมาก ช่วงนี้ชีวิตไม่มีความสุขเลย ต่อไปจะระวังให้มากๆ พกเงินสดให้น้อยๆ ครั้งนี่ก็ถือว่าบริจาคทำกุศลใหญ่กันไป ฟาดเคราะห์ต่อชะตา 
สุดท้ายนี้ ขออโหสิกรรมให้คนที่เอาไปและคนที่เกี่ยวข้องทุกคน อย่าได้ผูกกรรมกันอีกเลยยย ที่โพสต์แค่แชร์เป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนระมัดระวังตัวกันมากๆ นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่