เคล็ดไม่ลับ ดูแลรักษาสุขภัณฑ์ และของใช้ในห้องน้ำ



ห้องน้ำ ส่วนใหญ่จะถูกสร้างไว้ในมุมที่มิดชิดของบ้าน บ้างหลังอาจสร้างไว้นอกตัวบ้านเลยก็มีเยอะ เพราะคิดว่าเป็นแหล่งอุดมของเสียและส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์นั่นเอง แต่ไม่เสมอไปหรอกหากเรามั่นดูแล ทำความสะอาด ห้องน้ำที่ถูกออกแบบมาอย่างดีสวยงามต้ังแต่แรกก็จะยังมีความสวยงามอยู่เช่นนั้น ถึงแม้จะถูกรบกวน และคุกคามด้วยสาระพัดคราบสกปรกตามระยะเวลาที่ใช้งานบ้าง แต่แก้ไขได้ไม่ยากอย่างที่คิด ไปดูเคล็ดไม่ลับดีๆ ที่ HomeGuru นำมาแบ่งปันเพื่อ ดูแลรักษาสุขภัณฑ์ ในห้องน้ำให้ดูใหม่น่าใช้เสมอโดยแบ่งเป็นประเภทของวัสดุดังนี้



เซรามิก
สุขภัณฑ์จากเซรามิกในห้องน้ำมีทั้ง โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ กระเบื้องปูพื้น ปูผนัง และร่วมถึงที่วางสบู่ แชมพูฯ อีกด้วย เช่น โถสุขภัณฑ์พระเอกในห้องน้ำ ที่เห็นทั่วไปเป็นเซรามิกสีขาวสะอาดตา เมื่อใช้งานนานไปสีจะหม่นหมองลง ซึ่งเราจะไม่ให้เป็นแบบนั้นแน่ การเช็ดถูด้วยผ้านุ่มชุบน้ำสบู่อ่อนๆ และเช็ดซ้ำด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาดให้ทั่วอีกครั้งบ่อยๆ จะทำให้ไม่เกิดครามสกปรกที่ไม่น่ามอง แต่หากเกิดคราบแล้วมีหลายวิธีกำจัดออกด้วยวัตถุดิบหาง่ายในครัวที่บ้าน เช่น ใช้กระดาษทิสชูแบบหนาชุดน้ำส้มสายชูแล้วนำไปโป๊ะไว้ที่คราบนั้นๆ ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วดึงออกทิ้งล้างด้วยน้ำสะอาดเท่านี้คราบก็หายหมด หรือนำน้ำส้มสายชูผสมกับเบคกิ้งโซดาอัตราส่วน 1:1 คนให้เข้ากัน ใช้ฟองน้ำชุบแล้วขัดให้ทั่วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาทีแล้วล้างออกเท่านี้ก็จะได้โถสุขภัณฑ์ที่ขาวสะอาดเหมือนเดิม หากมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย ก็แค่สเปร์ยน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักพักกลิ่นก็จะหายไป สามารถทำแบบเดียวกันนี้กับสุขภัณฑ์ที่ทำจากเซรามิกได้ทั้งหมด



ส่วนกระเบื้องปูนพื้น ผนัง จะแบ่งเป็นโซนเปียกกับแห้ง พื้นเปียกจะถูกทั้งน้ำสบู่ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ และผลิตภัณฑ์ประทินผิวต่างๆ ซึ่งมักฝากคราบไคล้เลอะไว้ แถมความชื้นยังทำให้เกิดเชื้อรา แบคทีเรียได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ดังนั้นทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จควรฉีดล้างคราบต่างๆ ออกให้หมด ควรทำความสะอาดขัดถูกด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาล้างจานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง ส่วนพื้นแห้งปัญหาที่พบบ่อยคือร่องยาแนวสกปรกดำง่าย หรือบางที่อาจเกิดราดำ วิธีหลีกเลี่ยงแค่มั่นทำความสะอาดเช็ดถูพื้น ผนังบ่อยๆ ส่วนร่องยาแนวใช้แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วกับน้ำส้มสายชูเจือจาง หรือน้ำยาล้างจานขัดเบาๆ ก็หลุดออกง่ายดาย



โครเมี่ยม และสเตนเลส
โครเมี่ยม และสเตนเลสในห้องน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกก๊อกน้ำ หัวฝักบัวต่างๆ สต๊อปวาล์ว และอาจมีราวจับช่วยพยุงสำหรับผู้สูงวัย การทำความสะอาดเช็ดถูเป็นประจำ นอกจากไม่ทำให้เกิดคราบสกปรก ยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นด้วย



ก๊อกน้ำนั้นเป็นเหมือนเครื่องประดับตกแต่งชิ้นเอกในห้องน้ำ ใครๆ ก็ชอบใช้ก๊อกน้ำที่สะอาดใสเงาวับใช่ไหมล่ะ แต่เลี่ยงไม่ได้เลยเมื่อใช้ไปสักพัก จะเกิดคราบตะกรันเกาะตามก๊อกเพราะแร่ธาตุในน้ำประปาที่เราใช้อยู่ทุกวันนี่เอง วิธีกำจัดก็ไม่ยากด้วยวัตถุดิบในครัวอีกเหมือนกัน หากพบคราบแค่บางเบา ใช้เปลือกมะนาว เปลือกส้มมาขัดๆ ถูๆ ที่คราบแป๊บเดียวก็หลุด หรือใช้ยาสีฟันขัดก็ได้ แต่หากเป็นคราบหนักหน่อยใช้น้ำมะนาวผสมน้ำยาล้างจาน หรือน้ำส้มสายชูผสมน้ำยาล้างจานขัดทิ้งไว้แล้วล้างออกก็เอี่ยมอ่องเงาวับ วิธีนี้เหล่านี้ใช้ได้ดีกับสเตนเลสอื่นๆ ในห้องน้ำด้วย



กระจกเงา
การ ดูแลรักษาสุขภัณฑ์ อย่างกระจกเงาไม่ว่าจะไว้ใช้แต่งหน้า หรือเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำ ก็ควรใสกระจ่างอยู่เสมอ การทำความสะอาดนอกจากใช้หนังสือพิมพ์ ยังมีอีกหลายวิธีแบบโดยไม่ต้องพึ่งน้ำยาเคมี เช่น น้ำส้มสายชู (มาอีกแล้ว) ต้องบอกว่าน้ำสายชูเป็นตัวช่วยทำความสะอาดได้ดีจริงๆ ปลอดภัยกับทุกวัสดุ ในที่นี้เพียงนำน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าใส่ขวดแล้วสเปร์ยให้ทั่วกระจก เช็ดออกด้วยผ้านุ่ม เท่านี้ก็จะได้กระจกที่ใสกิ๊งถูกใจ หรือใครจะใช้น้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวง เติมน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำสบู่ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมใส่ขวดสเปร์ยก็ได้ วิธีนี้ใช้ทำความสะอาดกระจกกั้นอาบน้ำได้ด้วยเหมือนกัน



พลาสติก PVC
สุขภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกพีวีซี เช่น ฝารองนั่ง หัวฉีดชำระ และฝักบัวแบบต่างๆ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ควรละเลยการทำความสะอาด และเมื่อใช้นานไปนอกจากคราบแล้ว อาจเกิดสีหม่นลง สีอมเหลือง ซึ่งไม่น่ามอง ไม่ชวนใช้งาน แถมเกิดรอยขูดขีดง่ายอีกด้วย สิ่งที่ไม่ควรนำมาใช้ทำความสะอาดวัสดุพลาสติกเลยก็คือ พวกใยที่ทำจากโลหะ อย่างใยฝอยโลหะ หากพบคราบสกปรก หรือสีเปลี่ยนให้ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำยาล้างจานสัดส่วนเท่าๆ กัน ชุบฟองน้ำขัดทิ้งไว้ 1 – 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกก็ หากสียังแน่นอยู่ทำซ้ำอีก 2 – 3 ครั้ง หรือขัดแล้วแร็พด้วยพลาสติดห่ออาหารทิ้งไว้ข้ามคืนแลวล้างออก ก็จะได้สีขาวกลับมาเหมือนเดิม ส่วนฝักบัวต่างๆ สามารถถอดหัวฉีดออกมาแช่ในน้ำส้มสายชูทิ้งไว้ 4 – 5 ชั่วโมง แล้วขัดล้างออกก็จะได้หัวฉีดที่สวยสะอาด



HomeGuru มีทริคมาบอกเพิ่มเติม “น้ำส้มสายชู” มีฤทธิ์เป็นกรดแม้จะอ่อน แต่ก็สามารถกัดกร่อนวัสดุต่างๆ ได้ ดังนั้นเวลาทิ้งควรผสมน้ำให้เจือจางหรือเปิดน้ำไหลเอื่อยๆ พร้อมกับค่อยๆเทน้ำส้มสายชูทิ้งไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้มันไปกัดกร่อนส่วนอื่นๆ จะชำรุดเสียหายเอาได้ อ่อ…. ก่อนทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูควรใส่ถุงมือ แว่นตา และผ้าปิดปากปิดจมูกปกป้องการระเคือง และเพื่อความปลอดภัยเอาไว้ก่อนด้วยนะครับ


HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่