เราอายุ 16 ปี ตอนนี้ทำงานไปด้วยแล้วก็ส่งตัวเองเรียนไปด้วยค่ะ แยกกันอยู่กับครอบครัว แต่ก็ยังติดต่อหากัน แม่ของหนูเขาเป็นคนชอบคิดมาก และก็มีปัญหากับพ่อบ่อยๆ แม่ชอบคุยกับเราแค่เรื่องที่แม่ทุกข์ใจทำให้เรารู้สึกไม่ดีไปด้วย แม่ไม่เคยคุยเรื่องอื่นๆที่ดีๆเหมือนที่เขาคุยกันเลย แม่จะชอบมาบ่นกับเราอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราเป็นคนที่พูดไม่เก่งค่ะ เลยทำได้แค่เงียบ แม่ก็จะถามว่า"เงียบทำไม แม่ปรึกษาอะไรไม่ได้เลยหรอ" แล้วเราก็อธิบายไปว่าเราไม่รู้จะพูดยังไง แม่ก็เลยบอกว่าเราจะไม่สนใจ ไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับแม่เลยใช่มั้ย แล้วก็แม่เราจะเป็นคนที่เจอแต่คนที่มาหวังผลประโยชน์ด้วยทั้งนั้น จึงเอามาตัดสินอนาคตเรา ว่าเราไม่รู้อะไร คนแถวนี้มีแต่คนไม่จริงใจ ก็เห็นอยู่ว่าแม่ต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็น่าจะรู้ ใช่ค่ะเรารู้ เราเลยบอกแม่ไปว่า "ทำไมหนูจะไม่รู้ หนูรู้สิ หนูทำงาน หนูเจอคนมากมาย หนูไม่ได้เก็บตัวอยู่แต่ในห้องที่จะไม่รู้ว่าสังคมเป็นยังไง แม่ไม่ต้องห่วงอนาคตหนูหรอก หนูรู้ว่าหนูควรไว้ใจใคร ไม่ควรไว้ใจใคร ใครที่ดีกับเราใครที่ไม่ดีกับเรา"แล้วแม่ก็เงีบยไปแล้วก็บอกว่าค่อยคุยกันใหม่ ทุกวันนี้ก็พูดเเต่เรื่องพวกนี้เดิมๆซ้ำๆ เราเลยอยากจะถามว่าเราควรทำยังไงดี บอกไปเลยไหมว่าอยากคุยเรื่องอื่นที่ดีๆบ้างหรือว่าต้องรับฟังแม่ไปเรื่อยๆแล้วก็จะหนักขึ้น ปล.เราเลิกเรียนแล้วก็เข้างานเลยเราเลิกงานเที่ยงคืนแม่ก็จะคอยทักมาว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แล้วเราก็ต้องคุยกับแม่ตลอดยังไม่ทันได้อาบน้ำเลยด้วยซ้ำ บางครั้งเราก็อยากถึงห้องแล้วทำการบ้านแล้วก็นอนเลยบ้าง เราแค่อยากพักผ่อน ไม่อยากมีเรื่องต้องเครียดก่อนนอนแบบนี้ทุกครั้ง ได้นอนวันละ3-4 ชั่วโมงทุกวัน มันก็ต้องเหนื่อยที่จะต้องรับรู้อะไรแล้วใช่มั้ยคะ หรือว่าเราเองที่ผิด ที่เป็นลูกก็ต้องคอยรับฟังผู้ใหญ่ตลอด
มีเรื่องปรึกษาค่ะ