นักสัตววิทยาชาวฝรั่งเศส Pierre André Latreille เป็นหนี้ชีวิตของเขากับด้วง  เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของกีฏวิทยาสมัยใหม่โดยได้เพิ่มความรู้เกี่ยวกับสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสัตว์พวกกุ้งกั้งปูและแมลง (crustaceans and insects) 

เขาตั้งชื่อให้สิ่งมีชีวิตหลายร้อยชนิดหลายสายพันธุ์ในลำดับเดียวกันที่มีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงกันและอีกมากมายนับไม่ถ้วนเช่น Thysanura, Siphonaptera, Pycnogonida, Ostracoda, Stomatopoda, Decapoda, Amphipoda, Isopoda, Xiphosura, Melipona และ Myriapoda  เขาเป็นคนแรกที่พยายามจำแนกสัตว์ขาปล้องตามธรรมชาติ แนวคิดของ "ชนิดพันธุ์" (type species) ซึ่งเป็นชนิดของสกุลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของลักษณะทั่วไปของสกุลนั้นๆ ก็เป็นความคิดของเขาเช่นกัน  แต่ทั้งหมดเหล่านี้เกิดขึ้นในเวลาต่อมา อันดับแรกเขาจำเป็นต้องหนีจากการตายให้ได้ก่อน

Pierre André Latreille เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1762 ในเมือง Brive จากนั้นก็ไปอยู่ที่จังหวัด Limousin เขาเป็นลูกนอกสมรสของท่านบารอน Jean Joseph Sahuguet d'Amarzit จาก Espagnac  แม่ของเขาซึ่งไม่มีข้อมูลใดๆได้ทอดทิ้งเขา ส่วนพ่อของเขาก็ไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็นลูกแม้ว่าจะให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการศึกษาของ Latreille ก็ตาม

Latreille แม้เป็นเด็กกำพร้าที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีผู้ปกป้องเขาที่มีอิทธิพลซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า Latreille จะได้รับการศึกษาที่ดี  เขาศึกษาขั้นต้นใน Brive และในปารีสที่ Collège du Cardinal-Lemoine ซึ่งติดกับมหาวิทยาลัยปารีสเพื่อให้เป็นนักบวช 
เขาเข้าสู่ Grand Séminaire of Limoges (คาทอลิกวิทยาลัย) ในปี 1780 และออกจากตำแหน่งมัคนายก (deacon) ในปี 1786  แม้จะมีคุณสมบัติในการเทศนา Latreille ก็ไม่เคยทำหน้าที่ของเขาในฐานะนี้เลย ต่อมาเขาพบว่าเขามีความสนใจในกีฏวิทยา (entomology) มากกว่า

แม้ว่า Latreille จะเรียนมาเพื่อเป็นนักบวช  แต่เขาก็มักจะไปเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ของ Jardin du Roi และไปจับแมลงใน neighborhood ในปารีส หนึ่งในผู้อุปถัมภ์ของเขา Abbe RJ Hally นักแร่วิทยาที่มีชื่อเสียงได้ให้บทเรียนเกี่ยวกับพฤกษศาสตร์ ซึ่งช่วยให้เขารู้จักนักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Jean-Baptiste Lamarck

ในขณะเดียวกันพายุใหญ่ทางสังคมและการเมืองครั้งใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นในฝรั่งเศส  ผู้คนเบื่อหน่ายกับระบอบกษัตริย์และระบบศักดินาจึงลุกฮือขึ้นประท้วง พวกขุนนางได้เข้าควบคุมการชุมนุมและชาวนาได้บุกโจมตีป้อมปราการ Bastille ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจ  ขุนนางและสมาชิกของคณะสงฆ์หลายคนถูกจับรวมทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 16  มีการผ่านกฎหมายใหม่ที่ทำให้คริสตจักรคาทอลิกอยู่ใต้บังคับบัญชาของรัฐบาลฝรั่งเศสทันที กฎหมายนี้เรียกร้องให้นักบวชทุกคนทำพิธีสาบานตนต่อรัฐ

นักบวชหลายคนปฏิเสธที่จะสาบาน เพราะพวกเขาไม่สามารถแสดงความภักดีต่อฝรั่งเศสต่อหน้าความภักดีต่อพระเจ้าได้  Latreilleเป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นเขาจึงถูกจับและคุมขัง ในไม่ช้าเขาจะถูกเนรเทศไปยังเรือนจำอาณานิคมของ Cayenne บนเกาะปีศาจที่ซึ่งมีความตายรออยู่

ในคุกใต้ดินของ Bordeaux ขณะที่รอการพิจารณาคดีของเขา   Latreille สังเกตเห็นแมลงตัวหนึ่งที่บินอยู่รอบ ๆ พื้นห้องขังของเขา เขาได้ทำการศึกษาเพื่อนร่วมห้องขังที่ไม่มีกระดูกสันหลังนี้อย่างกระตือรือร้น  เมื่อแพทย์ประจำเรือนจำมาเยี่ยม แพทย์ตกใจเมื่อเห็นชายร่างโตทั้งสี่คนกำลังพิจารณาสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแผ่นหินของพื้นคุกใต้ดิน 

เมื่อ Latreille หยิบด้วง ( Necrobia ruficollis) ขึ้นมาอย่างระมัดระวังและหันไปหาหมอแล้วอุทานว่า“ มันเป็นแมลงปีกแข็งที่หายากมาก” แพทย์รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง  เพื่อตรวจสอบว่า Latreille ถูกต้องหรือไม่เขาจึงส่งแมลงปีกแข็งนี้ไปให้ Jean Baptiste Bory de Saint-Vincent นักธรรมชาติวิทยาที่มีอายุเพียง 15 ปี  เหมือนโชคช่วยที่ Bory de Saint-Vincent รู้จัก Latreille จากสิ่งพิมพ์ก่อนหน้านี้แล้วและตกใจเมื่อรู้ว่า Latreille ถูกคุมขังอยู่
Bory de Saint-Vincent ที่มีเส้นสายใหญ่เป็นที่รู้กันดี  Latreilleจึงถูกปล่อยตัวในขณะที่คนอื่น ๆ ทั้งหมดเสียชีวิตภายในหนึ่งเดือน โดยเขาและ Bory ยังคงเป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตของทั้งสองคน

หลังจากที่ Latreille ได้สัมผัสกับความตายอย่างใกล้ชิดมาแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะอยู่ห่างจากการเมืองและอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่ให้กับกีฏวิทยา ด้วยการสนับสนุนของ Johan Christian Fabricius (ซึ่งเป็นผู้จำแนก Necrobia ruficollis เป็นคนแรก)  Latreille ได้เผยแพร่ผลงานชิ้นแรกของเขา
" Précis des caractèresgénériques des insectes " ในปี 1798 และถูกเลือกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของฝรั่งเศส ซึ่งเขาทำงานร่วมกับ Jean-Baptiste Lamarck ดูแลคอลเลกชันสัตว์ขาปล้อง และตีพิมพ์ผลงานทางสัตววิทยาจำนวนมาก

ในปี1814  Latreille กลายเป็นสมาชิกของ French Academy of Sciences และในช่วงหลายปีต่อมา Latreille ได้ตีพิมพ์เอกสารสำคัญหลายฉบับสำหรับพิพิธภัณฑ์รวมทั้งหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ขาปล้อง(arthropods) ทั้งหมดสำหรับ George Cuvier's Le Règne Animal และอีกหลายร้อยรายการเกี่ยวกับวิชากีฏวิทยา ในปี1829 เขาประสบความสำเร็จในตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านกีฏวิทยา Lamarck
เมื่อ Latreille เสียชีวิตในปี 1833 สมาคมกีฏวิทยาแห่งฝรั่งเศสได้สร้างเสาโอเบลิสก์ (obelisk) เหนือหลุมศพของ Latreille ที่สุสาน Père Lachaise โดยมีคำจารึกว่า " Necrobia ruficollis ผู้ช่วยชีวิต Latreille"

ที่มา
- Claude Dupuis, Pierre-Andréเทอรี่ที่นักกีฏวิทยาสำคัญที่สุดของเวลาของเขา , https://www.annualreviews.org/doi/pdf/10.1146/annurev.en.19.010174.000245
- เดวิดเมตร Damkaer, คณะรัฐมนตรีของ Copepodologist : ประวัติชีวประวัติและบรรณานุกรมตอนที่ 1
- Wikipedia https://en.wikipedia.org/wiki/Pierre_André_Latreille

Cr.https://www.amusingplanet.com/2020/09/pierre-andre-latreille-entomologist-who.html / KAUSHIK PATOWARY 
Cr.https://en.wikipedia.org/wiki/Lumbrineris_latreilli
Cr.https://en.wikipedia.org/wiki/Pierre_André_Latreille
Cr.https://en.wikipedia.org/wiki/Porcellio_scaber
Cr.http://scihi.org/pierre-andre-latreille-entomology/

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)